สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 296 ไม่มีคุณสมบัติในการเจรจาต่อรอง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

หลังจากลู่ซือหยี่ใจเย็นลงมา กำลังจะเรียกผู้ช่วยเข้ามา Kimiก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าร้อนรน

“ซือหยี่ ทำยังไงดี? เฟิงซื่อกรุ๊ปมีคลิปเสียงการสนทนาเมื่อวานของพวกเรา”

ลู่ซือหยี่มองเธอ ก็ตำหนิด้วยสีหน้าไม่พอใจ : “ลนลานอะไร แค่คลิปเสียง จะแทนอะไรได้!”

Kimiตกตะลึง ยังอดไม่ได้ที่จะกลัว

“แต่ว่า……”

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกลู่ซือหยี่พูดตัดบทว่า : “ไม่มีแต่ว่า เรื่องนี้ฉันจัดการได้ คุณอยู่เงียบๆให้ฉันพักหน่อยก็พอ!”

Kimiมองเธออย่างตกตะลึง ท้ายที่สุดก็พยักหน้าแล้วออกจากห้องทำงานไป

ลู่ซือหยี่มองเธอที่ออกไป ก็หัวเราะเยาะก็เรียกผู้ช่วยเข้ามา

ตอนบ่าย รายการการตรวจสอบถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป

คลิปเสียงที่เฟิงซื่อกรุ๊ปเผยแพร่ออกไปเป็นการตัดต่อคลิปเสียง

และเมื่อภาพนี้ส่งออกมา แล้วก็จดหมายของทนายความ เป็นการกล่าวหาของเฟิงซื่อกรุ๊ป

พวกชาวเน็ตที่เห็นข่าวที่โต้แย้งกลับนี้ ก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง

โดยเฉพาะแฟนคลับKimiที่เก็บกดอยู่ ยิ่งหยิ่งพยองจิกกัดชาวเน็ตที่กดขี่พวกเขาก่อนหน้านี้

“เห็นแล้วหรือยัง ตัดต่อคลิปเสียง จริงๆเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ กลอุบายอะไรก็ใช้ออกมา!”

“งั้นที่ต้าVพูดก็ไม่ผิด เฟิงซื่อกรุ๊ปนี้สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อผลกำไร”

“จากนี้ไป ฉันจะต่อต้านของทุกอย่างของเฟิงซื่อกรุ๊ป! จะมีคนเห็นด้วยไหม?”

“มี”

“รวมฉันด้วย”

……

ในชั่วพริบตา ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของเฟิงซื่อกรุ๊ปที่ฟื้นกลับมาเล็กน้อยจะพังทลายไปอีกครั้ง จนกระทั่งหุ้นมีความเคลื่อนไหวขึ้นมา

เฟิงจิ่งเหยานั่งอยู่ในห้องทำงานฟังการรายงานของชวี่ยี่ ในแววตาเยือกเย็น

“ดำเนินการขั้นตอนที่สามเลย อย่าลืมไปลงบันทึกที่สำนักงานตำรวจ”

เขาสั่งอย่างเย็นชา ทำให้คนหนาวสั่นไปทั้งตัว

ชวี่ยี่ที่คุ้นเคยกับมันมานานแล้ว ยังอดไม่ได้ที่จะใจสั่น

กลอุบายของท่านประธานนี้โหดร้ายเกินไปแล้ว

ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้ลู่ซื่อกรุ๊ปล้มละลาย ทว่าทำให้บาดเจ็บจนถึงรากเหง้า เกรงว่าจะไม่กล้ายุแฟย่พวกเขาไปสักพักหนึ่ง

เขาถอนหายใจในใจ ไม่ได้หยุดการกระทำ ดำเนินการตามแผนขั้นตอนสุดท้ายอย่างเรียบร้อย

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วิดีโอที่พวกเขาถ่ายไว้เมื่อเย็นนี้ก็ถูกพวกเขาเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต

ทำให้ปแฟนคลับที่ยังคงหยิ่งพยองเงียบลงทันที

“ฮ่าฮ่า นี่ตบหน้าตนเองไปไม่นาน อีกสักครู่ลู่ซื่อกรุ๊ปจะมาบอกว่าเป็นการตัดต่อวิดีโออีกไหม?”

“ฉันทำวิดีโอ ได้รับหน้าที่มาบอกชาวเน็ตทุกท่าน วิดีโอนี้ รวมถึงคลิปเสียงก่อนหน้านี้ ทั้งหมดไม่ได้ตัดต่อ!”

“มามา แฟนคลับKimi เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าเย่อหยิ่งอวดดีหรอกหรอ? ตอนนี้ไม่กล้าออกมาแล้ว”

“เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่กล้าออกมา ข่าวล่าสุด มีคนที่แผนกไปเกี่ยวข้องกับลู่ซื่อกรุ๊ป บางคนก็หมดหวังแล้ว”

และมันก็เป็นเช่นนี้จริงๆ

ลู่ซือหยี่เห็นผู้ช่วยพาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ห้องทำงาน สีหน้าก็ย่ำแย่อย่างมาก

“คุณลู่ ประธานเฟิงเฟิงซื่อกรุ๊ปกล่าวหาว่าคุณเก็บรวบรมความลับทางการค้าอย่างผิดกฎหมาย เชิญตามฉันมาด้วย”

ตำรวจไม่สนใจสีหน้าของเธอ แสดงบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง แล้วพาคนออกไป

และKimiก็เดินทางไปด้วยกันกับเธอ

คนทั้งสองเดินออกจากห้องทำงานตึกใหญ่ ก็ถูกนักข่าวที่ได้ทราบข่าวตีวงล้อมทันที

“คุณลู่ คุณมีความคิดอย่างไรกับสงครามทางธุรกิจครั้งนี้?”

“คุณลู่ ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้คุณทำงานที่เฟิงซื้อกรุ๊ป การประกาศสงครามทางธุรกิจครั้งนี้เป็นเพราะความแค้นที่ไล่คุณออกใช่ไหม?”

“Kimi คุณในฐานะนักออกแบบรุ่นพี่เหตุใดจึงต้องการขโมยต้นฉบับการออกแบบของน้องใหม่ด้วย หรือเพราะว่าความสามารถยี่สิบกว่าปีของคุณที่วาดต้นฉบับมาได้เสื่อมถอยไปแล้ว ทำผลงานที่ดีกว่าออกมาไม่ได้แล้วใช่ไหม?”

“Kimi คนที่ติดตามของคุณอยากรู้อย่างมากว่า เรื่องราวครั้งนี้ คือคุณเข้าไปมีส่วนร่วมเองหรือว่าถูกผู้บังคับบัญชาบีบบังคับ?”

ฝูงชนที่ล้อมรอบพวกเขา ถือไมโครโฟนและถามคำถามที่แหลมคมออกมา

ลู่ซือหยี่และKimiได้ฟังคำถามของพวกเขา สีหน้าก็ดูไม่ได้จนถึงที่สุด

โชคดีที่เหล่าตำรวจยอดเยี่ยม ขณะที่พวกเขากำลังถูกบีบบังคับให้ตอบและไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไร พวกเขาก็ออกหน้าให้เหล่านักข่าวแยกตัวออกไป พาลู่ซือหยี่และKimiไปสถานีตำรวจ

ลู่ซือหยี่และการจากไปของพวกเขา ลู่ซื้อกรุ๊ปก็โกลาหลขึ้นมา

ก่อนที่แฟนคลับของKimiก็เอะอะโวยวายขึ้นมา

พวกเขารู้สึกว่าถูกKimiแล้วก็ลู่ซื่อกรุ๊ปหลอกลวง เรียกร้องให้ลู่ซื่อกรุ๊ปออกมาอธิบาย

แต่ทางด้านลู่ซื่อกรุ๊ปนี้เพราะลู่ซือหยี่ถูกนำตัวไป แม่ลู่ก็รีบเข้ามาเรียกประชุมฉุกเฉินทันที พลาดที่ครั้งแรกพะเน้าพะนอ ทำให้ครึ่งวันต่อมา ธุรกิจของทั้งกลุ่มได้รับผลกระทบจากแฟนคลับที่โกรธแค้น

เคาน์เตอร์แบรนด์ในห้างถูกทุบ และชั้นล่างจากของบริษัทมีคนชูป้ายประท้วง

เพราะละครตลกเหล่านี้ ทำให้หุ้นของลู่ซื่อกรุ๊ปผันผวนขึ้นมา

ชวี่ยี่ทราบข่าวเหล่านี้ ก็รายงานให้เฟิงจิ่งเหยาทันที

เฟิงจิ่งเหยาได้ยืนคำพูด อารมณ์บนใบหน้าไม่เปลี่ยน หรือจะพูดได้ว่า เรื่องเหล่านี้ล้วนอยู่ในความคาดการณ์ของเขา

“คุณจับตาดูทางด้านสถานีตำรวจ ถ้าตระกูลลู่ต้องการประกันตัว ก็ให้แจ้งคนเบื้องบน บอกว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อเฟิงซื่อกรุ๊ปอย่างมาก ฉันหวังว่าจะจัดการตามกฎหมาย”

ชวี่ยี่ก็เข้าใจความหมายของท่านประธานตนเองชั่วพริบตา

นี่คือวางแผนที่จะให้ลู่ซื่อกรุ๊ปเลือดออกอย่างมาก!

แต่พอเขานึกถึงการกระทำของลู่ซื่อกรุ๊ป ก็ไม่เห็นใจพวกเขา แล้วยังอยากจะมอบคำสมน้ำหน้าให้พวกเขาคำหนึ่ง

เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับท่านประธาน

เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ความในใจของลูกน้องเขา กำชับสั่งเรื่องนี้เสร็จ ก็ลุกขึ้นแล้วออกจากบริษัทไป

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากเรื่องราวประกาศไปย่อหน้าหนึ่งแล้ว เขากิยากจะบอกผลสรุปให้กู้ฉางฉิงฟังอย่างมาก

ก็เพราะความคิดนี้ เขาก็ขับรถกลับไปโดยไม่ต้องคิด

กู้ฉางฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเฟิงจิ่งเหยากลับมาก่อนเวลาเลิกงาน

“ทำไมคุณกลับมาแล้วล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาเดินไปข้างๆเธอ หางตากวาดที่ยังกระดาษวาดภาพตรงหน้าเธอ พบว่าด้านบนมีภาพการออกแบบที่เป็นรูปเป็นร่างแล้วสามแผ่น ก็รู้ว่าเธอทำงานตลอด ไม่ได้สนใจเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงบนอินเตอร์เน็ต

“จัดการเรื่องราวแล้ว เลยกลับมาบอกคุณสักหน่อย”

กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จึงตอบสนองเข้ามาว่าที่เขาพูดคือเรื่องอะไร

เธอกล่าวถามด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม: “จัดการปัญหาแล้ว? จัดการยังไง? ทางด้านลู่ซื่อกรุ๊ปยอมรับแล้วหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยามองรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ทันทีก็รู้ว่าทำไมตนเองถึงอยากกลับมายอกเรื่องนี้กับเธอ

เขาไม่อยากไปคิดลึกว่าทำไมตนเองถึงอยากเห็นรอยยิ้มของกู้ฉางฉิง นำเรื่องราวที่ผ่านมาเล่ารอบหนึ่ง ได้ยินกู้ฉางฉิงทอดถอนใจไม่หยุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟิงจิ่งเหยายังได้ยื่นเรื่อง และส่งลู่ซือหยี่ไปที่สถานีตำรวจ ซึ่งนี่เกินความคาดหมายของเธอ

“พวกเราจัดการลู่ซือหยี่เข้าไป แล้วทางด้านตระกูลลู่ก็จะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวใช่ไหม?”

ถึงแม้ว่าเธอจะโล่งอก แต่นึกถึงตระกูลลู่ ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล

แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเหยารู้ว่าเธอกังวลอะไร ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า: “ก็คือพวกเขาอยากจะวางมือเรื่องนี้ ทางด้านของฉันก็จะไม่เห็นด้วย เรื่องเหล่านี้คุณไม่ต้องเป็นกังวลใจ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท