เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วอมยิ้มเล็กน้อย คนอื่นมองไม่ออก แต่เขามองออกตั้งแต่แวบแรกแล้ว นี่ไม่ใช่ป้ายหยกที่ท่านอ๋องสวมพก แต่เป็นขององค์จักรพรรดิต่างหาก ที่มีสิทธิ์สวมพกป้ายหยกแบบนี้!
ทั้งสองด้านของป้ายหยกแกะสลักรูปมังกร เป็นสัญลักษณ์เกียรติยศที่สูงสุดของราชวงศ์!
แต่ป้ายหยกหวานหลงที่ลูกหลานสมาชิกทั่วไปในราชวงศ์สวมพกนั้น บนหัวมังกรไร้ซึ่งดวงตา มีเพียงป้ายหยกหวานหลงขององค์จักรพรรดิเท่านั้น ที่มีดวงตาคู่ทั้งสองด้านของหัวมังกร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสูงส่งที่ไม่มีใครเทียบได้!
และป้ายหยกที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็คือป้ายหยกที่มีดวงตาคู่ ราคานั้น สูงกว่าป้ายหยกหวานหลงที่พวกท่านอ๋องทั้งหลายสวมพกมาก!
อาจเป็นเพราะว่าป้ายหยกถูกฝังอยู่ใต้ดินนานเกินไป ทำให้ดวงตาของมังกรถูกปกคลุมด้วยเศษผงหยก และเมื่อเวลานานไป เลยเชื่อมติดเป็นส่วนเดียวกัน
และหยกนั้นกลัวไฟ เครื่องเป่าผมพลังงานสูงทำให้เกิดความร้อน สามารถทำให้หยกอ่อนตัวได้ ดังนั้น เมื่อใช้ไดร์เป่าผมเป่าประมาณ10วินาที เศษผงหยกที่ปิดดวงตาของมังกร ก็ล่อนออก เผยให้เห็นถึงดวงตามังกร
ตอนนี้เว่ยหลายสีหน้างุนงง มองชายชราที่ลุกขึ้นมาพูด “ลุง มีดวงตาแล้วยังไงเหรอ?”
ชายชราสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวช้าๆว่า “ดวงตาหัวมังกร คือป้ายหยกคู่กายที่องค์จักรพรรดิพกติดตัว ใต้หล้าฟ้าดินมีเพียงชิ้นเดียว มีคำกล่าวขานกันว่าดวงตาของป้ายหยกหวานหลงนี้ แสดงให้เห็นถึงฝีมือการแกะสลักหยกระดับสูงสุดในยุคนั้น แม้ดวงตามังกรจะเล็กเท่าเม็ดข้าว แต่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภาพในตำหนักกระดิ่งทอง ที่เหล่าขุนนางนับร้อยมาถวายบังคม”
“เสมือนกับพระเนตรของพระมหาจักรพรรดิ ที่มองขุนนางหลายร้อยคนบนโลกนี้ด้วยตัวเอง!”
“มูลค่าป้ายหยกขององค์จักรพรรดิชิ้นนี้นั้น จะสูงกว่าป้ายหยกหวานหลงธรรมดาทั่วไปมาก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยปรากฎมาสักชิ้นหนึ่ง แต่นักวิชาการในวงการโบราณคดีเคยยืนยันไว้ว่า ถ้าหากป้ายหยกขององค์จักรพรรดิได้ปรากฏขึ้น ราคานั้น จะไม่ต่ำกว่า500ล้านแน่นอน!”
ทุกคนอุทานออกมาอย่างตกใจ สายตาที่มองไปยังเซี่ยงเส้าหลง กลายเป็นอิจฉาขึ้นมาทันที
ตอนแรกคิดว่าเขาขาดทุนแน่ ใครจะไปรู้ว่าในพริบตา เขาได้กำไรมากถึง5เท่าตัว!
คำพูดของชายชรานั้น ทุกคนเชื่อมั่นโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ เพราะคนที่พูด ก็คือท่านประธานของสมาคมโบราณเมืองเทียนไห่ เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง ในมณฑลตงซาน
สีหน้าเว่ยหลาย แปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดที เขายังขาด500ล้านหยวนนี่หรือ?
ถึงแม้จะไม่น้อย แต่สำหรับตระกูลเว่ยแล้ว มันก็แค่เศษเสี้ยว แต่เมื่อกี้เขาเพิ่งหัวเราะเยาะเซี่ยงเส้าหลง ที่โง่เสียสติมีตาหามีแววไม่ โดนแหกหน้ากลับทันที คนอื่นเขามีสัญชาตญาณดูแวบเดียวก็รู้ว่าอันไหนเพชรแท้อันไหนพลอย แต่ตัวเขาเองนี่สิ ของดีอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ยังกลับปล่อยให้หลุดลอยไป ใครที่โง่แล้วยังอวดฉลาด คำตอบอยู่ตรงหน้าแล้ว
ส่วนอวิ๋นเสว่เหยนที่ตำหนิเขานั้นตอนนี้ก็อ้าปากค้าง มองเซี่ยงเส้าหลงด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “คุณ…… คุณดูออกตั้งแต่แรกแล้วเหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มเหอะเหอะ “ผมแค่รู้สึกว่าป้ายหยกนี้มันมีมูลค่ามาก แต่ไม่คิดว่าจะมีมูลค่ามากขนาดนี้”
“โชค! โชคล้วนล้วน!”
อวิ๋นเเสว่เหยนมองใบหน้าด้านข้างของเขา ดวงตากลับทอประกายแฝงความหมายอื่น
เธอพบว่า ยิ่งนับวันเธอยิ่งไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ ตอนแรกนั้นนึกว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดา แต่ความบังเอิญครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เธอต้องทำความเข้าใจใหม่ จนบางครั้งเธอเองยังคิดว่า ความบังเอิญที่เขาพูดถึงในแต่ละครั้ง มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆหรือ?
“ไปสืบมาทีสิ ว่าคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวนั้นคือใคร!”
ในตอนนี้ เว่ยหลายชี้ไปที่ห้องส่วนตัวของเซี่ยงเส้าหลงด้วยสายตามืดมนแล้วสั่งลูกน้องด้วยเสียงเย็นชา ดวงตาหมุนเวียน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
หน้าของฉันเว่ยหลาย ไม่ใช่ว่าใครอยากหักหน้าก็หักได้!
การประมูลยังคงดำเนินต่อไป หลังจากทำภารกิจที่ซ่งจื้อตงมอบหมายให้เสร็จ ใจของอวิ๋นเสว่เหยนก็ผ่อนคลายลง เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกง่วงนอนเล็กน้อย เมื่อเห็นว่างานประมูลใกล้จะสิ้นสุดแล้ว คำพูดผู้ดำเนินการประมูลหนึ่งประโยคทำจิตของเธอสั่นสะท้าน ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ!
“ของประมูลชิ้นสุดท้ายนี้ คือหยกแขวนในสมัยราชวงศ์ถัง หยกแขวนชิ้นนี้ แม้จะไม่มีค่ามากนัก แต่ตามบันทึกของประวัติศาสตร์ หยกแขวนนี้มีทั้งหมด9ชิ้น ใครที่สามารถรวบรวมครบทั้ง9ชิ้นได้ จะค้นพบความลับอันใหญ่หลวง!”
“ส่วนเรื่องจะจริงหรือไม่งั้น ก็เชิญทุกท่านทดสอบเอาเองละกัน!”
“ราคาประมูลของหยกแขวนนี้เริ่มต้นที่1แสน ทุกครั้งที่เพิ่มเงินประมูล ไม่ควรต่ำกว่า1หมื่น!”
ถึงแม้จะเป็นสินค้าประมูลชิ้นสุดท้าย แต่ทุกคนกลับไม่มีท่าทีสนใจ 1แสนถึงแม้ไม่แพง แต่หยกชิ้นนี้ก็ไม่คุ้มค่ากับราคานี้ กับแค่ตำนานที่คลุมเครือที่จะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ไม่รู้นั้น มันไม่น่าลงทุนเลย
“เซี่ยงเส้าหลง! หยกแขวนชิ้นนั้น! หยกแขวนชิ้นนั้น!……”
เมื่อเห็นหยกชิ้นนั้น อวิ๋นเสว่เหยนตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก
“หยกแขวนชิ้นนั้น เหมือนกันกับชิ้นที่คุณสะสมใช่ไหม เหมือนกันเลยใช่ไหม?”
อวิ๋นเสว่เหยนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“เหอะเหอะ ผมเข้าใจความหมายของคุณ”
“1แสน1หมื่น! ”
“1แสน1หมื่น ยังมีใครที่อยากเสนอราคาประมูลอีกไหม?”
เมื่อทุกคนเห็นว่าคนที่ตะโกนเรียกราคาคือเซี่ยงเส้าหลง เดิมทีที่จะออกไป กลับนั่งลงอีกครั้ง จากบทเรียนครั้งก่อน หรือว่าหยกชิ้นนี้ จะมีสมบัติซ่อนอยู่จริง?
“1แสน!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงหมองลงเล็กน้อย ไม่ต้องดูเขาก็ฟังออกว่า เสียงของคนที่พูด ก็คือเว่ยหลาย!
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เมื่อครู่เขาหักหน้าเว่ยหลายไป ตามนิสัยโอหังของเว่ยหลายนั้น เขาจะต้องแข่งกับเขาให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน นี่มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย!
ทันใดนั้น เขาก็คิดอะไรได้ มุมปาก ขยับยิ้มอย่างช้าๆ
“2ล้าน!”
อะไรนะ?!
เซี่ยงเส้าหลงตะโกนราคาประมูล ทำให้ทุกคนตกตะลึง ก็เหมือนกับเว่ยหลายครั้งที่แล้ว ยกราคาขึ้น10เท่า!
ดวงตาเว่ยหลายเปล่งประกาย ยิ้มอย่างมืดมน “ของมีค่าจริงๆ ไอ้หนุ่น คราวนี้ อย่าคิดที่จะแย่มันไปจากมือฉันไปได้อีก!”
“3ล้าน!”
น้ำเสียงเหยียดหยามของเซี่ยงเส้าหลงดขึ้น “เป็นถึงคุณชายตระกูลเว่ยเสนอราคาได้แค่นี้หรือ?”
“30ล้าน!”
“คุณชายเว่ย ถ้าเกิดว่าเขินอาย แนะนำว่าคุณไม่ควรเพิ่มราคาอีกเลย จะได้ไม่ขายหน้า!”
“นายพูดอะไรนะ?”
เว่ยหลาย โกรธจนเส้นเลือดบนใบหน้าโผล่ออกมา “นายกล้าว่าฉันไม่มีเงินงั้นหรือ?!”
“50ล้าน! ฉันจะบอกให้นาย หยกชิ้นนี้ ต้องเป็นของฉัน!”
มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงเผยรอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จออกมา แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูดทันทีว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สุภาพบุรุษไม่แย่งของใคร หยกชิ้นนี้ เป็นของคุณชายเว่ยแล้ว!”
อยู่ๆก็ปล่อยมือ ทำให้ทุกคนมึนตึ้บงุนงง เว่ยหลายเองก็อึ้งไป สัญชาตญาณ กำลังบอกว่าเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ไหลลงสู่ใจ
ในเวลานี้ เขารีบหันไปหาท่านประธานสมาคมโบราณที่เคยพูดก่อนหน้าพร้อมถามว่า “ตาแก่ ช่วยฉันดูหน่อยสิว่า หยกชิ้นนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?”
แม้เขาจะไม่พอใจกับการเรียกของเว่ยหลาย แต่เขาไม่สามารถล่วงเกินตระกูลเว่ยได้ ทำได้เพียงสังเกตดูอย่างละเอียดจากนั้นส่ายหน้า “ฉันต้องขอโทษที่ตาไม่ถึง หยกชิ้นนี้ ฝีมือหยาบกระด้าง สีน้ำหยกก็ธรรมดา นอกจากจะเป็นของสมัยราชวงศ์ถังแล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรน่าพูดถึงเลย!”
เว่ยหลายตกตะลึง
ปัง!
เสียงค้อนเคาะดังขึ้น เสียงหยอกล้อของเซี่ยงเส้าหลงก็ดังขึ้น “คุณชายเว่ย ลืมบอกคุณไปว่า หยกชิ้นนี้ มันไม่มีอะไรพิเศษเลย ก็แค่ผมดูแล้วว่ามันสวยดี เลยอยากซื้อมาเล่นๆ แต่ตระกูลคุณชายเว่ยมีทั้งธุรกิจและเงินมากมาย ใช้เงิน50ล้านหยวนซื้อของเล่นที่ราคาต่ำกว่า2แสน ผมนับถือ! นับถือ!”
เสียงนั้นดังไปทั่วห้องโถง ตอนแรกทุกคนยังหัวเราะเสียงเบา แต่สุดท้าย ก็อดไม่ไหว จากเสียงหัวเราะเยาะเบาๆกลายเป็นดังก้องทั่วห้องประมูล ถึงแม้จะมีผ้าม่านหนาบังตัว เว่ยหลายก็สัมผัสได้ถึงสายตาเย้ยหยันของผู้คนที่จ้องมองมาที่ใบหน้าของเขา ราวกับดูไอ้โง่ของเจ้าถิ่นโดยประมาณ
เขาทุบโต๊ะอย่างหนัก ดวงตาฉายแววอาฆาตมาดร้าย “บัดซบ! อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกเป็นใคร!”
“กล้าเล่นตลกกับฉัน ฉันจะทำให้นายเป็นตายเท่ากัน!”