ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! – บทที่ 569

ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!

ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 569

ณ หอท่าเรือหอมหวน

เขากลับทำตัวเหมือนหมาหง่อย เขาจมดิ่งลงไปในความเหงาและความอ้างว้างในยามค่ำคืนนี้

เจย์นั่งอยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืน ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของเขารู้สึกอ้างว้าง

เมื่อพ่อแม่ของเขาและโรสจากไปในตอนนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้ ดูเหมือนไร้ความหมายที่จะมีชีวิตต่อไป

“ท่านอาเรส!” ประตูไม้มะฮอกกานีโบราณของบ้านถูกเปิดออก เกรย์สันตะโกนเรียก เขารีบจนเดินสะดุดเข้ามาในห้องขณะที่ตอนนี้ฟ้ายังคงร้องอยู่ข้างนอก

เจย์มองด้วยความตกใจ

สายตาของเขาจ้องไปที่เกรย์สันที่หน้าซีดซึ่งมีเสียงสั่นเครือออกมา “ท่านอาเรส ผมเพิ่งได้รับเรื่องเกี่ยวกับเควนตินส์มาว่า… คำพูดสุดท้าย เขาบอกว่าพวงมาลัยของรถเริ่มทำงานผิดปกติประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากที่รถออกจาก อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน ผมเลยรีบวิ่งมาบอกทันทีแต่ช้าไปหนึ่งก้าว รถไถลลงไปในแม่น้ำแล้ว…”

“นายว่าไงนะ?” เจย์ยืนขึ้นอย่างสั่นเทา

เกรย์สันรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งในขณะที่เขาบังคับตัวเองให้พูดคำว่า “ท่านอาเรส คุณท่านและคุณนายหญิงได้จากไปแล้ว”

ร่างกายของเจย์ยืนแกว่งไปมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพุ่งออกจากห้องไปราวกับปีศาจร้ายที่สูญเสียการควบคุม

ข้างนอกยังคงฝนตกหนักอยู่

ฟ้าร้องและฟ้าผ่าคำรามตึงตัง

พื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยน้ำเอ่อล้นในขณะที่กระแสน้ำในแม่น้ำก่อตัวขึ้นรอบพื้นที่อันกว้างใหญ่

ร่างสูงวิ่งข้ามที่ราบราวกับพายุเฮอริเคน

เกรย์สันเอามือป้องปากในขณะที่เขาตะโกนให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ท่านอาเรส รอผมด้วย! ให้ผมขึ้นรถไปด้วย!”

กระนั้น เสียงของเขาถูกกลืนกินไปกับลม ฟ้าฝนและฟ้าร้องที่โหดเหี้ยม เกรย์สันไม่รู้ว่าท่านอาเรสได้ยินเขาหรือเปล่า แต่เขารู้ว่าร่างกายของท่านอาเรสไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ถ้าเขายังคงวิ่งต่อไปภายใต้พายุเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะทำตัวทนทานเหมือนเหล็กก็ตาม

ความคิดแบบนี้กลายเป็นความคิดที่เจ็บปวดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเกรย์สัน

เจย์วิ่งเร็วสุดกำลังเท่าที่จะทำได้เพื่อไปยังจุดเกิดเหตุโดยคำนึงถึงสิ่งเดียวเท่านั้น เขาช่วยแองเจลีนไว้ไม่ได้ในตอนนั้น แต่เขาจะไม่พลาดโอกาสที่จะช่วยพ่อแม่ของเขา

เมื่อเขากำลังจะไปถึงที่เกิดเหตุ ทันใดนั้นเขาก็ลื่นไถลไปข้างหน้า โชคดีที่ร่างกายของเขาทรงตัวได้ก่อนที่จะตกลงไปในโคลน

ขณะที่เขาค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นมา มีกลุ่มคนวิ่งออกมาอยู่ข้างหน้าเขาในทันที พวกเขาสวมหน้ากากและรีบตรงเข้ามาหาเขา จากนั้นพวกเขาก็เริ่มต่อสู้กับเขาอย่างไร้ความปราณี

หากเหตุการณ์นี้เป็นวันอื่น เจย์จะสามารถต่อสู้กับพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาได้ดีด้วยความสามารถของเขา และเขาจะไม่มีปัญหาในการหนีออกจากการต่อสู้นี้ได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาอยู่ในความรู้สึกกังวลและเร่งรีบอย่างขาดสติเกินไป ความไม่สบายใจของเขาทำให้เขาเสียเปรียบทันที

“ใครส่งพวกนายมา?” เจย์ตะโกนลั่น

กลุ่มผู้ชายดูเหมือนจะเงียบสนิทโดยที่ไม่มีใครตอบเลยสักคน

เมื่อมองแวบแรก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นนักสู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เจย์ไม่รู้เลยว่าใครเป็นเจ้านายของพวกเขาเมื่อดูจากเสียงหรือท่าทางการต่อสู้ของพวกเขา

นอกจากนั้น คนเหล่านั้นก็โหดเหี้ยมที่สุด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อเป้าหมายเดียวเพื่อปลิดชีพเจย์ก็เท่านั้น

สิ่งที่ทำให้เจย์กลัวที่สุดคือพวกเขาดูเหมือนจะรู้จักเขาเป็นอย่างดีมันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นนักสู้เก่งกาจ พวกเขาตอบโต้ด้วยการเพิ่มจำนวนนักสู้ พวกเขาใช้อาวุธในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย

ไม่นานนัก เลือดสีแดงก็ไหลซึมทะลุเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา ขาของเขาหัก พวกเขาได้ฉีดยาบางอย่างเข้าไปในร่างกายของเขาอีกด้วย

เช่นเดียวกับที่เจย์รู้สึกได้ถึงพลังงานในร่างกายของเขาที่ค่อย ๆ อ่อนลง แขนขาของเขาก็เช่นกัน

กลุ่มคนยังคงเตะต่อยเขาจนร่างกายล่วงนอนลงกับพื้น

ในขณะนี้ที่เกรย์สันได้ขึ้นรถขับตามมาทีหลัง เขาเห็นเลือดไหลรินตามพื้นดินและมีชายนอนแผ่อยู่บนพื้นคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ถึงอย่างนั้น นั่นคือนายท่านของเขาที่เผชิญกับความทุกข์ทรมานอยู่

ท่านอาเรสนอนจมกองเลือด เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขากลายเป็นสีแดงทั้งหมดแล้วในตอนนี้

เกรย์สันโกรธมากขณะที่ตะคอกออกมา “ตายแน่ พวกแกทุกคนต้องตาย!”

รถโรลส์-รอยซ์ที่เขาขับเหยียบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อชนกลุ่มคนพวกนั้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ แต่เมื่อเห็นรถพุ่งเข้ามาพวกเขารีบหนีจากที่เกิดเหตุไปทันที

ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!

ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!

Status: Ongoing
แม้จะผ่านไปสองชั่วอายุ โรสยังคงไม่สามารถละลายหัวใจอันเย็นชาของเจย์ อาเรสได้ ด้วยความเศร้าโศก เธอตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตภายใต้หน้ากากของคนโง่ ลวงเขาและหนีไปพร้อมกับลูกทั้งสอง สร้างความโกรธเกรี้ยวที่ไม่รู้จบแก่เซอร์อาเรส ทุกๆคนรอบตัวพวกเขามั่นใจว่านี่จะนำพาความตายอันร้ายแรงมาสู่โรส ทว่า ในวันต่อมา เซอร์อาเรสผู้ยิ่งใหญ่กลับคุกเข่าข้างหนึ่งลงกลางถนน พยายามเกลี้ยกล่อมเด็กเหลือขอคนหนึ่ง “ได้โปรดทำตัวดีๆแล้วมากับฉัน!”“ฉันจะไป แต่นายต้องยอมรับเงื่อนไขของฉันซะก่อน!”“ว่ามา!”“นายไม่สามารถรังแกฉัน โกหกฉัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามทำหน้าไม่พอใจใส่ฉัน นายต้องคิดเสมอว่าฉันคือคนที่สวยที่สุด และนายต้องยิ้มทุกครั้งที่คิดถึงฉัน…”“ก็ได้!”เหล่าไทยมุงถึงกับตกตะลึง! นี่มันเทพนิยายที่สวนทุกตำราหรือไง? เซอร์อาเรสดูเหมือนจะจนปัญญา จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่เขาสร้างขึ้นมาเล่นเขาซะอยู่หมัด ในเมื่อเขาไม่สามารถปฏิเสธเธอ เขาก็จะทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงจนหมดสิ้นแทน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท