วันที่ 12 ของการเดินทาง
“ เริ่มจะมองเห็นทวีปอัฟฟาแล้วล่ะ! ”ครูว์
หลังจากคืนนั้นที่คุณเลเวียธานมาส่งที่ปลายทางของทะเลมรสุมตอนกลาง เราก็ใช้เวลาเดินทางกันมาอีกครึ่งค่อนวัน จนได้พบกับทวีปอัฟฟาที่เป็นเป้าหมาย และดูเหมือนว่าเราจะถึงที่นั่นในอีกไม่กี่ชั่วโมง แล้วยิ่งเพิ่มความเร็วของเรือด้วยเวทลมของครูว์ด้วยแล้ว ก็น่าจะถึงอัฟฟาภายในครึ่งชั่วโมง
ก็นะ.. ลมกรรโชกของยัยนั่นน่ะมันรุนแรงขนาดนั้นแหละ
แต่ก็ถือว่าการเดินทางในรอบนี้มีความโชคดีอยู่ ตรงที่เราถูกโจมตีบนเรือแค่รอบเดียวเท่านั้นและยังสามารถหนีออกมาจากวงล้อมได้ทันเวลา อีกทั้งเมื่อเข้ามายังส่วนที่อันตรายที่สุดก็มีคุณป้อเลเวียธานแรงก์ S คอยนำทางให้อีก แบบนี้มันลาภลอยชัดๆ
เรียกได้ว่าการโดยสารทางทะเลในครั้งนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นเลยล่ะ
“ เห็นต้นไม้ใหญ่ๆตรงนั้นไหม ”เร็กซ์
เธอชี้ไปที่ต้นไม้ขนาดยักษ์ ที่ถึงแม้เราจะอยู่ไกลจากมันมาก เราก็ยังเห็นมันได้อย่างชัดเจน
“ นั่นคือยูดราล่ะ ”เร็กซ์
“ ต้นไม้โลกงั้นหรอ.. ใหญ่โคตร ”
มันเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเคยเห็นมาเลย อีกทั้งรากไม้ของมันยังปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ในทวีปนั้นอีก ทำให้มันดูเป็นต้นไม้ที่ยิ่งใหญ่มากเลยล่ะ
“ มันยังไม่ใช่ต้นไม้โลกหรอก มันก็แค่ต้นไม้ที่ใหญ่มากๆและมี 1 เดียวในโลกไง ”เร็กซ์
“ ต้นไม้โลกของจริงน่ะ เราเห็นได้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของลำต้นมันจากโลกเราเท่านั้นแหละ ”เร็กซ์
เศษเสี้ยวหนึ่งงั้นรึ? มันเป็นยังไงกันล่ะนั่นผมล่ะสงสัยจริงๆ
“ หมายความว่าไงน่ะ? ”
“ ก็หมายความว่ามันโคตรใหญ่ยักษ์เลยยังไงล่ะ ”เร็กซ์
ถ้าหากว่ามันใหญ่ขนาดนั้น มันก็คงจะเป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดและสวยงามสำหรับเหล่านักผจญภัยน่าดู ซึ่งผมเองที่ฟังเรื่องนี้จากปากเร็กซ์แล้วก็ได้เกิดความสนใจขึ้นมาและคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปที่ต้นไม้โลกนั่นให้ได้เลยล่ะ
สำหรับวันนี้คงต้องมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายหลักก่อน ซึ่งเป็นการตามหาอาวุธของกอร์ อย่างศาสตราโลหิตเหล็กเทวะ
แม้จะมองเห็นทวีปอัฟฟาแล้ว แต่เราก็ยังอยู่ในทะเลมรสุมที่ขึ้นชื่อเรื่องอันตรายและพายุกลางทะเล
“ เตรียมรับมือกับพายุ!! ”โรมิโอ
ไม่นานนักหมู่เมฆทั้งหลายก็ไปรวมกันอยู่ที่ตรงหน้าเรา และก่อตัวขึ้นเป็นพายุลูกใหญ่ขึ้นมา มันคงจะดีถ้ามันมีแค่ลูกเดียว แต่นี่.. กลับมีมากกว่า 20 ลูกอยู่ข้างหน้าเรา
สมกับที่มีชื่อว่าทะเลมรสุมจริงๆเลย
และผลจากการที่เกิดพายุงวงช้างตรงหน้านั้น ทำให้ฝนกระหน่ำตกลงมาอีกครั้ง เนื่องจากการที่มีพายุงวงช้างปรากฏขึ้นมากมาย นั่นจึงทำให้เป็นเรื่องยากในการที่จะผ่านมันไปได้อย่างรวดเร็ว
เพราะฉะนั้น ในการกำจัดพายุทั้งหลายนั่นจึงเป็นหน้าที่ของวิกตอเรีย..
“ วิกตอเรีย?! ”
“ ใช่ เธอจะเป็นคนจัดการเอง ”มาน็อค
ทำไมถึงเป็นวิกตอเรียน่ะหรอ?
“ พลังของเธอมากที่สุดในหมู่พวกเราแล้วค่ะ! ”เรีย
แล้วดาบจะไปสู้กับพายุได้ยังไงกัน?
“ เพราะว่าดาบที่เธอใช้น่ะ สร้างมาเพื่อตัดโดยเฉพาะเลยยังไงล่ะ ”ครูว์
“ อีกอย่าง.. เป็นเพราะว่าเธอคือออร่ามาสเตอร์ เธอจึงสามารถตัดได้แม้กระทั่งพายุเลยยังไงล่ะ!”ครูว์
แบบนั้นเองสินะ… ตัดได้แม้กระทั่ง.. เอ่อ พายุ? อะไรนะ!? พายุ!!?
วิกตอเรียชักดาบของเธอออกมา และตั้งดาบไว้กลางอกก่อนจะตั้งท่าเตรียมฟันแนวนอน
ออร่าสีขาวปรากฏขึ้นบนร่างของเธอ และยิ่งมากขึ้นเมื่อเธอเพิ่มออร่าไปที่ใบดาบ ก่อนจะปล่อยท่าฟันออกไป
“ ผ่าสามพันโลก ”วิกตอเรีย
ทันทีที่เธอปล่อยท่าฟันออกไป คลื่นดาบสีขาวขนาดยักษ์ได้พุ่งออกไปใส่พายุนั่น และพวกมันถูกผ่าครึ่งด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวของวี
ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาเลยล่ะ เรื่องคราวที่แล้วว่าเก่งแล้วนะ แต่คราวนี้นี่.. ยกให้เลย นักดาบ NO.1 ในใจเลยตอนนี้ แข็งแกร่งสมชื่อแรงก์ S สุดๆ
คือทันทีที่วีวาดดาบออกไปอ่ะ รัศมีของพลังมันกวาดพายุทั้งหมดให้หายไปเลย รวมถึงท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วย มันกลับกลายเป็นท้องฟ้าอันแสนสดใสเลยล่ะ
แต่ทว่าเธอก็ยังไม่ได้วางดาบของเธอลง พร้อมกับตั้งท่าอีกครั้ง
“ มาแล้ว- ”วี
ทันใดนั้น งูทะเลขนาดยักษ์หลายสิบ หลายร้อยตัวก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำล้อมรอบเรือของเรา ผมที่เห็นดังนั้นจึงคว้าขวานทลายเหล็กกล้าเอาไว้แน่น และคอยดูท่าทีของพวกมัน
“ ซีเซอร์เพนท์!? ”โรมิโอ
“ มอนสเตอร์ C แรงก์! ”เรีย
“ ทุกคนประจำตำแหน่ง!! ”เร็กซ์
ขณะที่สาวๆกำลังเข้าประจำที่ของตนตามแต่ละบทบาทที่ได้รับ ผมก็ได้แต่ยืนนิ่ง งุนงงในสถานการณ์นี้ อันเนื่องมาจากว่า.. ผมไม่เคยใช้ฟอร์เมชั่นอะไรกับพวกเธอเลยนี่สิ..
เอาเป็นว่าจะซัพพอร์ตให้เท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน
“เชื่อมความคิด ”ครูว์
ทันทีที่ครูว์ใช้สกิลความคิดแรงก์ S ของเธอ ราวกับว่ามีเส้นเชือกบางอย่างที่คอยเชื่อมพวกเราเข้าหากันผ่านความคิด เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะสามารถสื่อสารด้วยกันได้ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหน
“ วีเธอใช้ผ่าสามพันโลกอีกครั้งไม่ได้หรอ ”
ผมถามกับเธอ เธอส่ายหน้า แล้วตอบกลับผม
“ มันค่อนข้างจะกินออร่าของฉันมากเลยน่ะค่ะ ดีไม่ดีถ้าใช้อีกสักครั้งฉันอาจจะสลบลงไปเลยก็ได้ ฉันเลยต้องประคองออร่าเอาไว้ให้ได้มากที่สุดน่ะค่ะ ”วี
อืม ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจแล้วล่ะ ยิ่งท่าใหญ่ มันก็ยิ่งกินพลังงานมากขึ้นเท่านั้น แต่ในเมื่อตอนนี้ผมไม่ได้มีท่าใหญ่อะไรพวกนั้น พลังงานส่วนใหญ่ที่หายไปก็จะเป็นพลังกายแทนสินะ
“ เพิ่มความคล่องตัว เพิ่มพลังโจมตี เพิ่มกำลังกาย เพิ่มความคุ้นชิน ”ครูว์
ไอ้บัพอย่างอื่นน่ะ ผมพอจะรู้อยู่หรอกว่าทำอะไรได้บ้าง แต่ไอ้ความคุ้นชินเนี่ย.. มันมีไว้ทำไมหว่าฃ
“ ใช้อาวุธได้ดีขึ้นไงคะ ”ครูว์
“ ขอบคุณที่ตอบให้ครับ ”
แล้วผมก็ได้คำตอบมาอย่างรวดเร็วเลยเชียวล่ะ
“ เสริมการป้องกัน การคุ้มครองจากเทพธิดา รักษาต่อเนื่อง ”เรีย
“รักษาต่อเนื่องจะมีผล 15 นาทีนะคะ เพราะฉะนั้นจัดการให้เรียบร้อยตามเวลาด้วยนะคะ ”เรีย
“ อ่า! ”เร็กซ์
“ อืม ”วี
“ รับทราบ ”
นี่คงจะเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างผม เร็กซ์ และวีสินะ ตื่นเต้นจัง
ผมเองก็ไม่น้อยหน้าพวกคนที่คอยบัพให้อยู่ข้างหลังเหมือนกัน มีจะมีอยู่เพียงสกิลเดียว แต่มันแข็งแกร่งและหลากหลายยิ่งกว่าใครเลยล่ะ
ยุทธศาสตร์จำลอง-
“ ศาสตร์ย่อยลำดับที่สอง – บงการวิสัยทัศน์ ”
“ อึ่ก- อะไรน่ะ! ภาพมุมสูงนี่มัน.. ”เร็กซ์
โชคดีที่แถวนี้มีนกคอยบินอยู่บนฟ้าเต็มไปหมด ผมเลยสามารถใช้ทักษะที่พึ่งเคยใช้ครั้งแรกอย่างบงการวิสัยทัศน์ได้ดีผ่านมุมมองของนกเหล่านั้น
“ สุดยอด- เห็นพวกเราด้วยล่ะ.. ”วี
โดยจะสามารถสลับกันระหว่างสายตาปกติกับมุมมองของนกได้ แม้จะยังไม่ชินสักเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ในแง่ของการตะลุมบอนกันแบบนี้แน่นอน
และอีกอย่างที่เป็นซิกเนอร์เจอร์ของสกิลนี้เลยก็คือ..
“ ศาสตร์ย่อยลำดับแรก – บงการยุทธศาสตร์ ”
การประมวลผลพื้นที่ต่อสู้ในหัวเราในรูปแบบสามมิติ ที่จะทำให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มโอกาสในการชนะขึ้นอย่างมาก
ถึงแม้จริงๆแล้วในสถานการณ์แบบนี้จะเป็นการพุ่งเข้าไปสู้มากกว่าก็เถอะ
“ เสริมการโจมตีกำลัง5 เสริมความเร็วกำลัง5 เสริมกำลังกายกำลัง5 เสริมการรับรู้เกินขีดจำกัด ”
“ ยุทธศาสตร์จำลอง 1เท่า ”
การใช้สกิลยุทธศาสตร์จำลองในอีกรูปแบบนึงจะเป็นการเพิ่มการรับรู้ของสมองขึ้นมา 40% เมื่อรวมผลกับที่ผมเสริมกำลังของผมไปด้วยทั้งหมดแล้วมันทำให้ผมรู้สึกกระปี้กระเป่าจริงๆที่มีบัฟเยอะขนาดนี้
จนตอนนี้วงแหวนเวทที่แทนการบัพพวกนี้มีอยู่ล้อมรอบตัวผมไปหมดเลยล่ะ
“ ยกระดับ ”
โดยการยกระดับจะเป็ผลจากการที่ผมฝึกเวทจนชำนาญในระดับนึงจนสามารถแทรกแซงบัพได้ และทำให้ผลของพวกมันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แน่นอนว่ามันเกิดผลกับบัพทุกประเภท และข้อเสียมันยังมีผลกับร่างกายของผมโดยตรงเลยล่ะ
“ บัพเยอะจังนะคะ ไม่กลัวจะตัวระเบิดหรอคะ? ”ครูว์
“ ไม่หรอกน่า แค่นี้มันยังน้อยไป! ”
ผมชักจะรู้สึกสนุกไปกับมันแล้วสิ
…
ไม่นานหลังจากนั้น ครูว์สร้างแพลตฟอร์มสำหรับการเคลื่อนที่ให้กับเพื่อนๆของเธอ เพื่อที่จะโจมตีพวกมันได้อย่างแม่นยำ ส่วนผมได้บอกเธอไปว่าผมนั้นไม่ต้องการพื้นเวทมนตร์
เหตุนึงเป็นเพราะว่ามันทำให้ผมช้ากว่าเดิมมากเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
อีกเหตุผลคือ.. วิ่งบนน้ำกับวิ่งบนร่างมอนสเตอร์ตัวใหญ่ขนาดนี้มันสนุกกว่าไง!
ซ่า~
ทันทีที่ผมเริ่มออกวิ่ง แม้เท้าผมจะแตะผิวน้ำอยู่ผมก็ไม่จมลงไปในน้ำ เป็นเพราะว่าการขยับขาของผมนั้นเร็วมากซะจนสามารถยืนอยู่บนน้ำได้เลยไงล่ะ ทุกๆการโจมตีของผมหนึ่งครั้งก็จะมีพวกมันตายหนึ่งตัว
บ้างก็หัวแหลกบ้าง บ้างก็ตัวแตกบ้าง บ้างก็ถูกผ่าครึ่งบ้าง ซึ่งการฆ่าพวกมันแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกสนุกไปกับการต่อสู้นี้มากเลยทีเดียว
ทั้งวิ่งบนทะเล ดริฟต์กลางทะเล และซัดคลื่นทะเลยักษ์ใส่พวกมันโดยการตวัดขวานขึ้นอย่างรุนแรง ผมบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรจะสนุกไปมากกว่านี้อีกแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ
หลังจาที่ผมฆ่าพวกมันไปจนหมดแล้ว ผมก็มีนั่งพักให้หายเหนื่อยอยู่บนกองศพพวกมัน
[ อัลเลียน ฝั่งนั้นหมดรึยัง ] เร็กซ์
ผมมองไปรอบๆเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าจะไม่มีตัวอะไรหลงเหลืออยู่บนกองศพของซีเซอร์เพนท์พวกนี้
[ ไม่มี วางใจได้- ]
ซ่า~
ทว่า- ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบก้ได้มีหนวดหมึกขนาดยักษ์เส้นหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำ และตวัดลงบนจุดที่ผมอยู่
ด้วยแรงที่กระทบกับผิวน้ำอย่างหนักหน่วง ทำให้พื้นน้ำตรงนั้นแตกกระจายเป็นวงกว้าง
“ อะไรวะเนี่ย!!? ”
[ เกิดอะไรขึ้น!? ] เร็กซ์
“ ฉ- ฉันเจอหมึกยักษ์!! ”
ผมตะลึงในขนาดของมัน ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นหมึกยักษ์ที่ตัวใหญ่ขนาดนี้
[ มันคือคราเค่น มอนสเตอร์ A แรงก์ค่ะ!! ] เรีย
“ความสามารถล่ะ!? ”
[ เอ่อ… มันตระครุบเหยื่อด้วยท่าแฟงก์ได้ และ..เรียกคลื่นยักษ์กับยิงลำแสงจากตุ่มๆบนหนวดมันได้ทุกเส้นเลยล่ะค่ะ.. ] เรีย
“ คราเค่นบ้านไหนฟะน่ะ!! ”
ไม่ทันขาดคำ ลำแสงสีฟ้าก้ได้พุ่งมาทางผม ประจวบเหมาะกันกับที่บัพทั้งหมดได้หายไปพอดี และตอนนี้ผมก็เหนื่อยมากเลยด้วย แต่ดูเหมือนว่าดวงของผมจะยังไม่หมด ผมใช้ขวานทลายเหล็กกล้ามาป้องกันได้ทัน
แต่ก็แลกมากับการที่.. ต้องเสียเจ้านั่นไปทั้งๆที่ยังไม่ค่อยได้ใช้เลย..
อ่ะ- แย่ละ มันยิงลำแสงรอบที่สองมาแล้ว…-
“ ว๊ากกกกกก!!!!! ”
แต่แล้ว อยู่ๆผมก็ถูกดึงจากตรงนั้นมาที่เรือ ในทันที
“ เกือบไปแล้วนะคะ… ”ครูว์
“ ขอบคุณนะ! ”
ผมไม่รอช้าที่จะขอบคุณเธอทันที
“ เรีย มีวิธีจัดการมันไหม? ”
“ … เป่าทีเดียวให้หายไปเลยค่ะ! ”เรีย
“ เอาจริงดิ้.. ”
ดูเหมือนว่าคำแนะนำจากผู้หญิงคนนี้จะฟังดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าในเมื่อหนังมันอาจจะเหนียว งั้นเราทำลายมันจากข้างในเอาก็ได้นี่
อีกอย่างคือตรงที่ๆปากของมันควรจะอยู่ดันไม่ใช่ข้างใต้หนวดมัน แต่เป็นบนหัวของมันเลย
เอาล่ะ ผมคิดออกแล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อไปดี
“ ครูว์ ส่งฉันไปเหนือหัวมันให้หน่อย ”
โดยผมจะใช้หอกเพลิงที่รุนแรงมากๆเผาอวัยวะของมันจากภายใน และปล่อยให้มันตายไปทั้งแบบนั้น
“ จากที่คุณคิดแล้ว.. ก็เข้าท่าดีนี่คะ งั้นก็จัดไปโลด! ”ครูว์
แล้วครูว์ก็จัดการส่งผมไปในทันที ทว่าระหว่างที่ผมกำลังจะได้เข้าใกล้จุดอ่อนมันอยู่แล้ว มันกลับใช้หนวดของมันตบผมทิ้งซะอย่างนั้น
อั่ก-
เจ็บชิบ!
“ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ คุณอัลเลียน ”วิกตอเรีย
“ วี! ”
วีเข้ามารับร่างของผมได้ทันก่อนที่จะจมลงไปในน้ำทะเล.. แต่เดี๋ยวนะ เรายืนอยู่บนทะเลกันได้ยังไงนิ?
ผมลองสังเกตดูดีๆก็เห็นมานาที่จับตัวกันอยู่รอบๆเท้าของวี นี่เธอใช้มานาเป็นรองเท้าเดินบนน้ำหรอเนี่ย.. แต่ดูเหมือนมันจะใช้ได้ดีเลยนะนั่น
ทันใดนั้น เจ้าหมึกเวรนั่นมันก็ปล่อยลำแสงของมันออกมาอีกครั้ง คราวนี้รัศมีทำลายล้างมันมุ่งเน้นมาตรงนี้โดยเฉพาะ อีกอย่าง ดูเหมือนว่าพวกเราจะหลบไม่ทันแล้วล่ะ
“ ช่วยลุกขึ้นมาช่วยกันสู้หน่อย! ”เร็กซ์
“ ถ้าเราไม่สู้ มันก็ยังไม่จบหรอกนะ ”เร็กซ์
เร็กซ์ใช้เทคนิคเดียวกับวี เพื่อวิ่งบนน้ำมาให้ถึงที่ที่ผมอยู่ ก่อนที่จะมายืนอยู่ตรงหน้าผมเพื่อที่จะป้องกันรัศมีการทำลายล้างนั่นไว้ให้
ออร่าสีทองของเธอเด่นชัดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะโยกโล่ห์อันใหญ่ของเธอกระแทกลงบนพื้นท้องทะเล และปล่อยคลื่นออร่าสีทองออกไป ก่อรูปขึ้นเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่
“ ปราการทองคำ!!! ”เร็กซ์
ลำแสงสีฟ้าปะทะเข้ากับปราการจังๆ เร็กซ์พยายามยื้อเอาไว้สุดแรงจนสามารถเบี่ยงทิศทางของลำแสงนั้นไปทางอื่นได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผมและวีเข้าไปโจมตีพร้อมกัน
“ ไปเลย!!!!! ”เร็กซ์
ผมออกวิ่งไปพร้อมๆกับวี ก่อนที่จะเคลือบเท้าตัวเองด้วยมานาอย่างที่ทั้งสองคนนั้นทำ เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหวบนผิวน้ำมากขึ้น
“ กระโดด!! ”
หนวดของมันตวัดมาทางนี้อยู่สองถึงสามครั้ง แต่ผมและวีก็ยังสามารถหลบพวกมันได้อยู่
แต่แล้ว มันก็เตรียมจะปล่อยลำแสงพิฆาตนั่นมาอีกครั้ง
“ คันศรแห่งลม!! ”ครูว์
“ มหายุคเยือกแข็ง ”มาน็อค
ครูว์ใช้เวทลมของเธอยิงลูกศรแห่งลมที่รุนแรงมาเพื่อสกัดการโจมตีของเจ้าหมึกนั่นเอาไว้ ก่อนที่มาน็อคจะร่ายสุดยอดเวทระดับ 5 ที่แทบจะเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้กลายเป็นน้ำแข็ง รวมถึงตัวคราเค่นก็ด้วย
และในขณะที่มันกำลังชะงักอยู่นั้นผมและวีก็รีบพากันกระโจนเข้าหามันทันที พวกผมทั้งคู่กระโจนเข้าใส่มันพร้อมกัน วีเตรียมชักดาบ แต่ไม่ได้จะใช้ท่าใหญ่แบบครั้งที่ทำลายพายุ แต่เป็นเพียงแค่ท่าธรรมดาที่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้นเอง
“ ผ่ามหาสมุทร ”วิกตอเรีย
แม้จะไม่สามารถผ่ามันให้ขาดครึ่งได้ แต่ก็สร้างความเสียหายให้มันได้พอสมควร อีกทั้งพลังจากการฟันยังทำให้ทะเลมรสุมแห่งนี้แยกเป็นสองส่วนในระยะทาง 2 กิโลเมตรอีกด้วย
“ เสาน้ำแข็ง ”มาน็อค
ขณะเดียวกันนั้นมาน็อคสร้างเสาน้ำแข็งขนาดยักษ์ขึ้นมามากกว่า 25 เล่ม
“ ตรึง ”มาน็อค
ก่อนจะใช้มันเพื่อตรึงหนวดทั้งหมดของคราเค่นเอาไว้ไม่ให้มันขยับไปไหน
สุดท้ายแล้วก็ถึงตาของผม ผมที่อยู่เหนือปากของมันบนหัวมันบิดตัวเองแล้วง้างแขนออกทำท่าคล้ายกับการขว้างหอก แล้วนึกภาพถึงหอกเพลิง ที่มีพลานุภาพมากกว่าหอกเพลิงทั่วๆไป ที่สามารถระเบิดท้องคราเค้นแตกตายได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“ หอกเพลิง ”
แล้วก็ไม่ใช่หอกเพลิงธรรมดาๆ แต่เป็นหอกเพลิงที่ถูกสร้างด้วยเปลวไฟสีขาวทีมีความร้อนมากที่สุดในหมู่เปลวไฟทั้งหมด อีกทั้งความร้อนระอุที่แผ่ออกมาจากตัวหอกยังทำให้มือของผมถูกเผาไหม้ราวกับโดนลาวา และพื้นที่ที่ถูกทำให้กลายเป็นน้ำแข็งรอบๆกลับเริ่มละลายไป พร้อมๆกับน้ำที่เริ่มละเหยไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ผมไม่มีเวลาแล้ว จะต้องขว้างมันออกไปก่อนที่ที่นี่จะถูกทำให้กลายเป็นทะเลทราย
“ เอาไปแดกซร้ะะ!! หอกเพลิงงง!!!! ”
โอเวอร์-แรงก์
ทันทีที่ผมขว้างหอกเพลิงสีขาวใส่ปากของมัน ก็ได้เกิดระเบิดไอน้ำขนาดใหญ่ขึ้น กินรัศมีไปจนถึงก้นมหาสมุทร และซัดผมกระเด็นออกจากที่ตรงนั้นไปไกล ที่ผมไม่รู้ว่าที่ไหน แต่ที่แน่ๆคือไม่น่าห่างจากเรือขนาดนั้นแน่นอน
“ ทำได้ดีมาก.. แต่ตัวนายร้อนนะเนี่ย ”เร็กซ์
เป็นเร็กที่มารับร่างของผมเอาไว้หลังจากที่กระเด็นออกมาจากกลุ่มไอน้ำนั่น
“ กลับเรือกันเถอะ ”เร็กซ์
“ เห็นด้วยเลยล่ะ.. ”
หลังจากนั้น ผมก็ได้รับการรักษาจากเรีย จากตอนแรกที่เป็นแผลผุพอง พอได้รับการรักษาปุ๊บก็หายดีทันทีเลยล่ะ ต้องขอบคุณเรียเลยจริงๆที่รักษาให้ผม ไม่งั้นแย่แน่ๆเลย
หลังจากนั้นเราก็เร่งความเร็วของเรือกัน จนมาถึงที่อัฟฟาจนได้
สุดท้ายแล้วพวกผมก็ได้ตัดสินใจที่จะแยกย้ายกัน
“ พวกฉันจะไปที่อูรุก ไปทำภารกิจน่ะ ”เร็กซ์
“ ส่วนขากลับเราว่าจะใช้วาร์ปพอร์ตกันน่ะ ”ครูว์
“ วาร์ปพอร์ตหรอน่าสนใจจัง แต่ฉันคงจะไม่ใช้มันล่ะนะหากไม่มีเรื่องด่วนอะไรจริงๆ ”
ผมกับพวกวาคิวเรียมายืนคุยกันอยู่หน้าทางออกจากท่าเรือ
ส่วนคุณโรมิโอ ขากลับเขามักจะมีนักผจญภัยที่จะไปด้วยอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง
“ แล้วนายล่ะจะไปไหน ”เร็กซ์
“ อารุฟานน่ะ อาณาจักรของเอล์ฟ ”
ก็นะ นั่นเป็นที่ที่ผมจะไปแต่แรกแล้วนี่นา
ก่อนที่จะแยกกันอย่างเป็นทางการ ผมลาพวกเธอเล็กน้อยด้วยตุ๊กตาที่ถักทอขึ้นมาจากเวทมนตร์ เป็นรูปทั้ง 5 คน
“ น่ารักจัง! ”เรีย
“ ขอบคุณนะ ”เร็กซ์
“ ตั้งใจทำมากเลยสินะคะเนี่ย ”ครูว์
“ น่ารัก.. ”วี
“ ขอบคุณ ”มาน็อค
ก็นะ มันเป็นช่วงที่ผมกำลังตั้งใจฝึกเวทมนตร์มาตลอด 9 วันนี่นา อีกอย่างการทอตุ๊กตาขึ้นมาจากเส้นใยก็เป็นเรื่องยาก นั่นจึงทำให้การฝึกนี้นั้นเป็นการฝึกการควบคุมได้ดี
พอจบขั้นตอน แค่แปลงคุณสมบัติธาตุสักเล็กน้อยก็ได้ตุ๊กตามาแล้วล่ะ
“ นี่คือ? ”
“ ตราประจำแคลนวาคิวเรีย นายสามารถพบเราได้ทุกเมื่อที่กิลด์ และมันจะเป็นสัญลักษณ์ว่านายเคยร่วมเดินทางกับพวกเรา แล้วก็นะ.. สนุกมากเลยล่ะ! ”เร็กซ์
“ อื้อ! ”ครูว์
นั่นสินะ มันก็.. สนุกจริงๆนั่นแหละ
..
“ไว้พบกันใหม่ะคะ~ ”เรีย
“ ไว้เจอกัน ”เร็กซ์
“ แล้วเจอกันน้าาา ”ครูว์
“ เจอกัน ”มาน็อค
“ ว- วันหลัง พ- พบกันใหม่นะ ”วี
“ อื้ม แล้วพบกันใหม่ ”
เมื่อร่ำลาอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะได้ออกเดินทางต่อสักที… ตลอด 10 วันที่ผ่านมานี้ ค่อนข้างจะสนุกมากเลยทีเดียว ต้องขอบคุณพวกเธอเลยล่ะนะที่ทำให้ผมได้พบกับประสบการณ์ดีๆแบบนี้
ฮ้าาาาา~ อากาศบนดินแดนนี้นี่.. สดชื่นดีจริงๆเลยยยย!!
ตัดจบตอน