ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 102 กราดเกรี้ยว! สติฟั่นเฟือนอย่างน่าทึ่ง!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

“เซี่ยง……เซี่ยงเส้าหลง! คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”

เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเซี่ยงเส้าหลง ใบหน้าของจูปินเต็มไปด้วยความตระหนกตกใจ เขากรีดร้องพร้อมกับเดินถอยหลัง

เซี่ยงเส้าหลงมองดูเขาด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “อ๋อ? คุณชายจูดูประหลาดใจมากเลยนะเมื่อเจอผม ไม่สิ ท่าทางนี่ไม่สามารถเรียกได้ว่าประหลาดใจแล้ว มันเหมือนกลัวมากกว่า……”

เซี่ยงเส้าหลงเดินเข้าใกล้จูปินอย่างช้าๆ จนกระทั่งอยู่ห่างจากเขาภายในสามก้าว แสงอันเย็นยะเยือกก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า “คุณชายจู คุณกำลังกลัวอะไรอยู่ครับ?”

ทันใดนั้นก็มีเหงื่อเย็นไหลออกมาจากหน้าผากของจูปิน จากนั้นเขาก็ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “เปล่า……ไม่มีอะไร……”

“ผม……ผมจะกลัวได้ยังไง!”

“เซี่ยงเส้าหลง!”

จู่ๆ เสียงที่โกรธเกรี้ยวก็ดังมาจากข้างหลัง จากนั้นก็มีฝูงชนกลุ่มหนึ่งหลั่งไหลออกมา และรายล้อมเซี่ยงเส้าหลงไว้ในทันที หลังจากนั้น เงาที่ยางิวโกโจใช้ไม้ค้ำยันก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

เซี่ยงเส้าหลงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หัวเราะต่อ “เฮอเฮอ โลกนี่มันเล็กจริงๆ เลย ไม่ว่าจะไปถึงที่ไหนก็สามารถพบกับเพื่อนเก่าได้ทุกที่!”

“คุณชื่ออะไรนะ……ผมขอคิดแป๊บ……”

“อ๋อ ใช่แล้ว ยางิวโกโจ!”

“แหมแหม ต้องบอกว่า! ไม้ค้ำยันนี่ เหมาะกับคุณจริงๆ เลย!”

ดวงตาทั้งคู่ของยางิวโกโจแดงก่ำ ตะคอกด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “ผมยังไม่ได้ไปหาคุณเลย แต่คุณกลับมาหาถึงที่เองก่อนซะแล้ว!”

“วันนี้ ผมจะทรมานคุณให้ตายทั้งเป็น เพื่อล้างแค้นให้กับขาที่หักไปของผม!”

“เพียงแค่คุณเนี่ยนะ?”

มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้น ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“คุณคิดว่านี่ยังคงเป็นเมืองเทียนไห่เมื่อก่อนนั้นอยู่เหรอ? !”

ยางิวโกโจชี้ไปที่ท่าเรือ แล้วก็พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “ที่นี่ มีมือดีสามร้อยนายของตระกูลโกโจผม ซึ่งทั้งหมดติดอาวุธครบมือ และพวกเขาอยู่ที่ที่คุณมองไม่เห็น เพียงแค่มีปืนนับสิบกระบอกเล็งมาที่หัวของคุณ ตราบใดที่ผมออกคำสั่ง คุณก็จะถูกยิงให้เหมือนกับตะแกรงทันที!”

ขณะที่เขาพูด รอยยิ้มที่ดุร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า “คุณในตอนนี้ ยังจะเอาอะไรมาสู้กับผมอีก? !”

เซี่ยงเส้าหลงเสแสร้งทำเป็นท่าทางที่กลัวออกมา แต่ทว่ารอยยิ้มในแววตากลับฮึกเหิมมากขึ้นเรื่อยๆ “มือดีสามร้อยนายอย่างนั้นเหรอ? ผมกลัวจังเลย! คุณชายโกโจ คุณปล่อยผมไปได้ไหม?”

ยางิวโกโจหัวเราะเสียงดัง ด้วยความเย่อหยิ่งบนใบหน้า “เซี่ยงเส้าหลงเอ้ยเซี่ยงเส้าหลว! คุณก็มีวันนี้ด้วยเหรอเนี่ย!”

“ตอนนี้ผมขอสั่งคุณ! คุกเข่าลง!”

“ถ้าหากคุณทำตัวดีๆ ผมอาจจะแสดงความเมตตา แล้วเก็บชีวิตหมาของคุณไว้!”

“เฮอเฮอ……”

เซี่ยงเส้าหลงใช้สายตาที่มองคนปัญญาอ่อนมองไปที่เขาจากหัวจรดเท้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่แปลกใจเลยที่คุณชายโกโจชอบให้คนคุกเข่าลงขนาดนี้ เพราะว่าถึงคุณอยากจะคุกเข่าลง คุณก็คงไม่โอกาสแล้วแหละ!”

ถูกเซี่ยงเส้าหลงพูดแท่งโดนจุดที่เจ็บ ทันใดนั้นดวงตาทั้งคู่ของยางิวโกโจแดงก่ำ จากนั้นก็ตะคอกว่า “เซี่ยงเส้าหลง นายนี่มันรนหาที่ตาย!”

เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้า “ใช่ ผมรนหาที่ตาย แล้วคุณจะทำไรได้?”

“ฮ่าฮ่า……”

ยางิวโกโจหัวเราะเสียงดังขึ้นมาในทันที “เห็นว่ากันว่านายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือนั้นเก่งมากเพียงใด แต่พอเจอเข้าในวันนี้ แท้ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงแค่คนปัญญาอ่อนที่ไร้สมองเท่านั้น!”

“ตอนนี้อยู่ในรูปแบบไหนกัน คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? !”

“ถ้าใช้คำสุภาษิตโบราณในประเทศของคุณมาพูด นั่นก็คือเขาเป็นคนมีอำนาจชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น แต่ฉันเองเนื้อบนเขียง ในเมื่อคุณยังคงเย่อหยิ่งขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นผมจะตีจนคุณยอมก้มหัวลง!”

หลังจากพูดจบ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ และตะโกน “ยิง!”

“ยิงกระดูกสะบักของหัวเข่าทั้งสองข้างของเขาให้หักไปเลย!”

ปังปัง!

กระสุนสองนัดแหวกว่ายขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียงดังโครม จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ทำลายค่ำคืนอันเงียบสงบนี้ในทันที ยางิวโกโจโยนไม้ค้ำยันทั้งสองข้างทิ้ง ทันใดนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นด้วยเสียงดังพลั่ก หัวเข่าที่เพิ่งหายดีไม่นาน และถูกกระแทกอีกครั้งจนเลือดไหลริน!

“จุ๊จุ๊……”

เซี่ยงเส้าหลงเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ และมองกราดลงไป “คุณชายโกโจ ทักษะการยิงปืนของมือดีสามร้อยนายของคุณนี่ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยแม่นยำสักเท่าไหร่นะ!”

“มิฉะนั้น พวกเราลองใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ยิงตรงหัวเข่าแล้วนะ แต่ลองเปลี่ยนเป็นยิงที่อื่นดูบ้าง อย่างเช่น สมอง!”

ทันทีที่พูดจบ ยางิวโกโจก็สั่นไปทั้งตัว และมีความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาไม่ใช่คนโง่ ทักษะการยิงของมือดีที่ถูกตัวเองซุ่มดักโจมตีนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งไม่มีใครที่รู้ดีไปกว่าเขาแล้ว!

ถึงแม้ว่าจะยิงพลาด แต่ก็คงไม่ยิงพลาดมาบนร่างกายของตัวเองอย่างแน่นอน!

ถ้าอย่างนั้นมีเพียงคำอธิบายเดียว ซึ่งก็คือพวกที่ซุ่มดักโจมตีนั้นไม่ใช่คนของตัวเองตั้งนานแล้ว!

ถ้ามันไม่ใช่คนของตัวเอง แล้วมันยังจะเป็นคนของใครได้อีกล่ะ?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ สายตาก็อดไม่ได้เหลือบมองไปที่เซี่ยงเส้าหลง และทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาบนใบหน้า

นั่นมันเป็นมือดีสามร้อยนายที่ยอดฝีมือที่สุดในตระกูลโกโจเลยนะ แต่ละคนล้วนเป็นผู้ยอดฝีมือแบบหนึ่งต่อสามอีกด้วย แต่ทว่าทั้งหมดได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยหมดแล้ว?

เซี่ยงเส้าหลงได้พากลุ่มคนที่น่ากลัวแบบไหนมาแน่!

เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงและทรงพลังดังมาจากด้านหลัง จากนั้นห้าร้อยนายที่ยอดฝีมือที่สุดก็ได้ติดอาวุธชุดครบมือ ซึ่งเรียงเป็นแถวอย่างเรียบร้อยอยู่ด้านหลังเซี่ยงเส้าหลง และมีคนจำนวนไม่น้อยที่บนร่างกายยังมีคราบเลือดที่อบอุ่นอยู่ เจตนาชั่วร้ายพุ่งทะยานราวกับจะฝ่าข้ามคืนนี้ไปให้ได้!

ราชายักษ์ก้าวขึ้นมาด้านหน้า ส่วนหนึ่งของร่างกายเปื้อนเปรอะด้วยเลือดสด แล้วก็ยิ้มอย่างแบะปาก “ขอแจ้งนายพลน้อยครับ ศัตรูทั้งหมดถูกกำจัดทิ้งหมดแล้ว และไม่เหลือแม้แต่คนเดียวแล้วครับ!”

“อะไรนะ? !”

ยางิวโกโจพูดด้วยความตกตะลึง “นั่นมันคือยอดฝีมือสามร้อยนายของตระกูลโกโจผมเลยนะ ทั้งหมดถูกพวกคุณจับกุมไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”

ราชายักษ์มองไปที่เขา แววตาที่เยือกเย็นส่องประกายด้วยเจตนาแห่งการฆ่าอย่างกระหายเลือด ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังหัวเราะอยู่ แต่ทว่าเสียงหัวเราะนั้นเย็นเฉียบราวกับปีศาจในนรก “ดูเหมือนว่ามึงจะฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่กูพูดนะ!”

“กำจัดทิ้งหมดแล้วที่กูพูด คือกำจัดทิ้งทั้งหมดไม่หลงเหลือแม้แต่คนเดียว!”

“ราวกับดอกไม้ไฟ หายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์แบบ และไม่มีร่องรอยหลงเหลืออีกต่อไป!”

ทันใดนั้นเขารู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาในทันที ความรู้สึกเย็นนั้น เย็นตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นไปยังหัวเลยทีเดียว!

ตาย……ตายหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ?

ทั้งหมดสามร้อยคนนี้ ไม่ได้ยินเสียงการเลื่อนไหวเลยสักนิด ก็ได้ตายกันหมดแบบนี้แล้วเหรอ?

เขากลัวแล้ว! เขากลัวแล้วจริงๆ !

ในสายตาของเขา เซี่ยงเส้าหลงในขณะนี้เป็นเหมือนกับปีศาจร้ายที่ดำรงอยู่ในโลกมนุษย์!

เมื่อเห็นเงาที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ตัวเองทีละก้าว ยางิวโกโจก็สั่นเทาทันที “คุณ……คุณอย่าเข้ามานะ!”

“ผมจะบอกคุณไว้! ตระกูลโกโจยังมีกองกำลังอีกไม่น้อยกว่าแปดร้อยคน ซึ่งพวกเขากำลังตามมาที่นี่อย่างเต็มกำลัง ผมเป็นคุณชายของตระกูลโกโจ ถ้าหากคุณกล้าทำอะไรกับผม ตระกูลโกโจจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”

เซี่ยงเส้าหลงหยุดฝีเท้าลง และเอียงหัวเล็กน้อย “ยังมีอีกแปดร้อยคนเหรอ?”

เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขา ยางิวโกโจก็คิดว่าเขากลัวแล้ว และใบหน้าก็กลับสู่ความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ทันที “ถูกต้อง! ทั้งหมดแปดร้อยคน และยังติดอาวุธชุดครบมืออีกด้วย!”

“ผมจะบอกคุณไว้! ดีที่สุดคือสุภาพกับผมหน่อย มิฉะนั้น เมื่อกองกำลังของผมมาถึง แล้วคุณจะเจอดี!”

“กองกำลังใหญ่ของคุณ เกรงว่าชาตินี้ก็คงมาไม่ถึงแล้วแหละ!”

อีกเสียงที่หม่นหมองก็ดังขึ้น และในความมืดก็มีเงาคนหนึ่งเดินออกมา ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เดินมาตรงหน้าเซี่ยงเส้าหลง และคุกเข่าลงข้างหนึ่ง “กระผมราชารบผู้ใต้บังคับบัญชา กราบนายพลน้อยครับ!”

“ระหว่างทางที่ผมมาที่นี่ ผมได้พบเรือต่างชาติลำหนึ่งที่บรรทุกอาวุธจำนวนมาก แทนที่จะเจรจาหารือกันอย่างไร้ประโยชน์ สู้ปะทะกันในสงครามยังจะดีกว่า! กองทัพชายแดนเหนือไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่คน ในการกวาดล้างศัตรูทั้งหมดแปดร้อยคน! หลังจากการตรวจสอบ ก็พบว่าเรือลำนั้นเป็นเรือของตระกูลโกโจในประเทศวอ!”

ปัง

ยางิวโกโจทรุดตัวลงกับพื้นโดยตรง แรงทั้งหมดก็เหมือนกับว่าถูกสูบจนแห้งหมดแล้ว และดวงตาทั้งคู่ก็ว่างเปล่า

เซี่ยงเส้าหลงละสายตาจากยางิวโกโจ มองไปที่จูปิน เมื่อถูกสายตาของเขาจ้องเขม็ง จูปินก็สั่นเทาโดยไม่รู้ตัว และมุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย “คุณชายจู คุณสามารถบอกผมได้ไหม ว่าดึกดื่นป่านนี้แล้ว ทำไมคุณยังอยู่กับคนตระกูลโกโจอีกละ? แล้วสิ่งที่ใส่ไว้บนเรือลำนั้น มันคืออะไร?”

จูปินฝืนยิ้ม “เปล่า……ไม่มีอะไร มันเป็นเพียงแค่สินค้าบางอย่างที่แลกเปลี่ยนระหว่างตระกูลจูของเราและตระกูลโกโจ ซึ่งมันไม่มีค่าเลย ไม่มีค่าอะไรเลย!”

“อ่อ! ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!”

วินาทีก่อนหน้านี้เซี่ยงเส้าหลงยังคงหัวเราะอยู่ พอมาถึงวินาทีต่อมาทันใดนั้นเขาก็ถีบออกไป จากนั้นก็เหยียบเขาไว้ใต้ฝ่าเท้าโดยตรง ใบหน้าก็กลายเป็นแสยะยิ้มขึ้นมา “ดูเหมือนว่า ผมคงจะต้องเปลี่ยนวิธีการแล้วก็ถามใหม่อีกครั้ง!”

“ลูกสาวของผม อยู่ไหน? !”

“ผม……ผมไม่รู้ครับ!”

จูปินยังคงดิ้นรน เพราะเขารู้ว่า ตราบใดที่ตัวเองพูดออกมา จะไม่โอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ของพรุ่งนี้อย่างแน่นอน!

“นายพลน้อย!”

“พวกเราค้นพบบางอย่างบนเรื่อง!”

ทีมย่อยชายแดนเหนือที่ถูกเซี่ยงเส้าหลงสั่งให้ขึ้นไปตรวจค้นบนเรืออย่างเงียบๆ ก่อนหน้านี้ มารายงาน!

สีหน้าของจูปินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเขาก็กอดต้นขาของเซี่ยงเส้าหลงเอาไว้ “อย่า! อย่าเข้าไป! ในนั้นไม่ทีอะไรเลย!”

“เซี่ยงเส้าหลง! เซี่ยงเส้าหลง! ผมสัญญา! พรุ่งนี้ก่อนรุ่งสาง ผมจะนำพาลูกสาวของคุณกลับไปให้คุณอย่างปลอดภัยแน่นอน และความแค้นระหว่างตระกูลใหญ่ทั้งแปดของพวกเรากับคุณ ก็มลายให้หายไปหมด แล้วเรื่องทั้งหมดในคืนนี้ก็ถือเป็นว่าไม่เคยเกิดขึ้น โอเคไหม?”

“ถอยไปให้พ้น!”

เซี่ยงเส้าหลงถีบออกไปในทันที ยิ่งเขาพูดแบบนี้ เซี่ยงเส้าหลงก็ยิ่งรู้สึกว่าในนี้ต้องมีอะไรอย่างแน่นอน!

เขาเดินก้าวขึ้นไปบนเรืออย่างรวดเร็ว หน้าตู้คอนเทนเนอร์ธรรมดาใบหนึ่ง หัวหน้าทีมย่อยที่นำพาการตรวจค้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “นายพลน้อย ท่าน……ต้องใจเย็นๆ นะ!”

“อย่าพูดให้มันไร้สาระ! ปิดตู้!”

ทันใดนั้นในใจของเซี่ยงเส้าหลงก็รู้สึกหนักหน่วง

ทหารชายแดนเหนือสองสามนายเดินออกมา แล้วก็วิ่งมาตรงตู้คอนเทนเนอร์อย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกคนร่วมแรงกันดังประตูเหล็กอันหนาและหนักเปิดออก!

แววตาของเซี่ยงเส้าหลงจ้องเขม็งไปยังตู้คอนเทนเนอร์ที่กำลังจะถูกเปิดออก และเมื่อทุกอย่างที่อยู่ข้างในค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา……

ฟ่อ……

ทันใดนั้นเสียงสูดหายใจเข้าก็ดังขึ้นไปทั่วท่าเรือ!

เพียงแค่เห็นกองกรงเหล็กขนาดใหญ่สูงมากกว่าหนึ่งเมตรและกว้างหนึ่งเมตรอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ และภายในกองกรงเหล็กขนาดใหญ่มีเด็กที่ถูกมัดไว้แน่นด้วยเชือก นอกจากนี้ตาและปากของพวกเขาล้วนถูกคลุมด้วยผ้าสีดำ

อาจเป็นเพราะว่ากลัว และอาจเป็นเพราะว่าไม่สบาย สีหน้าของเด็กๆ เหล่านี้ดูซีดเซียว และทุกคนต่างก็หายใจร่อแร่อีกทั้งยังหมดเรี่ยวแรงทรุดตัวลงอยู่ในกรงเหล็ก ซึ่งมันทำให้คนรู้สึกว่าพวกเขาอาจจะหลับไปตลอดกาลได้ทุกเมื่อ

และวินาทีที่ตู้คอนเทนเนอร์เปิดออก กลิ่นที่เหม็นหึ่งก็พรั่งพรูลอยออกมาโดยทั่วทุกสารทิศอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่อดไม่ได้จะขมวดคิ้ว!

แม้แต่เหล่าทหารชายแดนเหนือที่ไม่เกรงกลัวความเป็นความตาย เมื่อเห็นฉากที่อยู่ตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากตาค้าง!

คาดคิดไม่ถึงเลยว่าในตู้คอนเทนเนอร์จะกักขังเด็กจำนวนมากขนาดนี้เอาไว้! ?

พวกเขาคืออะไร?

แต่ละคนต่างเป็นส่วนสำคัญของพ่อแม่! แต่ละคนต่างเป็นความหวังของครอบครัว! และล้วนเป็นสันหลังของประเทศชาติในอนาคต! ! !

แต่ในตอนนี้ เป็นเหมือนกับปศุสัตว์ ไม่สิ! แม้กระทั่งปศุสัตว์ยังเทียบไม่เท่า ซึ่งถูกกักขังไว้ในกรงเล็กๆ และถูกคนอื่นกดขี่หรือฆ่าโดยที่ไม่สามารถต่อต้านได้!

“เยนเอ๋อ?”

จู่ๆ เซี่ยงเส้าหลงก็พึมพำ ทันใดนั้นก็ตะโกนว่า “ยังจะมาอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่อีก! รีบไปหาเร็ว!”

หลังจากราชายักษ์และคนอื่นๆ หันกลับมาอย่างรวดเร็ว กองทัพแดนชายเหนือก็ย้ายกล่องออกไปทีละใบทันทีด้วยท่าทางที่ชุลมุนวุ่นวาย หลังจากผ่านไปเกือบสิบกว่านาที กล่องที่อยู่ด้านล่างสุดนั่น เซี่ยงเส้าหลงก็จำขึ้นมาได้ในพริบตาเดียว เนื่องจากเสื้อผ้าที่สกปรกและซกมกนั้น เป็นเสื้อผ้าที่เยนเอ๋อสวมใส่ตอนที่เธอหายตัวไป!

เซี่ยเส้าหลงเดินเข้าไปตรงหน้ากรงอย่างรวดเร็ว และเรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “เยนเอ๋อ……”

ทันใดนั้นอวิ๋นเยนเอ๋อที่หายใจแขม่วๆ และทรุดตัวลงอยู่ในกรงก็ตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัว ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างรุนแรง และเธอก็ลุกขึ้นมานั่งในทันที แล้วหัวที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีดำก็พยายามจะโผล่ออกมาดูด้านนอก ราวกับเธอต้องการที่จะแน่ใจว่าเสียงเรียกอันนุ่มนวลนั้นไม่ใช่มาจากความหลอนของตัวเอง

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงค่อยๆ เปียกชื้น แล้วเขาก็ยื่นมือออกไปค่อยๆ ดึงผ้าสีดำที่ปิดตาและยัดใส่ปากของเยนเอ๋อออก “เยนเอ๋อ พ่อมาแล้วนะ”

ทันทีที่เอาผ้าคลุมลงทำให้อวิ๋นเยนเอ๋อปรับตัวไม่ทันเล็กน้อย แต่เสียงเรียกที่ชัดเจนของเซี่ยงเส้าหลง ทำให้เธอหันหัวกลับมาในทันทีโดยไม่คำนึงถึงแสงไฟที่แสบตา หลังจากเซื่องซึมอยู่ครู่หนึ่ง จากเดิมใบหน้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรอยน้ำตาและจากนั้นน้ำตาก็ได้ไหลลงอาบหน้าอีกครั้ง

ปากอันน้อยของเธอสั่นอยู่สองสามครั้ง เดิมทีความน้อยใจและความตื่นตระหนกตกใจที่สามารถกลั้นเอาไว้ได้ และมันก็โพล่งออกมาอย่างสิ้นเชิงด้วยเสียงร้องไห้อันขมขื่นทันที แล้วเธอพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะกระโจนเข้าหาเซี่ยงเส้าหลง แต่ทว่าทั่วร่างกายของเธอก็ถูกมัดเอาไว้ และเธอที่ถูกโซ่ผูกคอเอาไว้เพิ่งลุกขึ้นก็ล้มลงกับพื้น โดยที่หัวของเธอกระแทกเข้ากับกรงเหล็กอย่างหนักแน่น

ถึงจะเป็นเช่นนี้ อวิ๋นเยนเอ๋อยังคงร้องไห้และพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะคลานขึ้นไปข้างหน้า

เซี่ยงเส้าหลงตัวสั่น แล้วก็อุ้มอวิ๋นเยนเอ๋อขึ้นมาทันทีด้วยท่าทางตื่นตระหนกตกใจ และเขาที่อยากจะโอบเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่นๆ แต่ทว่าโซ่ที่ล็อคกับกรงเหล็กและคอของอวิ๋นเอ๋อก็รัดกุมขึ้นมาในทันที ซึ่งไม่เพียงแต่เกือบจะดึงอวิ๋นเยนเอ๋อกลับไปโดยตรงเท่านั้น เนื่องจากจู่ๆ พละกำลังนั่นแรงเกินไปจนรัดอวิ๋นเยนเอ๋อเกือบตาย

เซี่ยงเส้าหลงคำรามด้วยความโกรธเคือง เขากำกรงที่ทำจากสแตนเลสเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง กล้ามเนื้อของแขนทั้งสองข้างก็นูนขึ้นมา และภายใต้แรงที่แข็งแกร่งก็ได้แยกกรงออกจากกัน จากนั้นก็จับโซ่เหล็กที่ล็อคเธอไว้ และดึงมันออกอย่างแรง โดยไม่สนว่าฝ่ามือจะหยดไปด้วยเลือดก็ตาม แล้วด้วยเสียงที่ดังก้องโซ่เหล็กก็ขาด!

วินาทีที่โซ่เหล็กขาด อวิ๋นเยนเอ๋อรีบวิ่งพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเซี่ยงเส้าหลงทันที กอดคอของเขาไว้แน่นและส่งเสียงร้องไห้ดัง น้ำตาที่ไหลลงมาเสมือนสายน้ำ เสียงร้องอย่างบ้าคลั่งของเธอนั่นทำให้หัวใจของเซี่ยงเส้าหลงดูเหมือนจะพันกันอย่างแน่นหนา!

โดยไม่คำนึงถึงกลิ่นเหม็นหึ่งที่ฉุนในตัวเยนเอ๋อ เซี่ยงเส้าหลงกอดเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่น และใบหน้าที่เจ็บปวดก็พึมพำด้วยเสียงที่แผ่วเบา “พ่อมาช้าไป พ่อมาช้าเกินไป พ่อขอโทษ! พ่อขอโทษจริงๆ นะ!”

อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวเกินไป อวิ๋นเยนเอ๋อที่อยู่ในอ้อมกอดเซี่ยงเส้าหลง หลังจากร้องอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ผล็อยหลับไปอย่างเงียบๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า เป็นเพียงอยู่ในกอดของพ่อเท่านั้น เธอถึงได้หลับสนิทขนาดนี้

เซี่ยงเส้าหลงอุ้มเธอให้กับลูกน้องอีกคนอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็ดึงปืนออกจากเอวของราชายักษ์โดยตรง และเดินออกจากเรือด้วยดวงตาที่แดงก่ำ!

เขาเดินตรงมาที่ข้างยางิวโกโจ แล้วพูดว่าเยือกเย็นว่า “นี่เป็นเรือของตระกูลโกโจของพวกหรือเปล่า?”

ยางิวโกโจตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง “เข้าใจผิด! ทั้งหมดนี่เป็นความเข้าใจผิด!”

“คุณฟังผมก่อนนะ นี่คือ……”

ปัง!

เซี่ยงเส้าหลงไม่ได้คำพูดไร้สาระอะไรของเขาเลย ทันทีที่ยกปืนลง จู่ๆ เสียงของยางิวโกโจก็เงียบหายไปในทันที!

จากนั้น แววตาของเสี่ยงเส้าหลงก็มองไปยังจูปิน!

จูปินตกใจจนเกือบฉี่ราดใส่กางเกง ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าลงด้วยเสียงดังพลั่ก “เซี่ยง…นายพลน้อยเซี่ยง คุณ……คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ!”

เซี่ยงเส้าหลงเดินเข้าไปใกล้เขาอย่างช้าๆ แล้วเสียงเรียกจากนรกดังก็ก้องข้างหูของเขา “คุณรู้ไหม ว่าเด็กแต่ละคนต่างก็มีพ่อแม่และครอบครัว?”

“คุณรู้ไหมว่าในกรงนั้น ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สดใส?”

“คุณรู้ไหมว่าเด็กที่อยู่ในเรือลำนี้ เป็นความคาดหวังของกี่ครอบครัว?”

สามเสียงที่ซักถาม ดังมากจนคนหูหนวกได้ยิน!

ท้ายที่สุด เซี่ยงเส้าหลงเอาปืนจ่อบนหน้าผากของจูปิน แล้วจ้องเขม็งลงไป “สุดท้าย คุณรู้ว่าลูกสาวของผมก็อยู่ข้างใน ใช่ไหม?”

“องค์หญิงของชายแดนเหนือ เป็นลูกสาวของนายพลน้อยเซี่ยงเส้าหลงของผม!”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท