หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 39 ตัวตนที่แท้จริง

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

“เจี่ยนอี๋นั่วเธอนี่เป็นคนที่เลือดเย็นจริงๆเลย ฮุ่ยฮุ่ยยังเด็กอยู่ เธอจะใจดำกับน้องแบบนี้ไม่ได้นะ?”เฮ่อเยี่ยนหงพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกร้องไห้ไปด้วย หันหน้ามองเจี่ยนอี๋นั่วไปด้วยแล้ววิ่งตามหลังเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยออกไป

เจี่ยนอี๋นั่วกระพริบตาแรงๆแปบหนึ่งแล้วเธอก็เดินไปตรงหน้าคุณพ่อ กุมมือของคุณพ่อ เวลานี้เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีที่พึ่ง เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยยังทำตัวเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต เฮ่อเยี่ยนหงก็พึ่งไม่ได้ และตอนนี้พ่อของเธอก็มากลายเป็นแบบนี้อีก……

เวลานี้ข้างกายเธอไม่มีใครสักคนที่สามารถพึ่งพาได้

ในใจของเจี่ยนอี๋นั่วเกลียดชังฉู่หมิงเซวียนเอามากๆ ทุกอย่างเป็นเพราะฉู่หมิงเซวียนคนเดียวที่ทำให้คุณพ่อล้มป่วย ทำให้ระดับสติปัญญาของคุณพ่อต่ำกว่าปกติอย่างถาวร แล้วยังมีเรื่องของลูกอีก เจี่ยนอี๋นั่วไม่เชื่อว่านี่เป็นการตัดสินใจกระทำของเฉิงซานซานเพียงคนเดียว เฉิงซานซานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ต้องเป็นฉู่หมิงเซวียนเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังและให้เฉินซานซานลงมือแน่นอน

เจี่ยวอี๋นั่วในใจลึกๆสงสัยว่า ฉู่หมิงเซวียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเหลิ่งเซ่าถิงกับเธอแล้วหรือยัง เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลเหลิ่งมีปัญหากันมากขึ้น จึงคิดกำจัดลูกในท้องของเธอ

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ถ้าอย่างงั้นฉู่หมิงเซวียนก็เป็นศัตรูของเธอโดยอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้! และต้องเอาคืนให้ตายไปข้างหนึ่ง!

เจี่ยนอี๋นั่วพึ่งแท้งลูกได้ไม่นานร่างกายยังไม่ฟื้นตัว หลังจากผ่านเรื่องราวที่ทำให้เสียใจและเรื่องที่ทำให้โกธรมาก ร่างกายของเธอหมดแรงและสั่นไปทั้งตัว เกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น ทันใดนั้นมีมือของใครคนหนึ่งเข้ามาพยุงด้านหลังของเจี่ยนอี๋นั่ว หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วทรงตัวได้ ก็รีบหันหลังไปมอง เธอมองเห็นเหลิ่งหมิงอันอยู่ด้านหลังหล่อน เจี่ยนอี๋นั่วรีบเดินถอยหลังกี่ก้าวจ้องมองเหลิ่งหมิงอัน พูดขึ้นว่า:“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่คะ?”

เหลิ่งหมิงอันเอียงหัวพร้อมหัวเราะพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว:“ผมก็มาเยี่ยมคุณไงครับ ผมได้ข่าวมา วางใจเถอะคุณไม่มีลูกแล้ว ดูท่าแล้วตระกูลเหลิ่งไม่จำเป็นต้องดูแลคุณอีกต่อไป แต่ว่าผมไม่รังเกียจคุณนะ ผมจะดูแลคุณให้ดีเอง

ตอนนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง? คุณแท้งลูกของเหลิ่งเซ่าถิงแล้ว แต่ผมยังเต็มใจจีบคุณเหมือนเดิม คุณเชื่อผมหรือยังว่าผมจริงใจกับคุณจริงๆ?”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ:“ฉันไม่ได้ต้องการความห่วงใยใส่ใจดูแลจากคุณ !ฉันดูแลตัวเองได้ คุณจะจริงใจหรือไม่จริงใจมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลยสักนิด”

เจี่ยนอี๋นั่วเห็นเหลิ่งเซ่าถิงก็นึกขึ้นได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและตระกูลเหลิ่งยังไม่ได้จัดการ เธอแท้งลูกแล้ว อาศัยอยู่ตระกูลเหลิ่งต้องอาศัยอยู่ในฐานะอะไร ความสัมพันธ์จะไปในทิศทางไหน ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่ในตระกูลเหลิ่งเท่านั้น เสียลูกคนนี้ไป มันเป็นความผิดของพวกเขาทั้งสองที่เป็นคนก่อขึ้นทั้งหมด เจี่ยนอี๋นั่วรู้ดีว่าตัวเองควรเป็นคนรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ไม่ว่าตระกูลเหลิ่งจะถอนเงินที่ลงทุนกับตระกูลเจี่ยน หรือว่าจะให้หล่อนหย่าขาดกับเหลิ่งเซ่าถิง หล่อนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ดูเหมือนว่าฉันควรต้องกลับไปบ้านตระกูลเหลิ่งอีกสักครั้งแล้ว”

เจี่ยนอี๋นั่วได้กำชับกับพยาบาลพิเศษอย่างละเอียด ให้พยาบาลพิเศษดูแลคุณพ่อของตัวเองดีๆ สุดท้ายเธอก็เช็ดมือให้กับคุณพ่อ จากนั้นก็ลุกขึ้น:“คุณดูแลคุณพ่อของฉันให้ดีๆก่อนนะคะ เดี๋ยวกลางคืนฉันจะกลับมาใหม่”

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าตระกูลเหลิงไม่มีความจำเป็นต้องให้เก็บเธอไว้อีกต่อไป เหลิ่งหมิงอันก็โผล่มาที่นี่แล้ว แต่ว่าคุณนายเหลิ่งกลับไม่ส่งคนมาเลย นี่ก็แสดงได้อย่างชัดเจนแล้วว่าคุณนายเหลิ่งไม่ต้องการหล่อนอีกแล้ว อีกทั้งเหลิ่งเซ่าถิงก็ไม่ได้ชอบเธอเลยสักนิดเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะใช่ชีวิตอยู่ในฐานะสามีภรรยากับเธออีกต่อไปได้ ?

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าวันนี้ได้กลับไปคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่งครั้งนี้ คงเป็นการสะสางความสัมพันธ์ระหว่างเหลิ่งเซ่าถิงกับเธอ จากนั้นก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเหลิ่งอีกต่อไป

เหลิ่งหมิงอันเดินตามหลังเจี่ยนอี๋นั่วตลอด เห็นเจี่ยนอี๋นั่วกำลังจะเตรียมตัวออกไป เหลิ่งหมิงอันหัวเราะทันทีพร้อมพูดขึ้นว่า:“คุณจะกลับคฤหาสน์เหรอ?ผมไปส่งคุณดีไหม?”

เจี่ยนอี๋นั่วเหลือบมองเหลิ่งหมิงอัน หน้าตาไม่รับแขกพร้อมพูดว่า:“ฉันไปคนเดียวเองได้ และก่อนไปคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่ง ฉันยังมีเรื่องต้องสะสางอีกเรื่อง”

เหลิ่งหมิงอันเดินเข้าไปใกล้เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะพร้อมพูด “ผมช่วยคุณได้นะ”

เจี่ยนอี๋นั่วมองเหลิ่งหมิงอันด้วยหน้าตาที่เย็นชาพูดขึ้นว่า:“เหลิ่งหมิงอัน ฉันไม่มีอะไรจะให้คุณหลอกใช้อีกแล้ว คุณอย่าคิดแค่จะเอาชนะและคุณไม่จำเป็นต้องเล่นเกมอีกต่อไป เวลานี้ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว คุณอย่ามารังควานอย่ามาบังคับฉันอีกต่อไปเลย ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ถ้าหากฉันหาทางออกไม่เจอแล้วคิดสั้น อาจจะลากคุณไปตายด้วยกัน คุณเป็นถึงคุณชายรองแห่งตระกูลเหลิ่ง ตายไปพร้อมกับฉันง่ายๆแบบนี้ มันดูไร้ค่าไปหรือเปล่า?”

เหลิ่งหมิงอันค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห:“กลัวความพ่ายแพ้?ผู้หญิงอย่างเธอดูได้แม่นยำเหลือเกินนะ ใช่สิ เธอไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือได้แล้ว แต่ว่าผมรู้สึกน้อยใจเรื่องที่คุณยังไม่ชอบผมสักที คุณยังชอบเหลิ่งเซ่าถิงอยู่หรือ ?คุณฟังนะ ถึงยังไงเหลิ่งเซ่าถิงก็ไม่ชอบคุณหรอก เขาจะไล่คุณออกจากตระกูลเหลิ่งด้วยตัวของเขาเอง ผมมีอะไรที่สู้เหลิ่งเซ่าถิงไม่ได้บ้าง?เขาดีกับคุณมากเหรอ?ทำไมคุณถึงชอบผู้ชายอารมณ์โมโหร้ายชอบใส่อารมณ์ให้คุณอย่างเหลิ่งเซ่าถิง แต่ทำไมกลับต้องเย็นชาใส่ผมและปฏิเสธผมตลอดเวลาด้วย?”

เจี่ยนอี๋นั่วหันหลังมองไปทางเหลิ่งหมิงอัน:“ไม่ว่าเหลิ่งเซ่าถิงจะชอบหรือไม่ชอบฉัน แต่เขาไม่เคยเสแสร้ง คุณในตอนนี้ดูจริงใจกว่าเมื่อก่อนมาก ถ้าหากคุณแสดงความจริงใจแบบนี้กับฉัน บางทีฉันอาจจะชอบคุณ เหลิ่งหมิงอัน บางทีอาจจะมีคนชอบที่คุณเสแสร้ง แต่ฉันเคยรักผู้ชายที่ไม่จริงใจเหมือนกันกับผู้ชายอย่างคุณ ฉันมองเห็นคุณ ก็เหมือนได้พบเจอกับความไม่จริงใจอีกครั้ง ตอนนี้ฉันชอบผู้ชายที่เป็นตัวของตัวเองมากกว่า ไม่ว่าเขาจะเย็นชาหรือว่าเฉยเมย หรือเพราะความหยิ่งยโส ยังดีกว่าเสแสร้งแกล้งทำดีเป็นห่วงเป็นใย ผู้ชายที่พูดตรงไปตรงมาคู่ควรที่ฉันจะรัก ”

เดิมทีเหลิ่งหมิงแสดงอาการที่ทำตามอำเภอใจ ใบหน้าค่อยๆสำนึกผิด :“ที่แท้คุณเป็นผู้หญิงแบบนี้?เจี่ยนอี๋นั่ว เธอทำให้ผมคาดไม่ถึงจริงๆ แล้วตอนนี้ผมเป็นแบบนี้คุณจะชอบผมไหม?”

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเหลิ่งหมิงอันพูดว่า:“อย่างน้อยตอนนี้ก็รู้สึกดีกับคุณมากขึ้น แต่ว่าพวกเราคงไม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้วล่ะ หวังว่าคุณจะให้อภัยฉันสำหรับความหยาบคายก่อนหน้านี้ และอีกอย่างขออวยพรให้คุณโชคดี คุณเหลิ่ง ”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบก็เดินผ่านตรงหน้าเหลิ่งหมิงอันไป เหลิ่งหมิงอันหรี่ตามองตามหลังเจี่ยนอี๋นั่ว ไม่ได้เดินตามไป เขายืนพิงหลังกำแพงของโรงพยาบาล ค่อยๆหัวเราะออกมา:“ช่างเป็นผู้หญิงที่ตลกจริงๆ ตลกจริงๆ……”

เหลิ่งหมิงอันพูดจบ ทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ผมเป็นคนชอบเอาชนะ?ทำไมถึงยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ล่ะ?”

ก่อนที่เจี่ยนอี๋นั่วจะไปคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่ง สิ่งที่ต้องทำคือ ต้องนำลูกของเธอไปฝัง เจี่ยนอี๋นั่วเคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่พูดว่า ลูกที่ยังไม่ทันเกิดมาลืมตาดูโลก ไม่สามารถฝังได้ต้องนำไปทิ้งลงแม่น้ำหรือนำไปทิ้งที่อื่น ถ้าไม่อย่างงั้นจะนำพาความโชคร้ายให้กับผู้เป็นแม่ แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่อยากทิ้งลูกของเธอ เธออุ้มลูกของเธอใส่ลงไปในขวดแก้ว เดินตรงไปหลังเขาข้างคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่ง และฝังมันอย่างระมัดระวัง

ตอนที่คุณแม่ของเจี่ยนอี๋นั่วยังมีชีวิตอยู่ คุณแม่ชอบพาเธอไปเที่ยวเล่นที่หลังเขาบ่อยๆ ตอนนั้นที่บ้านเริ่มทำธุรกิจ ไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้เข้าพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์และยังไม่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ ต้องขับรถไกลมากถึงจะขับมาถึงภูเขาแห่งนี้ แต่ว่าคุณแม่จะพยายามพาเธอมาเที่ยวที่นี่ทุกอาทิตย์ เพราะว่าสถานที่แห่งนี้สามารถมองเห็นบริษัทที่ทำงานของคุณพ่อได้

ในขณะนั้นเจี่ยนฉ่างยุ่นงานยุ่งมาก น้อยมากที่จะมีเวลากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ถึงแม้จะมีเวลากินข้าวด้วยกันไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งก็รีบกินแล้วก็รีบไป เมื่อสมัยเจี่ยนอี๋นั่วยังเป็นเด็กเคยคิดว่าตัวเองไม่มีคุณพ่อ จากนั้นคุณแม่ของเธอก็จะพาเธอไปเที่ยวเล่นที่ภูเขาแห่งนี้บ่อยๆ เธอจะวิ่งเล่นในพงหญ้าวิ่งไล่จับตั๊กแตนและผีเสื้อ

เมื่อเธอเล่นจนเหนื่อยและเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอก็จะวิ่งไปหาคุณแม่ พูดกับคุณแม่ว่า:“คุณพ่ออยู่ไหนคะ ?ทำไมคุณพ่อไม่อยู่เป็นเพื่อนเล่นกับอี๋นั่วคะ?อี๋นั่วคิดถึงคุณพ่อมากค่ะ ……”

คุณแม่ก็จะชี้ไปทางบริษัทที่ตั้งอยู่ห่างไกล ยิ้มแล้วพูดกับอี๋นั่วว่า:“คุณพ่ออยู่ที่นั่น คุณพ่ออยู่กับพวกเราตลอด คุณพ่อกำลังยิ้มให้กับอี๋นั่วอยู่ทางโน่น อี๋นั่วโบกมือทักทาย ตอนนี้คุณพ่อตั้งใจทำงานอยู่นะคะ ก็เพื่อให้อี๋นั่วมีความสุขและสุขสบายมากขึ้นไงคะ”

เด็กน้อยเจี่ยนอี๋นั่วก็จะรีบกระโดดขึ้นมาทันทีพร้อมตะโกนว่า:“คุณพ่อคะ!วันนี้อี๋นั่วมีความสุขมากเลยค่ะ คุณพ่อต้องตั้งใจทำงานนะคะ!”

ในความเป็นจริงแล้วระยะทางห่างไกลมาก คุณพ่อมองไม่เห็นเธอหรอก?เวลาผ่านไปเจี่ยนอี๋นั่วรู้ดีว่าเป็นเพราะคุณแม่ไม่อยากรบกวนในขณะที่คุณพ่อทำงาน แต่ก็เพราะอยากให้เธอรู้สึกว่าคุณพ่ออยู่เคียงข้างเธอตลอดเลยคิดสร้างเรื่องโกหกที่สวยงามขึ้นมา และนี่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตและไม่อันลืมเลือนของเจี่ยนอี๋นั่วแล้ว ผ่านไปไม่นานคุณแม่ท่านก็เสีย จากนั้นคุณพ่อก็แต่งเฮ่อเยี่ยนหงเข้าบ้าน

ตอนนี้เจี่ยนอี๋นั่วฝังลูกของตัวเองไว้ที่นี่ ก็เพื่ออยากให้ลูกเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำของเธอ และเพื่อให้เธอจดจำว่าเคยมีลูกคนนี้ตลอดไป

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วฝังทารกน้อยเสร็จ ในขณะที่เดินลงจากเขาหน้าตาซีดเซียวแล้ว แต่ว่าเธอก็ยังฝืนทนร่างกายกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่ง คฤหาสน์ตระกูลเหลิ่งเงียบสงบมาก เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วเดินก้าวเข้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่งนั้น ก็ได้ยินเสียงอันสูงแหลมของสุยเฉิงจิ้ง :“โอ้ นี่คุณหญิงแห่งตระกูลเหลิ่งกลับมาแล้ว?กลับมาคนเดียวเหรอ ลูกของเธอล่ะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วหน้าซีดเซียวเงยหน้าขึ้นมองสุยเฉิงจิ้ง ไม่ได้ตอบกลับใดๆ เธอเดินผ่านหน้าสุยเฉิงจิ้งไปและเดินไปทางห้องของคุณนายเหลิ่ง สุยเฉิงจิ้งจ้องมองตามหลังเจี่ยนอี๋นั่ว เสียงตะคอก:“ฮึม,นี่ยังกล้าหยิ่งยโสขนาดนี้ ยังคิดว่าตัวเองยังเป็นคุณหญิงตระกูลเหลิ่งได้อีกเหรอ?”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินเสียงพูดของสุยเฉิงจิ้ง แต่ว่าเธอก็ไม่หยุดเดิน และเดินตรงไปถึงหน้าประตูห้องของคุณนายเหลิ่ง เคาะประตูเรียก

ได้ยินเสียงขานรับออกมาจากในห้อง“เข้ามา”,เจี่ยนอี๋นั่วก็เดินเข้าห้องไป เมื่อเดินเข้าไปในห้อง เจี่ยนอี๋นั่วก็เห็นคุณนายเหลิ่งนั่งอยู่กับเหลิ่งเซ่าถิงบนโซฟา

คุณนายเหลิ่งกำลังหน้าคิ้วขมวดเมื่อเห็นเจี่ยนอี๋นั่ว พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“บอกให้เธอระมัดระวังตั้งแต่แรกทำไมเธอไม่ฟัง?กลางค่ำกลางคืนทำไมถึงออกไปคนเดียว?ควรจะพาคนรับใช้ไปด้วย?ถ้าหากเซ่าถิงไม่ตามไป พวกเราก็ไม่รู้เลยว่าเธอจะไปที่ไหน!วันนี้เช้าฉันพึ่งรู้ว่าเธอออกไป แล้วก็พึ่งรู้ว่าเหลนของฉันไม่อยู่แล้ว ……”

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่ได้ขอโทษเพราะว่าคนที่เธอควรจะกล่าวคำขอโทษด้วยคือลูกของเธอเอง แต่ว่าเธอไม่มีสิทธิ์กล่าวคำว่า “ขอโทษ” กับลูกของเธอได้

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท