กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากทักทายกับหมอเจี่ยง ก็ตามเธอไปตรวจ
นรวจก่อนการตั้งครรภ์ ก็มีไม่กี่อย่างเท่านั้น ไม่นานก็เสร็จแล้ว
เพราะว่าหมอเจี่ยงมีธุระนิดหน่อย เลยไม่ได้กลับมาพร้อมเธอ
เวลานั้นเธอเพียงแค่เตรียมตัวไปสำนักงานไปหาคุณนายเฟิง ไม่คิดว่าเดินมาสุดระเบียงทางเดินก็เห็นเธอโทรศัพท์อยู่
เธอเดินเข้าไปโดยจิตใต้สำนึก
คุณนายเฟิงไม่รู้ว่ากู้ฉางฉิงมาแล้ว เธอกำลังปลอบใจลู่ซือหยี่ที่เป็นกังวลอยู่
“นี่มีอะไรที่น่ากังวลใจล่ะ วางใจได้เลยว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีทั้งนังหญิงชั่วนั่นก็ไม่รู้ว่าคนที่ให้ตรวจเธอเป็นน้าของคุณ ขอเพียงแค่ยืนยันว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้ ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะชอบเธอก็ตาม ก็ไม่สามารถทนเห็นตระกูลเฟิงขาดการสืบทอดได้”
ในสาย ลู่ซือหยี่ได้ฟังเธอพูดก็เชื่อใจเต็มเปี่ยม ความกังวลในใจค่อยๆมลายลง
อย่างไรเสียความล้มเหลวสองสามครั้งก่อนหน้านี้ทำให้เธอมีเงาลางๆ
“ก็หวังว่าอย่างนั้น”
เธอพูดจบ ก็ไม่ลืมที่จะเยินยอคุณนายเฟิง : “คุณน้าหมิง ขอบคุณค่ะ ต้องมาหนักใจกับเรื่องของฉัน”
คุณนายเฟิงเห็นว่าตอนนี้ลู่ซือหยี่ฐานะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ยังคงสนิทสนมพึ่งพาอาศัยกันตนเองเหมือนเดิม ในแววตาก็พอใจมาก
“นี่อะไรกัน รอให้คุณกลายเป็นลูกสะใภ้ของคุณน้าหมิง ค่อยกลับมากตัญญูก็ได้”
เธอพูดติดตลก ลู่ซือหยี่ก็เขินอาย
บรรยากาศเข้ากันได้ดีเหมือนเป็นแม่สามีจริงๆ ทำให้กู้ฉางฉิงที่แอบฟังอยู่หัวเราะเยาะมาหยุด
เห็นได้ชัดว่าการตรวจครั้งนี้พวกเขาจัดการขึ้นโดยเจตนา เพื่อให้เธอมีตำแหน่งว่างให้ลู่ซือหยี่
สำหรับผลการตรวจ จากบทสนทนาของพวกเธอเมื่อกี้นี้ เธอไม่สามารถมีลูกได้
เฮ้อ เพื่อขับไล่เธอไป พวกเขาใช้กลอุบายทุกวิถีทาง!
เธอนึกถึงสิงนี้ ฉับพลันก็หัวเราะเยาะในใจ
แต่เธอก็ยังแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร ยืนเรียกอยู่ไกลๆ : “แม่ ฉันเสร็จแล้ว”
คุณนายเฟิงได้ยินเสียงของเธอ ท่าทางหยุดชะงัก ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรในสายกับลู่ซือหยี่ไม่นาน ก็วางสายไปด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วเดินไปหาเธอ
“ตรวจเสร็จแล้วหรอ?”
กู้ฉางฉิงก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร พยักหน้าตอบ : “ตรวจเสร็จแล้ว แต่ผลตรวจยังไม่ออก”
คุณนายเฟิงได้ฟัง ก็โบกมือไม่สนใจ
“ผลรายงานฉันให้พวกเขาส่งไปที่บ้าน ในเมื่อตรวจเสร็จแล้ว ก็กลับเถอะ”
พูดจบ เธอก็เดินออกไปก่อนเลย
กู้ฉางฉิงมองภาพเธอเดินจากไป เม้มๆปากเล็กน้อย ไม่พูดอะไรเดินตามหลังไป
ทั้งสองกลับตระกูลเฟิงไปโดยไม่ได้พูดอะไรตลอดทาง
“แม่ ถ้าไม่มีเรื่องอื่น งั้นฉันกลับก่อนนะ”
หลังจากที่ลงจากรถ กู้ฉางฉิงบอกลาคุณนายเฟิง
เดิมทีคุณนายเฟิงไม่จำเป็นต้องเจอเธอ หากไม่มช่เพราะการตรวจ เธอจึงไม่สามารถให้คนเรียกเธอมาเจอหน้าตนเองได้
“ไปเถอะ”
เธอโบกมืออย่างหงุดหงิด กู้ฉางฉิงก็พยักหน้าแล้วออกไป
เมื่อกู้ฉางฉิงกลับมาที่บ้านหลังใหม่ กำลังวางแผนที่จะพักผ่อนอย่างเต็มที่ โทรศัพท์ข้างๆก็ดังขึ้น
เธอเหลือบไปดูเป็นสายของกู้หงเซิน ขมวดคิ้วเล็กน้อย
พูดตามเหตุผล เวลาวิกฤตกาลของกู้ซื่อ ไม่ถึงวันที่รายงานข้อมูลให้พวกเขา เขาโทรมาหาตนเองทำอะไร?
เธอคิดไม่ออก ท้ายที่สุดก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“มีเรื่องอะไร?”
ในยินเสียงที่ไม่แยแสของกู้หงเซินในโทรศัพท์ : “ฉันได้ยินมาว่าวันนี้คุณออกไปกับแม่ของเฟิงจิงเหยา พวกคุณไปทำอะไรกัน?”
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ความประหลาดใจก็ประกายในแววตา
คาดไม่ถึงว่าชายคนนี้จะได้รับข่าวสารค่อนข้างไว
นึกถึงตรงนี้ ดวงตาเธอก็เคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้เฝ้าติดตามเธออยู่
“ไม่มีอะไร ก็แค่ไปโรงพยาบาล
เธอตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้กู้หงเซินขมวดคิ้วขึ้นมา
“ไปโรงพยาบาลทำไม เกืดอะไรขึ้น?”
กู้ฉางฉิงเห็นเขาซักถามถึงต้นตอ อีกทั้งนึกถึงการวางแผนของคุณนายเฟิง ก็เลยคิดที่จะเล่าเรื่องที่โรงพยาบาลออกมา
ถึงอย่างไรคนคนนี้ก็อยากให้เธออยู่ที่ตระกูลเฟิง ก็ควรให้เขาจัดการปัญหานี้
“นี่ไม่ใช่ว่าอีกสองเดือนไม่ท้อง คุณนายเฟิงก็ได้ทีวางแผนว่าฉันมีลูกไม่ได้”
เธอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไปชั่วขณะ : “วันนี้เธอพาฉันไปตรวจ คืออยากมาข้ออ้างมาให้เธอสร้างปัญหาใหญ่ จากนั้นบังคับให้ฉันหย่ากับเฟิงจิงเหยา ให้เฟิงจิงเหยาแต่งงานกับลู่ซือหยี่”
กู้หงเซินฟังคำพูดของเธอจบ ก็อดทำเสียงไม่พอใจไม่ได้
“การรวางแผนของคนเหล่านี้ค่อนข้างสวยงาม อยากจะเหยียบตระกูลกู้ของฉัน ก็ต้องดูว่าฉันเห็นด้วยหรือไม่ โรงพยาบาลนั้นชื่ออะไร?”
กู้ฉางฉิงได้ฟัง รู้ว่าเขาต้องการมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้
“คือโรงพยาบาลลี่ซิน โรงพยาบาลเอกชน”
เธอพูดจบ นึกถึงหมอคนนั้นอีกครั้ง ก็พูดเตือนว่า : “ใช่แล้ส หมอที่ตรวจให้ฉันคนนั้นเป็นน้าของลู่ซือหยี่ ถ้าหากคุณต้องการจะทำอะไร หลีกเลี่ยงหมอคนนั้นน่าจะดีกว่า”
กู้หงเซินหรี่ตา พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม : “ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการได้ ทางด้านคุณนั้นก็ระวังหน่อย อย่าให้ใครจับพิรุธหรือเปิดเผยตัวตนได้”
กู้ฉางฉิงฟังคำเตือนของเขา ฉับพลันก็เหนื่อยใจมาก
ทุกๆวันนี้ เหมือนกับสงครามนางใน
เธอทำเสียง’อืม’ แล้วนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ไปเยี่ยมแม่นานแล้ว อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ฉันอยากไปเจอแม่”
กู้หงเซินขมวดคิ้ว ก็คิดอยากปฏิเสธ
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ค่อยว่ากันอีกที”
กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนั้น รู้สึกว่านี่คือกู้หงเซินตั้งใจไม่ให้เธอไป
“ทำไมถึงไม่ใช่เวลา? อย่าลืมนะ ตอนแรกเราก็คุยกันดีแล้ว ฉันอยากไปเจอแม่ คุณจะไม่ขัดขวาง”
กู้หงเซินก็หมดความอดทน
“พูดแบบนี้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันเหมาะที่คุณจะพบปะผู้คนหรอ? ถ้าหากคนของตระกูลเฟิงมาพบเข้าคุณจะรับผิดชอบผลที่ตามมาไหม?”
เขาเตือนน้ำเสียงเด็ดขาด กู้ฉางฉิงกัดริมฝีปาก
“ความรับผิดชอบของฉันก็คือฉันรับผิดชอบ”
เธอพูดจบ ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดในโทรศัพท์ รู้ว่านี่เป็นลางบอกว่ากู้หงเซินกำลังโกรธ รีบพูดว่า : “ก่อนหน้านี้คุณหยุดยาแม่ของฉัน ฉันควรจะไปดูอาการปัจจุบันแม่ของฉัน ใครจะรู้ว่าคุณดูแลแม่ฉันดีไหม!”
กู้หงเซินลำบากใจ เห็นได้ชัดว่ากู้ฉางฉิงมุ่งมั่นที่จะไป
เขารู้ว่าหากว่าตนเองขัดขวาง ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ว่าคิดเหลวไหลได้อย่างไร ถึงเวลาเขาก็ควบคุมไม่ได้
“ได้ ฉันจะจัดการให้พวกคุณเจอกัน”
ในที่สุดเขาก็ตอบตกลง
กู้ฉางฉิงโล่งใจ ได้คืบจะเอาศอกพูดต่อว่า : “ฉันหวังว่าจะได้เจอเร็วๆนี้ อย่าให้ฉันรอนาน”
กู้หงเซินน้ำเสียงเย็นชา แสดงออกว่ารู้แล้ว จากนั้นก็วางสายไป
กู้ฉางฉิงมองไปที่โทรศัพท์ที่วางสาย เบ้ปาก แล้วก็ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดกู้หงเซิน หลังจากที่วางสายไป เรียกผู้ช่วยมาเพื่อให้ไปจัดการที่โรงพยาบาล
เรื่องนี้รอไม่ได้ ต้องดำเนินการทันที
“คุณไปโรงพยาบาลลี่ซินตอนนี้เลย”
เขาให้เช็คหนึ่งใบกับผู้ช่วย บอกขอเรียกร้องของเขา
ถึงแม้ว่าผู้ช่วยจะตกใจเมื่อได้ยิน แต่เขาเป็นคนสนิทของกู้หงเซิน ก็เข้าใจอยู่ไม่น้อย ไม่ได้ถามอะไรมาก หยิบเช็คแล้วออกไปจัดการทันที
เขาออกไปแล้ว กู้หงเซินก็นั่งใจเย็นอยู่บนเก้าอี้
ลูกสะใภ้ของตระกูลเฟิง ต้องเป็ของกู้ฉางซิน ใครก็แย่งไปไม่ได้!
เขานึกถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงลูกสาวที่อยู่ไกลถึงต่างประเทศ
พอดีกับที่คิดจะโทรไปถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงนี้ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง