หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 138 ให้เธอทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เมื่อผู้คุมได้ยินที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดเธอก็หันหน้ามามองเจี่ยนอี๋นั่ว เธอขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก่อนจะรีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า : “ไม่ได้ เธอยังไม่ต้องไปหรอก ให้ฉันปรึกษากันกับหัวหน้าก่อนแล้วกัน”

“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันคงรอนานขนาดนั้นไม่ได้” เจี่ยนอี๋นั่วคลายคิ้วที่ขมวดของเธอก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป เยี่ยหมิจูที่เห็นเจี่ยนอี๋นั่วออกไปแล้วนั้น เธอก็ขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะวิ่งตามหลังเจี่ยนอี๋นั่วไปทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้น นักโทษหญิงคนอื่นๆจึงถามผู้คุมขึ้นว่า : “ผู้คุมคะ จะปล่อยให้พวกเธอไปแบบนี้หรอคะ?”

ผู้คุมมองตามหลังของเจี่ยนอี๋นั่วและเยี่ยหมิงจู ก่อนจะเม้มริมฝีปากของตัวเองแรงๆแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มว่า : “ฉันรู้หน่า”

เมื่อผ่านไปได้สักพัก ผู้คุมก็ยกเครื่องส่งรับวิทยุขึ้นมาก่อนจะพูดเสียงเข้มว่า : “แจ้งให้ทราบ นักโทษหมายเลข983และ786ได้ออกจากทีมไป ฉันไม่สามารถห้มพวกเธอได้ หากใครพบนักโทษหมายเลข 983และ786 ให้รีบพวกเธอไปที่สนามกีฬาให้เร็วที่สุด”

หลังจากที่ผู้คุมพูดจบ ก็ปิดเครื่องงรับส่งวิทยุทันที พร้อมกับถอนหายใจออกมา

“ซวงซวงยังเด็กอยู่ จะวิ่งไปที่ไหนกันนะ?” เยี่ยหมิงจูพูดด้วยความตื่นตระหนก น้ำเสียงของเธอนั้นสั่นอย่างไม่สามารถคุมได้

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วก่นอจะพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ : “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่น่าจะวิ่งไปได้ไม่ไกลหรอก หารอบๆแถวๆนี้คงหาเจอแน่นอน”

น้ำเสียงของเจี่ยนอี๋นั่วนั้นนิ่งราวกับสถานการณ์ปกติ ราวกับว่าเด็กน้อยคนที่หายไปนั้นไม่ใช่ลูกของเจี่ยนอี๋นั่ว แต่เป็นลูกสาวของเยี่ยหมิงจูยังไงอย่างนั้น เยี่ยหมิงจูมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วอย่างอย่างประหลาดใจ เธอมองใบหน้าที่มีท่าทีที่ปกติขงเจี่ยนอี๋นั่ว แล้วเธอก็ก้มหน้าไปมองมือของเจี่ยนอี๋นั่วที่สั่นไม่หยุด

ควันโขมงนั้นนานเข้าก็ยิ่งมากขึ้น เจี่ยนอี๋นั่วตามหาเจี่ยนซวงไปทุกทีพร้อมกับตะโกนเรียกลูกสาวเสียงดัง : “เจี่ยนซวง…….ชวงชวง……..หม่าม้าอยู่นี่ค่ะ มาหาหม่าม้าเร็ว”

เจี่ยนซวงเดินเข้าไปในห้องขังที่ว่างเปล่าอย่างช้าๆ เธอหลงทางเข้าแล้ว จึงทำได้เพียงพยายามหาทางกลับไปที่ห้องขังของเจี่ยนอี๋นั่วเท่านั้น ถึงแม้ว่าเจี่ยนชวงนั้นจะโตเร็ว แต่เธอก็เป็นแค่เด็กสามขวบเท่านั้น จึงไม่สามารถหาทางกลับท่ามกลางควันโขมงเหล่านั้นได้

ควันไฟเหล่านั้นทำให้เจี่ยนซวงไอและร้องไห้ออกมาพร้อมกับตะโกนสุดเสียงว่า : “แค่กๆ…..หม่าม้าคะ……..หม่าม้า……แค่กๆ…….”

เจี่ยนซวงทั้งเดินไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย พร้อมกับตะโกนไปด้วย เพียงผ่านไปได้ไม่นานเธอก็สำลักควันไฟจนไม่สามารถพูดได้ เธอเอามือมาปิดปากก่อนที่จไอออกมาอีกสองสามที และในทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเจี่ยนอี๋นั่วเรียกชื่อของเธอขึ้นมา

เจี่ยนซวงยิ้มออกมาทันทีก่อนจะวิ่งตามเสียงของเจี่ยนอี๋นั่วไป พร้อมกับตะโกนสุดเสียงของเธอ : “หม่าม้าคะ……”

แต่เมื่อเจี่ยนซวงเปล่งเสียงออกมา ในทันใดนั้นก็มีมือของใครบางคนมาปิดปากแล้วก็อุ้มเธอขึ้นมา เจี่ยนซวงกันหน้ากลับไปมองคนนั้น เจี่ยนชวงเห็นเฉิงซานซานที่เอามือปิดปากเธอ พร้อมกับแสยะยิ้มมาหาเธอ เฉิงซานซานพูดกับเจี่ยนซวงว่า : “ซวงซวง ฉันจะพาเธอไปในที่ที่สนุกๆนะ”

เจี่ยนซวงเบิกตาโตทันทีก่อนจะดิ้นอย่างสุดแรง แต่เจี่ยนซวงก็ดิ้นไม่หลุด เพราะเธอถูกเฉิงซานซานอุ้มเธอไว้จนสุดแรงและปิดปากเอาไว้แน่น ก่อนที่พาเจี่ยนซวงเดินเข้าไปในกลุ่มควันนั้น

เฉิงซานซานอุ้มเจี่ยนชวงไปอย่างสุดกำลังของเธอ ก่อนจะพูดกับเด็กน้อยว่า : “ชวงชวง ได้อุ้มหนูแล้วรู้สึกเนื้อของหนูมันนุ่มนิ่มจังนะ อย่างกับลูกชิ้นเนื้อแหนะ ถ้าเกิดลูกชายฉันเกิดมาก็คงจะเหมือนกันกับหนู หนูน่าจะต้องเรียกเขาว่าพี่ชายนะ ไม่สิ เขาต้องดีกว่าหนูแน่ๆ เพราะว่าเขาคือลูกชายของหมิงเซวียน เอามาเทียบกับคนอย่างหนูไม่ได้หรอก ซวงซวง ฉันกำลังจะทำบางอย่างที่มันทำให้แม่ของหนู ต้องทุกข์ไปตลอดชีวิต หนูช่วยฉันหน่อยได้มั้ย? ต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังที่ฉันพูดนะรู้มั้ย? หนูไปตายในควันโมงนั่นซะ ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดมาก แต่นี่เป็นการลงโทษของเธอ ใครให้เธอ…….เกิดมาเป็นลูกสาวของเจี่ยนอี๋นั่วล่ะ?”

เจี่ยนซวงดิ้นอย่างสุดแรงของตน เมื่อเธอรู้ว่าเธอดิ้นยังไงก็คงดิ้นไม่หลุด เจี่ยนซวงตัวน้อยในภาวะที่ตื่นตระหนกนี้ เธอคิดว่าจะทิ้งร่องรอยให้แม่ของเธอตามหาเธอ เธอจึงพยายามทิ้งรองเท้าแตะของตนเองลงไป

“ซวงซวง…….” เจี่ยนอี๋นั่วที่กำลังเรียกชื่อเจี่ยนซวงอยู่นั้นตามหาเจี่ยนซวงไปจนทั่ว แล้วจู่ๆเธอก็ยื่นนิ่งก่อนจะหันไปดูรอบๆ

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วขึ้นก่อนจะหันมาพูดกับเยี่ยนหมิงจูที่อยู่ข้างๆเธอ : “เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงของซวงซวงมั้ย?”

เยี่ยหมิงจูส่ายหัวก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะร้องไห้ของเธอ : “ไม่ได้ยินนะ เธอหลอนหูฝาดไปเองรึเปล่า?”

“ไม่…..ไม่ใช่…….เมื่อกี้ฉันได้ยินจริงๆ ได้ยินมาจากทางนั้น” เจี่ยนอี๋นั่วชี้ไปทางกลุ่มควันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า : “เราไปดูทางนั้นกันเถอะ”

หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เยี่ยหมิงจูก็วิ่งตามเธอไปทันที วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว เจี่ยนอี๋นั่วก็เห็นรองเท้าของเจี่ยนซวงที่ตกอยู่บนพื้น เธอรีบเก็บมันขึ้นมาก่อนจะหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดด้วยวามตื่นตระหนกว่า : “นี่คือร้องเท้าของซวงซวง ซวงซวงผ่านมาตรงนี้! ซวงซวงชอบรองเท้าคู่นี้มาก ไม่ยอมให้มันตกง่ายๆแบบนี้แน่ ซวงซวงไม่ได้เก็บมันแบบนี้ต้องมีคนจับเธอไปแน่ๆ”

เจี่ยนอี๋นั่วคิดได้เช่นนั้นก็เบิกตาโตขึ้นมาทันที : “เฉิงซานซาน….”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม : “ต้องเป็นเฉิงซานซานแน่ๆที่กลับมาในช่วงวุ่นวายแบบนี้ เฉิงซานซานเป็นคนที่หาตัวชวงชวงเจอ แล้วก็เอาตัวซวงซวงไป”

เจี่ยนอี๋นั่วมองเยี่ยหมิงจูก่อนจะพูดเสียงสั่น : “เราแยกกันหาเถอะ ซวงซวงน่าจะอยู่แถวนี้แหละ แต่ต้องระวังด้วยนะ ไม่ต้องเรียกชื่อซวงซวง ไม่อย่างนั้นเฉิงซานซานจะรู้ตัวซะก่อน”

เยี่ยหมิงจูพยักหน้า ก่อนจะรีบหันหลังไปหาเจี่ยนซวงอีกทางหนึ่ง

เจี่ยนอี๋นั่วตามหาเจี่ยนซวงลูกของเธอท่ามกลางกลุ่มควันไฟ ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของซวงซวงขึ้นมา เจี่ยนอี๋นั่วรีบวิ่ไตามต้นเสียงร้องไห้นั้นทันที ตอนที่เจี่ยนอี๋นั่วไปถึง เธอก็เจอเจี่ยนซวงที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้แล้วก็ร้องไห้เสียงดัง บนร่างของเจี่ยนซวงนั้นมันเยิ้มไปหมดราวกับถูกราดด้วยน้ำมัน

มือขวาของเฉิงซานซานไคว้หลังไว้ ส่วนมือซ้ายของเธอนั้นก็ถือไฟแช็กอยู่ เมื่อเธอเห็นว่าเจี่ยนอี๋นั่ววิ่งเข้ามาแล้ว เฉิงซานซานก็พูดขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้มว่า : “อี๋นั่ว เธอมาไวขนาดนี้เลยหรอ เป็นแม่ลูกที่ดีจังเลยน้า ฉันน่ะซาบซึ้งจริงๆเลย เธอมาถึงไวขนาดนี้มาได้ทันเวลาพอดีเลยนะ มาทันเห็นลูกสาวของเธอถูกไฟเผาไง”

“โดนไฟเผาเนี่ย คงจะเป็นการตายที่ทรมานที่สุแล้วมั้ยนะ? ฉันน่ะชอบจริงๆ” เฉิงซานซานพูดถึงตรงนี้ เธอก็ยิ้มแปลกๆให้กับเจี่ยนอี๋นั่วทันที : “ฉันชอบมากๆเลยล่ะ…..เธออยากได้ยินเสียงลูกสาวของเธอร้องด้วยความเจ็บปวดมั้ย? ฉันทำให้เธอได้นะ”

เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนเสียงดัง : “เธออย่าทำแบบนั้นนะ! คนที่เธอควรจะแค้นคือฉัน ไม่ใช่ลูกของฉัน เธอควรจะเผาฉันที่ฉันทำให้เธอต้องเสียลูกไป”

“ใช่ ที่เธอพูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน” เฉิงซานซานแสะยิ้มแล้วพูด : “ดี ทางนั้นมน้ำมันเบนซิลอยู่ เอามาราดตัวเธอสิ”

เจี่ยนอี๋นั่วเห็นถังน้ำมันและกล่องไม้ขีดไฟอยู่บนพื้น เจี่ยนอี๋นั่วก็หยิบถังนั้นมันนั้นขึ้นมาราดร่างกายของตัวเองโดยไม่ลังเลใดๆ เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วเปียกโชกไปด้วยน้ำมันแล้ว เธอก็เห็นเยี่ยหมิงจูแอบย่องเข้ามาเงียบๆ เจี่ยนอี๋นั่วกระพริบตาใส่เยี่ยหมิงจู ให้เยี่ยหมิงจูโจมตีเฉิงซานซานจากด้านหลัง

เมื่อเยี่ยหมิงจูเข้าใจในสิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วส่งมาแล้วนั้น เธอก็แอบย่องเข้าไปทางหลังของเฉิงซานซานอย่างเงียบๆ ตอนนี้เจี่ยนอี๋นั่วต้องเบี่ยงเบนความสนใจของเฉิงซวานซานมาที่เธอ เพื่อให้เยี่ยหมิงจูนั้นเข้าใกล้เฉิงซานซาานมากยิ่งขึ้น

เฉิงซานซานยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า : “จุดไฟสิ เผาตัวเองซะ ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะสงเคราะห์ให้เด็กคนนี้ตายแทนเธอ”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดเสียงทุ้ม : “ได้ ตกลง ฉันกำลังจะทำ……”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดและหยิบกล่องไม้ขีดไฟขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆหยิบไม้ขีดจากในกล่องอันนึง การกระทำของเจี่ยนอี๋นั่วเป็นไปอย่างเชื่องช้า เธอพยายามอย่างมากเพื่อจะถ่วงเวลาเอาไว้ เฉิงซานซานมองทุกการกระทำของเจี่ยนอี๋นั่ว ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา : “เจี่ยนอี๋นั่ว เธอมีวันนี้ด้วยหรอ? เธอจะอืดอาดอยู่อีกหรอ รีบจุดไฟสิ จุดไฟเผาตัวเธอเองซะ”

เจี่ยนอี๋นั่วเห็นว่าเยี่ยหมิงจูนั้นอยู่ข้างหลังของเฉิงซานซานแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น : “เฉิงซานซาน เธอจะทำร้ายซวงซวงไม่ได้นะ เพราะซวงซวงเป็นลูกของหมิงเซวียน….”

“อะไรนะ?” เฉิงซานซานตกใจจนเบิกตาโต

และในตอนนั้น เยี่ยหมิงจูก็สะบัดมือในมือของเธอแล้วก็แทงเข้าไปที่มือของเฉินซานซานข้างที่จับไฟแช็กอยู่ เฉิงซานซานร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อเห็นว่าไฟแช็กในมือของเฉินซานซานตกลงมาที่พื้นแล้ว เจี่ยนอี่นั่วก็รีบวิ่งไปหาเจี่ยนซวงงันที

เฉิงซานซานมองไปที่มือซ้ายของตนที่มีเลือดไหลออกมา มืออีกข้างของเธอที่ไคว้หลังไว้ตลอดนั้นก็ยกมีดขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนออกมาว่า : “ซวงซวงไม่มีทางเป็นลูกของหมิงเซวียนแน่นอน แกหลอกฉัน!”

เฉิงซานซานตะโกนไปด้วยพร้อมกับยกมีดมีขึ้นมาและตรงไปที่เจี่ยนซวง เจี่ยนอี๋นั่วรีบเอาตัวมาบังให้เจี่ยนซวงอย่างรวดเร็ว และแล้วมีดคมนั้นก็ทีมแทงเข้าไปที่ไหล่ของเจี่ยนอี๋นั่วทันที เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาลงอย่างเจ็บปวด

“เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันจะฆ่าแก!” เฉิงซานซานดึงมีดออกสุดแรงของเธอ ก่อนที่เธอจะยกมีดขึ้นเตรียมที่จะแทงเจี่ยนอี๋นั่วอีกครั้ง

ทันใดนั้น ผู้คุมสองคนก็วิ่งเข้ามาทันที ก่อนจะตะโกนขึ้นเสียงดังว่า : “เฉิงซานซาน! เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าเธอยังทำร้ายคนอื่นอีก เธอก็อยู่ในเรือนจำนี้ไปตลอดชีวิตได้เลย!”

เฉิงซานซานหยุดชะงักทันทีก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างตื่นตระหนก แล้วเธอก็ถอยหลังไปทีละก้าวๆเรื่อยๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก : “ฉัน……ฉันไม่อยู่ในเรือนจำนี้ต่อแล้ว ไม่…..ฉันไม่อยากอยู่……ฉันจะออกไปหาลูกชายของฉันกับหมิงเซวียนของฉัน ฉันไม่อยากอยู่ในนี้ต่อแล้ว……”

เมื่อเฉินซานซานพูดถึงตรงนี้ เธอก็อามีดนั้นแทงเข้าทีคอของตัวเองจนเลือดก็พุ่งออกมาทันที เจี่ยนอี๋นั่วรีบเอามือไปปิดตาของเจี่ยนซวง ก่อนจะพูด : “ชวงชวงไม่ต้องกลัวนะคะ หม่าม้าอยู่ตรงนี้ หม่าม้าอยู่ตรงนี้แล้ว…….”

เจี่ยนซวงยกมือของตัวเองขึ้น ในตอนนั้นก็มีของเหลวอุ่นๆไหลออกมาจากมือเล็กของเจี่ยนซวงด้วย เจี่ยนซวงรีบเก็บมือของตนเองทันทีเมื่อรู้ว่าของเหลวนั้นคืออะไร มันคือเลือดที่ไหลมาจากไหล่ที่บาดเจ็บของคนเป็นแม่ของเธอนั่นเอง

เจี่ยนซวงสูดจมูกก่อนจะร้องไห้ออกมาเบาๆ เธอไม่กล้าร้องไห้เสียงดังจึงทำได้เพียงร้องไห้แล้วพูดออกมาเบาๆเท่านั้น : “หม่าม้า…..หม่าม้าคะ”

เจี่ยนอี๋นั่วเอามือมาปิดตาของเจี่ยนซวงเอาไว้ข้างหนึ่ง มืออีกข้างของเธอก็จับไหล่ของเธอที่บาดเจ็บอยู่ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ไม่ต้องร้องไห้นะคะ หม่าม้าอยู่ตรงนี้แล้ว หม่าม้าจะปกป้องหนูเอง……”

ถึงแม้ว่าเมื่อกี้เจี่ยนอี๋นั่วจะรักษาความตื่นตระหนกของเธอได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันก็ได้จบลงแล้ว เธอถูกภาพที่เธอต้องเจอเมื่อก็นี้ทำให้เธอตกใจกลัว เธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่เธอยังมีลมชายใจอยู่นี้ก็เพื่อปิดตาของเจี่ยนซวงเอาไว้

เรื่องทั้งหมดนี้ เจี่ยนชวงไม่ควรพบเจอ

เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปเฉิงซานซานที่แทงคอตัวเองที่มุมห้อง จากนั้นเธอก็หันหน้าไปมองผู้คุมที่เดินเข้ามาหาเธอ และเยี่ยหมิงจูที่ตามหลังผู้คุมอย่างติดๆ

เยี่ยหมิงจู เธอคือคนของเขาหรอ? เจี่ยนอี๋นั่วครุ่นคิดพร้อมกับหรี่ตา

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน