สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 369 คุณอย่าขับไล่ฉันเลย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำถามของเธอ ก็มองไปที่เธอโดยจิตใต้สำนึก

เวลานี้กู้ฉางฉิงที่เรียนรู้มาตลอดก็สีหน้าแดงกล่ำ ไปตลอดทั้งใบหน้า

เดิมทีร่างกายที่ผอมก็เต็มอิ่มขึ้น

แม้ว่าจะสวมชุดนอนปกปิดอย่างดี แต่รูปร่างที่สมบูรณ์แบบนั้นก็มองออกได้

เฟิงจิ่งเหยาเห็น สายตาเปลี่ยนไปเป็นมืดครึ้ม

โดยเฉพาะเมื่อเขาคิดว่าถูกสายตาของหญิงสกปรกคนอื่นจ้องมองก่อนหน้านี้ เวลานี้เขาก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะใช้กลิ่นของกู้ฉางฉิงมาล้างความรู้สึกของผู้หญิงชั้นต่ำนั่น

เขารีบเดินไปที่เตียง กู้ฉางฉิงเข้าใจผิดว่าเขาจะพักผ่อน ก็ขยับที่ให้

ใครจะรู้หลังจากเฟิงจิ่งเหยาขึ้นเตียง ก็ตรงเข้ามากอดเธอ

ก็หายใจกระชั้นพ่นอยู่ที่ติ่งหูของกู้ฉางฉิง ทำเอาเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“จิ่งเหยา……อื้อ……”

สองคำเพิ่งจะออกไป คำพูดที่เหลือก็จมอยู่ในจูบของคนทั้งสอง

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธความเร่าร้อนของกู้ฉางฉิง แต่เพราะว่าข้อตกลงก่อนหน้านี้ จึงตอบรับโดยตรง

ทุกๆอย่างเหมาะเจาะพอดี

แต่เพราะว่ากู้ฉางฉิงมีแผลที่ร่างกาย เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้ทรมานเธอนาน

แต่แค่นี้ กู้ฉางฉิงก็เหนื่อยไม่ไหวแล้ว

เธอนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนนั้น แล้วค่อยๆหลับไป

……

วันต่อมา พระอาทิตย์กำลังส่องแสง

กู้ฉางฉิงกับเฟิงจิ่งเหยาตื่นขึ้นมาพร้อมกัน

หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำเสร็จ ก็เตรียมลงมาทานอาหารชั้นล่าง

เวลานี้ พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามา

“คุณชาย มีคนมาหาคุณด้านนอก”

“ใคร?”

เฟิงจิ่งเหยาถามออกไปตรงๆ

เดิมทีพ่อบ้านต้องการจะตอบกลับ แต่เห็นกู้ฉางฉิง ก็เลยไม่พูด อีกทั้งยังมีอาการเขินอาย

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้ว

กู้ฉางฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติ

เธอหันไปมองเฟิงจิ่งเหยา

เฟิงจิ่งเหยาหันกลับไปมอง แล้วสายตาก็ตกไปที่พ่อบ้านอีกครั้ง

“หื๊ม?”

เขาเอ่ยถาม พ่อบ้านก็หัวเราะ : “คุณชาย คุณออกไปดูเองเถอะ”

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว แต่ยังคงเดินออกไป

กู้ฉางฉิงเดินตามไป

ทั้งสองคนมาที่หน้าประตูใหญ่ ก็เห็นเจียวหนูคนเมื่อคืนยืนอยู่ยอกประตู ยังคงสวมชุดนั้นของเมื่อคืน

แตกต่างเพียงอย่างเดียวคือผ้าคลุมบนใบหน้าถูกถอดออกแล้ว เปิดเผยความงามออกมา

กู้ฉางฉิงเห็นก็ตกตะลึงตาค้าง ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เธอละอายใจแทนผู้หญิงด้วยกัน

แตกต่างจากความประหลาดใจของเธอ สีหน้าเฟิงจิ่งเหยาย่ำแย่ถึงที่สุด

“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”

เขาถามอย่างโกรธๆ

เจียวหนูเหมือนไม่เห็นกู้ฉางฉิง เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงจิ่งเหยา สีหน้าก็เต็มไปด้วยความน้อยใจ

“เมื่อคืนหลังจากที่คุณไป ฉันก็ไม่มีที่ไปเลย”

น้ำเสียงราวกับนกขมิ้นดังขึ้น ถึงกู้ฉางฉิงจะเป็นผู้หญิงก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนระทวย

แต่ไม่นานจิตใจเธอก็สงบลง ไม่สบายในใจขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าความหมายของผู้หญิงคนนี้คือเมื่อคืนพวกเขาอยู่ด้วยกัน

เธอเม้มปากแดงๆมิงไปที่เฟิงจิ่งเหยา

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว แล้วปวดหัวพูดว่า : “เธอคือของที่ลูกค้าให้เมื่อคืน ฉันให้ชวี่ยี่ไล่ไป ไม่รู้ว่ามาหาได้อย่างไร”

เขาอธิบายง่ายๆ กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว

ถึงแม้ในใจเธอจะกลัดกลุ้ม แต่ไม่ได้ต่อว่าเฟิงจิ่งเหยา

หลังจากพูดกับเฟิงจิ่งเหยาจบ ก็พินิจพิเคราะห์กู้ฉางฉิงอย่างถี่ถ้วน

เห็นว่าเธอไม่ได้โกรธ ก็รู้สึกโล่งใจอย่างอธิบายไม่ได้

แต่การกระทำที่ระมัดระวังนี้ เขาไม่ได้เห็น

“ไม่ต้องสนใจหรอก ฉันจะให้คนมาจัดการผู้หญิงคนนี้”

เขาพูดปลอบใจ แล้วฉับพลันสายตาทั้งคู่ก็เหลือบมองเจียวหนูอย่างอันตราย

เจียวหนูสังเกตเห็นว่าใบหน้าที่ไม่ใยดีของเขา กัดริมฝีปากสีแดงเล็กน้อย ทำท่าทางราวกับว่าให้ฉันสงสาร

ยังไม่รอให้เธอได้พูด เฟิงจิ่งเหย่ก็ดึงสายตากลับแล้วหยิบมือถือออกมา

“ชวี่ยา รีบว่าที่ตระกูลเฟิงทันที”

ชวี่ยี่นิ่งอึ้งไป หลังจากดึงสติกลับมาก็สังเกตได้ถึงความโมโหในน้ำเสียงของท่านประธานตนเองจึงรีบตอบรับ

เจียวหนูได้ฟังคำพูดของเฟิงจิ่งเหยา ในดวงตาก็เป็นประกาย

เธอจ้องมองเฟิงจิ่งเหยาน้ำตาหยดติ๋งๆ กล่าวอ้อนวอนว่า: “คุณผู้ชาย คุณอย่าไล่ฉันไปเลย ไปจากคุณแล้ว ฉันก็ไม่มีที่ไหนจะไปได้แล้ว คุณให้ฉันอยู่เถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องยุ่งยากอะไรให้คุณ”

เฟิงจิ่งไม่ได้สนใจเธอ เอียงหน้าไปมองกู้ฉางฉิง

“เหนื่อยไหม? ต้องการไปรับประทานอาหารก่อนไหม ฉันจัดการเสร็จแล้วจะตามเข้าไป”

กู้ฉางฉิงส่ายหน้า

“ไม่ต้อง ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

กำลังพูดพลาง เสียงหยุดรถก็ดังขึ้นจากด้านนอกประตู

“ท่านประธาน”

หลังจากชวี่ยี่ลงจากรถก็กล่าวทักทายด้วยความเคารพ ไม่นานหางตาก็กวาดไปเห็นเจียวหนูที่ยืนอยู่ด้านข้าง ในสายตาก็ปรากฎความแปลกใจและความประหลาดใจขึ้นมา

ชัดเจนว่า ท่านประธานเรียกเขามาเพื่อจัดการกับคนคนนี้

และในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น

“ชวี่ยี่ พาเธอออกไป”

เฟิงจิ่งเหยาสั่งด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์

เจียวหนูได้ยิน ก็ขมวดคิ้วแน่น กล่าวอ้อนวอนขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณผู้ชาย ไม่ไล่ฉันไปได้ไหม เจียวหนูสัญญาว่าจะเชื่อฟัง ไม่รบกวนคุณ”

ท่าทางที่น่าสงสารนั้น กู้ฉางฉิงเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร

เธอมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาด้วยจิตสำนึก

เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตาเล็กน้อย พิจารณาเจียวหนูหัวจรดเท้า

“คุณอยากอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะทำอะไรงั้นหรอ?”

เจียวหนูคิดว่ามีความหวัง ก็พยักหน้าอย่างดีใจ

กู้ฉางฉิงฟังแล้ว เดิมทีที่ไม่ได้สนใจ เวลานี้อดไม่ได้ที่จะสนใจขึ้นมา

นี่เขาคิดที่จะให้ผู้หญิงคนนี้อยู่งั้นหรอ?

เธอมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาด้วยสายตาที่สับสน

แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเกยาสังเกตเห็น เพียงแต่ไม่ได้ใส่ใจ

เขาสั่งชวี่ยี่ว่า: “พาเธอไปจุนหวง”

เจียวหนูฟังถึงคำพูดนี้ ชัดเจนว่าต้องการที่จะพาเธอไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อ

“คุณผู้ชาย คุณไม่ใช่รับปากว่า……”

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกชวี่ยี่ลากเธอขึ้นรถไป

ไม่มีสาเหตุใด เพียงเพราะเมื่อกี้ท่านประธานของเขาส่งสายตาที่กล่าวเตือนให้เขา

“คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ”

เจียวหนูไม่ยินยอม ดิ้นรนไปพลางมองเฟิงจิ่งเหยาไปพลาง

“คุณผู้ชาย…..”

เธออยากจะอ้อนวอน แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่สนใจเธอเลย จูงมือกู้ฉางฉิงกลับเข้าไปยังบ้านใหม่

“พวกเราไปกันเถอะ”

กู้ฉางฉิงมองเฟิงจิ่งเหยา ได้ยินการเคลื่อนไหวจากด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง

เห็นเจียวหนูต่อสู้ดิ้นรนอย่างไม่ยินยอม เพียงแต่กำลังของเธอสู้ชวี่ยี่ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงดิ้นไม่หลุด

เธอเห็นเจียวหนูถูกลากขึ้นรถไปแล้ว จึงดึงสายตากลับ

“ต่อไปเธอจะมาพัวพันคุณแบบนี้อีกไหม?

เธอเม้มริมฝีปาก กล่าวถามด้วยความไม่สบายใจที่ยากจะระงับ

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน ความรังเกียจก็แสดงบนใบหน้า

“วางใจได้ เธอทำไม่ได้หรอก”

พูดจบ เขากูกุมมือกู้ฉางฉิงแน่น คล้ายกับกำลังสัญญา

กู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดของเขา ในที่สุดก็สบายใจเล็กน้อย

เธออดไม่ได้ที่จะหันกลับไปอีกครั้ง ด้านนอกประตูไม่พบเงาของชวี่ยี่และเจียวหนูแล้ว

แต่การกระทำของเธออยู่ในสายตาของเฟิงจิ่งเหยา

สายตาของเขาเคร่งขรึม แน่นอนว่าเดาได้ถึงความคิดของกู้ฉางฉิง

แต่เรื่องบางเรื่องไม่สามารถพูดได้ในตอนนี้

ชัดเจนว่าสถานะของผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดาอย่างมาก……..

แม้ว่าที่อยู่ของตระกูลเฟิงจะไม่ใช่ความลับในเมืองหลวง แต่เมื่อคืนเขาก็ไม่ได้แสดงตัวว่าตนเองเป็นคนของตระกูลเฟิง

แต่ขณะนี้คนคนนี้มาหาถึงประตู ทำให้เขาอดคิดมากไม่ได้

พูดพลาง ความไร้ความปราณีก็ก่อตัวในสายตาของเขา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท