หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 170 ความเกลียดชังที่เลือนหายไป

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วหรี่ตามองก่อนจะพูดกับเหลิ่งหมิงอันด้วยรอยยิ้มว่า : “ตอนนี้ไม่ใช่ว่าฉันรักคุณอยู่หรอ?”

เหลิ่งหมิงอันขมวดคิ้วมองเจี่ยนอี๋นั่วก่อนจะถายหลังไปก้าวหนึ่ง ใบหน้าของเขาค่อยๆปรากฏรอยยิ้มขึ้นก่อนที่เขาจะถามด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า : “ใช่สิ ตอนนี้เธอก็รักฉันอยู่ไม่ใช่หรอ? ฉันลืมไป…..ฉันลืมไปน่ะ”

เหลิ่งหมิงอันพูดถึงตรงนี้เขาก็หัวเราะอ่อนๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะแบบบ้าคลั่ง เจี่ยนซวงที่ตกใจเสียงหัวเราะของเหลิ่งหมิงอันนั้นรีบเข้าไปขดตัวอยู่ข้างหลังเจี่ยนอี๋นั่วทันที ก่อนจะคว้าชายเสื้อของเจี่ยนอี๋นั่วแล้วพูดขึ้นอย่างตื่นกลัวว่า : “หม่าม้าคะ…..”

เจี่ยนอี๋นั่วลูบหัวลูกสาวตัวน้อยเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ไม่ต้องกลัวนะคะ เขาแค่ดีใจมากเกินไปเท่านั้นเองค่ะ”

เจี่ยนซวงกระพริบตาปริบๆแล้วหันหน้าไปมองเหลิ่งหมิงอันอย่างจริงจัง เธอขมวดคิ้วขึ้น ไม่ว่าเธอจะดูยังไง เธอก็ไม่รู้สึกว่าผู้ชายอย่างเหลิ่งหมิงอันไม่ได้มีความสุขสักนิดเลยนะ?

เหลิ่งหมิงอันก้มหน้าลงก่อนจะมองเจี่ยนซวงแล้วพูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม : “ถึงเวลาที่หนูควรไปนอนแล้วมั้ยนะ?”

เจี่ยนซวงรีบคว้าชายเสื้อของเจี่ยนอี๋นั่วไว้แน่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงเล็กๆของเธอว่า : “ซวงซวงไม่อยากนอนค่ะ ซวงซวงยังอยากอยู่เล่นกับหม่าม้าก่อน”

เจี่ยนอี๋นั่วก้มหน้ามองเจี่ยนซวงก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวลูกสาวเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า : “ซวงซวงไปพักผ่อนก่อนนะคะ หนูได้เจอกับหม่าม้าแน่นอน ไม่ต้องกลัวค่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากเจี่ยนซวง เจี่ยนซวงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอขยี้ตาก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่กำลังจะร้องไห้ : “ค่ะ ซวงซวงไม่กลัว ซวงซวงเป็นคนที่กล้าหาญมากๆ”

เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นมาลูบหัวของเจี่ยนซวง แล้วสาวรับใช้สองคนก็เดินเข้ามาหาเจี่ยนอี๋นั่วก่อนที่จะพาเจี่ยนซวงออกไป เจี่ยนซวงเม้มปากของตัวเอง กลั้นให้ตัวเองไม่สะอื้น เธอนั้นไม่ได้ร้องไห้ออกมา เพียงแต่อะอึกเท่านั้นเอง

เจี่ยนอี๋นั่วมองตามแผ่นหลังลูกสาวที่เดินจากไป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเธอก็ค่อยๆเลือนหายไป จู่ๆฝ่ามือของเธอก็รู้สึกเย็นเฉียบขึ้นมา มือเย็นของเขานั้นค่อยๆสัมผัสกับมือเธอที่ละน้อย เจี่ยนอี๋นั่วหันหน้ามามอง เธอพบเหลิ่งหมิงอันที่โอบเธออยู่ เจี่ยนอี๋นั่วยอมรับได้เลยว่าใบหน้าของเหลิ่งหมิงอันนั้นช่างดึงดูดมากๆ แม้ว่าเขาจะเสียดวงตาของเขาไปข้างนึงแล้วก็ตาม มันไม่ได้มีผลต่อความหล่อเหลาของเขาเลย อีกทั้งมันยังเพิ่มเสน่ห์ความชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ให้เขาอีกด้วยซ้ำ

เมื่อเหลิ่งหมิงอันเห็นว่าเจี่ยนอี๋นั่วมองตาข้างซ้ายของเขา เขาก็หลบหลีกอย่างทันทีตามธรรมชาติ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า : “เธอก็กลัวหรอ?”

“ก็ฉันเป็นคนทำมันเองนี่ แล้วฉันจะกลัวทำไมล่ะ?” เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เมื่อเหลิ่งหมิงอันได้ยินเช่นนั้นเขาจึงค่อยๆยิ้มขึ้นมา ก่อนจะมองหน้าเจี่ยนอี๋นั่วแล้วพูดอย่างจริงจังว่า : “หลังจากที่เราแต่งงานกัน เราจะมีลูกด้วยกัน แล้วก็นามสกุลเจี่ยน”

เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะขึ้น : “งั้นถ้ารอหลังจากเราแต่งงานกันแล้ว ฉันอาจจะไม่มีลูกได้แล้วก็ได้”

เหลิ่งหมิงอันมองเจี่ยนอี๋นั่ว ก่อนจะยิ้มด้วยความขมขื่นก่อนจะพูด : “เธอยังกลัวฉันอยู่หรอ? ถ้าคนอื่นเป็นคนทำร้ายฉันแบบนี้ คนนั้นคงจะตายไปแล้ว”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม : “แล้วฉันต้องขอบคุณนายมั้ยที่มีพระคุณต่อฉันอย่างนี้?”

เหลิ่งหมิงอันขมวดคิ้วก่อนจะพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว : “มานี่ มาจูบฉัน”

เจี่ยนอี๋นั่วเดินเข้าไปหาเหลิ่งหมิงอันทันที ก่อนเขย่งเท้าเบาๆ ตอนที่เธอกำลังจะยื่นหน้าขึ้นไปจูบเหลิ่งหมิงอันนั้น เจี่ยนอี๋นั่วก็ถูกเหลิ่งหมิงอันผลักออกทันที เหลิ่งหมิงอันขมวดคิ้ว ก่อนจะตะคอกกับเธอ : “เธอเป็นอะไรไปเจี่ยนอี๋นั่ว! ฉันต่างจากเหลิ่งเซ่าถิงตรงไหน ฉันเป็นคนไม่ดี ส่วนเหลิ่งเซ่าถิงเป็นนักบุญอย่างนั้นหรอ? ใช่ ฉันเคยทำร้ายเธอ แต่เหลิ่งเซ่าถิงเขาเป็นคนรักที่ปกป้องเธออย่างนั้นหรอ? ทำไมเธอถึงรักเหลิ่งเซ่าถิงได้ แต่ทำไมเธอรักฉันไม่ได้? ถ้าเธอควักลูกตาของเหลิ่งเซ่าถิงออก ฆ่าเขาสองครั้ง เขาคงไม่อาลัยอารมณ์เธอแล้วปล่อยเธออย่างที่ฉันทำหรอก!”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม : “แล้วทำไมต้องพูดถึงเขาด้วยล่ะ? มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ตอนนี้ฉันไม่รักเขาอีกต่อไปแล้ว คนที่ฉันรักตอนนี้คือนายไง”

“ดี….” เหลิ่งหมิงอันบีบข้อมือของเจี่ยนอี๋นั่ว ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา : “งั้นก็คงไม่ต้องรอหลังวันแต่งงานแล้วล่ะ เรามาซัมติงกันตอนนี้เลยดีมั้ยล่ะ?”

เหลิ่งหมิงอันคว้ามือของเจี่ยนอี๋นั่วตรงไปที่ห้องทันที ก่อนจะจะผลักประตูเข้าไปแล้วจัดการผลักเจี่ยนอี๋นั่วลงไปนอนบนเตียง ก่อนจะกดจูบไปที่ริมฝีปากของเจี่ยนอี๋นั่ว แล้วเขาก็จัดการฉีกเสื้อผ้าของเจี่ยนอี๋นั่วทันที เหลิ่งหมิงอันถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วโยนมันลงไปกองกับพื้น

แต่แล้วเหลิ่งหมิงอันที่จูบเจี่ยนอี๋นั่วอยู่นั่นค่อยๆผละจูบออก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วมองใบหน้าของเจี่ยนอี๋นั่ว ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม : “เธอไม่คิดจะขัดขืนหน่อยหรอ?”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม : “แล้วทำไมฉันต้องขัดขืนล่ะ?”

เหลิ่งหมิงอันยิ้มด้วยความขมขื่นก่อนถอยออกมาแล้วหันหลังลงจากเตียงไป แล้วมองมาที่เจี่ยนอี๋นั่ว ดวงตาของเขาแดงก่ำก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า : “เจี่ยนอี๋นั่ว เธอนี่ช่างทรมานคนอื่นได้เก่งจริงๆนะ แต่ฉันก็……หึหึ…..ฉันแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว”

เหลิ่งหมิงอันรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาก่อนจะรีบสวมใส่มันอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกจากห้องไป เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วเห็นว่าเหลิ่งหมิงอันเดินออกไปแล้ว เธอก็ค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะสวมเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แล้วหยุดอยู่ใต้ฝักบัวก่อนจะหลับตาลงแล้วเปิดฝักบัว เจี่ยนอี๋นั่วไม่กล้าคิดเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ ต่อไปเธอจะทำยังไง เธอกลัวว่าถ้าเธอคิดมากเกินไปมันจะทำให้เธอทำต่อไปไม่ได้

กว่าเที่ยงคืนแล้วเหลิ่งหมิงอันค่อยกลับเข้ามา เจี่ยนอี๋นั่วถูกเสียงดังนั้นทำให้เธอตื่น เจี่ยนอี๋นั่วลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเห็นเหลิ่งหมิงอันหิ้วผู้หญิงร่างสูง หน้าตาสวยอยู่ตรงหน้าเธอ เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อกลิ่นเหล้าของเหลิ่งหมิงอันนั้นลอยมาแตะจมูกเธอ

สาวสวยคนนั้นออกเซาะอยู่ในอ้อมกอดของเหลิ่งหมิงอัน ก่อนจะพูดว่า : “คุณเหลิ่งคะ คนนี้คือใครหรอคะ? ทำไมเธอถึงมองพวกเราด้วยสายตาแบบนั้นด้วยล่ะคะ? ฉันกลัวจังเลยค่ะ?”

“หล่อนน่ะหรอ เป็นว่าที่ภรรยาฉันน่ะ อีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกันแล้ว “ เหลิ่งหมิงอันพูดด้วยรอยยิ้ม

ผู้หญิงคนนั้นตกใจก่อนจะเบิดตาโตขึ้นมา แล้วยกยิ้มขึ้นก่อนจะพูดว่า : “คะ? ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไปได้ล่ะ? คุณจะเลวเกินไปแล้วนะคะที่พาฉันมาเจอว่าที่ภรรยาของคุณแบบนี้ ถ้าเธอทำอะไรฉันขึ้นมา ตบตีฉันขึ้นมาจะทำยังไงคะ?”

เหลิ่งหมิงอันจับไหล่ผู้หญิงคนนั้นก่อนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า : “อย่ากังวลเลย หล่อนไม่ทำอะไรเธอหรอก หล่อนก็แค่คนไม่มีหัวใจ หล่อนแค่เฝ้ามองฉันดื่มด่ำกับความสุข ไม่พูดอะไรมากมายหรอก ใช่มั้ย เจี่ยนอี๋นั่ว?”

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องเหลิ่งหมิงอันก่อนจะพูดขึ้นว่า : “นายเมาแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”

เมื่อเหลิ่งหมิงอันฟังที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เขาก็ค่อยๆปล่อยมาออกจากไหล่ของหญิงสาวคนนั้น แล้วก็เดินตรงไปที่เตียงก่อนจะพึมพำขึ้นมา : “อืม นอนสิ…..นอน……..”

หญิงสาวคนนั้นขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะจะโกรออกมาอย่างรวดเร็วว่า : “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณคะ? คุณเหลิ่งคะ…….คุณเหลิ่ง แล้วตอนนี้ฉันควรทำยังไงต่อล่ะเนี่ย?”

“นี่!” เหลิ่งหมิงอันพูดอย่างคนเมา : “อี๋นั่วบอกให้ฉันนอนไง เธอออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ! ไม่ต้องมารบกวนพวกเรา”

หญิงสาวกระทืบเท้าอย่างใส่อารมณ์ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป เหลิ่งหมิงอันนอนบนเตียงก่อนจะพลิกตัวแล้วหลับตาลง ก่อนจะพึมพำว่า : “อี๋นั่ว เมื่อกี้ฉันประชดเธอ เธออย่าคิดมากนะ ฉันไม่รู้จักแม่แต่ชื่อของผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ ฉันชอบเธอแค่คนเดียว ชอบมากๆ หลายปีมาแล้วฉันฝันถึงแต่เธอ แค่ฝันถึงเธอฉันก็มีความสุขแล้ว แต่ฝนความฝันฉันยังมีความสุขได้ไม่นานมันก็กลายเป็นฝันร้าย แล้วเธอก็ฆ่าฉัน จากนั้นก็ไปใช้ชีวิตกับเหลิ่งเซ่าถิง รู้มั้ยทำไมในฝันเธอถึงฆ่าฉัน?”

เหลิ่งหมิงอันลืมตาก่อนจะหรี่ตามองเจี่ยนอี๋นั่ว แล้วพูดกับเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า : “เพราะ……เพราะฉันทำใจไม่ได้ที่จะฆ่าเธอ…..เจี่ยนอี๋นั่ว ถ้าเรื่องทั้งหมดไม่เกิดขึ้น เราก็คง……เราคงจะมีโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันใช่มั้ย? แล้วเธอจะรักฉันบ้างใช่มั้ย?”

เจี่ยอนี๋นั่วขมวดคิ้ว เธอไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่เธอจะรักเหลิ่งหมิงอันเลย สมมติว่าโลกนี้มีคำว่าถ้าจริงๆ เจี่ยนอี๋นั่วหวังว่าตัวเธอจะสามารถช่วยชีวิตพ่อของเธอได้ สามารถช่วยลูกของเธอกับเหลิ่งเซ่าถิงเอาไว้ บางทีเธออาจจะไม่ควรเข้าไปอยู่ในตระกูลเหลิ่ง เจี่ยนอี๋นั่วในตอนนั้นคิดว่าครอบครัวล้มละลายและหนี้สินจำนวนมากเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่ว่าเมื่อเธอเปรียบเทียบกับตอนนี้ เรื่องพวกนั้นมันคืออะไรกันนะ?”

เหลิ่งหมิงอันทำหน้าเข้มแล้วมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว เขาก็ยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น ก่อนจะพูดขึ้นว่า : “เธอคงไม่รักฉันหรอก ใช่มั้ย?”

เจี่ยนอี๋นั่วพูด : “ไม่ ฉันจะไม่รักใครทั้งนั้น”

เหลิ่งหมิงอันก้มหน้าลงมองแล้วล้มลองบนเตียงก่อนจะพูดซ้ำอีกครั้ง : “จะไม่รักใครทั้งนั้นอย่างงั้นหรอ? ไม่รักใครเลย? ก็ดีเหมือนกัน…….บางทีฉันอาจจะไม่ได้เจอเธอ ฉันแค่ต้องต่อสู้เพื่อทรัพย์สินเงินทองของตระกูลเหลิ่งเท่านั้น หรือถ้าไม่สำเร็จก็ตายๆไปเลย คงจะดีกว่าตอนนี้เยอะเลย”

เหลิ่งหมิงอันพูดก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา : “ฉันหวังจริงๆนะว่าฉันจะเจอเธอให้เร็วกว่านี้ เจอกันในโรงเรียน เธอนั่งข้างหน้าฉัน ฉันจะได้มองเธอจากข้างหลังเวลาที่เรียนไง แค่เธอหันหลังมาก็จะเจอฉัน เราไม่ต้องสารภาพรักต่อกัน แล้วเราก็จับมือกันและกัน แล้วก็จูบกันอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วเราก็…….”

เหลิ่งหมิงอันพูดถึงตอนนี้ใบหน้าของเขาก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ราวกับเป็นคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาก่อน แต่เหมือนกันผู้ชายที่ไม่เคยมีความรักมาก่อนยังไงอย่างนั้นเลย เหลิ่งหมิงอันหัวเราะก่อนจะหลับตาลงแล้วนอนหลับไป

หลังจากที่เขาหลับไปแล้ว เหลิ่งหมิงอันก็ยกมือขึ้นมากอดเจี่ยนอี๋นั่วอย่างระมัดระวัง

เจี่ยนอี๋นั่วมองต้นคอของเหลิ่งหมิงอัน บนต้นคอของเหลิ่งหมิงอันนั้นยังมีรอยแผลอยู่ ในตอนนี้เหลิ่งหมิงอันนั้นยังไม่ทันตั้งตัว ถ้าหากเธอลงมือฆ่าเขาล่ะก็คงทำได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เจี่ยนซวงยังอยู่ในกำมือของเหลิ่งหมิงอันอยู่ ถ้าเกิดเหลิ่งอันเป็นอะไรขึ้นมา เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่าตัวเองจะปกป้องเจี่ยนซวงลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร

ที่สำคัญก็คือตอนนี้เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้มีความคิดที่อยากจะฆ่าเหลิ่งหมิงอันแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมามองหนังตาซ้ายอันเหี่ยวยนของเหลิ่งหมิงอัน เธอก็ไม่สามารถลงมือต่อได้ ดวงตาข้างนึงกับอีกครึ่งชีวิต เหลิ่งหมิงอันเคยถามเธอว่ามันสามารถที่จะชดเชยทุกอย่างที่เขาเคยทำได้มั้ย

ตอนนั้นเจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้ตอบคำถามเขา เพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะวัดจากที่ไหน ตอนนี้เธอเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้ว ในบึ้งก้นในใจของเธอนั้น ไม่ไ้มีความเกลียดชังนั้นแล้ว เมื่อความเกลียดชังทั้งหมดหมดไป สำหรับเจี่ยนอี๋นั่ว เหลิ่งหมิงอันก็เป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น ไม่มีความเกลียดชัง แต่ก็จะไม่มีความชอบ เจี่ยนอี๋นั่วหวังเพียงว่าเธอจะได้ออกไปจากเหลิ่งหมิงอันไวๆ สบัดทุกความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเหลิ่งทิ้งให้หมด รงมถึงเหลิ่งหมิงอันด้วย เธอเพียงอยากใช้ชีวิตอย่างสงบและมั่นคงก็เท่านั้น

เมื่อเหลิ่งหมิงอันตื่นมาแล้วพบว่าตัวเขามีผ้าห่มคลุมตัวอยู่ ในใจของเขาก็อดใจที่จะไม่ชอบใจไม่ได้ : เมื่อคืนเธอไม่ได้ฆ่าเขาอย่างนั้นหรอ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นเหลิ่งหมิวอันก็อดที่ยกยิ้มขึ้นมาอย่างขมขื่นไม่ได้ ความคาดหวังของเขานั้นมาถึงจุดนี้แล้ว เพียงแค่เจี่ยนอี๋นั่วไม่คิดอยากจะฆ่าเขา เขาเลยมีความสุขได้มากขนาดนี้แล้ว

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท