หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 117 เชื่อฉัน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

“ยัง……ยังมีชีวิตอยู่” เจี่ยนอี๋นั่วพูดเสียงสั่น: “เป็นไปได้ยังไง? ฉันยิงที่หน้าอกไม่ใช่หรอ? มันแกล้งตายงั้นหรอ”

เจี่ยนอี๋นั่วเช็ดน้ำตาของเธออย่างแรง มองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง พยายามสงบสติอารมณ์และพูดตัวสั่นว่า: “เซ่าถิง ฉันมีอะไรจะบอก…… แต่ที่นี่ไม่ค่อยสะดวก เธอช่วยประกันตัวฉันออกไปก่อนได้ไหม แล้ว คุยกับเธอเป็นการส่วนตัวได้หรือเปล่า? ฉันมีหลายอย่างที่จะบอกเธอ ฉันถูกใส่ร้าย ฉันไม่ได้จะทรยศเธอจริงๆ ”

เหลิ่งเซ่าถิงหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและเปิดเสียง เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินการสนทนาจากโทรศัพท์

“ เหลิ่งเซ่าถิงไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ” เสียงของเหลิ่งหมิงอัน

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันคิดว่า…… ตอนนี้ฉันเป็นคนที่สนิทกับเขามากที่สุด บางทีฉันอาจจะวางยาเขา หรือไม่ก็ฆ่าเขาด้วยมีดเล่มเดียว” เสียงของเจี่ยนอี๋นั่ว

เจี่ยนอี๋นั่วจำได้ว่านี่เป็นบทสนทนาที่เธอจงใจเข้าหาเหลิ่งหมิงอัน หลังจากรู้ว่าเหลิ่งเซ่าถิงไม่ใช่คนฆ่าพ่อของเธอ เจี่ยนอี๋นั่วกระพริบตาอย่างรวดเร็วปิดปากและส่ายหัว พูดว่า: “มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ฉันอธิบายได้”

เหลิ่งเซ่าถิงมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว ขมวดคิ้วและพูดว่า: “ฉันไปหาคนมาตรวจสอบเสียงนี้แล้ว มันเป็นเสียงของเธอและเหลิ่งหมิงอัน ไม่ใช่การตัดต่อ เหลิ่งหมิงอันบอกว่าเธอพยายามเข้าหาเขา ร่วมมือกับเขาเพื่อกำจัดฉัน แต่เขาไม่เอาด้วยก็เลยอัดเสียงนี้มา”

เหลิ่งเซ่าถิงมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยดวงตาสีแดงและพูด: “เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันทำอะไรให้เธอเกลียด ทำให้เธออยากฆ่าฉัน?”

เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆ ร้องไห้และพูดว่า: “ฉันไม่ได้อธิบายให้เธอเข้าใจตั้งแต่แรกมันเป็นความผิดของฉัน แต่สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเห็นจริงๆ แม้ว่าทุกอย่างจะเป็นสิ่งที่ฉันพูดเอง ฉันก็เต็มใจที่จะพูดทุกอย่างจริงๆแล้วการตายของพ่อของฉัน เหลิ่งหมิงอันเป็นคนวางแผน เหลิ่งหมิงอันอยู่กับชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนเธอมาก และจงใจถ่ายภาพชายคนนั้นและพ่อของฉันในเวลาเดียวกัน รูปถ่ายของสถานที่ที่เขาถูกฆ่า ทำให้ฉันคิดว่าเธอฆ่าพ่อของฉันเพราะก่อนหน้านี้เหลิ่งหมิงอันเอาแต่บอกใบ้กับฉันว่าเธอจะผูกขาดคนที่เธอชอบและเธอไม่ยอมให้คนสำคัญคนอื่นๆรอบตัวฉันรอด ทำให้เธอมีแรงจูงใจที่จะฆ่าพ่อของฉัน……”

เจี่ยนอี๋นั่วเช็ดน้ำตาของเธอ เธอพยายามอธิบายทุกอย่างให้เหลิ่งเซ่าถิงเข้าใจ เธอจะไม่ปล่อยให้เหลิ่งเซ่าถิงเข้าใจเธอผิด เจี่ยนอี๋นั่วสำลักและพูดว่า: “ตอนนั้นฉันสงสัยเธอ และตอนนี้เธอสงสัยฉัน ฉันเข้าใจแล้วนี่เป็นเรื่องปกติ ฉันคิดว่าเธอฆ่าพ่อของฉัน ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร ฉันไม่กล้าที่จะถามเธอ ไม่กล้าบอกเธอ ฉันก็เลยกาความจริงด้วยตัวเอง ทำให้ฉันรู้ว่าผู้ชายในรูปคล้ายเธอ แต่มันไม่ใช่เธอ ทำให้ฉันมีความสุขมาก ฉันก็เลยหาความจริงต่อไป”

“ ตอนนั้นเธออารมณ์ไม่คงที่ ฉันไม่รู้ว่าควรจะอธิบายให้ฟังดีไหม ขอโทษ ตอนนั้นฉันยุ่งเกินไป ฉันไม่ควรซ่อนสิ่งนี้ฉันควรพูดกับเธอและพูดคุยกับเธอ ไม่งั้นคงไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันเหมือนตอนนี้ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของฉัน ฉันคิดว่าทุกอย่างง่ายเกินไป ฉันไม่รู้ว่าการสู้กับตระกูลเหลิ่งเป็นเช่นนั้น มันโหดร้าย ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันประเมินมันต่ำไป”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เจี่ยนอี๋นั่วเช็ดน้ำตาและมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิงอย่างประหม่า เธอมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิงอย่างเย็นชาและเขามองเธอราวกับว่าเขากำลังมองดูตัวตลกที่กำลังพยายามแสดง

หัวใจของเจี่ยนอี๋นั่วเย็นชา ทันใดนั้นเธอก็สูญเสียความกล้าที่จะพูดต่อ เธอกลัวว่าหลังจากที่เธอพูดทุกอย่าง เหลิ่งเซ่าถิงก็ยังไม่เชื่อเธอ แต่ถ้าเธอไม่พูดให้ชัดเจนก็จะไม่มีโอกาสที่เหลิ่งเซ่าถิงจะเชื่อเธอ

เจี่ยนอี๋นั่วขยี้ตา ร้องไห้และพยายามสงบสติอารมณ์: “จากนั้นฉันก็เลยยังแกล้งทำเป็นคิดว่าเธอเป็นคนฆ่าพ่อฉัน ฉันต้องเอาตัวฆาตกรออกมาก่อน ฉันไม่บอกเธอเพราะถ้าบอก เธอต้องไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ถ้ามีคนที่คล้ายเธอทำเรื่องแบบนั้น เธอต้องไม่สบายใจ ฉันก็เลยใช้ร่างกายของฉันเป็นเหยื่อและถือรูปถ่ายเพื่อระบุตัวตน ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด เหลิ่งหมิงอันปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิด ฉันรู้ว่าคนที่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าฉันได้อย่างรวดเร็ว ต้องเป็นคนที่วางแผนทั้งหมดนี้ไว้แล้ว ฉันแสร้งทำเป็นว่าเธอเป็นฆาตกร คิดตามแผนของเหลิ่งหมิงอัน และเจอกับคนที่หน้าตาเหมือนกับเธอ น่าจะเป็นพี่ชายฝาแฝดของเธอ เขายังไม่ตาย……แต่เขามีมือข้างเดียว ”

“เหอะ……” เหลิ่งเซ่าถิงยิ้มเยาะตาแดงก่ำ “พี่ชายของฉันตายไปแล้วตอนที่เขายังเด็ก ฉันรอคอยรอให้เธอพูดความจริงแต่เธอกลัวแต่งนิทานแบบนี้ ใช้เวลานานไหมกว่าจะคิดได้? เอาล่ะ ถ้าเธอบอกว่ามีรูปนั้น แล้วไหนล่ะ? มีคนเคยเห็นไหม?”

“ฉันไม่มี เธอไม่ใช่…… ” เจี่ยนอี๋นั่วจ้องไปที่เหลิ่งเซ่าถิง และหยุดพูดกะทันหัน

เจี่ยนอี๋นั่วปกปิดประโยคที่ว่า: “เธอเคยเห็นไม่ใช่หรอ?” ไม่มีใครรู้ว่าเหลิ่งเซ่าถิงได้เห็นภาพนั้น แต่เจี่ยนอี๋นั่วรู้ และเหลิ่งเซ่าถิงจงใจดึงส่วนนั้นของภาพถ่ายออกมา จะรู้ได้ยังไงว่าพี่ชายฝาแฝดของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาน่าจะรู้ดีกว่าเธอ

นั่นคือพี่ชายฝาแฝดของเขา จะมีใครคุ้นเคยมากกว่าเขาอีกงั้นหรอ?

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องไปที่เหลิ่งเซ่าถิง เธอพยายามดูคำใบ้เล็กน้อยจากใบหน้าของเหลิ่งเซ่าถิง และมันแสดงออกว่าเหลิ่งเซ่าถิงเข้าใจทุกอย่าง ตอนนี้ที่ไม่เชื่อเป็นเพียงการแสดง แต่เจี่ยนอี๋นั่วมองไม่เห็นอะไรเลยเธอลดศีรษะลงและกวาดมุมปากของเธอ ตัดสินในใจ เธอตัดสินใจที่จะเชื่อในเหลิ่งเซ่าถิง ฉันเชื่อว่าเหลิ่งเซ่าถิงจะไม่สงสัยเธอง่ายๆและเหลิ่งเซ่าถิงจะไม่ปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี่

บางทีเหลิ่งเซ่าถิงอาจจำเป็นจะต้องไม่ไว้ใจเธอ ต้องแยกจากเธอ ดังนั้นเหลิ่งเซ่าถิงจึงต้องเลือกที่จะทำตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากเหลิ่งเซ่าถิงต้องการทำราวกับว่าเขาไม่เชื่อเธอและต้องการเลิกรากับเธอเธอจึงร่วมมือกับเหลิ่งเซ่าถิงเพื่อแสดงเรื่องนี้ต่อไป

เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆแล้วร้องไห้ พูดต่อว่า: “เธอเคยบอกว่ารักฉันไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ความรักนั้นไม่มีค่าเลยหรอ? ความรักมันเป็นแบบไหน? รักกันต้องเชื่อใจกันไม่ใช่หรอ? ”

เหลิ่งเซ่าถิงกระพริบตาช้าๆ เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาของเธอหรือไม่ เธอรู้สึกว่าดวงตาของเหลิ่งเซ่าถิงไม่เย็นชาอีกต่อไป แต่น้ำเสียงของเหลิ่งเซ่าถิงยังคงเย็นชา: “เธอเคยสงสัยในตัวฉันไม่ใช่หรอ? เธอบอกว่าเธอเชื่อฉันมาก แต่ถึงแม้ว่าสิ่งที่เธอพูดจะเป็นความจริง แต่เธอก็สงสัยฉันเพียงเพราะรูปถ่ายไม่ใช่หรอ? เธอเป็นแบบนี้ มีคุณสมบัติอะไรบ้างที่จะเชื่อได้?”

เจี่ยนอี๋นั่วก้มศีรษะลง เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งเซ่าถิง ตะโกนพูดออกมาว่า: “ทำไมเธอถึงไม่เชื่อฉัน? ทำไมไม่เชื่อฉัน? ฉันไม่ได้ฆ่าเอจริงๆและฉันก็ทำไม่ได้ และฉันก็ไม่ได้ทรยศเธอ เหลิ่งหมิงอันจับฉันหว้ ฉันหนีอย่างยากลำบาก แต่เธอมาสงสัยตัวฉันแบบนี้หรอ? เพียงเพราะหลักฐานพวกนั้นหรอ?”

ทันใดนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง เธอร้องไห้และพูดว่า: “เธอมองตาฉันสิ มองตาฉัน เธอไม่เชื่อฉันจริงๆหรอ?”

“ความเชื่อ? ” เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว และพูดเบาๆว่า: “มันมีไว้ใช้สำหรับคนที่สมควรเท่านั้น”

เหลิ่งเซ่าถิงไม่กล้ามองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว เขาลุกขึ้นยืนทันทีและพูดด้วยว่า:“ เหลิ่งหมิงอันสนใจในตัวเธอ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเธอ เธอเองก็พูดได้น่าเกลียดเกินไป ฉันไม่ยอมให้คนอื่นหักหลังฉัน เจี่ยนอี๋นั่ว เธอควรสารภาพผิดอย่างเชื่อฟังและเข้าคุกด้วยความสบายใจ ยิ่งเธอดิ้นรนมากเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น ”

หลังจากที่เหลิ่งเซ่าถิงพูดจบ เขาก็เดินตรงออกจากห้อง เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาลงและเธอสรุปได้ว่าเหลิ่งเซ่าถิงจงใจแสร้งทำเป็นไม่เชื่อเธอ เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เธอถูกใส่ร้ายนั้นไม่ได้วางแผนโดยเหลิ่งเซ่าถิงอย่างแน่นอน เหลิ่งเซ่าถิงแสดงออกว่าเขารู้แล้ว แต่เหลิ่งเซ่าถิงตัดสินใจทำอะไร? เขาอยากส่งเธอเข้าคุกจริงหรอ? ให้เธอโดนข้อหาฆาตกรรม?

เจี่ยนอี๋นั่วยังคงคิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจี่ยนอี๋นั่วเต็มใจที่จะเชื่อในเหลิ่งเซ่าถิง เธแเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องยากแต่ทำไปก็เพื่อปกป้องเธอ

เจี่ยนอี๋นั่วเป็นห่วงเพียงแค่เหลิ่งเซ่าถิง หากสถานการณ์ในปัจจุบันวิกฤตมากจนต้องใช้วิธีที่โหดร้ายนี้เพื่อแยกความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเธอ ตอนนี้เหลิ่งเซ่าถิงน่าจะอันตรายมากและสิ่งที่เขากำลังจะทำมันอันตรายมาก ถ้าเป็นอดีตเจี่ยนอี๋นั่ว เธอคงบอกให้เหลิ่งเซ่าถิงปล่อยให้เธออยู่เคียงข้างเขาไปกับเขา แต่หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วเผชิญหน้ากับตระกูลเหลิ่ง เจี่ยนอี๋นั่วก็พบว่าเธอไม่สามารถสู้กับคนเหล่านี้ได้ ถ้าเธออยู่ข้างเหลิ่งเซ่าถิงอาจจะกลายเป็นภาระของเขา

เธอไม่สามารถช่วยเขาได้ งั้นก็ต้อวปกป้องตัวเองอยู่ที่นี่ รอให้เหลิ่งเซ่าถิงกลับมาพร้อมชัยชนะ

เมื่อตำรวจเข้ามาอีกครั้ง เจี่ยนอี๋นั่วก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่ตำรวจโดยไม่คิดอะไร

ตำรวจพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชากับเจี่ยนอี๋นั่ว: “เป็นยังไงบ้าง? คนก็ได้เจอแล้ว คนอย่างประธานเหลิ่งเจียดเวลามาพบเธอ ก็ถือว่าให้เกียรติเธอมากแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ยอมรับสารภาพ”

เจี่ยนอี๋นั่วแสดงสีหน้างุนงง เงยหน้าขึ้นมองตำรวจและตะโกนว่า: “โอเค ฉันยอมรับ ฉันฆ่าเอง ฉันทำทุกอย่าง ในเมื่อเขาไม่เชื่อฉัน ฉันก็จะยอมรับทุกอย่างเอง มีข้อหาอะไรอีก เอามาให้หมด! ฆาตกรรมหรือการปล้นใดๆ โยนมาให้ฉัน ฉันจะยอมรับสารภาพทั้งหมด พอใจหรือยัง! ”

เหลิ่งเซ่าถิง ฉันเจี่ยนอี๋นั่วจะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดของชีวิตเพื่อยืนยันความไว้วางใจในตัวเธอ นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด และการที่ฉันตกหลุมรักเธอเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของฉัน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท