ตอนที่ 73 นอนบนเตียง
“อธิบายพี่มา” เฉินโหรวยืนฟังบทสนทนาระหว่างทั้งคู่อยู่ที่ประตู นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นโม่หันโกรธขนาดนี้ สีหน้าบึ้งตึงของเขาดูน่ากลัวพอให้คนรอบข้างถอยหนี ซย่าชิงอีคงเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่เขาแบบนี้
“ไม่มีอะไรมากนี่คะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะไม่ค่อยสบาย ฉันเป็นคนหาเรื่องเธอก่อนเองค่ะ”
“พี่ต้องการเหตุผล” เขาขึ้นเสียง
“ไม่มีเหตุผลค่ะ” อีกฝ่ายขึ้นเสียงกลับเช่นกัน
โม่หันหายใจเข้าลึกเพื่อสงบอารมณ์ลง “ถ้าอย่างนั้นบอกพี่มาว่าทำไมถึงอยากลาออก”
“ฉันไม่เคยพูดว่าอยากลาออกนะคะ ฉันแค่บอกอาจารย์ว่าจะย้ายคณะหรือไม่ก็ลาออก”
ซย่าชิงอีรู้สึกถึงไอความโกรธแม้เขาจะนิ่งเงียบ เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องโกรธเพราะเขาจัดการเรื่องมากมายกว่าเธอจะได้เข้ามาเรียนหนังสือ แต่มาตอนนี้ที่เธอบอกว่าจะไม่ไปเรียนหนังสือเพียงเพราะว่าไม่อยากไปในไม่กี่วันให้หลัง ถ้าเธอเป็นเขาก็คงโกรธเหมือนกัน
“ฉันจะย้ายคณะถ้าพี่ไม่อยากให้ฉันลาออก เดี๋ยวฉันจะไปยื่นเรื่องที่มหาวิทยาลัยพรุ่งนี้ด้วยตัวเองค่ะ พี่ไม่ต้องกังวลหรอก”
เธอตอบอย่างใจเย็นพลางหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะแล้วมองยาแก้หวัดในมือ ทว่าในขณะที่กำลังจะยกขึ้นดื่ม โม่หันก็คว้าแก้วน้ำไปเสียก่อนจนน้ำหกเลอะลงบนตัวเธอ เขาเอ่ยขึ้นอย่างโมโห “เธอทำอะไรของเธออยู่”
เธอจ้องมองเขางงๆ “ฉันก็กำลังจะกินยายังไงล่ะคะ”
“เธอคิดว่านี่เป็นยาน้ำอย่างนั้นเหรอ” โม่หันจับข้อมือเธอแน่นให้เธอมองฉลากข้างขวดยาในมือของเธอ “เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง”
ซย่าชิงอีรู้สึกตัวเมื่อมองยาในมือและขวดเปล่าบนพื้น เธอไม่รู้ตัวว่าเทยาออกมามากเกินไปเพราะความมึนงงจากอาการป่วย
ความกังวลของเฉินโหรวเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันจากตรงประตู เธออยากจะเข้าไปขวางและพูดบางอย่างแต่รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำเช่นนั้นได้ ทำได้เพียงมองแผ่นหลังของโม่หันตั้งแต่ที่เขาเดินเข้าไปในห้อง และฟังพวกเขาถกเถียงกันอย่างเงียบๆ
ซย่าชิงอีวางมือบนศีรษะของตัวเองก่อนพูด “ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้สังเกตเพราะมึนหัว”
โม่หันยังคงจ้องมองเธอ เธอนั่งบนพื้นเย็นๆ โดยไม่มีอะไรมารองนั่ง ท่าทางมึนงงเหมือนจะล้มลงบนพื้นได้ทุกเวลา เขาเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงตอนที่เห็นเธอนั่งอยู่บนพื้นยามที่เขาเข้ามาหาเธอที่ห้องนอนเมื่อวาน เอ่ยถามขึ้น “เมื่อวันก่อนเธอนอนหลับบนพื้นใช่ไหม”
เธอยอมรับอย่างเงียบๆ
เขายกยิ้มน้อยๆ ขณะวางมือเท้าเอว “วันนี้เธอถึงอยู่ดีๆ ก็ป่วยยังไงล่ะ”
เธอยังคงไม่พูดอะไร
“ทำไมไม่ไปนอนบนเตียง” เขาถามอย่างพยายามอดกลั้นความโกรธไว้และพบว่ายังมีเรื่องที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับเธออีกมาก ตั้งแต่ตอนที่ทะเลาะกันเพราะเธอต้องการย้ายคณะจนถึงเรื่องที่เธอไม่สามารถนอนบนเตียงแต่กลับนอนบนพื้นได้เท่านั้น
“พี่น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วนี่ว่าฉันนอนบนเตียงไม่หลับน่ะ” เธอเอ่ยขึ้น
“แล้วตอนนั้นล่ะ เธอไม่ได้นอนหลับดีๆ ในห้องของพี่หรือไง”
เฉินโหรวที่อยู่ด้านหลังนิ่งไปกับสิ่งที่ได้ยิน ทำไมเขาถึงไม่บอกเธอว่าซย่าชิงอีเคยนอนบนเตียงของเขา มีอะไรเกี่ยวกับทั้งคู่ที่เธอยังไม่รู้อีกบ้าง
“วันนั้นฉันแค่ผล็อยหลับไปเพราะเกือบจะตีสี่แล้วต่างหากค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบ
เขาคิดมาตลอดว่าซย่าชิงอีไม่อยากนอนคนเดียวในห้องของตัวเองเพราะกลัวความมืด เพิ่งรู้ว่าที่นอนไม่หลับมาตลอดเป็นเพราะเธอนอนหลับลงบนพื้นได้เท่านั้น ทำไมเขาถึงมารู้เอาป่านนี้นะ
ตอนที่ 74 โยนลงบนเตียง
“เธอนอนหลับไม่ลงบนเตียงเลยจริงๆ เหรอ” โม่หันถามหลังสูดหายใจลึก
“ฉันนอนไม่หลับเลย ต่อให้ง่วงยังไง ฉันก็จะฝันร้ายอยู่ดี” ดวงตาฉายแววเศร้าสร้อยยามที่เธอเอ่ยขึ้น เธอไม่เคยบอกโม่หันเกี่ยวกับฝันร้ายที่ฝันถึงบ่อยๆ
“แต่หลังจากนี้ไปเธอต้องนอนบนเตียง” เขากล่าวพลางจ้องไปที่เธอ
ซย่าชิงอีรู้สึกขนลุกจากสายตาที่เขาส่งมาอย่างบอกไม่ถูก “พี่หมายความว่ายังไงคะ”
“ขึ้นไปนอนบนเตียง” เขาเสตาไปทางเตียงที่ว่างเปล่า
อีกฝ่ายกลัวเล็กน้อย “พี่จะทำอะไรน่ะ”
“ทำให้เธอเข้าใจว่าทำไมเธอถึงควรนอนบนเตียงยังไงล่ะ” สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “เฉินโหรว ออกไปก่อน ปล่อยให้เธอนอนพักผ่อน”
เฉินโหรวไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่บอกได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เธอขยับก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วดึงตัวโม่หันออกมา “นิสัยการนอนบนพื้นของเธอมันเปลี่ยนยากนะคะ ทำไมถึงต้องบังคับเธอด้วยล่ะ”
โม่หันยังคงยืนยันคำเดิม “ไม่ เธอต้องหัดนอนบนเตียงคนเดียวบ้าง”
ซย่าชิงอีอยากจะวิ่งหนีไปพร้อมลุกขึ้นยืน รู้สึกเช่นกันว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ แต่ในจังหวะนั้นเองกลับถูกเขาจับข้อมือไว้ ดันร่างของเธอไปยังเตียงนอน เธอพยายามใช้มือทั้งสองข้างผลักเขาออกไปอย่างหวาดกลัว อยากจะหนีออกไปให้ได้ “ปล่อยฉันนะพี่!”
“ทำไมพี่จะต้องเข้ามายุ่งเรื่องที่นอนของฉันด้วย พี่มีสิทธิ์อะไร ปล่อยฉันนะ!”
“มีสิทธิ์อะไรเหรอ พี่เป็นพี่ชายของเธอ!” เขาเอ่ย
เฉินโหรวดึงตัวเขาไว้ “พอได้แล้วโม่หัน ทำไมคุณต้องใช้วิธีรุนแรงขนาดนี้ด้วย ทำไมไม่หาเวลาคุยกันดีๆ พรุ่งนี้ล่ะคะ”
โม่หันจ้องมองซย่าชิงอีพลางดึงแขนเธอไปด้วย มองเธออย่างไม่คลาดสายตาแม้กำลังพูดกับเฉินโหรวที่อยู่ข้างๆ “ออกไปก่อน เฉินโหรว ผมจะกลับไปนอนหลังจากสั่งสอนเธอวันนี้”
“ไม่ต้องมาสอนฉัน! ไอ้คนโรคจิต!” ซย่าชิงอียังคงพยายามดิ้นหนี
เฉินโหรวยังไม่ยอมออกจากห้อง จนเขาขึ้นเสียงใส่เธอดังขึ้น “ออกไปก่อน”
เขาไม่เคยพูดขึ้นเสียงกับเธอแบบนี้ แม้แต่ตอนที่พวกเขาทะเลาะกัน ส่วนมากเขาก็เอาแต่เงียบและทำเฉยชาใส่กัน เฉินโหรวรู้สึกได้ทันทีว่าโม่หันในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป
เธอมองทั้งสองที่ยังทะเลาะกันก่อนเดินออกมา
แม้จะก้าวออกมาแล้วแต่ก็ยังหยุดฟังโม่หันและซย่าชิงอีที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเองความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว ความคิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นและครอบงำทั่วทั้งจิตใจของเธอ
แม้จะไม่อยากยอมรับเพียงใด แต่โม่หันไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว
ทั้งโม่หันและซย่าชิงอียังคงอยู่ในอารมณ์ร้อนหลังจากที่เฉินโหรวออกไป อาการปวดหัวของซย่าชิงอีหนักขึ้นจากแรงดึงก่อนหน้านี้ รู้สึกหายใจติดขัดและเหนื่อยหอบออกมาน้อยๆ โม่หันปล่อยมือของเธอหลังจากชะงักไปชั่วครู่ ก้าวไปทางประตูหมายจะเอื้อมมือปิดไฟ
เมื่อเห็นเขาปล่อยมือเธอ ก็รีบวิ่งผ่านเขาไปทางประตูอย่างพยายามจะหนีออกไป ไม่คาดคิดว่าเขาจะคว้าข้อมือเธอไว้อีกครั้งในจังหวะที่เธอก้าวไปถึงประตู เขาปิดไฟ ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดทันที
การกระทำของเขาทำให้ซย่าชิงอีโกรธมากขึ้น “พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย!”
“กำลังสั่งสอนเธอว่าควรนอนหลับยังไง”
เธอดิ้นหนี “ฉันไม่อยากนอน! ฉันไม่อยาก! ฉันจะนอนอย่างที่อยากนอน! มันเป็นอิสระของฉัน ไม่ได้ไปรบกวนอะไรพี่สักหน่อย พี่มีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!”
โม่หันไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเธออีกพลางก้มตัวลงอุ้มช้อนร่างเธอในท่าเจ้าหญิง เดินตรงไปที่เตียง ซย่าชิงอีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาสะดุ้งตกใจและเริ่มดิ้นหนี “ปล่อยฉันลงนะ ฉันไม่อยากนอนบนเตียง!”