สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 127 ผู้หญิงไร้ยางอาย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

อาจกล่าวได้ว่าเมื่อเฟิงจิ่งเหยาเห็นภาพที่เกิดขึ้นในห้องพักรับรองอย่างชัดเจนแล้ว ความกดอากาศรอบตัวเขาก็ลดลงถึงขีดสุด

“พวกคุณกําลังทําอะไรอยู่?”

สายตาของเขามองพุ่งตรงไปยังกู้ฉางฉิงราวกับดาบคม ความเย็นยะเยือกในดวงตาคู่นั้นยิ่งทําให้กู้ฉางฉิงอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

“ฉัน……”

เธอตื่นตระหนกอยากจะยืนขึ้นและอธิบาย แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

ส่วนฉินเป่ยหานที่อยู่ข้างหลังเธอ เห็นว่าเธอจะละออกไป จึงพยายามจับตัวเธอไว้

ด้วยเหตุนี้กู้ฉางฉิงจึงไม่สามารถเอาตัวหลุดออก จึงยังอยู่ในท่าที่กอดกัน

เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองด้วยใบหน้าที่มืดมนราวกับจะหลั่งเลือดได้

“ฉินเป่ยหาน ปล่อยฉันนะ!”

กู้ฉางฉิงเองเมื่อเห็นเขาแล้ว เธอพยายามดิ้นรนอีกครั้ง

แต่ก่อนที่เธอจะออกมาจากอ้อมแขนของฉินเป่ยหาน ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกประตู

“จิ่งเหยา ทำไมยืนอยู่ที่หน้าประตูล่ะ? กู้ฉางซิน นี่เธอกำลังทำอะไร!”

คุณนายเฟิงที่กำลังเดินมาถึงก็เห็นลูกชายของตัวเองยืนอยู่ที่หน้าประตู ในขณะที่กำลังถามว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาก็กวาดเข้าไปในห้องรับรอง ใบหน้าของเธอมืดมนลงทันใด และถามอย่างรวดเร็ว

“พระเจ้า หลานสะใภ้ นี่เธอ……เธอ……”

เฟิงจิ้งหยวนก็แสร้งทำเป็นประหลาดใจ เธอชี้ไปที่กู้ฉางฉิงแต่พูดอะไรไม่ออก

หากมีใครสังเกตดี ๆ ล่ะก็ จะต้องเห็นความยินดีในแววตาของเธอแน่นอน

เธอคิดไม่ถึงว่าฉินเป่ยหานจะช่วยได้มากขนาดนี้

เดิมทีเธอตั้งใจใช้ข้ออ้างว่ากู้ฉางซินไม่สบาย เพื่อให้ทุกคนมาพบเข้ากับกู้ฉางซินที่กำลังลักลอบมีความสัมพันธ์กับคนอื่น และเมื่อยุแยงเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็จะสามารถยัดความผิดฐานคบชู้ให้กับกู้ฉางซินได้

เมื่อถึงเวลานั้น เธอก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในบ้านตระกูลเฟิงได้อีกต่อไป

และจิ่งเหยาก็ไม่มีทางช่วยผู้หญิงที่สำส่อนไร้ยางอายเช่นนี้

ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

กู้ฉางฉิงไม่รู้เลยว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการที่เธอวางไว้

เมื่อเห็นว่าทุกคนปรากฎตัวอยู่ที่ประตู โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าที่มืดมนอย่างมากของคุณนายเฟิง เธอก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา

ฉินเป่ยหานเองก็คาดไม่ถึงว่าจะมีคนมากมายขนาดนี้ เขาจึงรีบคลายกู้ฉางฉิง

ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงอยากจะอธิบาย

“คุณนายเฟิง เรื่องไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิด……”

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ คุณนายเฟิงก็ขัดจังหวะขึ้นอย่างดุดัน

“ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด แล้วมันคืออะไร?”

เมื่อเธอตําหนิจบ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวก็จ้องเขม็งไปทางกู้ฉางฉิง “ธรรมชาติยังเปลี่ยนแปลงง่ายแต่นิสัยคนนั้นเปลี่ยนยาก กู้ฉางซิน เมื่อก่อนเธอจะเป็นคนอย่างไร ฉันไม่ถือสา แต่ตอนนี้เธอยังไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ ยังทําเรื่องน่าบัดสีเช่นนี้ เกรงว่าตระกูลเฟิงของฉันคงไม่สามารถทนต่อผู้หญิงง่าย ๆ อย่างเธอได้อีกแล้ว!”

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินเช่นนี้ ก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ตรงหน้าว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ จึงรีบเดินขึ้นหน้าเพื่ออธิบายทันที

“คุณแม่คะ เรื่องมันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ……”

“เธอยังจะแก้ตัวอีกเหรอ?”

คุณนายเฟิงจะให้โอกาสเธอแก้ต่างได้อย่างไร รีบตําหนิตัดบททันที

“คุณกู้คะ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันคิดว่าการแต่งงานของทั้งสองตระกูลไม่จําเป็นต้องรักษาไว้อีกต่อไป ตระกูลเฟิงของเราไม่สามารถจะขายหน้าได้อีก!”

เธอมองไปที่กู้หงเซินที่มีสีหน้าแย่พอ ๆ กัน และพูดอย่างเคร่งขรึมขึ้นว่า “จิ่งเหยา ให้คนไปเตรียมเอกสารการหย่าไว้ ฉันจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนี้ทำลายชื่อเสียงของตระกูลเฟิงและอนาคตของลูกได้ ส่วนคุณปู่ของลูก ฉันจะอธิบายให้ท่านเอง”

เมื่อกู้หงเซินที่ใบหน้ามืดมนอยู่แล้วได้ยินเช่นนี้ เขาก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นมาทันที

“แม่สามี ต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดแน่ ๆ ฉางซินไม่ใช่เด็กพรรค์นั้น!”

เขาไม่อยากสูญเสียที่พึ่งอย่างตระกูลเฟิงไป ดังนั้นจึงทําได้เพียงอดทนต่อความโกรธในใจและช่วยพูดให้กับกู้ฉางซิน

“หึ กู้ฉางซินเป็นลูกสาวของคุณ คุณก็ต้องช่วยเธอพูดอยู่แล้ว แต่นี่เราจับได้คาหนังคาเขา คุณคิดว่าเราตาบอดหรือไร้สมองหรือไง เรื่องนี้ยังไงก็ไม่มีที่ว่างสำหรับการแก้ตัว พวกเขาต้องหย่า!”

แน่นอนว่าคุณนายเฟิงไม่มีทางปล่อยโอกาสดี ๆ เช่นนี้ให้หลุดไปได้ เธอยืนกรานอย่างหนักแน่น

กู้หงเซินรู้สึกกระวนกระวายใจ เขามองเฟิงจิ่งเหยาที่ยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ มานาน ตั้งใจจะใช้เขาเป็นตัวเริ่ม

“ประธานเฟิง คุณต้องเชื่อใจฉางซิน เธอไม่ทําอะไรที่เป็นเรื่องผิดต่อคุณแน่”

เมื่อเห็นว่าเขาพยายามพูดกล่อมลูกชายของเธอ คุณนายเฟิงก็ยิ่งโกรธมาก

“เหลวไหลสิ้นดี จิ่งเหยา ลูก……”

เธอไม่อยากให้ลูกชายเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่เสียดายที่ยังไม่ทันพูดจบ เฟิงจิ่งเหยาก็พูดดักขึ้นมาไว้ก่อน

“แม่ครับ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม แม่ให้ผมจัดการเองเถอะ”

เมื่อพูดจบ ก็ไม่สนใจว่าสีหน้าของคุณนายเฟิงจะดูแย่แค่ไหน เขาคว้ากู้ฉางฉิงที่ยังตื่นตระหนกอยู่ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมแล้วเดินจากออกไป

ทุกคนมองไปที่ด้านหลังของพวกเขาที่จากไป ด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน

คุณนายเฟิงกับเฟิงจิ้งหยวนก็เดือดดาลอย่างมาก

แม้ว่าเฟิงจิ่งเหยาจะจากไปด้วยสีหน้าที่แย่มาก แต่เขาก็ไม่ได้ทำตามความปรารถนาของพวกเธอที่จะตัดสัมพันธ์กับกู้ฉางฉิง

ในสายตาของพวกเธอนี่ก็คือการปกป้อง ทำให้แผนการที่พวกเธอวางไว้นั้นพังไม่เป็นท่า

ความเป็นจริงมันไม่ใช่เช่นนั้น

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้คิดจะปกป้องกู้ฉางฉิง

เพียงแต่เขาไม่อยากหย่ากับกู้ฉางฉิงตามที่คุณนายเฟิงบอก

เพราะเมื่อเขาคิดว่าทันทีที่ผู้หญิงคนนี้ไปจากเขา เธอก็คงจะกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของชายอื่นทันที นี่ทำให้เขามีจิตใจที่มุ่งร้าย

ใบหน้าของเขาตึงเครียดและตัวก็เย็นยะเยือกราวกับคืนที่หนาวเหน็บในฤดูเหมันต์

กู้ฉางฉิงนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถ มองดูใบหน้าเย็นชาของเขา ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก

“เฟิงจิ่งเหยา ฉัน……”

เธออยากที่จะอธิบาย แต่เธอเพิ่งพูดไปได้ไม่กี่คํา รถก็พุ่งออกตัวราวกับสายฟ้า ทําให้เธอไม่สามารถพูดต่อให้จบได้ แม้แต่ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถที่จะยึดเกาะได้อย่างมั่นคง

กว่าเธอจะทรงตัวได้ รถก็หยุดนิ่งอยู่ที่ประตูใหญ่บ้านตระกูลเฟิงแล้ว

เธอยังไม่ทันได้สติ เฟิงจิ่งเหยาก็ลงจากรถ อ้อมไปข้างหน้าเปิดประตูรถให้เธอ จากนั้นก็กระชากเธอลงมา ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก โดยกู้ฉางฉิงไม่มีแม้โอกาสจะขัดขืน

จากนั้นทั้งสองก็กลับถึงห้อง เฟิงจิ่งเหยาจับกู้ฉางฉิงโยนลงบนเตียงไม้โดยไม่รู้สึกสงสาร

กู้ฉางฉิงล้มลงบนเตียงไม้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่การกระแทกเข้าอย่างจังก็ทำให้เธอเวียนหัวไปชั่วขณะ

ยังไม่ทันที่เธอจะได้ผ่อนคลายลง คำพูดถากถางดูถูกของเฟิงจิ่งเหยาก็ดังที่ข้างหู

“กู้ฉางซิน คุณนี่มันไม่รู้จักกลับตัวจริง ๆ เห็นว่าเป็นผู้ชายก็จะเข้าไปยั่วสินะ?”

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินคําพูดที่ไม่น่าฟังเหล่านี้ สีหน้าก็ซีดเผือดลงในทันที…… รู้สึกคับข้องใจ

“ฉันเปล่าทำนะ!”

“เปล่าทำ? แล้วคุณกับฉินเป่ยหานทำอะไรกันอยู่ในห้องรับรอง? ผมเคยเตือนคุณไว้ว่าอย่างไร?”

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาคิดถึงภาพที่ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง ภายในอกของเขาก็ปั่นป่วนไปด้วยความโกรธ

“เฟิงจิ่งเหยา คุณฟังฉันอธิบายก่อน!”

เธอผลักคนที่อยู่บนตัวเธอด้วยความตื่นตระหนก พยายามทำให้เขาสงบลง

ท่าทางต่อต้านของเธอกลับยิ่งทําให้เฟิงจิ่งเหยาเข้าใจผิด

“โอ้ ปล่อยคุณไปงั้นเหรอ? ให้คุณไปหาผู้ชายคนอื่น? อย่าฝันไปเลย!”

เมื่อพูดจบ เขาก็กดทับบนร่างของคนตรงหน้า โดยไม่มีการเล้าโลมใด ๆ ……

“……ไปให้พ้น อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”

กู้ฉางฉิงเจ็บปวดจนน้ำตาไหล เธอพยายามดิ้นรน

เสียงสะอื้นของเธอทำให้เฟิงจิ่งเหยาสงบสติอารมณ์และการกระทำลง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท