ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 58 คนป่าเถื่อนนอกรีต คนที่บังอาจดูถูกฉัน ต้องตาย!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

“คุณพูดถูก!”

“ใช่ เราจะทำให้คนแคระแห่งประเทศญี่ปุ่นเหล่านี้รู้ว่าใครเป็นบรรพบุรุษของพวกเขากันแน่!”

“คนเหล่านี้ท้าทายเราด้วยอารยธรรมที่เรามอบให้แก่พวกเขา และพวกเขาไม่รู้ซะแล้วว่าใครเป็นใหญ่และใครเป็นเล็ก?”

ผู้ชมที่โรงชมรมหมากรุกต่างก็โห่ร้องเชียร์อย่างเต็มที่ในสายตาของพวกเขา เหอจงซวินเป็นคนที่มีทักษะการเล่นหมากรุกที่ยอดเยี่ยที่สุดของหมากรุกประเทศจีนแต่ตอนนี้เขากลับพ่ายแพ้ให้กับคนป่าเถื่อนแห่งประเทศญี่ปุ่น ซะงั้น จึงทำให้ทุกคนรู้สึกอับอายอย่างมาก ในเวลานี้เซี่ยงเส้าหลงก็ลุกขึ้นอย่างกะทันหันและทำให้อีกฝ่ายพูดไม่ออกด้วยคำพูดไม่กี่คำ ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกสะใจมาก!

“เชอะ! คนต่ำต้อยอย่างพวกแก่ เก่งแต่ปากเท่านั้น ไม่มีความสามารถอะไรหรอก!”

ในเวลานี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถพูดภาษาจีนกลางได้อย่างลื่นไหลยืนขึ้น

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงหรี่ลงเล็กน้อย เขาแคะหูหลายทีและมองไปที่เหอจงซวิน จากนั้นก็กล่าวด้วยความสงสัย “ท่านเหอโรงชมรมหมากรุกของเราบกพร่องเกินไปแล้ว แม้แต่สุนัขก็ปล่อยให้เข้ามาได้ มันเป็นการดูหมิ่นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เหรอ!”

เหอจงซวินมองหน้าคนพูดอย่างเย็นชา “เจ้าเซี่ยงเองก็เคยกล่าวว่าเดรัจฉานยังไงก็เป็นเดรัจฉานอยู่วันค่ำ แล้วมนุษย์จะมาถือสากับสัตว์เดรัจฉานได้อย่างไร

“ไอ้สารเลว! แกว่าใครเป็นสัตว์เดรัจฉาน!”

ชายหนุ่มโกรธจนตัวสั่นหลังจากที่รับรู้ถึงความเยาะเย้ยจากคำพูดของพวกเขา!

เซี่ยงเส้าหลงยกคางขึ้นและจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา “ฉันหมายถึงนายนั่นแหละ มีอะไรไหม?”

“จะให้ฉันแขวนป้ายที่เขียนคำว่า สุนัขแห่งประเทศญี่ปุ่นให้กับนายไหม?”

“คุณ!……”

ดวงตาของยางิวโกโจมืดมนลงทันที และกล่าวว่า ” ปรมาจารย์เหอครับ โรงชมรมหมากรุกเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์เสมอ! มันไม่ใช่สถานที่สำหรับการทะเลาะวิวาทเหมือนตลาดนัดในเมืองนะ!”

“ใช่!”

ชายหนุ่มมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างยั่วยุ “ไอ้หนู ถ้านายแน่จริงก็ชนะโกโจซังด้วยการเล่นหมากรุกสิ! ไม่เช่นนั้น พวกแกก็เป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น!”

“อย่างไรก็ตาม แม้แต่เทพหมากรุกผู้มีเกียรติก็ยังแพ้เขาเลย ฉันว่านายอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยนดีกว่า!”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้ม และจองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มเย็นชา “แล้วถ้าหากฉันชนะเขาได้ นายจะว่าอย่างไร”

“เชอะ! คุณรู้หรือเปล่าว่าคู่แข่งของคุณคือใคร? เขาคือราชาหมากรุกแห่งประเทศญี่ปุ่น แถมยังเป็นแชมป์โลกที่ไม่เคยแพ้ใครมาก่อนด้วย หากคุณสามารถเอาชนะเขาได้ ฉันจะคุกเข่าลงและเรียกคุณว่าพ่อ!”

“นายอย่ามาเรียกฉันว่าพ่อเด็ดขาด ข้าเป็นมนุษย์คงไม่สามารถให้กำเนิดสัตว์เดรัจฉานที่ประจบประแจงชาวต่างชาติอย่างนายได้!”

“แก!…ถ้างั้นคุณต้องการให้ผมทำอะไร?”

“ง่ายมาก ถ้าฉันชนะ นายก็แค่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าทุกคนก็พอ!”

“เปิดเผยตัวตน? คุณหมายถึงอะไร”

เซี่ยงเส้าหลงแสยะยิ้ม “คลานออกไปเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง!”

“บัดซบ! ได้! ตกลง! เดี๋ยวเรามาดูกันว่าคุณจะถูกโกโจซังเอาชนะจนพ่ายแพ้ยับเยินอย่างไร!”

เซี่ยงเส้าหลงทำเสียงเย็นชาใส่เขา จากนั้นเขาก็ก้าวสู่สนามหมากรุก และมองไปที่ยางิวโกโจและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ คุณใช่ไหมที่บอกว่าประเทศจีนของเราไม่มีใครสามารถเอาชนะคุณได้? แถมยังบอกว่าจะรื้อป้ายโรงชมรมหมากรุกของฉันทิ้งด้วยใช่ไหม?”

หลังจากที่มองเขาอย่างหัวจรดเท้าและเห็นว่าเซี่ยงเส้าหลงนั้นยังเด็กอยู่ เขาก็ยิ้มอย่างดูถูก “ไอ้คนขี้แพ้ แกยังมีหน้าติดป้ายอีกเหรอ?”

“อีกอย่างหนึ่ง ฉันได้เดินทางไปหลายเมืองในประเทศของคุณ และพบว่าคนในประเทศนี้ไม่มีใครสามารถเอาชนะฉันได้เลยสักคน แม้แต่เทพหมากรุกของพวกคุณก็ยังแพ้ฉันเลย ดังนั้นไม่ให้เรียกพวกแกไม่ว่าขยะ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว ทุกคนก็ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที!

“บังอาจเกินไปแล้ว! ฉันอยากจะฆ่ามันให้ตายจริงๆ !”

“ ไอ้สาระเลวเอ๊ย! ถ้าก่อนหน้านี้ฉันเรียนหมากรุกได้จริงจังกว่านี้ ฉันจะเล่นงานไอ้เวรนี่ให้สาแก่ใจไปเลย!”

มีรอยยิ้มเย็นชาปรากฏที่มุมปากของเซี่ยงเส้าหลง “ฉันหวังว่าในอีกสักครู่คุณยังสามารถพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งเช่นนี้ได้!”

“ตั้งกระดานหมากรุกเดี๋ยวนี้!”

พนักงานของโรงชมรมหมากรุกรีบจัดกระดานหมากรุกอย่างรวดเร็ว เซี่ยงเส้าหลงถือหมากขาวส่วนยางิวโกโจถือตัวหมากดำ!

เซี่ยงเส้าหลงนั่งไขว่ห้างอย่างสบายๆ และพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “ถึงแม้คุณจะเป็นแค่ไอ้กระจอกคนหนึ่งเท่านั้น แต่ประเทศของฉันเป็นประเทศที่มีมารยาท ดังนั้นฉันจะให้คุณเริ่มก่อน!”

ยางิวโกโจโกรธจนตัวสั่น แม้ว่าทั้งคู่จะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าตัวเองนั้นเก่งเรื่องคารมคมคายจริงๆ เขาด่าผู้อื่นโดยไม่ใช้คำหยาบเลยสักคำ หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่เซี่ยงเส้าหลงอย่างเย็นชา “ ไอ้หนุ่ม มีสุภาษิตในประเทศของคุณกล่าวไว้ว่า คนเริ่มชนะครึ่ง ความสุภาพที่เสแสร้งของแกจะทำให้แกแพ้พินาศกว่าเดิม!”

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!”

เซี่ยงเส้าหลงพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญว่า “คุณปัญญาอ่อนไปแล้วเหรอ? ฉันสุภาพกับคุณซะที่ไหน?”

“นี่คือการดูถูกโดยสิ้นเชิง เข้าใจไหม?”

“แก!…ได้ ฉันจะทำให้แกต้องชดใช้ให้กับคำพูดและการกระทำของแกอย่างแน่นอน!”

ตัวหมากสีดำถูกวางลงบนกระดาน และเกมก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!

“ถึงตาคุณแล้ว!”

เซี่ยงเส้าหลงชำเลืองมองอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขาหยิบตัวหมากสีขาวออกมาแล้วโยนลงบนกระดานหมากรุก ตัวหมากสีขาวเด้งขึ้นสองสามครั้งราวกับหยดน้ำแล้วหยุดลงบนกระดานหมากรุกอย่างนิ่งงัน

ช็อตนี้ทำให้ทุกคนโกลาหลทันที!

“ไอ้น้องคนนั้น ทำอะไรอยู่เนี่ย!”

“แม้ว่าคำพูดที่แสร้งทำเป็นในเมื่อสักครู่นี้ของเขาจะทำให้เรารู้สึกสะใจมาก แต่อย่างไรก็ตามคนแคระคนนั้นก็เป็นถึงแชมป์โลก และไม่ว่าเขาจะแสร้งทำเป็นแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่ควรเล่นด้วยความประมาทเช่นนี้!”

“ตายแน่เลย! ฉันรู้สึกว่าเราจะต้องอับอายในภายหลังแน่ๆ !”

ยางิวโกโจหัวเราะคิกคัก “เมื่อวางแล้วก็ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนใจ แต่ถ้าแกขอร้องฉัน ฉันจะให้โอกาสแกเดินหมากใหม่อีกครั้งหนึ่ง!”

“คนโง่อย่างคุณเป็นแชมป์โลกได้อย่างไร?”

เซี่ยงเส้าหลงจ้องมองเขาราวกับว่าเขาเป็นไอ้ปัญญาอ่อนคนหนึ่ง ”นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ที่ฉันยอมให้คุณเดินหมากก่อนสามครั้ง นั่นหมายความว่าฉันกำลังเหยียบหยามศักดิ์ศรีและดูถูกคุณอยู่ ในภาษาถิ่นตะวันออกเฉียงเหนือคือคุณเป็นเศษขยะ เข้าใจไหม?”

“ได้! โอเค! แล้วแกจะเสียใจทีหลัง!”

ยางิวโกโจรู้สึกว่าถ้าเขายังคงพูดแบบนี้ต่อไป ตัวเขาเองจะต้องแตกตายแน่ๆ เพียงแค่เอาชนะเขาอย่างรวดเร็วด้วยทักษะการเล่นหมากรุกที่ดุเดือดและกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนก็พอ!

เซี่ยงเส้าหลงปฏิบัติตามคำสัญญา ตัวหมากสามตัวแรกถูกโยนลงบนกระดานอย่างตามใจชอบ ซึ่งไม่สำคัญว่าตัวหมากเหล่านี้จะหยุดลงที่ใด เมื่อถึงตัวที่สี่ ดวงตาของเขาเริ่มควบแน่น และรัศมีของเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด เขามองไปที่ยางิวโกโจ และแสยะยิ้ม “ต่อไป ได้เวลาสนุกกับคุณแล้ว!”

เสียงของผู้คนค่อยๆ เงียบลง ทุกคนดูเกมหมากรุกอย่างตั้งอกตั้งใจ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว และตัวหมากส่วนใหญ่ก็ถูกวางลงบนกระดานแล้ว

“เหล่าเหอ สถานการณ์เป็นยังไงบ้างแล้ว?”

มีเสียงแก่ชราดังขึ้นข้างๆ เหอจงซวิน และเขาคือ ฉวี่อี้หมินเป็นนายท่านของตระกูลฉวี่ ที่หายจากอาการป่วยหนักนั่นเอง

เหอจงซวิน แสดงสีหน้าเคร่งขรึม “สถานการณ์ของเสี่ยวเซี่ยงไม่ดีเลย!”

“มังกรทุกตัวถูกคู่ต่อสู้สกัดกั้นไว้ และการโจมตีของยางิวโกโจ นั้นรุนแรงมาก เกรงว่าเสี่ยวเซี่ยงคงทนได้อีกไม่นาน!”

ฉวี่อี้หมิน ถอนหายใจ “แม้แต่ เสี่ยวเซี่ยงก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ หรือ ประเทศจีน ที่มีแผ่นดินอันกว้างขวางและมีประชากรล้นหลามจะตกอยู่ในมือของคนนอกรีตจริงๆ เหรอ?”

เหอจงซวิน กัดฟัน นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่น “หากนายไม่ไหวจริงๆ ให้ข้าไปต่อสู้กับเขาอีกสักสองสามเกมก็ได้!”

ฉวี่อี้หมิน ตกใจมาก “เหล่าเหอ คุณจะลงแข่งไม่ได้นะ ร่างกายของคุณรับไม่ได้!”

“ข้ายอมตายในเกมหมากรุก ดีกว่าปล่อยให้คนป่าเถื่อนแห่งประเทศญี่ปุ่น ดูถูกเรา!”

“ฮ่าฮ่า…” ยางิวโกโจวางหมากลงบนกระดานและหัวเราะเสียงดังด้วยความดูถูก “ตอนแรกฉันก็นึกว่าแกจะเก่งจริง แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นแค่การเขียนเสือให้วัวกลัวเท่านั้น!”

“ตัวหมากทั้งหมดของคุณถูกฉันกินขาดแล้ว และมังกรก็แตกออกเป็นหลายส่วน ไม่เกินสิบก้าว แกก็จะแพ้อย่างแน่นอน!”

ทันใดนั้นทุกคนก็ถอนหายใจ พวกเขาต่างก็เป็นคนรักหมากรุกกันทั้งนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สถานการณ์บนกระดานได้อย่างดี ยางิวโกโจ พูดถูก หมากของเซี่ยงเส้าหลงถูกกินขาดแล้ว และการพ่ายแพ้จึงเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

“เดิมทีฉันคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับหมากรุกของประเทศจีนได้ แต่ที่ไหนได้แกมันก็แค่เก่งแต่ปากเท่านั้น รู้อย่างนี้แต่แรก ให้ฉันลงแข่งดีกว่า!”

“ใช่แล้ว การแสร้งทำเป็นในตอนแรกของนายมันทำให้พวกเราสะใจมาก แต่ตอนนี้นายกลับทำให้เราต้องขายหน้า มันช่างน่าอายจริงๆ !”

และดวงตาของชายหนุ่มสุนัขคนนั้นก็เต็มไปด้วยความได้ใจ “ตอนแรกผมคิดว่าแกเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าแกจะแย่กว่าคำว่าไร้ประโยชน์ซะอีก ในความคิดของฉันแกเป็นได้แค่เศษสวะเท่านั้น!”

ยางิวโกโจหยิบตัวหมากขึ้นมา และวางมันลงอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม “ถ้าแกตั้งใจเล่นกับฉันแต่แรกและไม่เดินหมากรุกทั้งสามนั้นตามความประสงค์ บางทีแกอาจจะยืนหยัดได้นานกว่านี้ก็เป็นได้ แต่ว่า ความหยิ่งยโสของแกต่างหากที่ทำให้แกต้องพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช ตอนนี้แพ้ชนะถูกกำหนดแล้ว แกยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ?”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างมีเลศนัย “คุณมีปัญญาเพียงเท่านี้เองหรือ? จะให้ฉันสละให้คุณอีกสักสามครั้งไหม? เล่นแบบนี่มันจะไม่น่าเบื่อเกินไปที่เหรอ?”

“คุณคิดว่าคุณจะชนะขาดลอยแล้วใช่ไหม? คุณจำคำพูดที่ฉันพูดไว้ตอนต้นได้ไหม บรรพบุรุษยังไงก็เป็นบรรพบุรุษเสมอ!”

โป๊ก!

ตัวหมากถูกวางลงบนกระดาน และเกมที่ซับซ้อนและวุ่นวายในตอนแรก ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาราวกับว่าถูกเติมด้วยจิตวิญญาณในทันที!

“นี่…นี่มัน…”

ดวงตาที่เยือกเย็นของเหอจงซวิน เริ่มกระตือรือร้นขึ้นมา และร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว

“เป็นแบบนี้นี่เอง! ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”

“ตัวหมากที่ถูกโยนลงตามอารมณ์ในตอนแรก ที่แท้ก็เป็นอาวุธลับที่ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อซุ่มโจมตีแต่แรกแล้ว มังกรของฝ่ายดำดูเหมือนจะถูกฝ่างขาวสกัดกั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่คาดคิดว่าฝ่ายดำจะกลายเป็นผู้เล่นหลักแล้ว และการเดินหมากครั้งสุดท้ายของเสี่ยวเซี่ยงได้เชื่อมต่อกับหมากรุกสามตัวแรกอย่างสมบูรณ์แบบ หมากรุกสีดำที่ยุ่งเหยิงในตอนแรกได้รวมตัวเป็นมังกรเก้าตัวในทันทีจิ่วหลงปันเทียน! นี่คือลมแรงของจิ่วหลงปันเทียนฮ่าฮ่า! ชนะแล้ว! เราชนะแล้ว!

คำพูดของเหอจงซวินส่งไปยังหูของทุกคนอย่างชัดเจน ผู้คนนับไม่ถ้วนลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจและเฝ้าดูการพลิกผันของเกมนี้ หลังจากนั้น หลายคนหันไปโค้งคำนับเซี่ยงเส้าหลงด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด และพากันก้มหน้าก้มตาขอโทษเซี่ยงเส้าหลงที่พวกเขาดูหมิ่นและไม่เชื่อใจเขาก่อนหน้านี้!

เมื่อเห็นว่ายางิวโกโจกำลังเหงื่อแตก เซี่ยงเส้าหลงก็ทำปากแบะ “ภรรยาของฉันยังคงรอฉันกลับบ้านทำอาหารให้เธอทานอยู่ ทำไมคุณไม่รีบเอาชนะฉันล่ะ”

โป๊ก!

ยางิวโกโจเขวี้ยงตัวหมากรุกลงกับพื้นอย่างดุเดือด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง จากนั้นเขาก็จ้องมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยสายตาที่อยากจะกินเลือดกินเนื้อเขา!

เซี่ยงเส้าหลงไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากที่จ้องมองเขาเป็นเวลานานและเขาก็พูดอย่างดุเดือดว่า “ไปกันเถอะ!”

“เดี๋ยวก่อน!”

เสียงแผ่วเบาดังขึ้น เซี่ยงเส้าหลงลุกขึ้นยืน “คิดจะจากไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?”

ยางิวโกโจตะคอกอย่างเย็นชา “ไม่เช่นนั้นล่ะ แกต้องการอะไรอีก?”

“ขอโทษ!”

“ขอโทษท่านเหอขอโทษโรงชมรมหมากรุก! และขอโทษหมากรุกของประเทศจีนด้วย!”

“ใช่! ขอโทษซะ!”

“ปรมาจารย์บ้าบออะไร สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มธรรมดาของเราอยู่ดี เร็วเข้ายอมแพ้และขอโทษซะ!”

ทุกคนเดือดมาก แต่ ยางิวโกโจไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว มองหน้าเขาอย่างเย่อหยิ่ง “อยากให้ฉันขอโทษเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

“ฮิฮิ ถ้าอย่างนั้น ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ในชั่วครู่ชั่วยาม!”

“บังอาจ! แกรู้ไหมว่าโกโจซังเป็นใคร?”

คนใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างเศร้าสร้อย “เขาเป็นทายาทของตระกูลโกโจ ถ้าแกกล้าที่จะดูหมิ่นตระกูลโกโจอีก สถานเอกอัครราชทูตของประเทศเราจะทำให้คุณเดือดร้อน!”

“น่ารำคาญ!”

เซี่ยงเส้าหลงเหลือบมองเขาอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เดินตรงไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไร เขาลุกขึ้นเตะด้วยสองเท้า ทันใดนั้นคนใช้สองคนนั้นก็ถูกเตะออกไปโดยตรง จากนั้นภายใต้สายตาที่เฉื่อยชาของยางิวโกโจเซี่ยงเส้าหลงชี้ไปที่หน้าพวกเขาและพูดอย่างจองหองว่า “ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว!”

“คุกเข่าลงและขอโทษซะ มิฉะนั้นเข่าของคุณจะไม่สามารถยืนขึ้นอีกต่อไป!”

“แก…แกกล้าเตะคนของฉันเหรอ!”

หลังจากตกตะลึงชั่วครู่ ใบหน้าของยางิวโกโจก็ดุร้ายขึ้นมาทันที “แกจะต้องเสียใจ! ผู้คนในสถานทูตของประเทศเราจะไม่ปล่อยแกไว้แน่!”

“ช่างโง่เขลาเบาปัญญาเสียจริง!”

ดวงตาของเขาเย็นลงอย่างกะทันหัน เขาบินขึ้นเตะเขาลงกับพื้น แล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบลงที่เท้าขวาของยางิวโกโจ เสียงเหมือนเรือนจำเย็นจิ่วโยว “คุกเข่าหรือจะขาหัก!”

ขณะนั้นเองมีเสียงเบรกที่เร่งรีบดังมาจากนอกประตู จากนั้นกลุ่มคนติดอาวุธก็พุ่งเข้ามา คนนำหน้าพูดภาษาจีนกลางอย่างเส็งเคร็งว่า “ปล่อยประชาชนของเราไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่เกรงใจละนะ!”

“ฮ่าฮ่า…”

“ผู้คนจากสถานทูตอย่างนั้นเหรอ!” ยางิวโกโจเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “เตะนี้ ฉันจะให้แกชดใช้ด้วยการเข้าคุก!”

“จริงเหรอ?”

เซี่ยงเส้าหลงแสยะยิ้ม และเท้าของเขาก็เหยียบลงทันที!

คลิก!

เสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วสนาม!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท