เฟิงจิ่งเหยามองดูกู้ฉางฉิงที่น้ำตาไหลอาบหน้า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารู้สึกใจอ่อน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะหายโกรธ
โดยเฉพาะความแน่นกระชับด้านล่างทําให้เขามาถึงจุดที่ไม่ทำต่อไม่ได้แล้ว
เขาข่มความรู้สึกร้อนรนในจิตใจเอาไว้ ก้มศีรษะลงจับริมฝีปากที่ยังคงส่งเสียงสะอื้นอยู่ขึ้นมา
แล้วแนบริมฝีปากประกบลงแน่นสนิท
ลมหายใจอันหอมหวานไหลรินรดเข้าไปแตะจมูกของเฟิงจิ่งเหยา ทำให้เส้นประสาทที่ตึงเครียดอยู่แล้วพลันตึงขึ้นอีกราวกับจะขาดผึงให้ได้ เหมือนดั่งหมาป่าผู้หิวโหยที่กําลังออกล่าเหยื่อด้วยอารมณ์อยากลงโทษ เขากัดและพรมจูบอย่างต่อเนื่อง
“เจ็บนะ……ออกไป”
กู้ฉางฉิงถูกกัดจนน้ำตาไหลพราก
น้ำตาที่เปียกโชกไหลอาบจากแก้มลงบนริมฝีปากของทั้งสอง รสเค็มอ่อน ๆ ประกอบกับการตบตีของกู้ฉางฉิง ทำให้เฟิงจิ่งเหยาฟื้นคืนสติกลับมา
เขาหอบหายใจอย่างหนักและค่อย ๆ คลายกู้ฉางฉิงออก
เมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มเอิบแดงก่ำของกู้ฉางฉิง ก็ทำให้อดไม่ได้อยากจะพุ่งตัวลงไปกดทับ
เฟิงจิ่งเหยามีอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง เขาซุกหน้าลงไปอีก
ครั้งนี้เขาเคลื่อนไหวอย่างเบามือ กู้ฉางฉิงที่เดิมทียังต่อต้านอยู่ก็ค่อย ๆ ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน ร่างกายอ่อนยวบลงในอ้อมแขนของเขา ดวงตาก็พร่ามัว ปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามต้องการ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เมื่อพระจันทร์เต็มดวงนอกหน้าต่างนั้นลอยขึ้นสูง การต่อสู้ที่ดุเดือดครั้งนี้จึงจบลงภายใต้เสียงคํารามต่ำของชายหนุ่ม
เฟิงจิ่งเหยาผละออกจากร่างของกู้ฉางฉิง แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ
ครู่เดียวก็มีเสียงน้ำไหลดังลอดออกมาจากข้างใน
กู้ฉางฉิงนอนอยู่บนเตียงจ้องมองเพดานเหนือศีรษะอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่
ไม่นานนัก เสียงน้ำในห้องอาบน้ำก็หยุดลง เฟิงจิ่งเหยาเดินพันผ้าเช็ดตัวออกมา
เขามองไปที่ผู้หญิงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
ขณะที่เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ก็เห็นคนบนเตียงหยิบชุดนอนจากด้านข้างขึ้นมาสวม แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำโดยไม่มองเขา
เขามองไปที่ประตูห้องน้ำที่ถูกปิดลงอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดแน่นจนแทบจะบีบยุงให้ตายได้
แน่นอนเขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นโกรธ
เพราะสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่ได้เริ่มต้นด้วยดี
แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีอะไรให้สมควรโกรธ และตัวเขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย
ใครบอกให้เธออยากไม่เชื่อฟังเอง และติดต่อกับผู้ชายข้างนอกหลายต่อหลายครั้ง
เขาพูดกับตัวเองในใจ ขณะเดียวกันก็วางแผนที่จะพูดคุยและถามให้ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้หลังจากที่เธอออกมา
เพียงแต่เขาวางแผนไว้อย่างดี แต่กู้ฉางฉิงกลับไม่ให้ความร่วมมือ
หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมา เธอทำราวกับคนในห้องนั้นไม่มีตัวตน เธอหาชุดที่จะสวมใส่ในวันพรุ่งนี้แล้วเอาออกจากห้องไป
เฟิงจิ่งเหยามองแผ่นหลังที่จากไปของเธอ ความโกรธที่สงบลงอย่างยากเย็น ก็มีแนวโน้มจะระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง
เขาสูดหายใจเข้าลึก และบังคับตัวเองให้สงบลง
ถ้าจะคุยกับกู้ฉางซินตอนนี้เห็นทีคงจะคุยไม่รู้เรื่อง
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาชวี่ยี่
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
“ท่านประธานมีเรื่องอะไรเหรอครับ? ผมยังอยู่ที่โรงแรม” ชวี่ยี่ตอบ
“คุณช่วยไปตรวจสอบทีว่าคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉินเป่ยหานกับกู้ฉางซินถึงได้อยู่ด้วยกันได้”
“ครับ”
ชวี่ยี่รับคำสั่งและวางสายโทรศัพท์
โทรศัพท์สายตัดไปแล้วแต่เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้วางมันลง แต่กลับมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด
หลังจากนั้นไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ชวี่ยี่ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วจึงรีบมารายงาน
“ท่านประธานครับ พวกเราน่าจะเข้าใจผิดคุณนายรองผิดไป”
ชวี่ยี่พูดผลการตรวจสอบออกมาผ่านสาย
“คุณนายรองน่าจะพักผ่อนอยู่ในห้องรับรอง หลังจากนั้นคุณกู้ได้ไปหาคุณนายรอง เมื่อคุณกู้ออกไปแล้ว ฉินเป่ยหานถึงได้ไป และหลังจากที่ฉินเป่ยหานเข้าไปแล้ว ผมก็พบว่าพนักงานคนหนึ่งแอบล็อคประตูห้องรับรองจากด้านนอก ดูท่าทางเหมือนมีการเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้า”
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาได้ยินคําพูดนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น
“แล้วเกิดอะไรขึ้น?”
ชวี่ยี่อธิบายต่อ
“และพนักงานคนนั้นก็มาปลดล็อคประตูก่อนที่ท่านประธานจะไปถึงสักห้านาที และไม่นานหลังจากที่ท่านประธานมาถึง คุณนายเฟิงและคุณหนูห้าก็ได้พากันไปเช่นกัน ส่วนเรื่องหลังจากนั้นท่านประธานก็รู้ดี ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่รู้สึกแปลก ๆ ไปหมดทุกจุด”
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาฟังจบ ดวงตาก็หม่นลง
ไม่ต้องให้ชวี่ยี่อธิบายให้ชัดไปกว่านี้แล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าพวกเขาต่างเข้าใจกู้ฉางซินผิดไป
ผู้หญิงคนนั้นอาจจะแค่พักผ่อนอยู่เฉย ๆ และตกเข้าไปในสถานการณ์ที่มีคนวางแผนไว้ล่วงหน้า
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดวงตาของเขาก็กระพริบอย่างรวดเร็ว
“ตามหาพนักงานคนนั้นให้พบ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอทำแบบนี้!”
“ครับ!”
ชวี่ยี่น้อมรับคำสั่งแล้วจึงรีบวางสายและเริ่มตามหาคนทันที
……
ในขณะเดียวกัน กู้ฉางฉิงไม่รู้เลยว่าเฟิงจิ่งเหยาได้ตรวจสอบเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดแล้ว
เธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแขก แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะเธอรู้สึกแย่มาก
เธอบังคับตัวเองให้ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ต้องไปสนใจมัน แต่หัวใจของเธอราวกับถูกทิ่มแทงอึดอัดจนหายใจไม่ออก
เธอรู้อยู่ในใจว่าคราวนี้เธอถูกคนให้ร้ายอีกแล้ว และยังเป็นการวางแผนไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
เธอไม่กล้าที่จะจินตนาการเลยว่าจะมีอะไรรอเธออยู่ในวันพรุ่งนี้
เกรงว่าพวกคุณนายเฟิงคงจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือโอกาสไล่เธอออกจากตระกูลเฟิง
เธอคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกว้าวุ่นอยู่ในใจ
เพราะเธอจะถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลเฟิงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นกู้หงเซินคงจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ และก็จะส่งผลกระทบไปถึงคุณแม่ ซึ่งเธอไม่สามารถจินตนาการถึงผลที่จะตามมาได้
อะไรที่กลัวว่าจะเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นจริง ๆ
ขณะที่เธอกําลังกังวลอยู่นั้นเองโทรศัพท์บนหัวเตียงก็ดังขึ้น
เธอมองดูชื่อของกู้หงเซินที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ รู้สึกลังเลเล็กน้อยแต่แล้วเธอก็กดรับสาย
“นังกู้ฉางฉิง!”
ทันทีที่สายถูกเชื่อมต่อ เสียงตะโกนของกู้หงเซินก็ดังลอดตามสายมาอย่างรวดเร็ว
กู้ฉางฉิงถือโทรศัพท์ออกห่างจากหู เม้มริมฝีปากแดงแน่นก่อนจะพูดขึ้นว่า “มีเรื่องอะไร?” ”
“แกยังกล้าถามฉันอีกว่าเรื่องอะไร? ดูเรื่องดี ๆ ที่แกทำสิ!”
กู้หงเซินไม่คาดคิดว่ากู้ฉางฉิงยังมีหน้ามาถาม จึงตำหนิอย่างเยือกเย็น
กู้ฉางฉิงย่อมรู้ดีว่าเข้าหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เธอบีบโทรศัพท์ไว้แน่น แล้วพูดเสียงเข้มว่า “เรื่องนี้ฉันเองก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ ฉันถูกคนวางแผนให้ร้าย”
แน่นอนว่ากู้หงเซินไม่เชื่อคําพูดของเธอ
“เหอะ วางแผน ใครจะใช้วิธีโง่ ๆ แบบนี้มาวางแผนให้ร้ายเธอ”
เขาเย้ยหยันกู้ฉางฉิง
กู้ฉางฉิงขบฟันแน่น “อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าเมื่อก่อนกู้ฉางซินล่วงเกินคนไปตั้งเท่าไหร่ พวกเธอต่างกําลังรอดูฉันถูกขับไล่ออกจากตระกูลเฟิง! ”
เมื่อกู้หงเซินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสะอึก แต่เขาไม่คิดจะยอมรับอยู่แล้ว
“กู้ฉางฉิง แกอย่าได้คิดหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง อย่าคิดว่าจะไม่รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่”
กู้ฉางฉิงเองก็ขำกับทัศนคติของเขา
“ตามที่คุณบอกฉันมีความคิดอะไร ฉันจะมีความคิดอะไรได้!”
“คิดอะไร? ความคิดของแกก็คือ แกไม่พอใจที่ฉันจัดให้แกเป็นตัวแทนของฉางซิน แกจึงต้องการฉวยโอกาสยั่วยวนใครสักคน ซึ่งไม่เพียงเป็นการคิดทำลายอนาคตของฉางซิน แต่ยังเป็นการเตรียมการให้อนาคตของตัวแกเอง!”
กู้หงเซินพูดจบ ก็ข่มขู่อย่างเยือกเย็นอีกว่า “กู้ฉางฉิง ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าแกกล้าพังแผนการของฉัน ทำให้ฉางซินถูกไล่ออกมาจากตระกูลเฟิง ฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไปง่าย ๆ แน่”
แค่คิดว่าแผนการที่เขาอุตส่าห์คิดวางแผนมายาวนานต้องพังลงเพราะนังตัวแสบนี่ จิตใจของเขาเกิดความอาฆาตมาดร้าย