ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 18 สิ่งนี้ถึงจะเรียกว่าสมเหตุสมผล

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

การปะทะกันที่มองไม่เห็น จึงไม่เกิดระลอกคลื่นมากนัก

ต่างเป็นหนึ่งในสาวงามของเมืองเทียนไห่เหมือนกัน ในแง่ของรูปร่างหน้าตา แต่ก็มีข้อดีต่างกันไป ถ้าอย่างนั้น คนที่สามารถได้ร่วมงานกับมาสเตอร์คาเรน ในคืนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้นั้นเป็นผู้ได้รับชัยชนะ!

“คุณหนูเถา ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยมีความสุขนะครับ?”

ในตอนนี้ มีหนุ่มน้อยหน้าหวานเดินถือแก้วไวน์มาตรงอยู่ด้านหน้าเธอ เถาซิ่งเอ๋อมองไปที่ใบหน้าที่แต่งหน้าเจิดจ้าไปกว่าผู้หญิงแล้วยังดูตุ้งติ้งอย่างมาก คิ้วก็ขมวดแล้วมีประกายของความขยะแขยง

ลู่หานเป็นไอดอลยอดนิยมที่กำลังได้รับความนิยมและมีแฟนๆจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ในสายตาของผู้ประกอบการระดับยักษ์ใหญ่อย่างเถาซิ่งเอ๋อ ไอดอลเหล่านี้เป็นเพียงแค่โชคดีที่มีฐานแฟนคลับอย่างถล่มทลายเท่านั้นเอง!

สำหรับผู้ประกอบการอย่างเถาซิ่งเอ๋อแล้ว ขอเพียงเงินถึงตามที่กำหนด อยากจะทำให้ดัง คนนั้นสามารถดังได้ อยากจะทำให้ใครร่วง นั่นก็ใช้คำพูดเดียวกันในประโยค!

แต่สำหรับไอดอลตัวเล็กๆที่ถลำลึกอยู่กับชื่อเสียงกลับหลงคิดว่านี่คือสิ่งที่ตนเองสมควรได้รับอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลู่หานที่คิดว่าตัวเองมีแฟนคลับร้อยล้านคนและกำลังยืนอยู่บนยอดปิรามิด เขากลับไปวอแวเถาซิ่งเอ๋อผู้สูงส่งโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากเป็นเวลาปกติ เถาซิ่งเอ๋อจะไม่สนใจเขาเลย แต่เมื่อสายตาของเธอเหลือบไปเห็นอวิ๋นเสว่เหยน ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็ยกขึ้นเล็กน้อย

“คุณลู่พูดได้ถูกต้อง เห็นคนที่ตัวเองเกลียด อารมณ์ก็ต้องเปลี่ยนเป็นไม่ดีอยู่แล้วล่ะ!”

เห็นว่าเทพธิดาที่เขาเลื่อมใสศรัทธาจู่ๆก็กระตือรือร้นกับตัวเองขึ้นมา ลู่หานก็รู้สึกยินดีอย่างคาดไม่ถึงแล้วรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ใครที่มันตาไม่มีแววกล้าทำให้คุณหนูเถาโกรธ ผมลู่หานจะทำให้เธอต้องขายหน้า!”

เถาซิ่งเอ๋อมีรอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จปรากฏขึ้นแล้วชี้ไปที่อวิ๋นเสว่เหยน “ผู้คนต่างพากันเดินเข้ามาทักทาย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอกลับอาศัยการสนับสนุนของบริษัทมู่ซือกรุปมาเสียดสีเหน็บแนมฉัน มันทำให้ฉันเจ็บปวดใจจริงๆ!”

ในดวงตาของลู่หานมีประกายแห่งความดูแคลนเกิดขึ้น “ผมเป็นใคร! ผู้หญิงที่พูดจาไม่อายปากคนหนึ่ง

พออยู่ใกล้กับบริษัทมู่ซือกรุปก็คิดว่าตัวเองสง่างามยิ่งใหญ่ที่สุด คุณหนูเถาวางใจเถอะครับ แล้วดูว่าผมจะระบายความโกรธให้คุณอย่างไร!”

ขณะที่พูด ดวงตาของลู่หานก็มีประกายเย็นวาบ แล้วถือแก้วไวน์เดินเข้าไปทางอวิ๋นเสว่เหยน

เพล้ง!

เสียงแก้วไวน์ที่ตกลงพื้น ได้ดึงดูดสายตาของทุกคนให้มองไป

“คุณตาบอดหรือไง! ไม่เห็นหรือไงถึงได้มาชนผม?!”

“ขอโทษด้วยค่ะ ขอโทษ! ฉันไม่ได้ตั้งใจ!”อวิ๋นเสว่เหยนรีบกล่าวขอโทษทันที

“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ?! ผมเห็นอยู่ว่าคุณตั้งใจ!”

ลู่หานมองดูเธอด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง “ผู้หญิงอย่างคุณผมเห็นมาเยอะแล้ว คิดจะใช้วิธีนี้เข้าใกล้ผมเพื่อดึงดูดความสนใจจากผมสินะ? ฮึ! พอมองเห็นว่าเป็นผู้ชายมีเงินมีอำนาจก็รีบทำเป็นใสซื่อแต่ก็คิดแผนการอยู่ในใจ!”

“คนที่มีสถานะอย่างผม ก็เป็นแบบที่ผู้หญิงอย่างคุณอยากได้ใช่ไหม?”

“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง!” มีประกายความโกรธฉายอยู่บนหน้าของอวิ๋นเสว่เหยนอย่างเห็นได้ชัด “เห็นอยู่ชัดๆว่าคุณเข้ามาใกล้ฉัน เมื่อฉันหันหลังกลับฉันถึงได้ทำเครื่องดื่มหกใส่คุณ ยิ่งไปกว่านั้นฉันเองก็ขอโทษแล้ว คุณยังต้องการอะไร?”

“คุณยังกล้าต่อปากต่อคำอีกเหรอ?!”

ลู่หานยกมือขึ้นและในตอนที่กำลังจะตบลงไป ทันใดนั้นข้อมือก็รัดแน่น ก่อนที่จะมองเห็นได้ชัดเจน ก็ได้ยินเสียงตบดังเพี๊ยะแล้วเจ็บที่แก้มขวา เขามองดูแก้มที่รู้สึกแปลกๆและคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “แก ……แกกล้าตีฉันเหรอ?”

เซี่ยงเส้าหลงดึงอวิ๋นเสว่เหยนไปไว้ข้างหลัง แล้วมองดูเขาอย่างเย็นชา “คุณคิดจะทำร้ายภรรยาผม ทำไมผมจะไม่กล้าตีคุณ? เพียงแค่เพราะคุณหน้าตาเหมือนคนงั้นเหรอ?”

“อ้า!”

ลู่หานกรีดร้องเสียงแหลมออกมาแล้วชี้ไปที่เขา “แก ……แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?! ฉันเป็นดารา!!!”

“เชื่อหรือไม่ฉันพูดคำเดียว แค่แฟนคลับของฉันถ่มน้ำลายออกมาคนละครั้งแกก็จมน้ำตายได้แล้ว!”

เซี่ยงเส้าหลงเหลือบมองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม “แฟนคลับของคุณจะทำให้ผมจมน้ำตายได้หรือเปล่าผมไม่รู้หรอกนะ แต่ผมรู้ว่าถ้าคุณกล้าส่งเสียงโวยวายอีกคำเดียว คุณจะไม่สามารถรักษาใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของคุณไว้ได้!”

ลู่หานปิดใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งเอาไว้โดยไม่รู้ตัว เขาอ้าปากค้างแต่กลับตะลึงงันจนไม่กล้าพูดอะไรอีก

ในขณะที่เซี่ยงเส้าหลงเตรียมจะพาตัวอวิ๋นเสว่เหยนออกไป ก็มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้น “รอเดี๋ยว!”

เถาซิ่งเอ๋อก้าวเท้าเดินเข้าช้าๆ ทั้งคิ้วและตานั้นแสดงความเย่อหยิ่ง “ทำไวน์หกใส่เสื้อผ้าคนอื่นแล้วก็ยังตีคนอีก จะไปแบบนี้เลยเหรอ?”

เซี่ยงเส้าหลงมองดูเธอด้วยสายตาเย็นชา “ไม่อย่างนั้น คุณจะให้ทำอะไรล่ะ?”

เถาซิ่งเอ๋อเปิดปากพูดด้วยความสนใจ “คุณลู่คือเพื่อนของฉัน คุณหนูอวิ๋นทำไวน์หกใส่ตัวเขา ทำให้เสื้อผ้าราคาแพงของเขามีสภาพแย่จนดูไม่ได้ เพราะฉะนั้นพวกคุณจะต้องชดใช้!”

“เห็นอยู่ชัดๆว่าเขา ……”

อวิ๋นเสว่เหยนกำลังจะแก้ตัว แต่ถูกเซี่ยงเส้าหลงขัดจังหวะ เขาพยักหน้าไปทางเถาซิ่งเอ๋อเบาๆ “พูดได้ถูกต้อง สมเหตุสมผล”

ลู่หานมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงด้วยใบหน้าที่หม่นมืดแล้วเอ่ยปากพูดว่า “เสื้อผ้าชุดนี้เป็นงาน Handmadeรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ระดับโลกที่ออกแบบโดยมาสเตอร์แคตี้แลน ชอนร์ตี้มีมูลค่าหนึ่งล้านหยวน แต่ว่างาน Handmadeทุกชิ้นของแคตี้แลน ชอนร์ตี้มีเพียงชิ้นเดียวบนโลกเพราะฉะนั้นมูลค่าของเสื้อผ้าชุดนี้ไม่สามารถวัดได้ด้วยตัวเงินเพียงอย่างเดียว”

“ถ้างั้นคุณจะให้พวกเราชดเชยให้พวกคุณหนึ่งล้านใช่ไหม?”

ที่หว่างคิ้วของเซี่ยงเส้าหลงก็มีร่องรอยของรอยยิ้มบางๆ

ลู่หานกำลังจะเอ่ยปากพูด เสียงของเถาซิ่งเอ๋อได้ดังขึ้นมาก่อน “ไม่ๆๆ เงินคือสิ่งที่ไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ว่าสิ่งของที่สวยงามมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น!”

“เพราะฉะนั้นคุณจะต้องชดใช้ให้กับเพื่อนของฉันด้วยเสื้อผ้าแบบเดียวกันทุกอย่าง!”

ลู่หานคล้อยตามด้วยทันทีราวกับเป็นสุนัขรับใช้ “ถูกต้องแล้ว ต้องชดใช้ด้วยเสื้อผ้าที่เหมือนกันทุกอย่าง!”

เซี่ยงเส้าหลงถอนใจเบาๆ แล้วใช้มือขวาถูที่หว่างคิ้ว “มันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะทำได้ ……”

บนหน้าของลู่หานมีประกายของความโอหังอวดดีปรากฏขึ้นมา ในดวงตาได้ฉายให้เห็นถึงความชั่วร้ายอยู่ด้านใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองไปทางอวิ๋นเสว่เหยน และใช้คำพูดที่เลวทรามยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่า “ถ้าพวกคุณชดใช้ไม่ไหว งั้นก็ให้นังสารเลวคนนี้ถอดชุดบนตัวออกมาแล้วออกไปจากที่นี่ซะ!”

เซี่ยงเส้าหลงเงยหน้าขึ้นมองลู่หาน บนหน้าของปรากฏรอยยิ้มขี้เล่นและคิ้วขมวดเล็กน้อย “รอสักครู่ ขอผมโทรศัพท์ก่อน!”

เนื้อหาของการโทรนั้นง่ายมาก อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่กี่นาที หลังจากที่วางสายแล้ว เซี่ยงเส้าหลงก็พูดกับพวกเขาว่า “ดูเหมือนว่า ผมจะทำในสิ่งที่พวกคุณต้องการไม่ได้!”

เถาซิ่งเอ๋อเลิกคิ้วขึ้น ในเวลานี้เอง มีร่างหนึ่งรีบร้อนวิ่งเข้ามาพร้อมกับถือโทรศัพท์ สีหน้ากังวลใจ

“คุณเข้ามาทำไม?”

เมื่อเห็นใบหน้าตื่นตกใจของเอเจนซี่ผู้ดูแล ลู่หานก็พูดอย่างไม่พอใจ

“เมื่อสักครู่นี้มาสเตอร์แคตี้แลน ชอนร์ตี้โทรมาหาที่นี่ด้วยตนเอง บอกว่าเสื้อผ้าที่ทำให้คุณก่อนหน้านี้จะมีการทำเพิ่มให้อีกชุดเป็นพิเศษ จะส่งมาถึงมือผมอย่างช้าที่สุดคืนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ……ยิ่งไปกว่านั้น……”

พูดมาถึงตรงนี้น้ำเสียงของเอเจนซี่ดูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด “มาสเตอร์แคตี้แลนยังบอกด้วยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายในการทำเสื้อให้กับคุณ และงาน Brand Ambassadorที่สัญญาไว้ก็ยกเลิกด้วยเช่นกัน ลู่หาน คุณทำอะไรลงไปกันแน่? แม้แต่มาสเตอร์แคตี้แลนก็ยังขุ่นเคือง?”

ในฐานะดารายอดนิยม บริษัทคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังลู่หาน ต้องใช้จ่ายเงินและพลังงานเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ถึงยกตัวเขามาอยู่ตำแหน่งในทุกวันนี้ได้ และในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นระดับโลก ผลงานใหม่ของแคตี้แลน ในปีนี้ ก็ได้ให้ลู่หานเป็นBrand Ambassador ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชื่อเสียงที่ก้าวกระโดดเกินกว่าคุณภาพของเขา บริษัทไม่เสียดายเลยว่าจะต้องจ่ายไปในราคาที่สูงแค่ไหน ขอเพียงแต่ให้ลู่หานสามารถเป็นผู้นำกระแสแฟชั่นได้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกครั้ง แต่ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นความว่างเปล่าในชั่วพริบตา!

“ไม่ต้องรีบร้อนนะ เรื่องเซอร์ไพรส์ ยังมาไม่ถึง!”

มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อน้ำเสียงสิ้นสุดลง โทรศัพท์ของเอเจนซี่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้เมื่อฟังจนจบ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างมาก “ตกลง! ผมเข้าใจแล้ว! ผมจะจัดการทันที!”

วางสายแล้ว เอเจนซี่ก็มองลู่หานอย่างซีเรียส “ลู่หาน ผมเพิ่งได้รับแจ้งล่าสุดจากบริษัท

ตอนนี้ผมขอแจ้งให้คุณทราบอย่างเป็นทางการว่าคุณถูกไล่ออกแล้ว!”

“Brand Ambassador ทั้งหมดรวมถึงสัญญาเล่นละครก่อนหน้านี้เป็นโมฆะทั้งหมด เพราะว่าคุณสร้างความเสียหายให้กับบริษัท แล้วจะมีทนายติดต่อคุณไปภายหลัง!”

พูดจบแล้วก็หมุนตัวเดินจากไป

แต่ลู่หานยังคงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม บนใบหน้างามเต็มไปด้วยความตกตะลึงที่ไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้ยังไง เป็นไปได้ยังไง!”

ลู่หานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ไม่มีบริษัทคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแล้ว เขาก็เป็นเพียงแค่กากเดนที่แม้แต่จะล้างจานกวาดพื้นก็ยังทำไม่เป็นเลย!

“คุณหนูเถา! ช่วยผมด้วย! มีคุณเท่าที่ช่วยผมได้!”

เถาซิ่งเอ๋อเพิกเฉยต่อคำขอร้องของลู่หานโดยสิ้นเชิง สายตาเธอมองตรงไปที่เซี่ยงเส้าหลง

“คุณทำเรื่องนี้งั้นเหรอ?”

“ทำเสื้อผ้าของเขาเสียหาย ผมก็ชดใช้ให้เหมือนกันทุกประการ มันก็สมเหตุสมผลแล้ว”

“เขาคิดจะตบผู้หญิงของผม ผมก็ตบเขา มันก็สมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน”

“แต่ว่าเขาดูหมิ่นภรรยาของผม เหอะๆ ……พวกเราไม่ใช่หมาบ้า ไม่ดูถูกด่าว่าคนอื่น เพราะฉะนั้น ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน หรือว่าไม่สมเหตุสมผลงั้นเหรอ?”

เถาซิ่งเอ๋อมองดูเขาอย่างลึกซึ้ง ดารายอดนิยมอย่างลู่หาน ด้วยตัวตนของเถาซิ่งเอ๋อก็ยังอยากจะทำให้เขาตกจากแท่นบูชาในชั่วพริบตา แต่ทว่ามันแค่เป็นการพูดเท่านั้นเอง เถาซิ่งเอ๋อไม่ต้องการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่แน่นอน สำหรับสามีของอวิ๋นเสว่เหยนคนนี้ เธอไม่ได้รู้รายละเอียดพื้นเพก่อนหน้านี้ของเขามาก่อน แม้กระทั่งดาราคนหนึ่งยังต้องสูญเสียมูลค่าไปแล้วเรียบร้อยเพราะว่าขัดแย้งกับเขา!

ในช่วงเวลานั้น แสงสปอร์ตไลท์ได้สว่างขึ้นทันใด แล้วโฟกัสได้รวมอยู่ตรงจุดนั้น จากนั้นร่างที่มีเคราขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

คืนนี้ดาวเด่นของงาน ปรมาจารย์ด้านการออกแบบเครื่องประดับระดับโลกมาสเตอร์เจมส์ คาเรน ปรากฏตัวกลางสถานที่จัดงานแล้ว

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท