จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 741 ยังขายหน้าไม่พอรึ

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 741 ยังขายหน้าไม่พอรึ

ฮ่องเต้สีหน้าทะมึนเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ปรายตามองไปที่เหล่าคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “มีเรื่องเช่นนี้จริงรึ?”

“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยมิกล้าปิดบัง แม่นางผู้นี้ให้เงินพวกข้าสามคนหนึ่งหมื่นตำลึงจริงๆ ให้พวกข้าไปก่อกวนที่ร้านเนื้อย่างของคุณหนูหยุนสาม ยังบอกอีกว่าพอเรื่องสำเร็จแล้วจะให้พวกข้าอีกหนึ่งหมื่นตำลึง” คนผู้นั้นรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา

สาวใช้ตกใจสีหน้าซีดเผือด “ฝ่าบาทไว้ชีวิต ไว้ชีวิตข้าด้วย”

ฮ่องเต้เดือดดาลจัด “หากเป็นจริงตามที่พวกเจ้าพูด เรื่องนี้องค์หญิงห้าเป็นผู้บงการ ข้าจะไม่ลดหย่อนผ่อนปรนแน่ ทหาร ตามองค์หญิงห้ามา!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูกงกงตกใจตัวสั่นเทา รีบไปเรียกมาด้วยตัวเอง

ไม่นาน องค์หญิงห้าก็ตามซูกงกงมา พอเข้ามาในตำหนัก วินาทีที่เห็นหยุนถิง องค์หญิงห้าใจกระตุก พอมองเห็นสาวใช้ที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น และคนอื่นๆ สีหน้าองค์หญิงห้าซีดเผือดเล็กน้อย

นางแอบร้องในใจแย่ละ เรื่องที่ตนให้สาวใช้หาคนไปให้ร้ายหยุนซูโดนเปิดโปงแล้วแน่

องค์หญิงห้าข่มใจเดือดดาลและลนลานไว้ ทำสีหน้าเป็นปกติ ถวายบังคมฮ่องเต้อย่างนอบน้อม

“หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จพี่ มิทราบว่าเสด็จพี่ให้หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าด้วยเรื่องใดรึ?”

ฮ่องเต้สีหน้าเย็นเยียบยิ่งนัก ถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล “คนพวกนี้บอกว่าสาวใช้ของเจ้าซื้อตัวพวกเขามาให้ร้ายหยุนซู มีตั๋วเงินเป็นหลักฐาน เจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่?”

องค์หญิงห้าสีหน้าตกใจ “เสด็จพี่ หม่อมฉันมิรู้เรื่องเลย ขอเสด็จพี่ให้เวลากับหม่อมฉันหน่อย”

องค์หญิงห้าพูดจบ หันมองสาวใช้ที่อยู่บนพื้น ก้าวเท้าเข้าไปหาพลางยกมือขึ้นตบหน้านางฉาดใหญ่ “เจ้าช่างบังอาจนัก กล้าไปให้ร้ายคุณหนูหยุนสามลับหลังข้า บังอาจมาก กล้าดีอย่างไร!”

สาวใช้โดนตบจนมึน รู้สึกเพียงปวดแสบปวดร้อนที่แก้ม รีบคุกเข่าอ้อนวอนทันที “องค์หญิง ข้าผิดไปแล้ว ข้าสมควรตายนัก ข้าตัดสินใจโดยพลการ อยากสั่งสอนคุณหนูหยุนสามเอง

เมื่อสองปีก่อน หากมิใช่คุณหนูหยุนสาม ท่านก็ไม่ต้องโดนบีบบังคับให้แต่งงานไปกับอ๋องเก้าแห่งแคว้นเป่ยลี่ หลังจากแต่งงานกันเขาเย็นชากับท่านนัก ชอบรังแกท่านบ่อยๆ แถมยังทำให้ท่านแท้งลูก ข้าทนดูไม่ไหว เลยทำเรื่องนี้ขึ้นมา!”

สาวใช่พร่ำบอกทั้งน้ำตาไหลพราก จงรักภักดียิ่งนัก ทำเอาคนฟังอดเห็นใจนางไม่ได้

มีเพียงหยุนถิงเท่านั้นที่พูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันและไม่แคร์ว่า “ตอนนั้นองค์หญิงห้าคิดเล่นงานข้า แต่ทำอะไรข้าไม่ได้ เลยได้แต่หันไปเล่นงานหยุนซูที่อ่อนแอ

หากมิใช่เพราะนางวางแผนทำร้ายหยุนซู สุดท้ายกลับทำตนเองเสียได้ ไม่เช่นนั้นจะคบชู้กับอ๋องเก้าได้อย่างไรกัน

ฝ่าบาทถึงให้นางแต่งไปกับอ๋องเก้าเพื่อรักษาชื่อเสียงของนางเอง ดังนั้นทั้งหมดนี้เป็นเพราะนางหาเรื่องเอง ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับหยุนซูเลย

หยุนซูต่างหากที่เป็นผู้รับเคราะห์ บัดนี้สาวใช้อย่างเจ้าพูดราวกับว่าองค์หญิงห้าน่าสงสารเสียมากมาย หากมิใช่เพราะนางวางแผนก่อน จะมีจุดจบเช่นนี้ได้อย่างไร

ตนเองจิตใจไม่ดี คิดทำร้ายผู้อื่นกลับทำร้ายตนเอง ยังมีหน้าอะไรมาบอกว่าตนน่าสงสาร เจ้าสมควรโดนแล้ว โทษคนอื่นไม่ได้”

คำพูดแต่ละคำของหยุนถิงเปิดโปงนาง ไม่ไว้หน้าองค์หญิงห้าเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อนางหาเรื่องตายเอง ก็จะมาโทษเธอไม่ได้

เหล่าคนที่อยู่บนพื้นพากันอึ้งบื้อไปเลย พวกเขาได้ยินความลับใหญ่ที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินเช่นนี้

ไม่คิดว่าองค์หญิงห้าที่อ่อนโยนสง่างามเสมอมาจะจิตใจชั่วร้ายเพียงนี้ เมื่อสองปีก่อนก็วางแผนให้ร้ายคุณหนูหยุนสาม สุดท้ายขุดหลุมดักตัวเอง แล้วยังเป็นชู้กับอ๋องเก้าแห่งแคว้นเป่ยลี่ อย่าว่าแต่องค์หญิงเลย หากเป็นหญิงชาวบ้านทั่วไปก็ไม่มีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ต้องโดนจับไปทิ้งให้จมน้ำตายแน่ ราชวงศ์นี่ช่างเลวร้ายจริงๆ

พวกเขามาได้ยินความลับนี้ ไม่โดนฆ่าปิดปากกระมัง ทั้งหมดตกใจแทบตาย ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ

สีหน้าองค์หญิงห้าดูบูดบึ้งยิ่งนัก เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล “หยุนถิง เจ้าทำเกินไปแล้วนะ เรื่องตอนนั้นผ่านไปตั้งนานแล้ว หรือเจ้ายังลบหลู่ข้าไม่พองั้นรึ?”

“ตอนนั้นหากไม่ใช่เจ้าจิตใจชั่วร้ายเอง จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร สาวใช้ของเจ้ากลับรู้สึกว่าเจ้าน่าสงสาร ข้าย่อมต้องทำให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอยู่แล้ว และจะได้ให้นางหัดฉลาดขึ้นด้วย” หยุนถิงบอกอย่างไม่แคร์

องค์หญิงห้าโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว นางยกมือทุบหน้าอกอย่างแรง ทำทีว่ารู้สึกอึดอัดนัก

“เสด็จพี่ หม่อมฉันได้ชดใช้ให้กับความผิดในตอนนั้นไปแล้ว บัดนี้ซื่อจื่อเฟยกลับมาเหยียดหยามหม่อมฉันอย่างนี้ หม่อมฉันไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว หม่อมฉันเป็นองค์หญิงห้าแห่งแคว้นต้าเยียน จะทำให้ราชวงศ์ต้าเยียนขายหน้ามิได้เด็ดขาด!” องค์หญิงห้าพูดพลางจะพุ่งชนเสาใหญ่ในตำหนัก

“รีบห้ามนางไว้!” ฮ่องเต้ร้องเสียงดังอย่างเป็นห่วง

องครักษ์ผู้หนึ่งด้านนอกตำหนักรีบพุ่งเข้ามาทันที และสกัดองค์หญิงห้าที่กำลังจะชนเสาได้ทัน

หยุนถิงแค่นเสียงหึ “สาวใช้กับองค์หญิงจะพุ่งชนเสาเหมือนกัน สมเป็นนายบ่าวกันจริงนะ นี่เห็นว่าเรื่องโดนเปิดโปงแล้ว อยากจะตายไร้พยาน หรือว่าอยากให้ทุกคนคิดว่าข้าบีบคั้นพวกเจ้าจนตายกัน”

“เสด็จพี่ท่านให้หม่อมฉันตายเสียให้รู้แล้วรู้รอดเถอะ หม่อมฉันไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จริงๆ ในเมื่อซื่อจื่อเฟยบีบคั้นกันเช่นนี้ หม่อมฉันยินดีตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง!” องค์หญิงห้าพูดอย่างเสียใจสุดซึ้ง

“องค์หญิง ข้าผิดไปแล้ว ข้าสมควรตายเอง ข้าทำร้ายท่าน ฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นฝีมือข้าทั้งหมด ข้าขโมยตราขององค์หญิงห้าไปเบิกตั๋วเงิน เป็นเพราะข้าเห็นหลายปีมานี้องค์หญิงใช้ชีวิตอย่างอยู่ไม่สู้ตาย อยากล้างแค้นให้องค์หญิงเอง ขอฝ่าบาททรงประหารชีวิตข้าเถอะ!” สาวใช้รีบโขกศีรษะอ้อนวอน

ฮ่องเต้ตะคอกอย่างเดือดดาล “ขโมยตราขององค์หญิง ให้ร้ายหยุนซู ลากออกไปโบยจนตาย พวกเจ้าหลายคนเป็นผู้ช่วย ใส่ร้ายป้ายสี คุมตัวตระเวนประจาน จากนั้นส่งเข้าคุกหลวง ขังไว้ตลอดชีวิต!”

องครักษ์ด้านนอกรีบพุ่งเข้ามา และคุมตัวคนเหล่านี้ออกไปทันที

“สำหรับองค์หญิงห้า—“ ฮ่องเต้ยังพูดไม่ทันจบ องค์หญิงห้าก็สลบไปทันที

หยุนถิงยืนอยู่ใกล้ที่สุด มองแวบเดียวก็รู้ว่านางแกล้งสลบ อาวุธลับในแขนเสื้อพุ่งไปทันที

องค์หญิงห้าที่ทำท่าจะสลบลงไป รู้สึกเจ็บที่แผ่นหลัง ลืมตาฉับพลัน คราวนี้อยากสลบก็ทำไม่ได้แล้ว

องค์หญิงห้าด่ากราดหยุนถิงในใจ นังหญิงน่าตายผู้นี้ชั่วร้ายนัก

“องค์หญิงห้าอบรมคนบกพร่อง ลงโทษกักบริเวณหนึ่งปี ไม่มีคำสั่งข้าห้ามออกไปไหนทั้งสิ้น!” ฮ่องเต้ออกคำสั่ง

“เพคะ หม่อมฉันรับบัญชา!” องค์หญิงห้าถวายบังคมอย่างนอบน้อม ในใจแอบดีใจว่าเสด็จพี่เข้าข้างตนอยู่ดี

หยุนถิงเพียงเหลือบมองฮ่องเต้ที่อยู่บนบัลลังก์สูงอย่างเย็นชา สายตานั้นคมปลาบและเย็นชา

ฮ่องเต้เห็นสายตานั้นของหยุนถิงแล้วตกใจนัก

เขารู้ดีว่าหยุนถิงรักพวกพ้องของตนที่สุด ครอบครัวเป็นเส้นตายของนาง แต่องค์หญิงห้าก็เป็นน้องสาวแท้ๆของเขา ในหมู่พี่น้องทั้งหมด องค์หญิงห้าสนิทสนมกับเขาที่สุด

อันที่จริงหลายปีมานี้องค์หญิงห้าใช้ชีวิตในแคว้นเป่ยลี่อย่างทรมานนัก ฮ่องเต้รู้มาตลอด แคว้นเป่ยลี่ก็มีหูตาของฮ่องเต้ต้าเยียนอยู่

และตอนแรกองค์หญิงห้าเป็นคนวางแผนให้ร้ายหยุนซู ดังนั้นฮ่องเต้ต้าเยียนจึงมิเคยยื่นมือเข้าช่วยเลย ถือซะว่าเป็นการลงโทษองค์หญิงห้า

บัดนี้นางพึ่งกลับมาถึงต้าเยียน ก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ฮ่องเต้รู้ดีว่าเรื่องนี้องค์หญิงห้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่ แต่ถ้าเขาลงโทษองค์หญิงห้าเวลานี้ คนนอกจะคิดว่าเขายอมรับองค์หญิงห้าไม่ได้

แต่หยุนถิงเองก็มิใช่คนโง่ ตนเดาได้ นางย่อมต้องเดาได้แน่นอน ดังนั้นหลังจากหยุนถิงกลับไป ฮ่องเต้ให้ซูกงกงนำเพชรนิลจินดา ผ้าไหมผ้าแพรมากมายส่งมายังจวนซื่อจื่อด้วยตัวเอง

พอหยุนถิงพึ่งออกจากวัง ก็เอ่ยขึ้น “หลงเอ้อร์ส่งข่าวให้เป่ยหมิงฉี่ ให้เขาส่งอ๋องเก้ามาแคว้นต้าเยียน”

“ขอรับ!” หลงเอ้อร์รีบส่งจดหมายทันที

ฮ่องเต้ออกหน้าปกป้ององค์หญิงห้า งั้นก็อย่าโทษเธอจะทำให้นางย่อยยับป่นปี้แล้วกัน

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท