หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 46 เจอกับนางฟ้า

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

ฉู่หมิงเซวียนหยิบจดหมายที่เจี่ยนอี๋นั่วโยนให้เขาขึ้นมา หรี่ตาแล้วหัวเราะออกมา:“ขอบคุณประธานเจี่ยนที่คิดได้รอบคอบขนาดนี้ ถึงขนาดเตรียมจดหมายลาออกให้ผมแล้วด้วย ในเมื่อประธานเจี่ยนคิดเผื่อลูกน้องขนาดนี้ ผมคงออกจากบริษัทไม่ได้แล้วจริงๆ ประธานใหญ่ที่คิดเผื่อลูกน้องอย่างประธานเจี่ยน ผมจะไปหาที่ไหน?”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มแล้วพูด:“ขอบคุณผู้จัดการฉู่ที่ชม ในเมื่อไม่อยากลาออก ก็ทำงานให้สุดความสามารถละกัน ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอผู้จัดการฉู่สร้างผลงานที่เหนือความคาดหมายให้งานของพวกเรา”

เดิมทีเจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่ได้วางแผนว่าจะให้ฉู่หมิงเซวียนลาออกตอนนี้ ยังไงซะฉู่หมิงเซวียนก็ทำงานให้กับบริษัทมานานมาก เข้าใจสถานการณ์ของลูกค้าในบริษัทไม่น้อย ถ้าให้ฉู่หมิงเซวียนลาออกตอนนี้ คงจะกระทบถึงภายในบริษัท แต่ถ้าให้ฉู่หมิงเซวียนอยู่ต่อไป ฉู่หมิงเซวียนก็จะรวมกลุ่มกับคนอื่นๆภายในบริษัท เพื่อมาข่มขู่เธอ

เจี่ยนอี๋นั่วต้องการเวลา เพราะงั้นเธอถึงได้เตรียมจดหมายลาออกของฉู่หมิงเซวียนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อกระตุ้นเขา จากประสบการณ์ที่ได้คบค้าสมาคมกับฉู่หมิงเซวียน ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วรู้จักนิสัยของฉู่หมิงเซวียนอยู่ไม่น้อย ฉู่หมิงเซวียนทั้งคิดว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้ทั้งถือดี ไม่มีทางอนุญาตให้ตัวเองถูกบริษัทไล่ออกไปทั้งอย่างนี้แน่นอน

แต่ฉู่หมิงเซวียนยิ่งต่อสู้ในบริษัทนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะดวกกับเจี่ยนอี๋นั่วที่จะรับงานในมือของฉู่หมิงเซวียนตอนนี้มากเท่านั้น หลังจากนั้นตอนที่ไล่เขาออกจากบริษัทอีกครั้ง ก็จะไม่มีทางกระทบอะไรกับบริษัทแล้ว

ฉู่หมิงเซวียนหรี่ตามองเจี่ยนอี๋นั่ว ผ่านไปนานพอสมควรถึงจะเผยรอยยิ้ม:“ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอประธานเจี่ยนนำพาพวกเราไปสู่ขั้นบันไดใหม่เหมือนกันนะ”

“ผู้จัดการฉู่วางใจเถอะ ฉันต้องทำได้อย่างแน่นอน” เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ ก็ยิ้มแล้วยืนขึ้น เดินออกจากห้องประชุมไป

ฉู่หมิงเซวียนมองแผ่นหลังของเจี่ยนอี๋นั่ว มือของเขากำหมัดแน่น แล้วออกแรงทุบไปที่โต๊ะทำงานของห้องประชุม ถึงแม้ว่าเมื่อกี้เขาจะพูดด้วยความรู้สึกส่วนตัวเพราะโมโห แต่ฉู่หมิงเซวียนก็รู้ว่าอยู่ที่บริษัทอี๋เหม่ยต่อ เขามีแต่จะเสียผลประโยชน์ ตอนนี้คนที่อยู่เบื้องหลังของเจี่ยนอี๋นั่วมีแต่คนที่ร้ายกาจสนับสนุนอยู่ อีกอย่างเดิมทีเจี่ยนอี๋นั่วก็เป็นประธานบริหาร เธอมีเงินทุนของตระกูลเหลิ่ง

ก่อนหน้านี้ฉู่หมิงเซวียนได้ถือโอกาสตอนที่เจี่ยนอี๋นั่วตั้งท้อง แอบสมคบกับผู้ถือหุ้นบางส่วน แต่หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วกลับมา เธอก็ยึดทุกอย่างไป สิ่งที่เขาทำไปทุกอย่างไม่มีประโยชน์เลยสักนิด ผู้ถือหุ้นที่เขาเคยมีสัมพันธไมตรีด้วยพวกนั้นก็รีบไปฝั่งเจี่ยนอี๋นั่วทันที แต่ฉู่หมิงเซวียนไม่มีวิธีที่จะออกไปทั้งแบบนี้ เทียบกับผลสุดท้ายว่าเป็นอย่างไร ฉู่หมิงเซวียนยิ่งไม่อยากคิดว่าต้องยอมแพ้ต่อหน้าเจี่ยนอี๋นั่วทั้งแบบนี้!

ฉู่หมิงเซวียนขมวดคิ้ว หายใจเข้าลึกๆ ในใจแอบแค้นเจี่ยนอี๋นั่วอย่างมาก ทั้งๆที่เคยเป็นผู้หญิงที่น่ารักต่อหน้าเขาแท้ๆ ทำไมพอพลิกดูหน้าอีกด้านถึงเผยให้เห็นแต่กรงเล็บและฟันที่แหลมคมล่ะ? ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?

ต้องเป็นเพราะผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังเจี่ยนอี๋นั่วยุยงเป็นแน่ ฉู่หมิงเซวียนคิดถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้ว ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ!ไม่งั้นเจี่ยนอี๋นั่วไม่มีทางลงมือกับเขาโหดเหี้ยมขนาดนี้หรอก!

เวลานี้ จู่ๆมือถือของฉู่หมิงเซวียนก็ดังขึ้น ฉู่หมิงเซวียนรีบกดรับโทรศัพท์ บนโทรศัพท์เป็นเบอร์ของคนที่ไม่รู้จัก ในช่วงที่กดรับโทรศัพท์แล้วนั้น เสียงของเฉิงซานซานก็ได้ดังออกมา เฉิงซานซานในสายร้องไห้ด้วยความน้อยใจ:“หมิงเซวียนคุณรีบมาดูฉันเร็ว ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? ท้องของฉันปวดอยู่ตลอดเลย ฉันกลัวมาก คุณมาหาฉันหน่อยนะ……”

“งั้นเหรอ? คุณปวดท้องมาก?” ฉู่หมิงเซวียนกระตุกมุมปากเบาๆ:“นั่นมันร้ายแรงมากเลยนะ อีกสักพักผมจะไปหาคุณ คุณต้องรอผมนะ……”

“หมิงเซวียนคุณรีบมานะ ตั้งแต่ที่เจี่ยนอี๋นั่วมาดูฉัน ฉันก็กลัวอยู่ตลอดเลย ฉันกลัวว่าเขาจะคิดไม่ดีกับลูกของเรา คุณไม่เคยเห็นสายตาของเขา นัยน์ตาเขาอิจฉาฉัน อย่างกับว่าจะจับฉันกิน ฉันกลัวว่าเขาจะลงมือกับลูกของฉันจริงๆนะ!” เฉิงซานซานพูดอย่างลุกลี้ลุกลน

“วางใจเถอะ ผมจะปกป้องลูกของเราเอง” ฉู่หมิงเซวียนยิ้มแล้วพูดจบ ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าทางเฉิงซานซานได้พูดจบหรือเปล่า ก็รีบวางสายทันที

ฉู่หมิงเซวียนรู้ว่าทำไมเฉิงซานซานถึงปวดท้อง เพราะว่าซุปที่เขาส่งไปให้เฉิงซานซานข้างในใส่ยาทำแท้งไว้ ฉู่หมิงเซวียนคิดว่าเฉิงซานซานตายโง่ไป ทำไมเธอถึงยังเชื่อว่าเขายังต้องการเธออยู่อีกล่ะ? ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเข้าคุก เขาจะแต่งเข้าบ้านได้ยังไง? แล้วอีกอย่างเขาจะยอมให้ลูกของตัวเองเกิดในคุกได้ยังไง?

ฉู่หมิงเซวียนค่อยๆกระตุกมุมปาก ยิ้มแล้วพูดเสียงเบา:“ผู้หญิงพวกนี้ โง่จนน่าขำสิ้นดี แต่พวกที่ฉลาด……ที่ฉลาด……”

ฉู่หมิงเซวียนพูดถึงตรงนี้ ก็นึกถึงเจี่ยนอี๋นั่วที่แค้นมาก เขาเม้มปากแน่น กดเสียงต่ำพูดออกมา:“ที่ฉลาด กลับน่าจงเกลียดจงชัง……น่า……”

ฉู่หมิงเซวียนหายใจเข้าลึกๆ กัดริมฝีปากแน่น ชื่อนั่นที่กดทับส่วนลึกในใจเขา เขาไม่มีทางยอมรับ และไม่มีทางจะพูดออกมา!

เจี่ยนอี๋นั่วจัดการเรื่องในบริษัทเสร็จก็รีบไปโรงพยาบาลทันที ในห้องพักผู้ป่วยยังคงมีแค่พยาบาลที่ดูแลเจี่ยนฉางรุ่นอยู่ เฮ่อเยี่ยนหงกับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนตั้งนานแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วเปิดดูผลการตรวจสอบของเจี่ยนฉางรุ่น คิ้วย่นเข้าหากัน สถานการณ์ของพ่อเธอแย่กว่าที่เธอคิดซะอีก ไม่เหมือนที่คาดการณ์ไว้เลย

“อี๋นั่ว……” เจี่ยนฉางรุ่นพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว แล้วมองไปยังหน้าต่างบานเล็กๆ

“พ่อ หนูอยู่นี่ค่ะ” ถึงแม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะรู้ว่าเจี่ยนฉางรุ่นพูดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็ยังพยายามที่จะตอบเจี่ยนฉางรุ่น เธอหวังว่าจะมีสักวันที่พ่อของตัวเองจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กับคำตอบของเธอ อีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้ไม่มีคนสนใจพ่อของเธอ ไม่ตอบคำถามของพ่อเธอ

เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่าควรจะดูแลคนแก่ที่บกพร่องทางสติปัญญายังไง แต่เจี่ยนอี๋นั่วความคิดที่ยึดมั่นอยู่ ขอแค่เธอตั้งใจตอบทุกประโยคของพ่อ ไม่ให้พ่อคิดว่าคำที่เขาพูดไม่มีคนตอบรับ น่าจะมีส่วนช่วยอาการของพ่อให้ดีขึ้นอยู่บ้าง

เจี่ยนอี๋นั่วหยิบหวีแล้วเดินไปที่ด้านหลังของเจี่ยนฉางรุ่น ค่อยๆหวีผมให้เจี่ยนฉางรุ่น เจี่ยนฉางรุ่นอายุยังไม่ถึงหกสิบปี แต่ผมนั้นมีสีขาวบ้างแล้ว เทียบกับประธานคนอื่นๆที่มีข่าวซุบซิบ บางทีชีวิตของเจี่ยนฉางรุ่นดูไร้รสชาติไปเลย เขาแค่ชอบทำงาน ไม่ยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิง เดิมทีเจี่ยนอี๋นั่วไม่เชื่อเรื่องนี้ เพราะเธอเจอผู้หญิงที่ท่านประธานเลี้ยงไว้เยอะมาก ราวกับว่ากลายเป็นเรื่องปกติอย่างหนึ่งไปแล้ว

พอรู้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วเข้ามาที่บริษัท ถึงจะยืนยันได้ว่าพ่อของเธอทำเป็นอยู่อย่างเดียวจริงๆ ในสายตาของเขามีแค่การทำงาน เป้าหมายเดียวคือให้คนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ผู้ชายแบบนี้ในสังคมที่ความต้องการสามารถสนองได้ทุกที่ แสดงให้เห็นว่าไม่เข้าพวก ส่วนบนโต๊ะเหล้านั้น คนอย่างเขาถูกหัวเราะเยาะกลายเป็น“ตาแก่คร่ำครึ”、“ผู้ชายซื่อบื้อ” มีผู้ชายรวยที่ไหนกันที่คิดถึงแต่เรื่องงาน ไม่คิดจะยุ่งเรื่องอื่น?

พ่อของเธอยิ้มอย่างซื่อๆตรงๆ ขนาดจะโต้แย้งก็ยังไม่ทำ ทำได้แค่ยิ้มแล้วพูด:“ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน”

เจี่ยนอี๋นั่วไม่ชอบให้คนอื่นใช้ความคิดที่กำหนดมาแล้วมองเจี่ยนฉางรุ่น ไม่ชอบให้คนอื่นหัวเราะเยาะที่เขานิ่งเฉยที่เขาซื่อบื้อ แต่ทุกครั้งที่เธออยากจะระเบิด กลับถูกพ่อของเธอห้ามเอาไว้

“อย่าโกรธไปเลย พวกเขาแค่ล้อเล่น อีกอย่างนี่ก็ลูกค้าทั้งนั้น เทพแห่งทรัพย์ที่ส่งเงินมา ถูกพวกเขาหัวเราะเยาะแล้วจะทำอย่างไรได้?” เจี่ยนฉางรุ่นยิ้มไปด้วย ปลอบใจเธอไปด้วย

ตอนนี้เจี่ยนอี๋นั่วหวนกลับไปนึกถึง รู้สึกได้ว่าช่วงเวลานั้นมันมีค่ามากจริงๆ เจี่ยนอี๋นั่วหวังจริงๆว่าในเวลานั้นพ่อเธอจะปลอบใจเธอนานกว่านี้หน่อย ให้ความทรงจำของเธอมีภาพความทรงจำให้หวนคืนเยอะขึ้นมาหน่อย

หวีผมเบาๆที่ผมขาวปนดำของเจี่ยนฉางรุ่นเสร็จ เจี่ยนอี๋นั่วก็ล้างมือล้างเท้าให้กับเจี่ยนฉางรุ่น หลังจากนั้นค่อยๆป้อนโจ๊กถ้วยเล็กทีละคำให้เจี่ยนฉางรุ่น แล้วพูดกับเจี่ยนฉางรุ่นว่า:“พ่อคะ ฝันดีค่ะ พรุ่งนี้หนูจะมาหาใหม่”

เจี่ยนฉางรุ่นไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบเลยสักนิด แค่นั่งบนเตียง ยิ้มแล้วมองข้างหน้า ส่งเสียง“เฮ้ เฮ้” มีเสียงเรียกออกมาไม่ค่อยชัด:“ฮุ่ยฮุ่ย อี๋นั่ว กินข้าว……”

เจี่ยนอี๋นั่วกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วบอกฝันดีกับเจี่ยนฉางรุ่นอีกครั้ง ถึงจะรีบออกจากห้องพักผู้ป่วยของเจี่ยนฉางรุ่นอย่างรวดเร็ว เธอเดินไปด้วยหายใจเข้าลึกๆไปด้วย พูดกับตัวเองว่า:“ไม่เป็นไร พ่อยังอยู่นี่? ทุกอย่างจะดีขึ้น ฉันจะต้องทำให้พ่อหายให้ได้ จะต้อง……”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ ก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตา เม้มปากแน่น เธอขึ้นรถที่จะกลับตระกูลเหลิ่ง พอเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่ง เจี่ยนอี๋นั่วก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าคนรับใช้ในตระกูลเหลิ่งต่างก็เคารพกฎเกณฑ์กัน แต่สายตาที่พวกเขาเผลอแสดงออกมาอย่างไม่รู้ตัวนั้นมันไม่มีทางที่จะปกปิดได้ สายตาแบบนี้ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบๆได้อย่างฉับไว บรรยากาศแบบว่า“ชมความสนุก”

เจี่ยนอี๋นั่วพอจะเดาได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพราะงั้นตอนที่เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกใหญ่ ตอนที่มองเห็นผู้หญิงที่ทั้งอ่อนโยนและสวยงามนั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขก เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด อีกอย่างเจี่ยนอี๋นั่วก็สามารถเดาได้ว่าคนๆนี้คือใคร เธอคงเป็นหลิวจื่อซิงที่เหลิ่งหมิงอันพูดถึงไม่หยุด ที่ได้ชื่อว่าเป็นรักแรกของเหลิ่งเซ่าถิง และได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่า

หลิวจื่อซิงดูแล้วเป็นคนที่ผู้คนชื่นชอบกัน เธอมีผิวขาวเนียน มีตาที่สวยงาม จมูกสวย ปากเป็นกระจับ เวลาที่ยิ้ม ใบหน้าเธอจะมีลักยิ้มที่หวานมากอยู่ด้วย ดูแล้วเหมือนเยลลี่ที่อร่อยถูกปาก เป็นผู้หญิงที่ยากที่จะทำให้คนที่มองเห็นครั้งแรกรังเกียจจริงๆ

สุยเฉิงจิ้งที่นั่งอยู่ข้างหลิวจื่อซิง ก็รีบยืนขึ้น ยิ้มแล้วพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว:“อ้าว อี๋นั่วกลับมาแล้ว รีบมาดูเร็ว นี่คือจื่อซิง เธอเป็นผู้หญิงที่เซ่าถิงชอบก่อนหน้านี้……”

สุยเฉิงจิ้งพูดถึงตรงนี้ แล้วต่อด้วยเผยรอยยิ้ม“ชมความสนุก”ที่ว่า แล้วรีบพูดต่อ:“ดูฉันสิ ฉันนี่แก่แล้วจริงๆ พูดผิดไปหมด พูดต่อหน้าอี๋นั่วว่าจื่อซิงเป็นผู้หญิงที่เซ่าถิงชอบได้ยังไง? อี๋นั่ว เธอไม่ถือสาใช่ไหม?”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า ยิ้มแล้วพูด:“ฉันไม่ถือสาค่ะ เรื่องของคุณหลิวกับเซ่าถิงก่อนหน้านี้ ฉันรู้หมดแล้ว ฉันรู้ว่าคุณหลิวเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก ไม่เพียงแต่เซ่าถิงที่ชอบเขา ขนาดเหลิ่งหมิงอันก็ยังชอบเขามาก วันนี้ตอนเช้า ฉันยังได้ยินเหลิ่งหมิงอันพูดถึงคุณหลิวอยู่เลยค่ะ คำพูดคำจาน่ารักมาก บอกว่าพวกเขาสองพี่น้องชอบคุณหลิวเหมือนกัน ทำให้คุณหลิวทำตัวไม่ถูก จนคุณหลิวต้องไปต่างประเทศ ฉันได้ยิน ก็รู้สึกว่าสถานการณ์ของคุณหลิวในตอนนั้นลำบากมากจริงๆ”

คำพูดของเจี่ยนอี๋นั่ว ทำให้สุยเฉิงจิ้งที่อยากเห็นเรื่องน่าขำของเจี่ยนอี๋นั่วต้องเปลี่ยนสีหน้า สุยเฉิงจิ้งเดิมทีอยากใช้หลิวจื่อซิงสร้างความลำบากให้เจี่ยนอี๋นั่ว ไม่คิดว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะดึงเหลิ่งหมิงอันเข้ามาเกี่ยวด้วย เรื่องนี้ทำให้สุยเฉิงจิ้งคิดถึงเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แล้วปล่อยมือหลิวจื่อซิงที่จับไว้แน่นเมื่อสักครู่ ใช้หลิวจื่อซิงมารับมือกับเจี่ยนอี๋นั่วยังพอได้ แต่สุยเฉิงจิ้งไม่มีทางให้หลิวจื่อซิงไปเกี่ยวข้องอยู่กับเหลิ่งหมิงอันอีกเป็นอันขาด

สุยเฉิงจิ้งพูดเสียงเย็นชา:“ตอนนั้นหมิงอันยังเด็ก ก็แค่ก่อเรื่องเฉยๆ ใครๆก็รู้ว่าจื่อซิงกับเซ่าถิงคู่กัน”

“คุณน้าคะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว อย่าพูดถึงอีกเลยค่ะ” เดิมทีหลิวจื่อซิงที่เหมือนอยู่ตรงกลางพายุไม่ได้เผยหน้าที่ให้ความรู้สึกอึดอัดออกมาเลยสักนิด ในทางกลับกันยิ้มแล้วปลอบใจสุยเฉิงจิ้ง

หลิวจื่อซิงพูดจบ ก็มองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว แล้วยิ้มหวานออกมา:“ครั้งนี้เจอคุณครั้งแรก ไม่รู้ว่าคุณชอบอะไร ได้ยินมาว่าคุณกับเซ่าถิงมีลูกแล้ว ฉันอยากจะส่งของที่เด็กต้องใช้ น่าจะทำให้คุณดีใจนะ ฉันซื้อของเล่นมาด้วยจากต่างประเทศ ข้างในมีรถของเล่น แล้วก็จิ๊กซอว์……เซ่าถิงตอนเด็กๆเขาชอบต่อจิ๊กซอว์มาก พ่อลูกน่าจะชอบของเหมือนๆกันเนอะ”

“ไอ้หยา เธอไม่รู้เหรอ? อี๋นั่วเขาแท้งลูกแล้ว” สุยเฉิงจิ้งเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้น

หลิวจื่อซิงรีบปิดปากไว้ แล้วรีบขอโทษเจี่ยนอี๋นั่ว:“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ ฉันพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันคงให้ของผิด……”

เจี่ยนอี๋นั่วมองหลิวจื่อซิง ถึงแม้ว่าดูแล้วหลิวจื่อซิงจะอ่อนโยนใจกว้าง ไม่มีพิรุธเลยสักนิด แต่ลางสังหรณ์ของผู้หญิงบอกเจี่ยนอี๋นั่วว่า หลิวจื่อซิงคนนี้จงใจพูดเรื่องที่เธอแท้งขึ้นมาอย่างแน่นอน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน