หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 35 ห้ามเธอคลอดลูกคนนี้ออกมาเด็ดขาด

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เหลิ่งเซ่าถิงได้ฟังคำอธิบายของเจี่ยนอี๋นั่ว สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ความชอบของคุณเปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก”

เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวด เธอไม่เข้าใจเหลิ่งเซ่าถิงเลย เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์ร้าย เจี่ยนอี๋นั่วแอบๆเหลือบมองเหลิ่งเซ่าถิงล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วห่มผ้า เธอค่อยๆจับชุดทารกน้อยที่คุณนายเหลิ่งมอบให้ คิดไปต่างๆนาๆถ้าลูกในท้องของเธอสวมใส่ชุดนี้ เจี่ยนอี๋นั่วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

กำลังจะเข้านอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เจี่ยนอี๋นั่วดูโทรศัพท์ สายเรียกเข้าคือคุณพยาบาลโทรมาจากโรงพยาบาล เธอก็รีบรับสายทันที: “ฮาโหล สวัสดีค่ะ โทรมาตอนดึกมีอะไรหรือเปล่าคะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อหรือเปล่าคะ?”

“สวัดีคะคุณเจี่ยน ฉันมีข่าวดีจะบอกคุณค่ะ คุณเจี่ยนฟื้นแล้วค่ะ ” น้ำเสียงปลายสายจากพยาบาลพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและดีใจ

“อะไรนะ?” เจี่ยนอี๋นั่วรีบลุกขึ้น รีบร้อนเดินไปถึงหน้าประตูห้อง:“ ฉันจะเดินทางไปเดี๋ยวนี้ พวกคุณรอฉันด้วยคะ”

เจี่ยนอี๋นั่วกำลังเตรียมจะวิ่งออกจากห้อง แขนของเธอโดนเหลิ่งเซ่าถิงคว้าเอาไว้ เหลิ่งเซ่าถิงจ้อง

มองเจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดถามด้วยความสงสัย: “เกิดอะไรขึ้น?”

เจี่ยนอี๋นั่วด้านหนึ่งดันมือเหลิ่งเซ่าถิงออก อีกด้านหนึ่งสำลักพร้อมพูดว่า:“คุณพ่อของฉันท่านฟื้นแล้ว ฉันต้องรีบไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ฉันต้องการรู้อาการของท่านหลังจากที่ท่านฟื้นขึ้นมา คุณปล่อยฉัน ให้ฉันไปเดี๋ยวนี้”

“จะไปก็ควรใส่เสื้อผ้าและรองเท้า จากนั้นให้คนขับรถส่งคุณไป” เหลิ่งเซ่าถิงพูดจบ จูงมือเจี่ยนอี๋นั่วไปถึงห้องแต่งตัว เอาเสื้อโยนไปที่ร่างของเจี่ยนอี๋นั่ว

“นี่เป็นชุดที่ค่อนข้างโปรงใหญ่ คุณใส่แล้วมันทำให้ดูไม่ออกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ คุณเปลี่ยนชุดก่อน ผมจะโทรบอกคนขับรถ” เหลิ่งเซ่าถิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วก็รับหันหลังไปโทรศัพท์

ณ เวลานี้เจี่ยนอี๋นั่วเริ่มมีสติมากขึ้น เธอก้มมองเท้าเปล่าและชุดนอนที่ใส่ไว้บนตัว เธอรู้ว่าสภาพแบบนี้ของเธอมันไม่เหมาะที่จะออกไปจริงๆ เจี่ยนอี๋นั่วรีบเปลี่ยนชุดที่เหลิ่งเซ่าถิงจัดเตรียมไว้ให้ สวมใส่รองเท้าเสร็จก็รีบวิ่งลงไป ถอนหายออกมาด้วยความโล่งอก

เจี่ยนอี๋นั่วพึ่งนึกขึ้นได้ เมื่อกี้เธอรีบร้อนวิ่งออกมา เหมือนจะลืมกล่าวคำขอบคุณกับเหลิ่งเซ่าถิง ถึงแม้เจี่ยนอี๋นั่วรู้ว่ามันไม่ค่อยเหมาะสม เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเหลิ่งเซ่าถิงในความคิดเธอแวบขึ้นมาแปบหนึ่ง ณ เวลานี้ในสมองของเธอเต็มไปด้วยเรื่องของคุณพ่อ

เจี่ยนอี๋นั่วดีใจมากที่คุณพ่อของตนเองฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ก็กังวลมากเมื่อหล่อนปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าคุณพ่อ จะทำให้คุณพ่อท่านผิดหวังไหม อารมณ์ที่ทั้งวิตกและกระวนกระวาย ในที่สุดเจี่ยนอี๋นั่วก็ถึงโรงพยาบาลที่คุณพ่อรักษาตัวอยู่ เธอรีบเดินเข้าไปในโรงพยาบาล กั้นลิฟต์ที่กำลังจะปิดแล้วรีบเดินเข้าไป

เมื่อเดินเข้าลิฟต์ไปนั้น เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดขึ้นมาทันที ในลิฟต์นั้นมีฉู่หมิงเซวียนและเฉิงซานซาน ในขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วเดินเข้าลิฟต์นั้น ฉู่หมิงเซวียนและเฉิงซานซานรีบมองไปทางเจี่ยนอี๋นั่ว จากนั้นเหลือบมองที่ท้องของเจี่ยนอี๋นั่ว

เจี่ยนอี๋นั่วรีบเอามือบังตรงท้องของตัวเองอย่างคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กำลังจะเดินออกจากลิฟต์ เป็นเพราะว่าเจี่ยนอี๋นั่วอยากเจอหน้าคุณพ่อของตัวเองมาก แต่ว่าเธอก็ไม่อยากอยู่ในห้องแคบ ๆกับฉู่หมิงเซวียนและเฉิงซานซานแบบนี้ เจี่ยนอี๋นั่วยังไม่ทันจะก้าวออกจากลิฟต์ ประตูลิฟต์ก็เลื่อนปิดแล้ว

“เจี่ยนอี๋นั่วนี่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่จริงๆเหรอเนี่ย ไร้ซึ่งยางอายสิ้นดี!” เฉิงซางซางจ้องมองที่ท้อง ที่นูนขึ้นมาของเจี่ยนอี๋นั่ว เธอพูดแสดงท่าทางอย่างเกลียดชัง

ถึงแม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะใส่ชุดหลวมใหญ่ขนาดไหนเพื่อปกปิดไม่ให้เห็นท้อง แต่ว่าเฉิงซางซางก็ตั้งครรภ์อยู่ในตอนนี้ เธอก็ดูออกได้ทันทีว่าที่ท้องของเจี่ยนอี๋นั่วนูนออกมานั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่ แล้วอีกอย่างอายุครรภ์ก็หลายเดือนแล้ว

เจี่ยนอี๋นั่วดูสถานการณ์แล้วไม่สามารถออกจากลิฟต์ได้ ก็กุมท้องของตัวเองแล้วยืนตรงมุมลิฟต์ กดไปชั้นที่คุณพ่อนอนรักษาตัวอยู่ ตอนนี้เธอมีความรู้สึกของการที่จะได้เป็นแม่คนแล้ว เพื่อไม่ให้ลูกน้อยในท้องของตัวเองได้รับอันตราย เธอก็ยอมที่จะอดทนไว้ ไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับเฉิงซางซาง ดังนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่โต้ตอบใดๆ ทำเพียงมองไปด้านหน้า จ้องไปที่ประตูลิฟต์

แต่ถึงแม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะไม่ตอบสนองต่อการยั่วยุและการดูถูกของเฉิงซางซาง แต่เธอก็ยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาที่เย็นชาจ้องมองมาที่ท้องของเธอตลอดเวลา เจี่ยนอี๋นั่วสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองท้องของเธอนั้นไม่ใช่เฉิงซางซาง หล่อนค่อยๆเอียงหัวไปเล็กน้อยแล้วเห็นสายตาของฉู่หมิงเซวียนกำลังจ้องมองท้องของเธอพอดี

เจี่ยนอี๋นั่วอาศัยอยู่กับฉู่หมิงเซวียนก็หลายปีแล้ว เธอเคยเห็นความร้ายกาจของฉู่หมิงเซวียน แต่ว่าไม่เคยเห็นสายตาอาฆาตของฉู่หมิงเซวียน สายตานั้นเหมือนมีดปลายแหลมที่แหลมคม ราวกับว่าฉู่หมิงเซวียนจะควักลูกของเธอออกมา

ถึงแม้ว่าเฉิงซางซางพูดจายั่วยุดูถูก แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว แต่ว่าสายตาของฉู่หมิงเซวียนที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ กลับทำให้เจี่ยนอี๋นั่วเกรงกลัวจนตัวสั่น เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง ก้าวไปถึงมุมภายในลิฟต์ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เจี่ยนอี๋นั่วรีบออกไปอย่างเร็ว

“หมิงเซวียน เธอตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ไม่มียางอายจริง ๆ !” เฉิงซางซางจ้องตามเจี่ยนอี๋นั่ว ทนไม่ไหวที่ร้องตะโกนออกมา

“ใช่สิ เจี่ยนอี๋นั่วตั้งครรภ์แล้วนะ ดูสิอายุครรภ์พอๆกันกับของเธอเลย ไม่รู้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะคลอดลูกชายออกมาก่อน หรือว่าเธอจะคลอดลูกชายให้ฉันก่อนนะ ไปกันเถอะ พวกเราไปเยี่ยมคุณเจี่ยนกันก่อนดีกว่า ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง เขาอายุยืนจริงๆเลยนะ นี่ขนาดเป็นอัมพาตแล้วนะ ยังสามารถฟื้นขึ้นมาได้!” ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะในขณะที่พูดกับเฉิงซางซาง

ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะพร้อมเดินออกจากลิฟต์ สายตาจ้องมองฉู่หมิงเซวียนเดินออกจากลิฟต์ เฉิงซางซางก็หรี่ตาทันที กัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ :“ เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันไม่มีวันปล่อยให้หล่อนคลอดลูกคนนี้ออกมา”

เฉิงซางซางพูดเสร็จก็รีบเดินตามหลังฉู่หมิงเซวียนไป เจี่ยนอี๋นั่วรีบเร่งเดินไปที่ห้องคนไข้ห้องของเจี่ยนฉางรุ่น แต่ก็ไม่มีโอกาสพบหน้าเจี่ยนฉางรุ่น เพราะเจี่ยนฉางรุ่นถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดรอไปสักพัก ก็เห็นฉู่หมิงเซวียนและเฉิงซางซางเดินเข้ามา

เจี่ยนอี๋นั่วทนไม่ไหวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“พวกคุณต้องการคิดจะทำอะไรกันแน่?”

ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะพร้อมพูดว่า:“แน่นอนว่าต้องมาเยี่ยมคุณลุงนะสิ ฉันอยากรู้ว่าเขาฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร? เมื่อก่อนฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสน้อยมากที่เขาจะฟื้นขึ้นมา หรือเป็นเพราะดังสำนวนที่ว่าเป็นคนดีมีอายุไม่ยืนยาว แต่คนเลวกลับมีอายุยืน? ทำให้เขาสามารถฟื้นคืนมา!”

เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดจ้องมองฉู่หมิงเซวียน เธอขยับริมฝีปาก สุดท้ายเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการเกิดความขัดแย้งกันก็อดทนและพยายามไม่โมโห หล่อนไม่อยากให้เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบเกิดทะเลาะกับฉู่หมิงเซวียน เดี๋ยวมีผลกระทบกับทารกในครรภ์ เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดหันหลังเดินจากไปทันที เดินไปหาเจี่ยนฉางรุ่นที่แผนกตรวจร่างกาย

เพราะว่าแผนกตรวจร่างกายอยู่ชั้นล่าง เจี่ยนอี๋นั่วหันหลังจะเดินลงบันไดไป พึ่งจะเดินถึงหน้าบันได เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินน้ำเสียงที่แปลก ๆ กำลังเรียกชื่อเธออยู่ เจี่ยนอี๋นั่วรีบจับราวบันได คิ้วขมวดหันหลังกลับไป แต่ยังไม่ทันมองชัดเจนคนที่เรียกชื่อเธอนั้นเป็นใคร เธอก็โดนคนผลักอย่างแรง

เจี่ยนอี๋นั่วรีบเร่งจับราวบันได แต่ก็ไม่สามารถประคองตัวได้ หล่อนล้มไปประมาณสองสามก้าว ขาก้าวผิดก็กลิ้งลงบันได ทันใดนั้นในสมองของเจี่ยนอี๋นั่วคิดเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือต้องรักษาลูกในครรภ์ของเธอไว้ให้ได้ เธอพยายามขดตัว ใช้มือกุมท้องของตัวเองไว้ แต่ว่าเมื่อเธอกลิ้งลงถึงด้านล่างบันได ท้องของเธอได้รับแรงกระแทกอย่างแรง ทำให้เธอปวดท้องอย่างรุนแรง

“โอ๊ย……ลูกของฉัน……” เจี่ยนอี๋นั่วกุมท้องตัวเองไปด้วย พร้อมกับเงยหน้ามองขึ้นไปชั้นบนไปด้วย แม้ว่าจะมีไฟ แต่ไฟตรงบันไดค่อนข้างสลัว เจี่ยนอี๋นั่วก็มองเห็นไม่ชัดว่าคนที่เรียกเธอนั่นก็คือเฉิงซางซาง น้ำเสียงที่แปลกประหลาดเมื่อกี้นี้ เป็นเพราะว่าเฉิงซางซางจงใจดัดเสียง จึงทำให้หล่อนฟังไม่ออกคนที่เรียกชื่อเธอที่แท้คือเฉิงซางซาง

เฉิงซางซางรีบเร่งเดินถอยหลัง แล้วเดินหายไปจากแถวบันไดทันที เจี่ยนอี๋นั่วกุมท้องอย่างเจ็บปวดพร้อมพยุงตัวเองลุกขึ้น ท้องของเธอเจ็บปวดจนราวกับว่ามีคนเอามีดมากรีดเนื้อของเธอ และบนร่างกายเริ่มมีเลือดไหลออกมา เจี่ยนอี๋นั่วพิงอยู่ที่มุมกำแพง ก้มแล้วเหลือบมอง ก็สังเกตเห็นเสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเลือดสีแดงคล้ำ

“ลูกของฉัน……ช่วยด้วย……ช่วยลูกของฉันด้วย……” เจี่ยนอี๋นั่วพยุงท้องของตัวเอง ใช้ฟันกัดที่ริมฝีปาก พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดพร้อมเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

แต่ว่าบันไดฝั่งนี้ค่อนข้างเงียบห่างไกลผู้คน เจี่ยนอี้นั่วไม่มีแรงพอที่เปล่งเสียงออกมาขอความช่วยเหลือ ในขณะที่หล่อนกลิ้งตกลงบันได มือถือของเธอตกอยู่กลางทาง เธอร้องขอความช่วยเหลือสักพัก เจี่ยนอี๋นั่วยังไม่ทันที่จะรอคนมาช่วย เจี่ยนอี๋นั่วพยายามหลับตาแปบหนึ่ง เธอจะรอช้าไม่ได้ ถ้าหากยังล่าช้าต่อไป เธอและลูกน้อยอาจจะไม่รอด

ลูกของเธอน่าจะเป็นลูกสาว มีผิวขาวที่นุ่มเนียนและมีน้ำเสียงที่ไร้เดียงสาที่สุด ยังสามารถยื่นมือเล็ก ๆที่อ้วนออกแล้วเรียก “แม่คะ……”

เจี่ยนอี๋นั่วตั้งใจปกป้องลูกของตัวเอง และไม่มีวันยอมให้เกิดอะไรขึ้น! เจี่ยนอี๋นั่วคิดได้ถึงนี่ ก็ฝืนความเจ็บปวด ค่อย ๆจับที่กำแพงผยุงตัวเองนั่ง ในขณะที่เธอกำลังจะนั่งลงนั้น เธอรู้สึกเลือดของเธอไหลออกมาเยอะกว่าเดิม

ลูกจ๋า อดทนอีกนิดนะ อย่าทิ้งแม่ไป แม่พึ่งจะรู้จักกับคำว่าแม่คน แม่ยังไม่ทันตั้งชื่อให้หนูเลย หนูอยากจากแม่ไปนะ! แม่ขอร้องล่ะ อยู่เป็นเพื่อนแม่ก่อน! แม่ยังไม่ทันตั้งชื่อให้หนู ขอร้องอย่าจากแม่ไป!

เจี่ยนอี๋นั่วเจ็บจนสั่นไปทั้งตัว แต่ว่าก็ยังกัดฟันสู้ ค่อย ๆ ขยับตัวเองลุกขึ้น ในระหว่างที่ขยับตัว เดิมทีระยะห่างบันไดถือว่าไม่ไกลมากนัก แต่สำหรับเจี่ยนอี๋นั่วแล้วรู้สึกมันห่างไกลแสนไกล เธอมองไปที่แสงสว่างที่ด้านบนสุดของบันได หลังจากที่เธอกัดฟันพร้อมขยับตัว ท้องของเธอปวดรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกได้ว่าเธออาจจะไม่สามารถเก็บเด็กคนนี้ไว้ แต่ว่าเธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ใช้แรงที่เหลืออยู่เฮือกสุดท้ายปีนขึ้นไปด้านบน เธอเพียงแต่พยายามขยับอีกนิด ลูกของเธอก็มีโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น

เหลืออีกแค่ห้าขั้นบันไดแล้ว……สี่ขั้น……สามขั้น……สองขั้น……

ในที่สุดนิ้วมือของเจี่ยนอี๋นั่วก็สัมผัสกับแสงสว่างทางเดินของโรงพยาบาล เธอตะโกนเบา ๆ ด้วยกำลังทั้งหมดของเธอ:“ช่วยด้วยค่ะ……ช่วยลูกของฉันด้วยค่ะ……”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน