จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 666 เหตุใดเป็นเจ้าล่ะ

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 666 เหตุใดเป็นเจ้าล่ะ

หยุนถิงไม่คิดเลยว่าท่านพี่จะโรแมนติกขนาดนี้ ปกติเขารักความสะอาดที่สุด และไม่ชอบโผล่หน้ามาอยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วย แต่ในตอนนี้เขากลับบอกรักตนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ในต่างแดน มันต้องการความกล้าขนาดไหนกัน หยุนถิงซาบซึ้งใจยิ่งนัก

ท่ามกลางฝนปิ่นดอกไม้เต็มท้องฟ้า หยุนถิงเดินเข้าไป ไปยืนตรงหน้าจวินหย่วนโยว

สายตาสองคู่สบกัน สายตาส่งความรัก พวกเขาเห็นตนเองในดวงตาของอีกฝ่าย

“ท่านพี่ ข้าก็รักท่าน!” หยุนถิงเอ่ยปาก

คำพูดเดียวทำทุกคนอิจฉาไปตามๆกัน

จวินหย่วนโยวยื่นมือไปดึงนางเข้าอ้อมกอด หยุนถิงอุ้มเสี่ยวเทียน สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันแน่น

จวินเสี่ยวเหยียนยืนดูอยู่ข้างๆ นางไม่ได้คิดอยากเข้าไป แต่กลับกอดโม่เหลิ่งเหยียนไว้แน่น

พอมองดูหยุนถิงและจวินหย่วนโยวที่กอดกันอยู่ไม่ไกล และลูกชายของพวกเขา วินาทีนี้โม่เหลิ่งเหยียนมิได้ริษยา และมิได้มีความรู้สึกไม่พอใจใดๆ เพียงแต่อวยพรหยุนถิงอยู่เงียบๆ

สองปีมานี้ ในสายตาโม่เหลิ่งเหยียนไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการที่หยุนถิงมีชีวิตอยู่อีกแล้ว

ขอเพียงนางมีชีวิตอยู่ ขอเพียงนางมีความสุข เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ผู้คนรอบข้างพากันโห่ร้องด้วยความยินดี ล้วนซาบซึ้งไปกับความรักของพวกเขา พากันชื่นชมคู่รักคู่นี้

“เจ้าดูพวกเขาสิ ลูกโตป่านนี้แล้ว สมเป็นสามีผู้อื่นจริงๆ สามีข้านะรู้จักแต่กิน หยั่งกับหมูแหน่ะ” สตรีผู้หนึ่งพูดขึ้นอย่างอิจฉา

“บุรุษรูปงามเย็นชา สตรีงดงามเลิศล้ำ ลูกยังหน้าตาดีเพียงนี้ ครอบครัวนี้หน้าตาดีไปแล้วกระมัง”

“ต่อไปข้าก็จะหาสามีเช่นนี้ น่าซาบซึ้งนัก อิจฉาจังเลย” สตรีที่แต่งงานแล้วล้วนกล่าวโทษสามีตน พวกที่ยังไม่ได้แต่งงานพากันอิจฉายิ่งนัก ต่างพากันสาบานในใจว่าต่อไปจะต้องหาสามีเช่นนี้ให้ได้

“ตุ้ม!” เสียงกลองดังขึ้น หัวหน้าผู้ดูแลจัดการงานเทศกาลชีซีก้าวออกมา

“เอาล่ะทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาร่วมงานเทศกาลชีซีซึ่งจัดขึ้นปีละครั้งของเรา ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปทุกท่านสามารถแลกเปลี่ยนปิ่นดอกไม้ได้แล้ว อีกหนึ่งชั่วยามให้หลัง ผู้ที่ได้รับปิ่นดอกไม้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะปิ่นดอกไม้ของวันนี้ และได้รับรางวัลที่หนึ่งของเราในปีนี้ด้วย”

ทุกคนพากันโห่ร้อง รีบแลกเปลี่ยนกัน เพียงแต่ในมือพวกเขามีแค่ไม่กี่อัน หรือไม่ก็หลายสิบอัน อย่างมากก็หนึ่งถุง ไหนเลยจะเทียบได้กับฝนปิ่นดอกไม้เต็มท้องฟ้าเยี่ยงนี้

“ผู้ชนะปิ่นดอกไม้ของปีนี้ต้องเป็นสองสามีภรรยาคู่นี้แล้วล่ะ พวกเขาเล่นฝนปิ่นดอกไม้ ปิ่นดอกไม้มากมายขนาดนี้ใครจะเทียบได้ล่ะ” ท่ามกลางฝูงชน มีชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวขึ้น

“ผู้ชนะเป็นพวกเขา ข้าเห็นด้วย สามีที่หล่อเหลาเพียงนี้ ภรรยาที่งดงามเลิศล้ำขนาดนี้ เป็นได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งเลย!”

ชาวบ้านพากันเห็นด้วยไปตามๆกัน แต่ว่าทุกคนยังคงแลกเปลี่ยนกันต่อไป ถือว่าเล่นสนุก

หลายสิบคนที่จับตามองจวินหย่วนโยวจากที่ลับ พอเห็นจวินหย่วนโยวและหยุนถิงกอดอยู่ด้วยกัน มีชาวบ้านรายล้อมโห่ร้องให้กับพวกเขา พอเห็นพวกเขาเริ่มคลายการระวังตัว คนพวกนั้นลงมือทันที

โม่เหลิ่งเหยียนที่อุ้มจวินเสี่ยวเหยียนอยู่ พลันสายตาเย็นเยียบ เพราะเขาเห็นว่า ท่ามกลางคนมากมายมีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งมาทางนี้ด้วยสายตาอย่างศัตรู โม่เหลิ่งเหยียนกอดจวินเสี่ยวเหยียนแน่นทันที

เขากำลังจะเอ่ยเตือนจวินหย่วนโยวและหยุนถิง สุดท้ายก็เห็นคนพวกนั้นโดนองครักษ์เงามังกรที่ซ่อนตัวอยู่ฆ่าตายหมด

ไม่ได้เคลื่อนไหว ไม่มีเสียงเลย ฆ่าพวกคนที่คิดลอบฆ่าไปได้ทั้งหมดอย่างไม่เสียกำลังพลเลยสักนิด

โม่เหลิ่งเหยียนถึงถอนหายใจโล่งอก เขาลืมไปได้อย่างไรกันว่า คนละเอียดรอบคอบอย่างจวินหย่วนโยว มีหรือจะไม่เตรียมการ และให้หยุนถิงกับลูกๆเกิดอันตรายได้

เพราะว่าคนมากเกินไป ทุกคนมัวยุ่งกับการแลกเปลี่ยนปิ่นดอกไม้ เลยไม่มีใครสังเกตเห็นพวกนักฆ่าเหล่านั้นเลย

“ท่านแม่ ปวดฉี่!” จวินเสี่ยวเทียนพลันเอ่ยขึ้น

จวินหย่วนโยวรีบปล่อยมือที่กุมมือหยุนถิงทันที “ท่านพี่ ข้าจัดการเอง”

หยุนถิงยื่นมือไปรับจวินเสี่ยวเทียนมาอุ้ม หมุนตัวออกไป

จวินหย่วนโยวรีบตามไปทันที เขาย่อมเป็นห่วงถิงเอ๋อร์กับลูกอยู่แล้ว

หยุนถิงหาที่ที่คนน้อย และให้จวินเสี่ยวเทียนปลดเบา

จวินหย่วนโยวยืนดูอยู่ข้างๆ ไม่มีใครมาลอบฆ่า แต่กลับมีงูพิษเลื้อยเข้ามาด้วยความเร็วสูง พุ่งตรงเข้าหาจวินเสี่ยวเทียน

“ถิงเอ๋อร์ ระวัง!” จวินหย่วนโยวร้องเสียงดัง

หยุนถิงสีหน้าเย็นชา เข็มเงินในแขนเสื้อยังไม่ทันซัดออกไป จวินหย่วนโยวก็ซัดฝ่ามือจนงูพิษตัวนั้นขาดเป็นสองท่อนก่อนแล้ว

“เหตุใดถึงมีงูได้?” หยุนถิงขมวดคิ้ว พอเห็นเสี่ยวเทียนทำธุระเสร็จแล้ว รีบช่วยเขาใส่กางเกงและอุ้มขึ้นมาทันที

จากนั้นจู่ๆก็มีงูพิษหลากหลายสีมากมายปรากฏขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ มุ่งตรงมายังหยุนถิงและจวินหย่วนโยว

“อ๊า งู งูทั้งนั้นเลย ทุกคนรีบหนีเร็ว!” ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งร้องเสียงดังขึ้น

พอคนอื่นเห็นงูมากมายเลื้อยมาบนพื้น พากันตกใจหวีดร้อง ไหนเลยจะมีแก่ใจมาแลกเปลี่ยนปิ่นดอกไม้อีก พากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันหมด

สถานที่เดิมมีผู้คนมากมายรวมตัวกัน ตอนนี้แต่ละคนวิ่งพล่านหนีตายอลหม่าน เลยมีการกระทบกระทั่งวิ่งชนกันบ้าง

“เหตุใดมีงูมากมายขนาดนี้ ท่านอาข้ากลัว!” หยุนหลีร้องเสียงดัง ตกใจจนคว้าหมับเสวี่ยเชียนโฉวที่อยู่ข้างๆ

“มิต้องกลัว มีข้าอยู่” เสวี่ยเชียนโฉวจับนางหลบหลังเหมือนคุ้มครอง เพียงแต่สีหน้าตึงเครียดยิ่งนัก

จู่ๆก็มีงูมากมายโผล่มาเช่นนี้ ต้องมีคนจงใจควบคุมอยู่แน่ๆ

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ไม่ได้ตกใจกลัวเหมือนคนอื่น แต่กลับตื่นเต้นยินดียิ่งนัก “งูพิษมากมายขนาดนี้ดียิ่งนัก ข้าจะได้เอาดีงูไปทำยาเสียเลย”

จากนั้นเริ่นเซวียนเอ๋อร์ก็จับงูพิษอย่างเมามันส์ ท่าทางเช่นนั้นราวกับตรงหน้ามิใช่งูพิษ แต่เป็นสมบัติล้ำค่า

พอองค์หญิงหลันรั่วได้ยินว่ามีงู ก็รีบวิ่งหนีตายทันที ระหว่างชุลมุนโดนคนชนเข้า ทำท่าจะล้มลงกับพื้น ก็มีมือหนึ่งมาพยุงนางไว้

“ระวัง!” หยุนถิงเห็นนางกำลังจะล้มมาข้างตน พยุงนางไว้ทันที

พอหลันรั่วเงยหน้าเห็นเป็นหยุนถิงพยุงตนไว้ ก็สงสัย “เหตุใดเป็นเจ้าล่ะ?”

“องค์หญิงหลันรั่วรีบกลับไปเถอะ!”

เสียงนี้ หลันรั่วรู้สึกคุ้นหูอย่างประหลาด

“องค์หญิง ท่านมิเป็นไรใช่หรือไม่ งูมากมายขนาดนี้ช่างน่ากลัวนัก ข้าพยุงท่านกลับไปดีกว่า” สาวใช้คนสนิทพุ่งเข้ามาทันที รีบพยุงหลันรั่วจากไป

พอหลันรั่วเห็นงูพวกนั้นจะเลื้อยมาหาตนแล้ว ก็ไม่สนใจอะไรอีก รีบตามสาวใช้หลบหนีทันที

หยุนถิงยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน กล้าใช้งูพิษมาล้อมกรอบเธอ ไม่รู้จักฝีมือเธอเสียแล้ว

“ท่านพี่ อุ้มเสี่ยวเทียนไว้!” หยุนถิงยื่นลูกไปให้

“ได้!” จวินหย่วนโยวอุ้มจวินเสี่ยวเทียนไว้ทันที

โม่เหลิ่งเหยียนอุ้มเสี่ยวเหยียนเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆเช่นกัน

หยุนถิงตาคมปลาบ เก็บปิ่นดอกไม้ที่พื้นขึ้นมาอันหนึ่ง มาเป่าที่ริมฝีปาก

งูพิษพวกนั้นที่เดิมจะพุ่งโจมตีพวกเขา พลันหยุดขยับทันที

พวกมันส่ายหัวงุนงง จากนั้นย้อนกลับไปทางที่มาทันที

ทันใดนั้นท่ามกลางผู้คน พลันมีเสียงขลุ่ยดังขึ้น ขาดๆหายๆ หากไม่ตั้งใจฟังจะไม่ได้ยินเลย

แต่หยุนถิงได้ยิน งูที่หมุนตัวกลับพวกนั้น หมุนกลับมาโจมตีพวกเขาอีก

หยุนถิงมองไปรอบด้านด้วยสายตาเย็นเยียบ เธอเดาได้แต่แรกแล้วว่ามีคนควบคุมงูพวกนี้อยู่ ในเมี่อเป็นอย่างนี้ ก็มาลองสู้กันสักตั้ง ดูสิว่าใครจะร้ายกาจกว่ากัน

จากนั้นหยุนถิงก็ออกแรงเป่ามากขึ้น และเร็วขึ้นด้วย มือหนึ่งควักผงยาออกมาสาดไปในอากาศ

ฝูงงูที่เดิมส่ายหัวเข้ามา พลันชะงักหวาดกลัว รีบหนีกันอุตลุด

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท