ภายใต้กีบเหล็กแห่งการกดขี่ของเซี่ยงเส้าหลง ตระกูลราชาพนันที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งยวด ก็ได้จบลงอย่างเศร้าสลด
อย่างไรก็ตามสำหรับทั้งหมดนี้ เซี่ยงเส้าหลงไม่มีความเห็นอกเห็นใจเลยแม้แต่นิด ในเวลาเดียวกันขณะที่ยั่วยุเขา การทำลายล้าง ซึ่งเป็นผลที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว!
“นายพลน้อย!”
หลังจากกลับมาที่คฤหาสน์ ถังซิวพูดด้วยความเคารพ “คนที่ท่านสั่งให้ตามหา หาเจอแล้วครับ!”
ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงฉายแวววาว น้ำเสียงของเขาอดไม่ได้ที่จะเร่งรีบเล็กน้อย และลุกยืนขึ้นในทันที “เลี่ยหลง! ไปกันเถอะ!”
หมู่บ้านเสี่ยวเหอตั้งอยู่ชานเมืองอ้าว ถือได้ว่าเป็นที่ดินที่มีราคาแพงในเมืองอ้าว เนื่องด้วยชีวิตชนบทธรรมดายังคงถูกรักษาเอาไว้ในที่นี่ ไม่มีความร่ำรวยและสูงส่ง อีกทั้งยังเรียบง่ายและไม่โอ้อวด
แต่หมู่บ้านเสี่ยวเหอในปัจจุบัน จากชีวิตที่สงบสุขดั่งเดิมได้พังทลาย พร้อมกับมีเสียงดังสนั่นสะเทือนลั่นฟ้าตามกันมา มีรถขุดดินและรถดันดินนับสิบคันจอดอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน เผชิญหน้าชาวบ้านนับไม่ถ้วนด้วยพลั่วและไม้เท้าไว้ในมือ ซึ่งสถานการณ์ตึงเครียด และดุเดือดมาก
ชายหัวล้านร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำ ควบคู่กับสร้อยโซ่ทองเส้นใหญ่ มีใบหน้าที่ดุร้ายและน่ากลัว มองดูชาวบ้านที่ชุมนุมกันอยู่ เขาหยิบโทรโข่งและปีนขึ้นไปบนรถดันดิน แล้วพูดด้วยท่าทีไม่เป็นมิตรว่า “ชาวบ้านในหมู่บ้านเสี่ยวเหอฟังผมไว้ให้ดี!”
“ผมให้เวลาพวกคุณ1ชั่วโมงสุดท้าย!”
“ย้ายออกไปให้พ้นจากที่นี่ทันที!”
“มิฉะนั้น ผมจะสั่งให้รถขุดดินถล่มบ้านของพวกคุณโดยตรง ถ้าหากใครกล้ามาขัดขวางละก็ รถเหล็กขุดดินของผมนี้! ไม่เลือกหน้านะ!”
“นี่เป็นที่ที่บรรพบุรุษของพวกเราอาศัยอยู่มาหลายชั่วคน! จะไม่มีวันยอมให้คุณเหยียบย่ำตามใจชอบ!”
“ถูกต้อง! พวกเราตกลงที่จะพัฒนา แต่จะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้พ่อค้าหน้าเลือดที่ไร้จิตใจอย่างพวกคุณมาทำลายพวกเรา!”
“คิดจะใช้ราคาที่ดินเปล่ามาแลกกับที่อยู่อาศัยพวกเรา! พวกเราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง!”
มีเจตนาร้ายแวบวาบในสายตาของชายหัวล้าน เขาไม่พูดไร้สาระอะไรอีก ทันใดนั้นก็โดดลงมาจากรถขุดดิน และมีชายสวมหมวกสีน้ำเดินเข้ามา “พี่รอง ทำยังไงดี ดูจากท่าทางนี้แล้ว คนพาลเหล่านี้ยากที่จะจัดการนะ!”
ชายหัวล้านสูบบุหรี่อย่างดุเดือด ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “เมื่อกี้ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้เวลาพวกเขาอีกหนึ่งชั่วโมง!”
“หลังจากหนึ่งชั่วโมงต่อมา ผมไม่สนหรอกนะ ว่าจะเป็นบ้านหรือคนที่อยู่ใต้ล้อรถ!”
“แต่ทว่า……แบบนี้แสดงว่าเราฆ่าคนไม่ใช่เหรอ?”
“ฆ่าคน? ! กลุ่มคนบ้านนอกพวกนี้ กล้าต่อต้านกับบริษัทฉงเถียนจื้อเย่ของพวกเรา ให้มันตายๆ ไปเถอะ!”
“ตอนนี้ จับนาฬิการอเลย ถึงเวลาเมื่อไหร่ ขับรถดันเข้าไปทันทีเลย!”
บรรยากาศบริเวณทางเข้าหมู่บ้านเริ่มดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ และห้องพยาบาลในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากทางเข้าหมู่บ้านมากนักพร้อมกับมีสภาพแวดล้อมเรียบง่าย แล้วได้มีชายชราผมขาวมีเคราคนหนึ่ง พร้อมสวมเสื้อกาวน์ที่ถูกซักจนสีซีดจางและขาดชำรุด ซึ่งเขากำลังฉีดยาให้กับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกอยู่ตรงคอ อีกทั้งยังมีผู้ป่วยอีกเจ็ดแปดคนที่กำลังต่อแถวอยู่ด้านหลังเขา และตรงคอของทุกคนมีเนื้องอกอยู่ ล้วนแล้วเป็นอาการที่ไม่มากก็น้อย และระยะของเนื้องอกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
“หมอเถา! ขอบคุณคุณมากเลยนะ! ขอบคุณคุณมากจริงๆ !”
หญิงชราที่กำลังทำการรักษารู้สึกซาบซึ้งในพระคุณเป็นอย่างยิ่ง “ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หมู่บ้านของเราเริ่มมีผู้คนเป็นโรคคอใหญ่แบบนี้อย่างต่อเนื่อง พวกเราเคยไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่พวกเขาบอกว่าพวกเราได้กินของที่ไม่สะอาดอะไรบางอย่างลงไป ถ้าคิดอยากจะรักษาให้หาย ต้องใช้เงินหลายแสนในการรักษา แต่ทว่าชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆ อย่างเรา จะเอาเงินมากขนาดนี้มาจากไหน! ดังนั้นจึงทำได้เพียงทนเจ็บอยู่อย่างนี้ หากเจ็บจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็กินยาแก้ปวดสองแผงเพื่อบรรเทาความเจ็บ”
“โชคดีที่ได้พบเจอคุณ ชาวบ้านที่ถูกคุณรักษามาก่อนหน้านี้ พวกเขาบอกว่าเนื้องอกที่คอเริ่มบรรเทาลงแล้ว อีกทั้งยังบอกว่าไม่เจ็บแล้วอีกด้วย คุณเป็นหมอเทพจริงๆ !”
ซึ่งชายชราคนนั้นก็คือเถาเส่อ เพียงแค่เห็นเขายิ้มอย่างอ่อนโยน “ผู้เป็นหมอต้องจิตใจดีและมีความเมตตากรุณา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผมควรทำ”
“ผมได้ทำการฉีดยาให้คุณเสร็จแล้ว กลับถึงบ้านพักผ่อนให้มากขึ้น ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ โรคไทรอยด์นี้ก็คงจะหายดีแล้วแหละ”
ด้านหลังเถาเส่อ มีเด็กสาวสวยงามคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน ทันใดนั้นเธอก็หยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วยื่นให้เถาเส่อ และพูดด้วยความเป็นห่วง “คุณปู่คะ คุณน่าจะรักษาคนไข้ติดต่อกันห้าคนแล้วนะ พักก่อนเถอะ!”
เถาเส่อส่ายหัว “ผู้คนในหมู่บ้านนี้ น่าจะใช้น้ำที่ไม่สะอาดอะไรบางอย่าง จึงทำให้เกิดภาวะโรคไทรอยด์ รีบรักษาพวกเขาให้หายดีก่อน พวกเขาก็จะทรมานน้อยลง ให้ผู้ป่วยรายต่อไปเข้ามาเลย!”
ผู้ป่วยรายต่อไปนอนลงบนเตียง เถาเส่อกำลังเตรียมที่จะฉีดยาให้เขา ก็มีเสียงโครมครามดังสนั่นสะเทือนลั่นฟ้าที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมือที่ถือเข็มก็สั่น ซึ่งเกือบทำให้เขาลงเข็มผิดที่เลยทีเดียว
เขาขมวดคิ้วอย่างลึกล้ำ มองไปในทิศทางของเสียงที่ดังมา และพึมพำว่า “ด้านนอก เสียงดังเกินไป!”
ในขณะนี้ บุคคลผู้เงียบงันที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็ลุกยืนขึ้น และเดินเข้ามาอย่างช้าๆ จากนั้นก็โค้งคำนับให้กับเถาเส่อเล็กน้อย และกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณท่านเถา เดี๋ยวผมจะไปดูให้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ผู้อาวุโสถือเป็นครูบาอาจารย์ สามารถที่จะเรียกอาจารย์ อาจารย์ที่มีชื่อเสียง สมควรที่จะเรียกท่าน !
คำว่าคุณท่านนี้ สมชื่อเถาเส่อแล้วจริงๆ !
เถาเส่อเงยหน้าขึ้น และมองไปที่เขาอย่างลึกซึ้ง เซี่ยงเส้าหลงมาถึงที่นี่เป็นเวลา2ชั่วโมงกว่าแล้ว แต่เถาเส่อกำลังรักษาคนไข้ และเขาก็นั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ เป็นเวลา2ชั่วโมง โดยไม่พูดและทำการรบกวนใดๆ ถึงแม้ว่าเถาเส่อสังเกตเห็นการมีอยู่ของเขาตั้งนานแล้ว แต่สำหรับเถาเส่อคนไข้ย่อมสำคัญที่สุด และจนกระทั่งเซี่ยงเส้าหลงเอ่ยปากพูด ซึ่ง2ชั่วโมงที่ผ่านมา พวกเขาทั้งสองคนไม่มีการสื่อสารใดๆ เลย
เถาเชี่ยนเชี่ยนสังเกตเห็นเขาตั้งนานแล้ว ร่างกายซูบผอมบาง อีกทั้งยังไม่ต่ำต้อยไม่สูงส่ง แม้ว่าสามารถรู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขามที่แตกต่างในตัวเขา แต่ด้วยความมีมารยาท จึงทำให้เถาเชี่ยนเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเขาอีกครั้ง
หลังจากฟังคำพูดเซี่ยงเส้าหลง เถาเส่อก็หัวเราะเบาๆ เสมือนเพื่อนเก่าที่เขารู้จัก และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณหน่อยละกัน”
“ผมอายุมากแล้ว หากเสียงรบกวนดังเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการลงเข็มฉีดยาเล็กน้อย ผมไม่เป็นไรมากหรอก แต่หากลงเข็มผิดที่ บาปกรรมนั่นจะหนักมาก!”
เซี่ยงเส้าหลงพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านหมอจิตใจดีและมีความเมตตากรุณา ผมนับถือจริงๆ !”
“แต่ท่านวางใจได้เลย ผมจะรีบไปรีบกลับ!”
“คนนั้นอะ ฉันขอไปด้วยได้ไหม?”
ทันใดนั้น เถาเชี่ยนเชี่ยนก็เอ่ยปากพูดพลางกะพริบตา พร้อมด้วยความหวัง
เถาเส่อพยักหน้า “ไปสิ!”
กลุ่มสามคนออกจากห้องพยาบาล เลี่ยหลงเหมือนกับลูกน้องที่ภักดี เดินตามอยู่ด้านหลังเซี่ยงเส้าหลง ขณะที่เถาเชี่ยนเชี่ยนและเซี่ยงเส้าหลงเดินอู่เคียงข้างกันด้วย ดวงตาที่เปียกโชกคู่หนึ่งมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงอยู่ตลอดเวลา
“บนหน้าผมมีดอกไม้เหรอ?”
ทันใดนั้น เซี่ยงเส้าหลงพูดขึ้น ทำเอาเถาเชี่ยนเชี่ยนหน้าแดงเลยในทีเดียว จึงรีบเบือนสายตาที่กำลังแอบมองไปยังด้านข้าง จากนั้น ราวกับว่ารวบรวมความกล้าอีกครั้ง และพูดว่า “คุณมาหาคุณปู่เพื่อทำการรักษาเหมือนกันเหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้า
“แล้วทำไมคุณไม่บอกกับคุณปู่ล่ะ?”
“แม้ว่าคนไข้ของผมนั่นจะเป็นคนไข้ แต่ชาวบ้านที่ต่อแถวเหล่านั้น ล้วนก็เป็นคนไข้เหมือนกัน”
“สำหรับคุณท่านเถาแล้ว ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ผมต้องปฏิบัติตามหลังการ การมาก่อนมาหลัง!”
“ฮิฮิ……ดูจากคุณแล้วอายุยังไม่มากนัก แต่กลับพูดเรื่องทฤษฎีหรือหลักได้ดีเลยทีเดียว!”
เมื่อมีคนคุยเก่งเริ่มเปิดประเด็ด เถาเชี่ยนเชี่ยนก็เริ่มพูดเยอะขึ้น “คุณวางใจได้เลย คุณปู่ของฉันเป็นคนใจดีมาก เรามาเที่ยวที่เมืองอ้าว และค้นพบหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้โดยบังเอิญ หลังจากรู้ว่าชาวบ้านไม่มีเงินในการไปรักษา คุณปู่จึงทำการรักษาแก่พวกเขาฟรี และทักษะทางการแพทย์ของคุณปู่ของฉันนั้นยอดเยี่ยมมากเลยนะ ไม่ว่าคนไข้ของคุณจะเป็นโรคอะไร ตราบใดที่เขาดำเนินการ ยาถึงโรคหายอย่างแน่นอน!”
เมื่อมองดูเด็กสาวอายุ20ต้นๆ คนนี้ เซี่ยงเส้าหลงก็หัวเราะ “ใช่ ผมก็เชื่อเหมือนกัน คุณท่านเถาดำเนินการ และทุกอย่างจะเรียบร้อย!”
หลังจากเปลี่ยนทิศทางแล้ว รถขุดดินที่ดังสนั่นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา เถาเชี่ยนเชี่ยนขมวดคิ้ว “ให้ตายเถอะเจ้าถิ่นขี้เหนียวพวกนี้ ทำไมมาอีกแล้วเนี่ย! น่ารำคาญจริงๆ เลย!”
“พวกเขาเป็นใครกัน?”
เซี่ยงเส้าหลงถามขึ้นมา
เถาเชี่ยนเชี่ยนตอบกลับว่า “พวกเขานะเหรอ ล้วนเป็นเจ้าของโครงการ พวกเขาต้องการการเวนคืนที่ดินในหมู่บ้านเสี่ยวเหอ เดิมทีมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ค่าชดเชยที่พวกเขาให้มานั้น ไม่ได้แม้แต่หนึ่งในสิบของราคาปกติเลย นี่มันเป็นการการเวนคืนที่ไหนกัน? มันเป็นการปล้นชัดๆ !”
“ชาวบ้านไม่เห็นด้วย พวกเขาทำการก่อกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันช่างเกินไปจริงๆ !”
เซี่ยงเส้าหลงไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของเขาจ้องเขม็ง แวบวาบด้วยความเยือกเย็น
“คุณเชี่ยนเชี่ยน? คุณมาได้ยังไง? รีบกลับไป ที่นี่มันอันตรายเกินไป!”
ชาวบ้านที่เฝ้าทางเข้าหมู่บ้าน ไม่รู้ว่าใครเป็นตะโกน เนื่องจากทุกคนล้วนรู้จักกับหลานสาวของผู้มีพระคุณต่อหมู่บ้านของพวกเขา และพูดอย่างความกังวลทันทีว่า “ใช่ คุณเชี่ยนเชี่ยน เจ้าของโครงการที่ไร้จิตใจเหล่านี้ บอกว่าจะใช้รถดันดินมาถล่มหมู่บ้านของพวกเราให้ราบ คุณรีบพาคุณหมอเถาออกไปจากที่นี่ ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเถาเชี่ยนเชี่ยนจ้องเขม็ง “อะไรนะ? พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้?”
เด็กสาวก็เต็มไปด้วยเลือดอันร้อนรุ่ม ทันใดนั้นเธอผลักผู้คนออก และเดินไปข้างหน้า อีกทั้งยังเอามือทั้งสองข้างค้ำยันไว้ที่เอว “พวกคุณใครเป็นผู้รับผิดชอบ ออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ทันทีที่ชายหัวล้านได้ยินเช่นนี้ และกำลังจะอ้าปากด่า ทันใดนั้นหลังจากเห็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์และสวยงามเช่นนี้ ก็มีความคิดชั่วร้ายปรากฏในทันที จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะและกระโดดลงจากรถขุดดิน พร้อมกับแววตาที่ดุดัน มองดูร่างกายอันสง่างามของเถาเชี่ยนเชี่ยน และพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ “อุ๊ย! ลูกสาวบ้านใครเนี่ย ดูกระฉับกระเฉงจังเลย!”
เถาเชี่ยนเชี่ยนจ้องเขม็งอย่างถมึงใส่เขา “คุณเป็นผู้รับผิดชอบของพวกเขาใช่ไหม?”
“ใครให้สิทธิ์คุณ กล้าตั้งด่านขวางทางโดยพลการ และแถมยังจะถล่มหมู่บ้านของพวกเราให้ราบอีกด้วย คุณรู้หรือเปล่า ว่าการบังคับรื้อนั่นมันผิดกฎหมาย!”
“ผิดกฎหมายงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า……”
ชายหัวล้านหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง “หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่เจริญ ผมอยากรื้อก็รื้อ ใครจะมาห้ามผมได้?”
“ขอบอกคุณไว้นะ ในขอบเขตดินแดนนี้ บริษัทฉงเถียนจื้อเย่ของพวกเรานี้แหละ เป็นกฎหมาย!”
“คุณ! ……”
เถาเชี่ยนเชี่ยนโมโหจนหน้าแดงก่ำ “คุณเชื่อไหม ฉันสามารถไปหาทนายฟ้องคุณได้!”
“เอาสิ!”
ชายหัวล้านเลียริมฝีปาก “ตอนไปฟ้องผม สามารถเพิ่มอีกข้อหาลวนลามได้อีกข้อหนึ่ง! ฮ่าฮ่า……”
ขณะที่พูด ชายหัวล้านก็ยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าอันสง่างามของเถาเชี่ยนเชี่ยน ทำเอาเธอตกใจจนหน้าซีด และขณะที่มืออันชั่วร้ายของชายหัวล้านกำลังจะสัมผัสโดนเธอ ทันใดนั้นก็มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา และขวางการกระทำต่อไปของเขาไว้
“เด็กเปรต คุณเป็นใคร? ที่นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ถ้าหากไม่อยากตายก็รีบถอยไปให้พ้น!”
เซี่ยงเส้าหลงพูดอย่างเฉยเมย “หยุดเครื่องจักรทั้งหมดลง และออกไปจากที่นี่ให้พ้น ผมจะถือว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น”
“เชี่ยเอ้ย! ใครไม่คาดเข็มขัดกางเกงดีๆ เนี่ย แล้วปล่อยให้ไอ้ห่าเสแสร้งนายนี้หลุดออกมา! ”
“และยังกล้าจะขู่ผมอีก? เชี่ยเอ้ย นายนี้มันรนหาที่ตายจริงๆ !”
ขณะที่พูด การแสดงออกที่โหดร้ายก็ฉายขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นก็ชกหมัดตรงไปยังหัวของเซี่ยงเส้าหลง!
เซี่ยงเส้าหลงไม่ขยับเลยแม้แต่นิด และจู่ๆ ก็มีเท้าเตะพุ่งมาจากด้านหลังเขา ชายหัวล้านที่มีน้ำหนัก100กว่ากิโลกรัม ทันใดนั้นก็ถูกเตะบินออกไปราวกับกระสอบทราย จากนั้นกระแทกกับรถขุดดินอย่างแรง
“พี่ใหญ่! พี่ใหญ่คุณเป็นอะไรมากเปล่า!”
ทุกคนต่างช่วยกันพยุงชายหัวล้านอย่างเอะอะอึกทึกวุ่นวายไปหมด และเขาพยายามลุกยืนขึ้นพร้อมกับกุมหัวใจไว้ จากนั้นชี้ไปที่พวกเขา “เชี่ยเอ้ย! เป็นสภาพธรรมชาติแวดล้อมที่เลวร้ายย่ำแย่สร้างมนุษย์เจ้าเล่ห์ออกมาจริงๆ ! แม้แต่กูยังกล้าตี ทุกคนขึ้นรถ ถล่มหมู่บ้านให้ราบไปเลย และไม่ว่ามีอะไรมาขวางทาง ไม่ต้องสนถล่มมันไปให้หมด!”
รถขุดดินนับสิบคันสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมๆ กัน เสียงโครมครามดังสนั่นสะเทือนลั่นฟ้า ชาวบ้านไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้มาก่อน แต่ละคนต่างหน้าซีด และตัวสั่นไปหมด แต่พวกเขาถอยไม่ได้ เนื่องจากด้านหลังเป็นบ้านของตัวเอง ถ้าหากพวกเขาถอย บ้านต้องถูกทำลายอย่างให้เหลือซากแน่นอน!
ชายหัวล้านขึ้นไปบนรถดันดิน และมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ด้วยท่าทางที่โหดร้าย “เด็กเปรต กูจะให้โอกาสมึงครั้งสุดท้าย!”
“รีบถอยไปให้พ้น ยังสามารถไว้ชีวิตมึงได้!”
“มิฉะนั้นละก็ ไม่ว่าของอะไรก็ตามที่อยู่ใต้ล้อรถคันนี้ของกู จะไม่เหลือแม้แต่ซาก!”
“อ๋อ? ไม่ว่าของอะไรก็ตามงั้นเหรอ?”
มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้นเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นคุณมองไปที่พวกเขาสิ?”
ชายหัวล้านหันหัวด้วยความรังเกียจ “ไม่สนว่าจะเป็นของอะไร หากอยู่ตรงหน้ากู ล้วนเป็นแค่ขยะ……”
คำยังไม่ทันพูดจบ แต่หลังจากมองชัดสิ่งที่อยู่ด้านหลังแล้ว ดวงตาของเขาฉันก็เบิกกว้างขึ้นในทันที และคำที่เหลือก็ติดอยู่ในลำคออย่างกะทันหัน!
เสียงโครมครามที่ดังสนั่นสะเทือนลั่นฟ้าตามติดกันมา มีรถขุดดิน10คัน อีกทั้งยังมีรถหุ้มเกราะขนาดใหญ่อีก5คันที่เรียงกันเป็นแถวอยู่ด้านหลัง ลำกล้องปืนสีดำเล็งตรงไปข้างหน้า ราวกับมัจจุราชที่กำลังจ้องมอง มืดครึ้มน่าสะพรึงกลัว
อีกทั้งยังได้ยินเสียงใบพัดเครื่องบินหมุน ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ก็พบเฮลิคอปเตอร์ทหารสองลำกำลังบินอยู่เหนือศีรษะโดยที่ไม่รู้ว่าบินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และปืนแกทลิงในอุปกรณ์ออนบอร์ดก็ค่อยๆ เลื่อนลงจากใต้ท้องเครื่องบิน โดยจุดที่เล็งไปนั้น เป็นผู้คนที่อยู่บนรถขุดดิน!
เอื๊อก เอื๊อก!
ทุกคนต่างกลืนน้ำลายพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พร้อมกับความตระหนกตกใจ อีกทั้งยังมีความหวาดกลัวที่ไม่รู้จบในดวงตาของพวกเขา !
ในขณะนี้ เซี่ยงเส้าหลงเดินก้าวไปด้านหน้า และมองไปที่ชายหัวล้านที่อึ้งทึ่งราวกับหิน แล้วพูดว่า “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าจะเป็นของอะไรก็ตามก็สามารถถล่มให้ราบได้?”
“ถ้าอย่างนั้นคุณลองดู เครื่องเหล็กเหล่านี้ของผม เป็นยังไง?”
“เอาล่ะ ตอนนี้เริ่มการแสดงของคุณได้เลย!”