จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 928 ข้างนอกมีข้าอยู่ทั้งคน

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 928 ข้างนอกมีข้าอยู่ทั้งคน

  

หยุนถิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ผู้อาวุโสเข้าใจข้าดีที่สุด อย่างมากก็ร้อยละเจ็ดสิบ”

ความจริงหยุนถิงมีความมั่นใจเต็มร้อย แต่ร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่เป็นโลกที่ต่างออกไป อุปกรณ์การรักษาย่อมเทียบกับยุคปัจจุบันไม่ได้ และร่างกายของกู้จิ่วเยวียนถูกทำร้ายจากพิษกู่มาเป็นเวลานาน ดังนั้นนางไม่กล้ารับประกัน

“ร้อยละเจ็ดสิบยังลังเลอะไรอยู่ รีบดำเนินการเถอะ ข้ารู้อยู่แล้วว่านังหนูอย่างเจ้าต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้เล็กน้อยอยู่แล้ว” หมอยมบาลโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

“เรื่องนี้ต้องบอกเซวียนเอ๋อร์สักคำกระมัง มิเช่นนั้นถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ข้ากล้วว่านางจะรับไม่ได้” ท่านเหอกล่าวด้วยความเป็นกังวล

“วางใจเถอะ ตั้งแต่นาทีที่กู้จิ่วเยวียนตัดสินใจตามข้ากลับมาที่ต้าเยียน ข้าก็สั่งให้คนส่งจดหมายไปให้เริ่นเซวียนเอ๋อร์อย่างลับๆแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็นผู้ชายของนาง นางย่อมมีสิทธิ์รู้อยู่แล้ว” หยุนถิงตอบ

“สมกับที่เป็นหยุนถิง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คิดได้รอบคอบขนาดนี้ เช่นนี้ข้าก็วางใจแล้ว” ท่านเหอกล่าวด้วยความพึงพอใจ

“เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะสอนทั้งสองท่านเกี่ยวกับการผ่าตัดตั้งแต่ตอนนี้เลย จำเป็นต้องให้ทั้งสองท่านมีความชำนาญอย่างยิ่งให้ได้” หยุนถิงเอ่ยปาก

“ตกลง เราจะให้ความร่วมมืออย่างสุดกำลังแน่นอน”

“เช่นนั้นก็รบกวนหมอยมบาลกับท่านเหอตามข้าไปที่จวนซื่อจื่อเถอะ จนกว่าการผ่าตัดจะเสร็จสิ้นพวกท่านค่อยกลับมา” หยุนถิงกล่าว

“ข้าคิดถึงเรือนไผ่ของลานหลังจวนซื่อจื่อจริงๆ จะได้ไปดูดอกไม้ใบหญ้าสุดล้ำค่าของข้าด้วยพอดี” หมอยมบาลกล่าวอย่างร่าเริง

“ทำไม จวนตระกูลฟู่ของข้าทำให้เจ้าไม่สบายใจหรือ?” ฮูหยินเฒ่าฟู่ชำเลืองมา

“ไม่ใช่อยู่แล้ว ที่นี่ดีกว่าจวนซื่อจื่อมากเลย กินดีอยู่ดีทุกวัน แถมยังมีคนคอยทะเลาะแก้เบื่อ ดีกว่าดอกไม้ใบหญ้าของเรือนไผ่นั่นมาก” หมอยมบาลรีบเปลี่ยนคำพูดทันที

“ค่อยยังช่วยหน่อย รีบไปเถอะ รีบไปรีบกลับ”

“ตกลง การผ่าตัดเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ข้าจะกลับมาทันที” หมอยมบาลให้คำมั่น

“ฮูหยินเฒ่าถ้าอย่างไรท่านไปกับพวกเราดีไหม ท่านอยู่คนเดียวในลานแห่งนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร หากฮูหยินเฒ่าไม่รังเกียจก็สามารถช่วยข้าดูแลเด็กๆด้วย อย่างไรเสียหลายวันนี้ข้าก็ไม่มีเวลาสนใจพวกเขา และจวินซื่อจื่อก็เป็นผู้ชาย ต้องละเอียดรอบคอบสู้ฮูหยินเฒ่าไม่ได้อย่างแน่นอน” หยุนถิงเสนอแนะ

“เป็นความคิดที่ดี พวกเราไปพร้อมกันเถอะ” หมอยมบาลยื่นมือไปดึงมือของฮูหยินเฒ่าฟู่ขึ้นมา

“ปล่อยมือ ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เจ้าทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม” ท่านเหอเอ่ยปากทันที

“ยังจะชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกันอีก ข้ากับฮูหยินเฒ่าล้วนเป็นคนแก่ที่ใกล้จะเข้าโลงแล้วทั้งคู่ ใครมันยังจะไปสนใจเรื่องพวกนี้อยู่ ไปกันเถอะอย่าไปสนใจเขาเลย” หมอยมบาลพูดจบ ก็จูงมือฮูหยินเฒ่าฟู่จากไป

“ข้าก็คิดถึงเจ้าเด็กน้อยสองคนนั้นอยู่พอดี” ฮูหยินเฒ่าฟู่พูดจบ ก็ติดตามจากไป

เมื่อก่อนไม่รู้สึกว่าการอยู่คนเดียวมันน่าเบื่อ ตอนนี้มีตาเฒ่าสองคนนี้แล้ว นางเคยชินกับการพูดคุยหยอกล้อกับพวกเขาแล้ว หากตัวเองอยู่ต่อคนเดียวคงจะน่าเบื่อจริงๆ ตอนนี้นางชอบความครึกครื้นมากกว่าจริงๆ บางทีนี่อาจจะเป็นเพราะแก่แล้วกระมัง

ท่านเหอที่อยู่ด้านหลังไม่เพียงแต่ไม่โกรธ ตรงกันข้ามใบหน้ายังเต็มไปด้วยการบรรลุผล “ตาเฒ่าสองคนนี้น่าเบื่อเกินไปแล้ว ดีที่ได้ข้าคอยช่วยเหลือ ในใจของหมอยมบาลคงจะแอบมีความสุขอยู่เลยล่ะ”

หยุนถิงถูกสามคนนี้หยอกจนอดขำไม่ได้ เป็นเฒ่าทารกกันจริงๆ

“พี่หญิงใหญ่ หมอยมบาลดุดันจริงๆ” หยุนหลีอดที่จะกล่าวอย่างนับถือไม่ได้

“ท่านลุงของเจ้าก็ดุดันมากเช่นกันนี่นา พวกเจ้าสองคนคบกันนานขนาดนี้แล้ว ควรจัดงานแต่งงานเสียที” หยุนถิงมองมา

หยุนหลีตกตะลึง “พี่หญิงใหญ่ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจ ข้ายังเด็กอยู่ ไม่รีบร้อน อีกอย่างพี่หญิงสามก็ยังไม่ได้แต่งงานเลย”

“งานแต่งงานของเจ้ากับซูเอ๋อร์ถึงเวลานั้นก็จัดพร้อมกันเลย เรื่องนี้ควรกำหนดวันแล้ว หากผัดวันประกันพรุ่งอีกเกรงว่าท่านลุงของเจ้าคงจะต้องเป็นบ้าแน่ เสวี่ยเชียนโฉวดีต่อเจ้ามาก ไม่ด้อยไปกว่าที่จวินหย่วนโยวปฏิบัติต่อข้า ดังนั้นเจ้าต้องรู้จักพอใจ ยิ่งต้องถนอมคนที่อยู่ตรงหน้า ความสัมพันธ์จะดีขนาดไหนยืดเยื้อนานไปก็เกิดปัญหาขึ้นมาได้ทั้งนั้น” หยุนถิงอธิบายอย่างอดทน

“พี่หญิงใหญ่ ปัญหาอะไร?” หยุนหลีไม่เข้าใจ

“อาถรรพ์รักเจ็ดปี พวกเจ้าคบกันมาก็หลายปีแล้ว ดังนั้นรีบจัดงานแต่งงานโดยเร็วเถอะ” หยุนถิงก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า

“พี่หญิงใหญ่ อะไรคืออาถรรพ์รักเจ็ดปีหรือ?” หยุนหลีไล่ตามไปทันที

จวนซื่อจื่อ

หยุนถิงเล่าความเป็นมาของเหตุการณ์ให้กับจวินหย่วนโยว จวินหย่วนโยวให้คนจัดเตรียมสถานที่พักผ่อนให้กับฮูหยินเฒ่าและคนอื่นๆทันที

“ท่านย่าฟู่ ท่านปู่ทั้งสองพวกท่านมาแล้ว เราคิดถึงพวกท่านมากเลย” จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนวิ่งเข้ามาทันที

ก่อนหน้านี้หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวไปที่เขตทะเลนิรนาม เด็กทั้งสองคนก็อาศัยอยู่ที่จวนตระกูลฟู่หลายเดือน ย่อมใกล้ชิดสนิทสนมกับฮูหยินเฒ่าเป็นธรรมดา

“โอ้ ดีๆ เด็กน้อยสองคนมาให้ย่าดูหน่อยเร็ว ย่าก็คิดถึงพวกเจ้าเช่นกัน” หัวใจของฮูหยินเฒ่าฟู่ละลายไปหมดแล้ว

จวินเสี่ยวเหยียนกับจวินเสี่ยวเทียนวิ่งเข้ามา จูงมือของฮูหยินเฒ่าฟู่กันคนละข้าง มีความสุขอย่างยิ่ง

“ปู่ก็คิดถึงพวกเจ้าเช่นกัน รอให้พวกปู่เสร็จธุระแล้วค่อยมาเล่นกับพวกเจ้านะ” หมอยมบาลมีความสุขอย่างมาก สิ่งที่เจ้าหนูจวินทำให้เขาพอใจมากที่สุดก็คือให้กำเนิดเด็กน้อยสองคนนี้

“ตกลง เช่นนั้นเราจะรอพวกปู่นะ” จวินเสี่ยวเหยียนกล่าวด้วยความดีใจ

“ซูหลินช่วยข้าดูแลฮูหยินเฒ่าให้ดี” หยุนถิงกล่าว

“ซื่อจื่อเฟยโปรดวางใจ” ซูหลินยกน้ำชาและของว่างมาให้ฮูหยินเฒ่าทันที ดูแลอยู่ด้านข้างด้วยตัวเอง

“ท่านพี่ ให้พากู้จิ่วเยวียนไปที่เรือนไผ่เถิด” หยุนถิงพาท่านลั่วและท่านเหอมุ่งหน้าไปที่ลานหลัง

“ตกลง เด็กๆไปแจ้งเซ่อเจิ้งอ๋อง!” จวินหย่วนโยวกล่าวจบ ก็ติดตามไปเช่นกัน

สุขภาพของถิงเอ๋อร์ในตอนนี้ จวินหย่วนโยวทนปล่อยให้นางเหนื่อยเกินไปไม่ได้หรอก

ชั่วครู่หนึ่ง กู้จิ่วเยวียนก็ไปที่เรือนไผ่ ในนาทีที่เห็นท่านเหอ รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “คำนับท่านเหอ”

“เซ่อเจิ้งอ๋องไม่ได้พบกันนานสบายดีไหม คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งเราจะได้พบกันที่นี่ ในที่สุดเจ้าก็ยอมก้าวออกมาสักที วางใจเถอะ ข้าจะต้องรักษาเจ้าด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอย่างแน่นอน ถึงแม้จะทำเพื่อเซวียนเอ๋อร์ก็ตาม” ท่านเหอให้คำมั่น

“ขอบคุณมาก!” กู้จิ่วเยวียนซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

“ที่แท้เจ้าก็คือกู้จิ่วเยวียนนี่เอง” ขณะที่พูดหมอยมบาลก็ยื่นมือไปช่วยเขาจับชีพจรโดยตรง สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที “ร่างกายนี้อ่อนแอจริงๆ อย่าว่าแต่สามปีเลย เกรงว่าสองปีก็ไม่เพียงพอแล้ว”

กู้จิ่วเยวียนได้ยินหมอยมบาลกล่าวเช่นนี้ รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที มองไปทางหยุนถิงโดยสัญชาตญาณ

“วางใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา” หยุนถิงหารือถึงสภาพร่างกายของกู้จิ่วเยวียนกับหมอยมบาลและท่านเหอทันที

จวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ไปรบกวน รีบยกเก้าอี้มาให้หยุนถิงทันที สั่งให้คนยกผลไม้ขนมอบของว่าง และอาหาร อยู่ข้างกายหยุนถิงเงียบๆตลอด

อยู่กันอย่างนี้สามวัน ในสามวันนี้หมอยมบาลกับท่านเหอตกตะลึงและประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาล้วนเลื่อมใสอุปกรณ์ทางการแพทย์ และทฤษฎีทางการแพทย์ของหยุนถิง เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของอวัยวะภายในของมนุษย์กับนางมากมาย

วันที่สี่ โม่เหลิ่งเหยียนก็มา นาทีที่ได้รับจดหมายของหยุนถิงเขาก็เดินทางกลับมาทันที เวลานี้เขานำศพมาด้วยสิบกว่าศพ

กลัวว่าจะทำให้เด็กๆตกใจ หยุนถิงให้ซูหลินพาเด็กๆไปเล่นที่ตลาดล่วงหน้าแล้ว

“หยุนถิง คนที่เจ้าต้องการข้านำมาแล้ว พวกเขาล้วนเป็นนักโทษที่ก่อกรรมทำเข็ญทุกอย่าง ปล้นฆ่าข่มขืนต่างๆ และเพิ่งจะถูกประหารชีวิตมาหมาดๆ ข้าทำตามคำขอของเจ้านำคนมาให้แล้ว” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าว

“ขอบคุณซวนอ๋องมาก เช่นนั้นเราก็สามารถเริ่มการผ่าตัดได้แล้ว ท่านพี่ท่านรออยู่ข้างนอกเถอะ ข้าไม่ออกมาห้ามให้ใครรบกวนเด็ดขาด!” หยุนถิงกล่าวกำชับ

“ตกลง ข้างนอกมีข้าอยู่ทั้งคน” จวินหย่วนโยวพยักหน้า

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท