หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 175 ฉันต้องการลูก

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

ตลอดเวลาสามวัน เจี่ยนอี๋นั่วเฝ้ารอคอยฟังข่าวของเจี่ยนซวงอยู่เสมอ เหลิ่งเซ่าถิงยื่นนมให้เธอและพูดเบาๆว่า “ดื่มก่อนหน่อยเถอะ”

เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นปัดแก้วออก เธอขมวดคิ้วมองเหลิ่งเซ่าถิง “ข่าวของซวงซวงแล้วก็เด็กคนนั้นที่เป็นลูกของฉัน เมื่อไหร่ฉันจะได้ยินข่าวและพบลูกของฉัน”

ในตอนนี้เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้คาดหวังเลยว่าเธอจะสามารถเลี้ยงลูกได้ทั้งสองคน เธอได้เลี้ยงเจี่ยนซวงมาอย่างยากลำบากแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วจึงไม่กล้าคิดเลยว่าเธอจะสามารถเลี้ยงลูกทั้งสองคนได้ หากว่าเธอเลี้ยงลูกทั้งสองคนเธออาจจะนำพาความยากลำบากที่สุดให้แก่พวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นเด็กผู้ชายคนนั้นอยู่ในครอบครัวเก่าแก่อย่างเช่นตระกูลเหลิ่ง เด็กผู้ชายคือทายาทคนต่อไปที่จะดูแลทรัพย์สินของครอบครัว เขาจะต้องเผชิญเรื่องราวอันตรายมากกว่าเจี่ยนซวงอย่างแน่นอน

เจี่ยนอี๋นั่วไม่คาดหวังสิ่งอื่นใดอีกแล้ว เธอแค่อยากเฝ้ามองเด็กๆจากระยะไกล แค่เพียงเธอได้รู้ข่าวคราวว่าเด็กๆเป็นอย่างไรบ้างแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เหลิ่งเซ่าถิงกำแก้วในมือไว้แน่น เขาขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวว่า “คุณรออีกหน่อยเถอะ อีกไม่นานเดี๋ยวก็จะมีข่าวคืบหน้า”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและหันศีรษะไปมองด้านนอกหน้าต่าง ในเวลานี้ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเหลิ่งเซ่าถิงก็ดังขึ้น เหลิ่งเซ่าถิงรีบรับสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เจี่ยนอี๋นั่วเองก็ร้อนใจจนรีบลุกขึ้น เธอถามอย่างร้อนรน “หาซวงซวงเจอแล้วเหรอ? ตอนนี้ซวงซวงอยู่ที่ไหน?”

เหลิ่งเซ่าถิงส่ายหน้า เขากล่าวเบาๆ “ไม่เกี่ยวกับซวงซวง”

เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาอย่างหมดเรี่ยวแรง เธอค่อยๆนั่งลงอย่างช้าๆ เหลิ่งเซ่าถิงหันหน้าไปอีกฝั่งและถามปลายสาย “มีเรื่องอะไร?”

ปลายสายตอบกลับในทันที “อาเหวิน เขาพาตัวคุณชายน้อยออกไป เขาเคยเห็นว่าคุณหญิงคนก่อนได้ทำการตรวจสอบDNA เขาจึงคาดเดาว่าคุณชายน้อยอาจเป็นลูกของเขา ในเมื่อคุณหญิงไม่อยู่แล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องอยู่อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึง…จึงจะพาตัวคุณชายน้อยไปด้วยและสัญญาว่าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าประธานเหลิ่งอีกเลย”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วแน่น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ได้ เด็กต้องอยู่ที่นั่น แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกฉัน”

แม้ว่าเหลิ่งเฉิงเย่ไม่ใช่ลูกชายของเขา แต่การมีอยู่ของเหลิ่งเฉิงเย่นั้นจะกลายเป็นเกราะป้องกันเขา ทำให้การเพ่งเล็งของคนอื่นที่มีต่อลูกสาวของเจี่ยนอี๋นั่วนั้นได้เปลี่ยนเป็นการเพ่งเล็งไปยังเหลิ่งเฉิงเย่แทน

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วได้ยินเหลิ่งเซ่าถิงพูดถึงเด็ก เธอก็หันหน้าไปมองเขาพร้อมกับขมวดคิ้วและถาม “เด็กที่คุณพูดถึง ใช่ลูกของคุณและกู้เค่อหยิงหรือเปล่า?”

ในช่วงเวลานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจี่ยนอี๋นั่วเริ่มพูดคุยกับเหลิ่งเซ่าถิงและเริ่มถามเกี่ยวกับสถานการณ์ความเป็นอยู่ของเขา เหลิ่งเซ่าถิงรีบหันหน้าไปอธิบายเธอ “เป็นเรื่องของลูกของกู้เค่อหยิง เด็กคนนั้นไม่ได้กำเนิดจากผมและกู้เค่อหยิง ในตอนนี้พ่อของเด็กต้องการตัวลูกเขาคืน”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว แต่เธอก็พอเข้าใจ เธอจึงถามต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “คุณให้ผู้ชายคนอื่นมามีความสัมพันธ์กับกู้เค่อหยิงแทนคุณเหรอ? กู้เค่อหยิงคิดว่าเขาคนนั้นคือคุณ?”

เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้า “แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยแตะต้องเธอเลย ตั้งแต่แรกจนกระทั่งตอนนี้ผมมีแค่คุณ”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มขมขื่น “ฉันควรประทับใจไหม? คุณใช้การโกหกแบบนี้เพื่อหลอกลวงผู้หญิงที่ชอบคุณงั้นสิ?”

เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่ากู้เค่อหยิงนั้นมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับชายคนอื่น เธอเห็นเพียงแต่ว่ากู้เค่อหยิงคือภรรยาของเหลิ่งเซ่าถิง แต่เหลิ่งเซ่าถิงกลับฆ่ากู้เค่อหยิงโดยไม่ได้แยแสอะไรเธอเลยแล้วยังแอบให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามามีความสัมพันธ์กับเธอแทนเขาอีกด้วย เจี่ยนอี๋นั่วเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน วิธีการที่เหลิ่งเซ่าถิงได้ลงมือกระทำต่อกู้เค่อหยิงนั้นทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้ว “มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด เธอไม่ได้สนใจผมตั้งแต่แรก สิ่งที่เธอสนใจก็คือตำแหน่งคุณหญิงแห่งตระกูลเหลิ่ง ผู้ชายคนนี้เคยพบเธอมาก่อนและมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกัน ผมก็เพียงแค่ให้ผู้ชายที่กู้เค่อหยิงต้องการมาเป็นพ่อของลูกเธอก็เท่านั้น”

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเหลิ่งเซ่าถิง “งั้นในตอนนี้คุณคิดจะทำอะไร?”

เหลิ่งเซ่าถิงมองเจี่ยนอี๋นั่ว เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าจะให้ลูกของกู้เค่อหยิงนั้นอยู่ต่อและกลายเป็น…”

เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวเบาๆ “กลายเป็นเกราะป้องกันของลูกเราใช่ไหม? ให้คนอื่นนั้นเพ่งเล็งเขา ให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของคุณ เมื่อเผชิญอันตรายก็ให้เขาเป็นตัวแทนของลูกเราเข้าไปเผชิญจากนั้นลูกๆของเราก็จะปลอดภัย แบบนั้นใช่ไหม?”

เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้เบาๆ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “แบบนี้สามารถลดอันตรายบางอย่างที่ลูกเราอาจจะเผชิญได้”

เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาลง เธอกระพริบตาและยิ้มอย่างขื่นขม “จากนั้นลูกของเราจะกลายเป็นคนแบบไหน? กลายเป็นเหมือนคนอื่นๆในตระกูลเหลิ่ง ใช้ชีวิตของคนอื่นมาปูทางให้ตัวเอง ใช่ไหม? ในฐานะความเป็นแม่ ฉันกลัวมาก กลัวที่จะสูญเสียลูกไป แต่สิ่งที่ฉันกลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือการที่ลูกของฉันขาดมนุษยธรรม คนที่ตัดสินชีวิตและความตายของคนอื่น!”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วมองเจี่ยนอี๋นั่ว “ผมแค่พยายามที่จะปกป้องคุณและลูกๆของเรา”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า “ฉันไม่รู้เลยว่ายังมีวิธีการแบบนี้ในการปกป้องด้วย เพื่อลูก คุณฉันสามารถเสียสละอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่การเสียสละคนอื่น ประธานเหลิ่ง คุณรู้ไหมว่าเพราะอะไรฉันถึงตกหลุมรักคุณ?”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้ว “เพราะอะไร?”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้ม “เพราะว่าคุณกับคนอื่นในตระกูลเหลิ่งนั้นไม่เหมือนกัน แม้ว่าคุณจะดูเย็นชา แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่อบอุ่นมาก ฉันรู้ว่าคุณต้องการที่จะปกป้องฉันและลูก ฉันรู้ว่าการต่อสู้เพื่ออำนาจจะต้องโหดเหี้ยมเพื่อที่จะได้รับชัยชนะ แต่ฉันก็ยังอดไม่ได้ที่จะกลัวคุณ ตอนนี้ที่ฉันมองคุณมันเหมือนกับว่าฉันกำลังมองเหลิ่งหมิงอัน..”

เหลิ่งเซ่าถิงลดระดับสายตาลง ใบหน้าของเขาซีดเซียว ร่างกายของเขาค่อยๆสั่นเทาและในเวลานี้เขากำโทรศัพท์อย่างสุดแรง เวลาผ่านไปชั่วขณะ เหลิ่งเซ่าถิงค่อยๆหมุนตัวกลับและเดินไปยังประตู เมื่อประตูเปิดออก เหลิ่งเซ่าถิงก็หยุดนิ่ง เขากล่าวเบาๆว่า “ผมรู้ คุณไม่ชอบผมในตอนนี้ แต่ตอนนี้ผมมีอำนาจมากพอที่จะปกป้องคุณแล้ว หากว่าคุณไม่ชอบวิธีการที่ผมจัดการกับเหลิ่งเฉิงเย่ ผมก็จะให้พ่อของเขาพาตัวเขาไป รอให้ผมหาเจี่ยนซวงพบ ผมจะให้คุณและเจี่ยนซวงไปซ่อนตัวในที่แห่งหนึ่ง ที่ที่ไม่มีใครหาพวกคุณพบ พวกคุณจะได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและสงบที่สุด”

เจี่ยนอี๋นั่วหันศีรษะไปมองแผ่นหลังของเหลิ่งเซ่าถิง ท่าทีที่ไม่แยแสและมีความมุ่งมั่นแต่กลับมีความเหงา ภายในใจของอี๋นั่วราวกับว่าเหมือนจะทนไม่ได้ เธอต้องการที่จะก้าวไปด้านหน้าและโอบกอดเขา แต่เธอยังไม่ทันที่จะก้าวไป เหลิ่งเซ่าถิงก็ได้เดินออกไปจากห้องจากนั้นประตูก็ได้ปิดลง

เจี่ยนอี๋นั่วนิ่งงันไปชั่วขณะ เธอทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ความทุกข์ยากนั้นได้ขัดเกลาตัวตนของเธอและเหลิ่งเซ่าถิงจนไม่เหลือตัวตนก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากัน แต่กลับเหมือนมีกำแพงหนากั้นทำให้พวกเขานั้นเดินเส้นทางที่ขนานกัน ต่อให้มีจุดตัดที่ทำให้พวกเขาได้พบกัน แต่หลังจากที่พบกันตรงจุดตัดแล้วพวกเขาก็ยิ่งห่างกันออกไปเรื่อยๆ

เหลิ่งเซ่าถิงกำมือแน่นมาก เมื่อเขาคลายมือในฝ่ามือของเขาก็มีรอยแดง ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วเกลียดคนแบบไหน เธอกลัวและตกใจกับความโหดเหี้ยมของตระกูลเหลิ่ง เมื่อเขาแสดงท่าทีที่ไม่แยแสต่อชีวิตของคนก็สามารถทำให้เจี่ยนอี๋นั่วหวาดกลัวจนจากเขาไป

สิ่งที่เหลิ่งเซ่าถิงต้องการทำก็คือทำให้เจี่ยนอี๋นั่วออกไปให้ไกลจากเขา แม้ว่าในตอนนี้เขาจะมีอำนาจแต่ศัตรูของเขาก็มีเยอะจนเกินไป เหลิ่งเซ่าถิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในบางครั้งคนที่เดินอยู่ข้างกายเขานั้นเป็นนักฆ่าที่คนอื่นส่งมาฆ่าเขาหรือไม่ เจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวงต้องหลบซ่อนตัวจึงจะใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่ายและสงบสุข เขาพยายามจนสิ้นหวัง จนกระทั่งตอนนี้เขาสามารถให้เจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวงได้แล้ว แต่มันคือสิ่งที่ผู้ชายคนอื่นสามารถให้ได้อย่างง่ายดาย

เหลิ่งเซ่าถิงเดินไปยังห้องถัดไป เขาหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องออกมาจากนั้นกดโทรศัพท์และกล่าวกับปลายสาย “อืม คุณสามารถพาเหลิ่งเฉิงเย่ไปหาอาเหวินได้และปล่อยพวกเขาไป ให้พวกเขาไปเปลี่ยนสถานะและตัวตนด้วย มอบเงินให้พวกเขาด้วย คอยปกป้องชีวิตพวกเขา เหลิ่งเฉิงเย่ยังเด็ก ให้อาเหวินพาเขาไปซ่อนตัวสักสองสามปี รอให้เหลิ่งเฉิงเย่โตขึ้นสักหน่อย รอให้หน้าตารูปร่างเขาเปลี่ยนไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวจบ เขาก็ตัดสายไป เขาก้มหน้าลงไปมองฝ่ามือของเขา เขารู้สึกดีใจเล็กน้อย บางทีเขาอาจจะยังเป็นผู้ชายที่เจี่ยนอี๋นั่วชอบอยู่บ้าง หากว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นแบบคนตระกูลเหลิ่งแล้วจริงๆ เหมือนกับตัวตนสถานะของอาเหวินและเหลิ่งเฉิงเย่ ทางที่ดีที่สุดเขาอาจจะฆ่าปิดปากไปทั้งหมดเลยก็ได้

เหลิ่งเซ่าถิงมองลงไปและดูรอยเลือดในมือของเขา รอยแดงเหล่านั้นค่อยๆหายเป็นปกติ จากนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เหลิ่งเซ่าถิงรับสายจากนั้นก็ได้ยินปลายสายกำลังรายงานความคืบหน้า เหลิ่งเซ่าถิงลุกขึ้นในทันที เขาก้าวเท้าอย่างรวดเร็วและตรงไปยังห้องของเจี่ยนอี๋นั่ว เขาพูดกับอี๋นั่วว่า “หาซวงซวงพบแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทาง”

เจี่ยนอี๋นั่วใช้มือของเธอปิดปากตัวเอง ดวงตาของเธอแดงก่ำ เธอรีบลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้อง เธอร้องไห้และถามเหลิ่งเซ่าถิง “จริงเหรอ?”

เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้า ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาจากมุมหางตาของเจี่ยนอี๋นั่ว จากนั้นเขาก็ค่อยๆวางมือลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “จริง”

เจี่ยนอี๋นั่วถอนหายใจ เธอรีบวิ่งลงชั้นล่างด้วยความเร็ว ในขณะที่เดินผ่านเหลิ่งเซ่าถิง เหลิ่งเซ่าถิงก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าเพื่อที่จะได้รับกลิ่นกายของเจี่ยนอี๋นั่ว แต่จริงๆแล้วสำหรับเจี่ยนอี๋นั่วนั้นก็ไม่ได้มีกลิ่นอะไรเป็นพิเศษต่อคนแปลกหน้า เจี่ยนอี๋นั่วนั้นนอกเหนือจากกลิ่นเจลอาบน้ำแล้วก็ไม่ได้มีกลิ่นอื่นใด

อย่างไรก็ตามเหลิ่งเซ่าถิงที่ได้กลิ่นของเจี่ยนอี๋นั่ว เป็นกลิ่นหอมหวานจางๆ กลิ่นนี้สามารถกำจัดความหนาวเย็นในชีวิตของเขาได้ทันทีและทำให้ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยสีสันอีกครั้ง

เจี่ยนอี๋นั่ววิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว เธอรออยู่นานกว่าที่ประตูบ้านจะเปิดออก เจี่ยนซวงถูกชายในชุดดำอุ้มเข้ามาพร้อมกับน้ำตาบนใบหน้าของเธอ ในวินาทีที่เธอเห็นเจี่ยนอี๋นั่ว เจี่ยนซวงก็ร้องไห้เสียงดัง “หม่าม้า หม่าม้า ซวงซวงคิดว่าหม้าม่าไม่ต้องการซวงซวงแล้ว…”

เจี่ยนซวงกล่าวในขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วอ้าแขนของเธอออก เจี่ยนอี๋นั่วกอดเจี่ยนซวงในทันที เธอกอดเจี่ยนซวงไว้ในอ้อมแขนของเธอ เธอร้องไห้พลางกล่าวว่า “ซวงซวง หม่าม้าเลี้ยงดูหนูได้ไม่ดีพอ หม่าม้าไม่ได้ปกป้องหนู หม้าม่าผิดเอง”

“หม่าม้าไม่ผิด คนเลวต่างหากที่ผิด…” เจี่ยนซวงกล่าว เธอหายใจเข้าลึกๆอีกคราและร้องไห้งอแง

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน