หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 103 ฆาตกรคือคุณเหรอคะ

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วกระพริบตาอดไม่ไหวตาแดงก่ำ เธออยากจะถามเหลิ่งเซ่าถิงเกี่ยวกับการตายของคุณพ่อเธอมาก เวลานี้เธอเหลือเพียงเหลิ่งเซ่าถิงแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วกลัวมาก เธอไม่กล้าไปถามเหลิ่งเซ่าถิงว่าเห็นรูปในกระเป๋าของเธอหรือไม่ เธอทำได้เพียงเอนตัวลงนอนบนเตียง และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เธอไม่ได้สังเกตเห็นอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เจี่ยนอี๋นั่วเอนตัวลงบนเตียงแล้วรีบหลับตาลง แต่หลับตาลงยังไงก็นอนไม่หลับ เธอได้ยินเสียงแป้นพิมพ์ที่เหลิ่งเซ่าถิงเคาะจากนั้นเหลิ่งเซ่าถิงก็เดินมาที่ข้างเตียง ค่อยๆสวมกอดเธอเบาๆ และกอดครั้งนี้ก็ไม่แตกต่างจากครั้งอื่นๆ แต่ว่าการที่อยู่ในอ้อมกอดของเหลิ่งเซ่าถิงนั้นมันไม่ได้ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วอุ่นใจเลยสักนิด แต่กลับตรงข้ามกับความรู้สึกที่สับสนวุ่นวายมาก

แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ผลักเหลิ่งเซ่าถิงออก เจี่ยนอี๋นั่วรออย่างนั้นอยู่เงียบๆ รอเสียงหายใจของเหลิ่งเซ่าถิงหนักขึ้น และดูเหมือนว่าเขาน่าจะหลับแล้วจริงๆ

เจี่ยนอี๋นั่วค่อยลุกขึ้น เดินตรงไปห้องน้ำ เอามือปิดปากแล้วร้องไห้ออกมา เธอไม่รู้จะแสร้งทำอย่างไรทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าหากมันเป็นเรื่องอื่น เธอจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเหลิ่งเซ่าถิงแน่นอน แต่ว่าเรื่องมันเกี่ยวข้องกับการตายของคุณพ่อเธอ เธอไม่สามารถที่จะหลอกตัวเองได้ เธอไม่มีความมั่นใจที่จะเชื่อใจเหลิ่งเซ่าถิงได้อีก แต่กลับพนันได้เลยว่าอีกอย่างอาจจะไม่เกิดขึ้น

ถึงแม้โอกาสน้อยมากที่เหลิ่งเซ่าถิงเป็นคนทำทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นเธอจะไม่ยอมให้ตัวเองนอนข้างๆคนที่ฆ่าพ่อของตัวเองได้ลงคอแน่นอน

เหลิ่งเซ่าถิงนอนอยู่บนเตียงคนเดียวได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้นออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ลืมตาขึ้น เขาไม่ได้นอนหลับจริงๆ เขาหน้าคิ้วขมวดเอื้อมมือไปลูบที่ที่เจี่ยนอี๋นั่วพึ่งนอนเมื่อกี้นี้ ที่ตรงนั้นยังมีไออุ่นๆของเจี่ยนอี๋นั่วอยู่

แต่ว่าเมื่อไออุ่นนั้นหายไป เหลิ่งเซ่าถิงมีเพียงความเงียบเหงาอยู่เป็นเพื่อน

รอเจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆหยุดร้องไห้ เหลิ่งเซ่าถิงก็หลับตาลงอีกครั้ง เจี่ยนอี๋นั่วปาดน้ำตา เอนตัวลงบนเตียงแล้วหลับตาลงอีกครั้ง

พอฟ้าสาง รอเหลิ่งเซ่าถิงออกจากห้องไป เจี่ยนอี๋นั่วค่อยตื่นและลุกขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ต้องการทำเรื่องนี้ แต่เธอจำเป็นต้องสืบหาความจริงให้ได้ เธอทำเพื่อคุณพ่อของเธอ และเธอทำเพื่อเหลิ่งเซ่าถิงด้วย

เจี่ยนอี๋นั่วรีบหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋า เธอหยิบแว่นขยายจ้องมองคุณพ่อและเหลิ่งเซ่าถิงในรูปภาพซ้ำๆ เธอส่องดูอย่างละเอียด เจี่ยนอี๋นั่วกลับพบว่ามันแปลกๆ ถึงแม้ว่าชายในรูปนั้นจะเหมือนกับเหลิ่งเซ่าถิงมากๆ แต่ว่ารูปร่างนั้นผอมกว่าเหลิ่งเซ่าถิงหน่อยนึง และที่สำคัญลมหายใจที่เข้าออก ก็ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกห่างเหินเหมือนกับคนแปลกหน้า

เป็นไปได้ไหมว่านี่อาจจะไม่ใช่เหลิ่งเซ่าถิง?

เจี่ยนอี๋นั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจของเธอดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าเมื่อหลังจากดีใจได้ไม่นาน เธอก็รีบส่ายหัวไปมา พอเธอตั้งสติได้ เธอจำเป็นต้องใช้สติ เวลานี้เธอคาดหวังว่าชายในรูปถ่ายนั้นคงไม่ใช่เหลิ่งเซ่าถิง และทำให้เกิดภาพลวงตา เจี่ยนอี๋นั่วสูดหายใจเข้าลึกๆเธอมองไปทางหน้าต่าง กำลังเห็นเหลิ่งเซ่าถิงเดินออกจากคฤหาสน์ เดินไปทางโรงจอดรถ

เจี่ยนอี๋นั่วรีบหยิบมือถือขึ้นมา ถ่ายด้านข้างของเหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วหยิบรูปภาพและเอาภาพที่ถ่ายไว้เมื่อกี้นี้มาเปรียบเทียบดู เธอกล้าการันตีแล้วว่าชายในรูปถ่ายนั้นไม่ใช่เหลิ่งเซ่าถิงแน่นอน ไม่ใช่แน่นอน ถึงแม้ว่าภาพมันจะเบลอ อีกทั้งดูได้ยากมาก แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วสามารถแยกแยะได้ว่า ชายในรูปภาพนั้นแค่มีความคล้ายคลึงกับเหลิ่งเซ่าถิงเท่านั้น แต่ว่ามันไม่ใช่เหลิ่งเซ่าถิง

เจี่ยนอี๋นั่วถือรูปภาพนั้นไว้แล้วทรุดนั่งลงตรงพื้น ในใจของเธอทั้งดีใจ ทั้งรู้สึกผิด และความปีติยินดีว่าชายในภาพไม่ใช่เหลิ่งเซ่าถิง และการตายของคุณพ่อเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหลิ่งเซ่าถิงแม้แต่น้อย เธอรู้สึกผิด เธอเกือบจะใส่ความเหลิ่งเซ่าถิงเป็นคนที่ฆ่าคุณพ่อของเธอจริงๆ แค่อีกนิดเดียว การที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่คุณพ่อท่านเสีย ความเชื่อใจที่มีต่อเหลิ่งเซ่าถิงมันค่อยๆเปราะบางลง

แต่ว่าใครเป็นคนลงมือกันแน่? ทำไมถึงมีคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกับเหลิ่งเซ่าถิงมากขนาดนี้นะ?ทำไมถึงมีคนที่จะใช้การตายของคุณพ่อมาลดความเชื่อใจที่เธอมีต่อเหลิ่งเซ่าถิง?

เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวด เธออยากโทรไปหาเหลิ่งเซ่าถิงตอนนี้เลย แต่เมื่อเอาโทรศัพท์ขึ้นมา เธอก็วางโทรศัพท์ลง แผนการที่รัดกุมขนาดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เธอเกลียดชังเหลิ่งเซ่าถิงแค่นั้นแน่ พวกเขาต้องมีจุดประสงค์อื่นแฝงอยู่อย่างแน่นอนเวลานี้เธอห้ามทำตัวตื่นตระหนกตกใจ เธอจำเป็นต้องทำตามแผนของพวกเขา ถึงจะรู้ว่าคนสั่งการที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใคร และคนๆนั้น ต้องเป็นฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าคุณพ่อของเธอ

ต้องการล่อให้ออกมา เธอนั่นแหละเป็นเหยื่อในการล่อที่ดีที่สุด!

ถ้าหากบอกเหลิ่งเซ่าถิง เหลิ่งเซ่าถิงคงไม่ยอมให้เธอไปเสี่ยงแน่ และเหลิ่งเซ่าถิงจะต้องไปสืบหาและติดตามด้วยตัวเอง แต่คนที่วางแผนฆ่าพ่อของเธอ ผู้ที่นำเธอไปสู่ศัตรูของศัตรูของเหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วทนรอไม่ไหวที่จะไปสืบหาเอง อีกทั้งท่าทางของเหลิ่งเซ่าถิงก็แปลกๆ ถ้าหากไม่ใช่เขา ถ้าอย่างนั้นรูปถ่ายที่เขาเคยเห็น เขาน่าจะรู้ว่าใครที่จงใจวางแผนใส่ร้ายเขา แต่เป็นเพราะอะไรเขาถึงไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยล่ะ? เหลิ่งเซ่าถิงคิดอะไรอยู่กันแน่?

ตอนนี้สถานการณ์วุ่นวายมาก เจี่ยนอี๋นั่วไม่สามารถมองเรื่องต่างๆได้อย่างชัดเจน เธอเป็นทุกข์มากจนหน้าคิ้วขมวด เอามือก่ายหน้าผาก แต่เมื่อเทียบกับเมื่อวานที่เห็นรูปแวบแรกแล้ว เธอใจเย็นมากขึ้น เธอทายไม่ออกเลยจริงๆเหลิ่งเซ่าถิงต้องการทำอะไรกันแน่ เธอทำได้เพียงพยายามคิดคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใครกันแน่ ขั้นต่อไปยังมีแผนการอะไรอีก

ทันใดนั้นเจี่ยนอี๋นั่วหน้าคิ้วขมวด นึกถึงเหอหลวนเล่อ เพื่อเป็นการยืนยันอีกขั้นว่าเธอสงสัยเหลิ่งเซ่าถิง คนที่สั่งการอยู่เบื้องหลังคนนั้นคงจะลงมือกับเหอหลวนเล่อก่อนแน่นอน สมมุติว่าเธอยังไม่เห็นคนที่อยู่ในรูปภาพนั้นคือ“เหลิ่งเซ่าถิง”ที่อยู่ด้วยกันกับคุณพ่อของเธอแล้วล่ะก็ ต้องฆ่าปิดปากเหอหลวนเล่อแน่ ฉะนั้นควรทำให้เธอให้ความสนใจกับรูปภาพนั้น ถ้าหากเธอเห็นคนในรูปภาพนั้นคือ“เหลิ่งเซ่าถิง ถ้าเกิดอันตรายกับเหอหลวนเล่อ ก็จะทำให้เธอสงสัยเหลิ่งเซ่าถิงมากขึ้น เพื่อทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าเหลิ่งเซ่าถิงเป็นทำทุกอย่าง

ตอนนี้คนที่ควรระวังตัวมากที่สุด นั่นก็คือเหอหลวนเล่อ!

เจี่ยนอี๋นั่วรีบหยิบโทรศัพท์ โทรหาเหอหลวนเล่อ เธอรีบปรับอารมณ์ของตัวเอง ถามด้วยน้ำเสียงเข้ม:“เหอหลวนเล่อของขวัญที่เธอมอบให้เมื่อวานนี้ ฉันดีใจมากๆ วันนี้ช่วงบ่ายฉันเลี้ยงเธอดื่มชา ไปดื่มชากันเถอะ”

เหอหลวนเล่อรีบหัวเราะทันที:“ดื่มชาช่วงบ่าย พูดจริงพูดเล่นเนี่ย? นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชวนฉันนะเนี่ย ผู้หญิงคนอื่นๆไม่มีใครสนใจฉันสักคน และฉันยังไม่เคยดื่มชากับใครเลยนะ อี๋นั่ว เธอนี่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉันจริงๆเลย เห็นเธอดีกับฉันขนาดนี้ ฉันยอมให้เธอได้อยู่ด้วยกันกับพี่เซ่าถิงนานๆหน่อยละกัน”

เจี่ยนอี๋นั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยน้ำเสียงเบา:“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เธอกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้านเถอะ อย่าอยู่ข้างนอกคนเดียว ระยะนี้ฉันดูข่าว ข่าวที่ลักพาตัวเยอะมาก เธอไม่ใช่คนธรรมดา ควรมีบอดี้การ์ดติดตามสักสองสามคนนะ และยังต้องระวังรถยนต์ที่ขับผ่านไปผ่านมาด้วยนะ”

“ฮึม ฉันไม่เอาด้วยหรอก ชีวิตตัวคนเดียวมันอิสระจะตาย และอีกอย่างในรอบๆตัวฉัน…..”ทันใดนั้น สายโทรศัพท์ของเหอหลวนเล่อก็ตัดไป

เจี่ยนอี๋นั่วรีบตะโกนเสียงดัง:“หลวนเล่อ!หลวนเล่อเกิดอะไรขึ้นกับเธอ……”

จากนั้นสัญญาณก็หายไป เจี่ยนอี๋นั่งรีบกดโทรออกอีกครั้ง แต่ว่าไม่มีใครรับสายอีกเลย เจี่ยนอี๋นั่วรีบโทรติดต่อกับเพื่อนทางธุรกิจที่รู้จักในห้างสรรพสินค้า ถึงแม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วไม่เคยรู้จักกับคนในตระกูลเหอ แต่ว่าเพื่อนทางธุรกิจของเธอน่าจะรู้จักคนในตระกูลเหออย่างแน่นอน เจี่ยนอี๋นั่วก็สืบหาเบอร์โทรของคุณนายเหอจนเจอ และรีบโทรไปหา

คุณนายเหอยังไม่ค่อยชินกับนิสัยที่ใจร้อนของเหอหลวนเล่อ เธอถามด้วยความนอบน้อม:“สวัสดีค่ะ คุณคือใครคะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบพูดว่า:“คุณนายเหอคะ ฉันคือเจี่ยนอี๋นั่วค่ะ ขอโทษที่ฉันโทรหาคุณนะคะ แต่ว่าเมื่อกี้ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเหอหลวนเล่ออยู่ ฉันรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเธอ คุณนายเหอคะ รบกวนคุณช่วยสั่งคนให้ช่วยออกตามหาเธอด้วยเถอะค่ะ!”

คุณนายเหอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก:“ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรหาเธอดูก่อน……”

คุณนายเหอวางสายทันที เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวด ตื่นตระหนกและจับโทรศัพท์ไว้แน่น เธอไม่ได้สนิทอะไรกับเหอหลวนเล่อเท่าไหร่นัก ที่เรียกว่าเพื่อนรักนั้น มีเพียงเหอหลวนเล่อคนเดียวที่คิดเองเออเองเท่านั้น แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วไม่อยากให้เหอหลวนเล่อต้องตกเข้ามาอยู่ในวงจรนี้ ไม่ว่าคนอื่นคิดจะหลอกใช้เธอ หรือว่าคนอื่นคิดจะจัดการเธอ แต่เหอหลวนเล่อเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ควรเป็นเครื่องมือหลอกใช้ของคนอื่น และเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบนี้

คุณนายเหอรีบโทรกลับมา ร้องไห้ฟูมฟายพูดว่า:“ฉันก็โทรหาเธอไม่ติดเลย ควรทำอย่างไรดี?”

“คุณนายเหอรีบแจ้งให้คุณผู้ชายและคนในครอบครัว และรีบโทรแจ้งตำรวจ สามารถค้นหาตำแหน่งจากโทรศัพท์ของเธอ และรถของเธอมีติดตั้งGPSไหมคะ?มีบอดี้การ์ดติดตามด้วยไหมคะ?ต้องหาตัวเธอให้พบโดยเร็ว!”เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบ

คุณนายเหอรีบตอบกลับ:“ได้ๆ ฉันจะไปแจ้งให้คนในครอบครัวทราบเดี๋ยวนี้”

เมื่อได้ยินคุณนายเหอกดวางสายแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วไม่สามารถรอต่อไปได้ เธอรีบเดินออกจากคฤหาสน์เหลิ่ง ขับรถออกไปตามหาตามถนน เธอหาไปเรื่อย ๆอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย และอารมณ์แบบนี้มันคล้ายกับตอนที่เธอกำลังตามหาคุณพ่อเธอ เธอรู้สึกกลัวมาก กลัวว่าเป็นเพราะเธอจะทำให้สูญเสียอีกหนึ่งชีวิต ถ้าหากว่ามีคนวางแผนแผนการนี้ไว้ทั้งหมดอยู่แล้ว เพียงเพราะต้องการวางแผนใช้เธอและหลอกใช้เธอ ถ้าอย่างนั้นการที่คุณพ่อของเธอตายเป็นเพราะว่าเธอเป็นต้นเหตุล่ะ

จะให้เธอมาตายเพิ่มอีกคนไม่ได้นะ?

เจี่ยนอี๋นั่วขับรถวนหาประมาณสองถึงสามชั่วโมง คุณนายเหอถึงโทรศัพท์กลับมา เจี่ยนอี๋นั่วเอารถจอดชิดข้างทาง มองดูโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด ในขณะนั้นเธอไม่กล้าที่จะรับสาย เธอไม่อยากได้ยินข่าวร้ายอีกแล้ว

ลังเลไปสักพักใหญ่ๆ เจี่ยนอี๋นั่วพึ่งจะรับสาย ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า:“ฮาโหล คุณนายเหอคะ เหอหลวนเล่อเธอ……”

“หาเหอหลวนเล่อเจอแล้ว เธอถูกรถพุ่งชนจนรถเกิดเป็นรอยนิดหน่อย ไม่ได้เป็นอะไรมาก”คุณนายเหอหัวเราะพูดว่า:“ยังดีที่เป็นแผลแค่นิดเดียว ขอบคุณเธอมากๆนะ ที่เป็นห่วงเป็นใยหลวนเล่อ”

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ถูกเหอหลวนเล่อแย่งไป เธอหัวเราะพูดขึ้นว่า:“อี๋นั่ว เธอไม่รู้หรอกว่าฉันร้ายกาจขนาดไหน ฉันหันหลังหลบก็หลบพ้นแล้ว แต่ว่ารถคันนั้นเหมือนคนบ้าจริงๆเลย พุ่งมาโดยไม่ทันตั้งตัว ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอโทรหาฉัน พอฉันยืนทรงตัวได้ มองดูบริเวณรอบๆ ฉันเกือบจะโดนชนแล้วล่ะ!”

“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว……”เจี่ยนอี๋นั่วทนไม่ไหวน้ำตาก็ไหลออกมา

ยังดี……ยังดีที่ยังมีชีวิตอยู่!ยังไม่ตาย เป็นเรื่องที่โชคดีมากจริงๆ!

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท