จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 637 ในที่สุดนางก็สามารถแก้แค้นได้สักที

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่637 ในที่สุดนางก็สามารถแก้แค้นได้สักที

“ข้าก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ท่านลั่วบอกว่าเขาคิดไปสองปีก็ยังคิดหาวิธีไม่ออก ข้านึกได้ว่าท่านใส่ใจเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวเทียนมากขนาดนั้น จึงทำเช่นนี้” หยุนถิงอธิบาย

“ข้าทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว!” จวินหย่วนโยวกล่าวโทษตัวเอง

“ไม่เลย นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน หากไม่ใช่เป็นเพราะข้า ท่านก็คงไม่เป็นเช่นนี้” หยุนถิงรู้สึกปวดใจยิ่งนัก

“ซื่อจื่อ เป็นเรื่องดีที่ขาของท่านหายดีแล้ว พวกข้าควรฉลองกัน” รั่วจิ่งพูดขึ้นทันที

“จริงด้วยท่านพี่ ต้องฉลองดีๆสักหน่อย!” หยุนถิงกล่าว

“ฉลอง ฉลอง!” จวินเสี่ยวเทียนตะโกน เจ้าตัวน้อยเพิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่งมา และตอนนี้ใบหน้าอ้วนท้วนของก็ดูมอมแมมยิ่งนัก ตลกมากเลย

“ได้ ฟังที่เสี่ยวเทียนบอก ฉลอง!” จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปาก และหยิบผ้าเช็ดหน้าไหมออกมาแล้วเช็ดหน้าให้เจ้าตัวน้อย

“ท่านแม่ เช็ด!” จวินเสี่ยวเหยียนพูดเลียนแบบ

หยุนถิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และเช็ดหน้าตามจวินเสี่ยวเหยียน

เหอหลี่เก๋อที่ล้มลงกับพื้น ถูกองครักษ์ลับจับตัวไว้”ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย จะจัดการกับผู้หญิงคนนี้อย่างไร?”

เหอหลี่เก๋อตกใจกลัวในทันที และรีบมองไปที่หยุนถิง”จี๋ญ่าเจ้าเป็นคนขอให้ข้าช่วยเอง ข้าไม่ได้ทำร้ายเสี่ยวเหยียน ข้ายังกลัวว่านางจะเป็นหวัดเอาผ้าห่มหอบออกไปด้วยซ้ำ เจ้าจะกลับคำไม่ได้นะ?”

หยุนถิงมองไปที่องครักษ์ลับคนนั้น”ปล่อยนางไป ข้าเป็นคนขอให้นางช่วยเอง”

องครักษ์ลับปล่อยมือทันที เหอหลี่เก๋อเกือบล้มลงกับพื้น ดีที่หยุนถิงดึงนางไว้”ระวัง!”

เหอหลี่เก๋อจึงค่อยยืนอย่างมั่นคงได้”อย่าลืมสิ่งที่เจ้าตอบตกลงกับข้าไว้”

“ไว้ใจได้ ข้าจะให้คนส่งไปให้เดี๋ยวนี้เลย!” หยุนถิงตอบ

เหอหลี่เก๋อจึงค่อยพอใจ หันหลังและเดินกะโผลกกะเผลกไป สามีของจี๋ญ่าน่ากลัวเกินไปแล้ว นางไม่อยากอยู่ต่อแล้ว

“เจ้าตอบตกลงอะไรกับนาง?” จวินหย่วนโยวถาม

“มอบกล่องเครื่องประดับให้นาง” หยุนถิงอธิบาย

จวินหย่วนโยวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นแขนที่อุ้มจวินเสี่ยวเทียนไว้นั้นก็รู้สึกว่ามีความอุ่นอะไรบางอย่างไหลลงมา จากนั้นก็เริ่มหยดลงตามบนฝ่ามือ——

หยุนถิงเห็นทาท่าเหมือนอาการท้องผูกของเขา ก็รีบถาม “ท่านพี่ เป็นอะไรไป?”

“เสี่ยวเทียนฉี่”

“ฮ่าฮ่า เจ้าตัวแสบนี้ ขอมาอุ้มเอง!” หยุนถิงยื่นจวินเสี่ยวเหยียนให้หลิงเฟิงแล้วยื่นแขนออกไปอุ้มจวินเสี่ยวเทียน

จู่ ๆ จวินหย่วนโยวก็ถูกลูกชายฉี่ใส่ อายยิ่งนัก แต่เมื่อเห็นท่าทางที่น่ารักและสบายของเจ้าตัวน้อย เขาก็ตำหนิไม่ลง ทำได้เพียงกลับไปแล้วเปลี่ยนชุด

หยุนถิงอุ้มจวินเสี่ยวเทียนกลับไป เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลุูก ล้างตูด จวินเสี่ยวเทียนก็เล่นต่อไป

หยุนถิงกำลังคิดว่าคืนนี้จะฉลองให้ซื่อจื่ออย่างไรดี แต่จู่ๆ ก็มีจดหมายนกพิราบสีขาวร่อนลงมานอกกระโจม หยุนถิงก็จำได้ทันทีว่ามันเป็นจดหมายนกพิราบของกองทัพขนหงส์ และรีบเอามันมา

จวินหย่วนโยวที่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดแล้ว เดินมาก็เห็นหยุนถิงที่ขมวดคิ้วอยู่ กังวลเล็กน้อย”เกิดอะไรขึ้น?”

หยุนถิงยื่นจดหมายมา”ข้าให้คนของกองทัพขนหงส์สืบว่าทำไมเมื่อสองปีก่อนท่านถึงได้ถูกคนควบคุม ใครกันแน่ที่เป็นผู้ควบคุมท่านอยู่เบื้องหลัง และตอนนี้พวกเขาสืบได้แล้ว มีผู้ที่ชำนาญด้านดนตรีปรากฏตัวขึ้นที่จวนผิงหนานอ๋อง”

แน่นอนว่าจวินหย่วนโยวก็ย่อมลืมไม่ได้ว่า ตอนนั้นหากไม่ใช่เป็นเพราะมีคนควบคุมตัวเอง ตัวเองก็คงไม่มองดูถิงเอ๋อร์กระโดดลงจากหน้าผา

ขณะนี้เมื่อเห็นเนื้อหาบนจดหมายนี้ ดวงตาของจวินหย่วนโยวก็จริงจัง”พวกข้าออกเดินทางไปแคว้นเทียนจิ่ว เพียงแต่ว่าระยะทางยาวไกลคงต้องลำบากลูกทั้งสองแล้ว หากไม่เอาพวกเขาไว้ข้างกาย ข้าก็ไม่ไว้ใจ เจ้าไปเองข้าก็ยิ่งไม่ไว้ใจเลย ยังไงก็ต้องไปอยู่แล้ว!”

“ดี งั้นไปด้วยกัน ข้ากลับไปเก็บข้าวของเดียวนี้เลย เพียงแต่ว่าเดิมทียังคิดอยากฉลองให้กับท่านที่ขาของท่านหายดี” หยุนถิงกล่าว

“ไม่เป็นไร หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้ก่อน เช่นนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำร้ายโดนเจ้ากับลูกแล้ว” สีหน้าของจวินหย่วนโยวจริงจังมาก

“ฟังท่าน” หยุนถิงไปบอกกับฮูเอ๋อเลี่ยสักหน่อย จากนั้นก็กลับไปเก็บข้าวของ

คืนนั้น จวินหย่วนโยวและคนอื่นๆก็จากไปพร้อมกับลูกสองคน แม้ว่าฮูเอ๋อเลี่ยจะอาลัยอาวรณ์ที่จะจากไป แต่ก็รู้ว่าจี๋ญ่าคู่ควรกับที่นี่ สักวันหนึ่งก็ต้องจากไป ฮูเอ๋อเลี่ยกำชับจี๋ญ่าโดยเฉพาะว่าต้องดูแลตัวเองและลูกๆให้ดี

ทุกคนในเผ่าส่งพวกเขาจากไป ยังนำเนื้อตักแห้งและของกินประจำเผ่าจำนวนมากให้พวกเขา ให้พวกเขาได้กินในระหว่างทาง

เมื่อหยุนถิงจากไป ก็อาลัยอาวรณ์ที่จะจากไปมาก เพราะที่นี่เป็นที่ที่นางอาศัยมาเป็นเวลาสองปี ยิ่งเป็นทุกคนที่ช่วยนางเอาไว้ นางเหลือป้ายหนึ่งป้ายไว้ให้ฮูเอ๋อเลี่ยโดยเฉพาะ ให้เขามีเรื่องก็สามารถไปหากองทัพขนหงส์ได้

…………………………

แคว้นเทียนจิ่ว

ช่วงนี้จักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนจิ่วได้แต่งตั้งนางสนมคนหนึ่งใหม่ และนอนอยู่ที่ตำหนักของเซียวเฟยทั้งวันทั้งคืน โดยไม่สนใจเรื่องราชการ ทำเอาทั่วทั้งราชสำนักไม่พอใจเป็นอย่างมาก นางสนมในวังหลังก็อิจฉายิ่งนัก

ในศาลาของอุทยาน สีหน้าของนางสนมไม่กี่คนนั้นแย่มากนัก

“เซียวเฟยมีความสามารถยิ่งนัก ทำเอาฝ่าบาททรงหลงใหลจนไม่สนใจเรื่องราชการเลย นางปีศาจจิ้งจอก!” นางสนมคนหนึ่งกล่าวอย่างโกรธเคือง

“นั่นนะสิ วันวันก็นางได้รับความโปรดปรานมากที่สุด ตั้งแต่นางเข้าวัง ฝ่าบาทมิที่มีความเคยชินจะเสด็จไปที่ตำหนักของฮองเฮาในทุกเดือนนั้นก็ไม่ไปอีกเลย”

“พวกเจ้าอิจฉาอะไรกัน แน่จริงพวกเขาก็ไปทำให้ฝ่าบาทหลงใหลสิ”

“พูดอย่างกับว่าเจ้าใจกว้างมากเพียงใด ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ใช้ข้ออ้างว่าเอาน้ำแกงไปส่งให้ฝ่าบาทในกลางดึกนั้นแล้วไปแย่งชิงความโปรดปรานของฝ่าบาทกับคนอื่น แต่เซียวเฟยเพียงแค่ขยับปาก ฝ่าบาทก็ทรงไปหาเซียวเฟยโดยไม่สนใจเจ้าเลย”

“เจ้า นั่นเป็นเพราะข้าไม่อยากแย่งชิงกับนาง!”

“เจ้าชิงไม่ไหวต่างหาก!”

ศาลาขนาดใหญ่เกิดถกเถียงเสียงดังลั่นกันใหญ่ เหล่านางสนมต่างก็ไม่พอใจกับเซียวเฟยเป็นอย่างมาก บ่น อิจฉา และเกลียดชังกัน

ทั้งหมดนี้ล้วนถูกสาวรับใช้ได้ยินไปหมด หันหลังและกลับไปที่ตำหนักของเซียวเฟย”เหนียงเหนียง หลิวเหม่ยเหรินพวกนางพูดว่าร้ายท่านในศาลาอีกแล้วเจ้าค่ะ พระสนมเหล่านี้ก็นะ ตัวเองไม่ได้รับความโปรดปรานเองทำได้เพียงอิจฉาเหนียงเหนียงได้เท่านั้น!”

สีหน้าของมู่เซียวเซียวดูเฉยเมย เล่นกำไลหยกในมือ”พวกนางอยากพูด ก็ปล่อยให้พวกนางพูดไปเถอะ ขอแค่ฝ่าบาททรงโปรดปรานข้าก็พอแล้ว”

“เจ้าค่ะ” สาวรับใช้รับพูด ก็เห็นในริมหน้าต่างนั้นมีกระถางแต้ฮั้งฮวยเพิ่มขึ้นมาหนึ่งถาง“เหนียงเหนียง กระถางดอกนั้นปรากฏขึ้นแล้ว!”

มู่เซียวเซียวเหลือบมองดอกไม้ริมหน้าต่าง โดยไม่พูดอะไร และไม่ทำอะไร พอเพียงถึงยามจื่อ เปลี่ยนเป็นชุดกลางคืนสีดำ หลบผ่านองครักษ์ของวัง ปีนข้ามกำแพงและตรงไปที่จวนผิงหนานอ๋อง

“สายสืบของข้าได้ข่าวมาว่า จวินหย่วนโยวหาหยุนถิงเจอแล้ว แถมยังให้กำเนิดลูกสองคน ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางมายังแคว้นเทียนจิ่ว โอกาสของเจ้ามาถึงแล้ว!” ผิงหนานอ๋องพูดอย่างเฉยชา แต่กลับเย็นยะเยือกยิ่งนัก

“ท่านอ๋องไว้ใจได้ จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงมีแค้นกับข้ามากถึงขั้นไม่อยากอยู่ร่วมใต้หล้าเดียวกัน ข้าจะไม่มีวันลืม ครั้งนี้ข้าจะให้พวกเขามิได้ตายดีอย่างแน่นอน!” มู่เซียวเซียวพูดด้วยความโกรธ

ตอนนั้นจวินหย่วนโยวให้คนเผยแพร่ความลับของหอเทพเซียนออกไป ทำลายชื่อเสียงของหอเทพเซียน และให้เป่ยหมิงฉี่ฆ่าคนในหอเทพเซียนให้หมดสิ้น หากไม่ใช่เพราะนางฉลาดหนีออกมาจากทางลับ เกรงว่าคงตายอย่างไร้ที่กลบฝังไปนานแล้ว

ชางหลันเย่แลเป่ยหมิงฉี่ต่างก็เป็นคนของหยุนถิง ดังนั้นมู่เซียวเซียวจึงจำเป็นต้องมาแคว้นเทียนจิ่ว และผิงหนานอ๋องก็ได้เสนอที่จะร่วมมือกับนาง ตอนนี้นางได้เข้าวังตามคำสั่งของผิงหนานอ๋องแล้ว และได้ควบคุมจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนจิ่วไว้แล้ว ในที่สุดนางก็สามารถแก้แค้นได้สักที

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท