สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 371 จำเป็นต้องกวาดเรียบไม่ให้เหลือ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ในห้องวีไอพี เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ว่ากู้ฉางฉิงอยู่ด้านนอก

หลังจากรับเหล้าของเจียวหนู เขาก็ไม่ได้ดื่ม ก็ตวาดเบาๆอีกครั้งว่า : “อยู่ห่างๆฉันหน่อย”

เจียวหนูยังคิดว่าชายคนนี้รับเหล้าของเธอก็คือยอมให้เธอเข้าใกล้ได้ เวลานี้ได้ฟังคำพูดนี้อีกครั้ง ก็โกรธอย่างยิ่ง

ชายคนนี้ เย็นชาจริงๆเลย ยากที่จะปรนนิบัติ

แก้มเธอกระตุก แต่ท้ายที่สุดก็นั่งอยู่ที่เดิมอย่างเชื่อฟัง

ชวี่ยี่เห็นภาพนี้ ในที่สุดก็โล่งใจ

ยังดีที่ท่านประธานของตนรู้ลำดับความสำคัญ มิเช่นนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรจริงๆ

“นี่เป็นการทำงาน ทำงาน”

เขามองกู้ฉางฉิงแล้วยิ้ม

แน่นอนว่ากู้ฉางฉิงรู้ว่าการแสดงออกของเขานี้คือกลัวว่าตนจะเข้าใจผิด

เธอชำเลืองมองสถานการณ์ในห้องวีไอพี มองไปที่ชวี่ยี่อีกครั้ง การแสดงออกบนใบหน้าเกินที่จะบรรยาย

ท้ายที่สุดก็ไม่ได้สนใจชวี่ยี่ แต่หันไปมองทางหลี่ม่าน

“ผู้จัดการใหญ่ เราควรจะกลับเข้าไปในห้องวีไอพีไหม”

หลี่ม่านได้สติกลับมา มองกู้ฉางฉิง ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร ทำได้แค่พยักหน้า

“ก็ควรจะกลับไปนะ”

พร้อมกับคำพูดของเธอ กู้ฉางฉิงก็หันกลับออกไป

ชวี่ยี่เห็นเธอที่ออกไป ก็แยกเขี้ยว ในหัวตีกันไปหมด

เขาไม่รู้ว่าคุณนายรองหมายความว่าอะไร

โกรธ หรือไม่โกรธ

เขาคิดๆแล้ว ก็เดินเข้าไปในห้องวีไปไอพี

ในห้องวีไอพี เดิมทีที่ทุกคนคุยอยู่หันมาเห็นเขา ก็หยุดทันที

“ท่านประธาน เมื่อกี้คุณนายรองอยู่ข้างนอก”

เขาเดินเข้าไปใกล้ๆเฟิงจิ่งเหยา แล้วกระซิบข้างๆหูเขา

เฟิงจิ่งเหยาตกตะลึง ชั่วขณะก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ นี่จะรายงานว่าอะไร

เพียงแต่เห็นแววตาชวี่ยี่เล็งไปที่เจียวหนู เขาก็เดาได้ว่าชวี่ยี่จะพูดว่าอะไร

“ฉันรู้แล้ว คุณออกไปเถอะ”

ชวี่ยี่เห็นว่าท่านประธานรู้ความหมายของเขาก็พยักหน้าแล้วออกไป

เฟิงจิ่งเหยามองเขาออกไป โบกมือบอกใบ้ให้ลูกค้าพูดหัวข้อเมื่อกี้ที่ยังพูดไม่จบ

เหมือนไม่สนใจอะไรขนาดนั้น

เพียงแต่ความคิดจริงๆ มีเพียงจัวเขาเองเท่านั้นที่รู้

แต่ถึงอย่างนั้น เจียวหนูเชี่ยวชาญในการสังเกตการณ์ยังรับรู้ได้ถึงความหงุดหงิดของเขา

เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างสงสัย เดาว่าอารมณ์ของชายคนนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยที่เข้ามาเมื่อกี้นี้

และในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น

แม้ว่าเฟิงจิ่งเหยาจะไม่สนใจมากนัก แต่เดิมทีควรจะมีการพูดคุยเจรจาต่อรองบ้าง เขาก็พูดกฏเกณฑ์แค่คำสองคำ

แม้ว่าทางด้านลูกค้านี้จะไม่พอใจ แต่ก็ทนกับผลประโยชน์ที่ดึงดูใจไม่ไหว เลยเซ็นต์สัญญาโดยเร็ว

“เช่นนี้ หวังว่าจะได้ร่วมมือกันในอนาคตอย่างมีความสุขนะ”

หลังจากเซนต์สัญญา เฟิงจางเหยาแทบรอไม่ไหวที่จะออกไป

ลูกค้าก็มองออก หลังจากทำความเคารพกันแล้ว ก็มองส่งเฟิงจิ่งเหยาออกจากห้องวีไอพีไป

เจียวหนูเห็นเขาออกไป ก็รีบวิ่งตามไป

“คุณผู้ชาย คุณจะไปไหน?”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นผู้หญิงคนนั้นมาขวางทาง ก็หรี่ตามองอย่างอันตราย

“ชวี่ยี่ เอาเธอออกไป”

พูดจบ เขาก็ไม่มองเจียวหนู ตรงไปที่ห้องวำอพีของกู้ฉางฉิง ทว่าคนด้านในก็แจ้งว่าออกไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว

จนปัญญา เขาได้แต่หันกลับออกไป

เขามาถึงตระกูลเฟิง เมื่อเขาคิดจะขึ้นชั้นบนกลับไปที่ห้อง เสียวเบรกรถด้านหลังก็ดังขึ้น

“คุณผู้ชาย”

มั่วหลีเห็นเฟิงจิ่งเหยาก็ลงจากรถเดินเข้ามาใกล้ด้วยความดีใจ

แต่เมื่อเธอคิดจะเข้ามาใกล้ ก็ได้กลิ่นอายที่ส่งออกมาจากตัวเฟิงจิ่งเหยา

กลิ่นที่รุนแรงนั้นทำให้สีหน้าเธอเปลี่ยนไป

เพราะกลิ่นนี้ไม่ใช่กลิ่นประจำของกู้ฉางฉิง

“คุณผู้ชายเพิ่งกลับจากงานเลี้ยงมาหรอ?”

เธอฉีกมุมปากของเธอกล่าวถาม

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจ พยักหน้สอย่างเย็นชา กล่าวถามว่า: “คุณเพิ่งกลับมาจากข้างนอกหรอ?”

มั่วหลีฟังออกว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่อยากจะพูดมาก ทำได้เพียงระงับคำที่อยากถามแล้วพยักหน้า

“ก่อนหน้านี้ไม่นานได้รับข่าวบางอย่าง เลยไปตรวจสอบเล็กน้อย”

พูดจบเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ “ถ้าคุณผู้ชายไม่รีบกลับไป มีสองสามเรื่องที่ฉันอยากจะรายงานกับคุณสักเล็กน้อย เกี่ยวกับข่าวของคนเหล่านั้น”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน สีหน้าก็เข้มงวด แสดงเจตนาให้มั่วหลีตามเขาไปที่ห้องหนังสือ

คนทั้งสองมาถึงห้องหนังสือ เฟิงจิ่งเหยานั่งลงบนที่นั่งแล้วกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “คุณตรวจสอบอะไรได้?”

มั่วหลีเห็นเช่นนี้ จึงรีบนำข่าวรายงานออกมา

“คุณผู้ชาย คนของพวกเราตรวจสอบมาว่ากองกำลังในเมืองหลวงมีทั้งหมดสามกลุ่ม หนึ่งในนั้นกลุ่มหนึ่งข้ามมาจากประเทศที่เป็นเกาะ ดูท่าแล้วจะถูกว่าจ้างมา ปัจจุบันนี้กินดื่มในคลับเฮาส์ทุกวัน ดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรทำ แต่นักสืบของพวกเขาหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา”

เฟิงจิ่งเหยาก้มหน้าก้มตา ไม่ได้ตัดบทเธอ

มั่วหลีเห็นเช่นนี้ จึงรายงานต่อไปว่า: “อีกองค์กรหนึ่งดูเหมือนจะเป็นของทางด้านเยอรมนีจัดส่งมา ขณะนี้จำนวนคนยังไม่ชัดเจน พวกเขาดำเนินการอย่างลึกลับซับซ้อน ได้รับการว่าจ้างจากใครไม่สามารถตรวจสอบได้”

เธอพูดถึงสุดท้ายก็ตรวจสอบสายตาเฟิงจิ่งเหยาอย่างระมัดระวัง

แต่ทว่าสีหน้าเฟิงจิ่งเหยายังคงไม่แสดงออก

จนปัญญาจึงทำได้เพียงพูดต่อไป

“องค์กรสุดท้ายลึกลับที่สุด จนถึงตอนนี้คนของพวกเรายังไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่คาดการณ์จากประสบการณ์ พวกเราคิดว่าเป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีมือสังหารจำนวนมาก ความไม่แน่นอนเพียงอย่างเดียวคือไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีใดในการเข้าหาเรา”

เธอพูดจบ ห้องหนังสือก็เงียบสงัดทันที

เฟิงจิ่งเหยาโต๊ะด้วยสีหน้าเย็นชา

เสียง’ก๊อกๆ’ที่ดังเล็กน้อยนั้น คล้ายกับเคาะอยู่ที่หัวใจของเธอ ทำให้เธอที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกร้อนใจอย่างมาก

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เฟิงจิ่งเหยาก็คล้ายกับว่าสังเกตเห็น ชำเลืองตามองมั่วหลีอย่างเยือกเย็น

“ในเมื่ออีกสององค์กรยังไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน พวกคุณก็ลงมือกับกลุ่มประเทศที่เป็นเกาะนั่นไปก่อน”

เขาจัดสรรงานด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม มั่วหลีพยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง

“ตัดไฟแต่ต้นลมคุณก็ควรจะรู้หนิ? กำลังคนไม่พอ ก็ไปหาชวี่ยี่ จำเป็นต้องจัดการให้เรียบไม่มีเหลือ!”

หลังจากนั้นกำหนดแผนการกันจนดึก

ในห้อง กู้ฉางฉิงยังรอเฟิงจิ่งเหยากลับมา

แต่ยิ่งดึกมากแล้ว ด้านนอกประตูก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

และเวลานี้ ในสมองของเธอก็นึกถึงภาพในที่นั่งวีไอพีก่อนหน้านั้น

มีสาวสวยอยู่ด้วยแบบนั้น เป็นไปได้ไหมที่เขาจะไม่กลับมา

เธอคิดถึงตรงนี้ หัวใจก็คล้ายกับถูกจำศีลเล็กน้อย

ขณะที่เธอกำลังคิดฟุ้งซ่าน ประตูห้องก็ถูกเปิดออก

“ยังไม่นอนหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยามองคนที่อยู่ด้านบน กล่าวถามด้วยจิตสำนึก แต่ในใจก็มีกระแสไออุ่นไหลผ่าน

เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ก็จะรอเขา

คิดพลาง ทันใดเขาก็อยากกอดเธออย่างมาก

และเขาก็ทำแบบนั้น

กู้ฉางฉิงเห็นการกระทำของเขา ใจก็รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร กำลังจะตอบรับ แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้กลิ่นน้ำหอมที่รุนแรงบนตัวของเขา ใบหน้าที่เดิมทีมีรอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมา

ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการโอบกอดของเฟิงจิ่งเหยา

“ทำไมล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นการกระทำของเธอ กล่าวถามอย่างงุนงงไม่เข้าใจ

กู้ฉางฉิงหน้าบึ้ง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “เหม็น!”

เฟิงจิ่งเหยานิ่งอึ้งไป ไม่นานก็รับรู้ได้ว่านี่คือรังเกียจกลิ่นบนเรือนร่างเขา

ยังไม่รอให้เขาได้พูดอะไร กู้ฉางฉิงก็เอ่ยปากอีกครั้งว่า: “รีบไปอาบน้ำ เหม็นจะตายอยู่แล้ว!”

“หึงหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองเธออย่างกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม

“ใครหึง!”

กู้ฉางฉิงโต้แย้งด้วยจิตสำนึก แต่ภายใต้แววตาที่หยอกล้อของเฟิงจิ่งเหยา ก็ชัดเจนว่าอยากจะปกปิดแต่กลับเปิดเผยออกมา

เธอโมโหเบือนหน้าหนี ไม่คิดจะสนใจเขา

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ ก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ ในสายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู

“โอเค ฉันจะไปอาบน้ำ รอฉันก่อนนะ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท