ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 122 ทวงคืนความยุติธรรม!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

เซี่ยงเวิ่นเทียนคือท่านใหญ่ตระกูลเซี่ยง และเป็นพ่อของเซี่ยงเส้าจุนและเซี่ยงเส้าหลง!

ถึงเขาจะหายตัวไปหลายสิบปีแล้ว โดยไม่มีข่าวคราวอะไรเลย แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเขาตาย เซี่ยงเจี๋ยกลับเอาป้ายวิญญาณของเขามาวางไว้ นี่เป็นการแช่งเซี่ยงเวิ่นเทียนไม่ใช่หรือไง!

คนที่เป็นลูกอย่างเซี่ยงเส้าหลงจะทนได้อย่างไร!

เซี่ยงเจี๋ยโดนเซี่ยงเส้าหลงเหยียบเอาไว้ ความอับอายมันมากมายกว่าความเจ็บบนร่างกาย เขาตะโกนออกมาว่า “ก็แค่ลูกที่ถูกทิ้ง คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำกับฉันแบบนี้ กฎของตระกูลยังมีอยู่ไหม จริยธรรมยังมีอยู่ไหม!”

ตอนนี้สีหน้าของเสิ่นเสว่เหลียนเคร่งขรึม เธอตวาดออกมาว่า “เซี่ยงเส้าหลง นายกำลังทำอะไร!”

“นี่คือทวดของนายนะ!”

“เด็กอย่างนาย กล้าทำกับผู้อาวุโสอย่างนี้ได้ยังไง ไม่กลัวการลงโทษของตระกูลหรือไง!”

เซี่ยงเส้าหลงมีสีหน้าอาฆาต เขาพูดว่า “แค่ผู้อาวุโสของพวกคุณ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของคนอย่างเซี่ยงเส้าหลง ในสายตาของผม เขาก็แค่คนที่กล้าดูหมิ่นพ่อของผม ตาแก่ที่ไม่รู้ดีชั่วเท่านั้น!”

ตอนนี้ความน่าเกรงขามของนายพลน้อยถูกแผ่ออกมา!

จากนั้นเขาจึงก้มมองเซี่ยงเจี๋ยที่อยู่ใต้เท้า แล้วพูดอย่างเยือกเย็นว่า “สำนึกผิดหรือยัง ขอโทษพ่อฉันเดี๋ยวนี้!”

“ไม่มีทาง!”

ไม่ว่าเลือดจะไหลลงมาเต็มแก้มของเซี่ยงเจี๋ย แต่คนที่หยิ่งยโสอย่างเขา ก็ตอบอย่างดึงดัน “ก็แค่เด็กธรรมดา มีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันขอโทษ!”

“เหรอ นายแน่ใจเหรอ”

เซี่ยงเส้าหลงแสยะยิ้ม เขาใช้แรงเหยียบลงไปที่เท้าเรื่อยๆ ราวกับกำลังเหยียบก้นบุหรี่ และบดขยี้อย่างช้าๆ

“อ๊ากกก!”

เซี่ยงเจี๋ยร้องโอดครวญ คนในตระกูลเซี่ยงทั้งตกใจและโมโห เสิ่นเสว่เหลียนตำหนิออกมา “เซี่ยงเส้าหลง! นายจะทำอะไรกันแน่!”

เซี่ยงเส้าหลงตอบว่า “คุณหูตึงเหรอ ถ้าไม่ขอโทษพ่อผม ผมไม่ถือสา ที่จะเพิ่มป้ายวิญญาณเข้ามาที่นี่อีกหนึ่งป้าย!”

เซี่ยงเจี๋ยช้อนตาขึ้นมอง สายตาของเขาปะทะกับแววตาอาฆาตของเซี่ยงเส้าหลงพอดี เขารู้สึกเสียววาบ คนยิ่งแก่ยิ่งกลัวตาย โดยเฉพาะคนแก่ที่อยู่ดีกินดีแบบเขา มันเป็นความเพลิดเพลินในความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุดขณะมีชีวิตอยู่ แต่เขามองแววตาเซี่ยงเส้าหลงออก ถ้าเขายังกล้าตอบว่าไม่ เซี่ยงเส้าหลงต้องเหยียบหัวเขาจนเละแน่!

ใช้ชีวิตมาจนปูนนี้ เขาไม่เคยเห็นความอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวใคร ได้มากเท่านี้เลย!

ราวกับมันรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน!

“ฉันขอโทษ! ฉันขอโทษ!”

ในที่สุดเซี่ยงเจี๋ยก็ยอมอ่อนข้อ เขาพูดว่า “ฉันเลอะเลือนเอง เลยทำผิดพลาด และเอาป้ายวิญญาณของเซี่ยงเวิ่นเทียนมาวางไว้ในหอบรรพบุรุษ ฉัน…..ฉันจะรีบเอาลงมา!”

เซี่ยงเส้าหลงส่งเสียงหึ เขาเพิ่มแรงไปที่เท้าอีก “ทำพลาดงั้นเหรอ พ่อฉันตายหรือยัง”

“โอ๊ย! ยัง! ยัง!”

“ฉันไม่ได้วางผิด แต่ฉันไม่ควรเอาป้ายวิญญาณของเซี่ยงเวิ่นเทียนมาวาง ฉันผิดไปแล้ว!”

“หึ! เห็นแก่ที่นายเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเซี่ยง ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไป ไสหัวไปซะ!”

พูดจบ เขาก็ถีบลงไปทันที เซี่ยงเจี๋ยร้องโอดครวญ และกระแทกกับเสาหอบรรพบุรุษอย่างแรง ดวงตาของเขากลอกไปมา และสลบไปทันที!

จะไม่สลบได้ไง อายุเยอะขนาดนี้ โดนรุ่นน้องทำให้อับอาย เขารู้สึกอัปยศอดสูมาก!

เสิ่นเสว่เหลียนบอกให้คนพาเซี่ยงเจี๋ยไปโรงพยาบาลทันที จากนั้นเธอมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างเย็นชา “เซี่ยงเส้าหลง นี่คือสิ่งที่นายทำตอนกลับมายังตระกูลเซี่ยงอีกครั้งเหรอ”

เซี่ยงเส้าหลงส่งเสียงหึอย่างไม่พอใจ “ตั้งแต่ผมจากไปเมื่อสิบปีก่อน ผมก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา!”

“การมาครั้งนี้ ผมไม่ได้มาช่วงชิงอะไร เพราะในสายตาของผม ตระกูลเซี่ยงที่พวกคุณภาคภูมิใจ ผมไม่ได้สนใจมันสักนิด!”

“แต่สิ่งที่ผมไม่ต้องการ ผมให้พวกคุณไปแล้ว มันเรียกว่าการให้ทาน แต่พวกคุณต้องจำไว้ว่าเจ้าของเดิมของมัน ควรจะเป็นใคร!”

“ไอ้เด็กเวร แก!……”

เสิ่นเสว่เหลียนรั้งเซี่ยงเวิ่นเหอเอาไว้ และจ้องเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเป้าหมายที่นายกลับมาตระกูลเซี่ยงครั้งนี้คืออะไร”

เซี่ยงเส้าหลงมองเธอ และยกยิ้มมุมปาก “ช่วยพี่ใหญ่ของผม เอาของที่ควรเป็นของเขา กลับคืนมา!”

“ไม่มีทาง!”

เสิ่นเสว่เหลียนปฏิเสธทันที “เซี่ยงเส้าจุนทำความผิดที่มิอาจอภัยได้ ตามกฎของตระกูล เขาควรโดนซ้อมจนตายด้วยซ้ำ ฉันเห็นแก่ที่เขาเป็นสายเลือดทางตรง จึงไว้ชีวิตเขาและปล่อยเขาออกจากตระกูล ตอนนี้เขาเป็นคนที่มีความผิดติดตัว จะมีสิทธิ์เป็นทายาทของตระกูลเซี่ยงได้ยังไง”

เซี่ยงเวิ่นไห่ที่ยืนอยู่อีกด้าน มีสีหน้าอึมครึม “คนที่เป็นพี่อย่างฉัน อับอายแทนน้อง ทำผิดขนาดนี้ แถมยังมีเรื่องเสื่อมเสีย เป็นความอัปยศของตระกูลเซี่ยง!”

“ไร้สาระ! ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้น!”

เซี่ยงเส้าจุนพูดเถียง

“ไม่ได้ทำเหรอ”

เซี่ยงเวิ่นไห่แสยะยิ้ม “ในโรงแรมต่อหน้าต่อตาทุกคน เสื้อผ้าของหยิ่งเอ๋อหลุดลุ่ย คราบน้ำตาเต็มหน้า นายคร่อมอยู่บนตัวเธอ และกำลังจะทำเรื่องแบบนั้น ถ้าพวกเรามาไม่ทัน ลูกสาวของฉันคงเสียบริสุทธิ์ให้นายไปแล้ว เซี่ยงเส้าจุน มันมีหลักฐานในการทำผิด นายยังมีหน้าปฏิเสธอีกเหรอ!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซี่ยงเวิ่นไห่ตวาดออกมา เขามองเซี่ยงเส้าจุน ด้วยแววตาที่เหมือนจะกลืนกินเข้าไป เหมือนพ่อแสนดีที่กำลังปกป้องลูกสาวของตัวเอง!

เมื่อเจอคำกล่าวโทษของเขา เซี่ยงเส้าจุนยกเหตุผลมาสู้ “ไม่ใช่แบบนั้นสักนิด!”

“วันนั้นเซี่ยงหยิ่งนัดผมไปเจอที่โรงแรม เธอบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา แต่หลังจากมาถึงห้อง เธอก็จับผมไม่ปล่อย และเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ตอนที่ผมพยายามผละออกมา พวกคุณก็เข้ามา เรื่องไม่ได้เป็นแบบที่พวกคุณพูดสักนิด!”

“เซี่ยงเส้าจุน!”

เซี่ยงหยิ่งที่อยู่อีกด้าน ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองเขาอย่างโมโห “วันนั้นนายนัดฉันไปคุยที่โรงแรม ฉันรับปากอย่างไม่คิด แต่คิดไม่ถึงว่านายจะทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน ตอนนี้มาพูดใส่ฉันแบบนี้อีก ฉันตาบอดจริงๆ ที่ยกย่องว่านายเป็นพี่ที่น่าเลื่อมใสมาตั้งนาน!”

“เซี่ยงเส้าจุน!”

เซี่ยงปิงที่ยืนอยู่ด้านข้างแสยะยิ้ม “จากที่นายพูด พี่หยิ่งเป็นฝ่ายยั่วนายงั้นเหรอ”

“หึหึ ไม่ดูสารรูปตัวเองบ้าง มีค่าให้พี่หยิ่งยั่วด้วยเหรอ! น่าขำชะมัด!”

เสียงปากของคนจำนวนมากที่พูดไปพูดมา ย่อมสามารถทำให้ผิดกลายเป็นถูก เมื่อเจอกับคำครหาของคนตระกูลเซี่ยง เซี่ยงเส้าจุนหน้าแดงก่ำ เขาสั่นไปทั้งตัว เขามองเซี่ยงเส้าหลง แล้วพูดด้วยสีหน้ามีความหวังว่า “เส้าหลง! นายต้องเชื่อพี่นะ วันนั้น พี่ไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ พี่โดนเซี่ยงหยิ่งใส่ร้าย!”

เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้า “ผมเชื่อพี่!”

เขารู้ดีว่าเซี่ยงเส้าจุนเป็นคนยังไง ซื่อสัตย์ ภักดี จนถึงขั้นบื้อนิดหน่อย เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน!

“นายเชื่อเขาแล้วมีประโยชน์อะไร มีทั้งพยานบุคคลและหลักฐาน เซี่ยงเส้าจุนไม่คู่ควรเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเซี่ยง!”

จู่ๆ เซี่ยงเส้าหลงก็มองเซี่ยงหยิ่ง เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “คุณบอกว่า เซี่ยงเส้าจุนตั้งใจทำมิดีมิร้ายคุณใช่ไหม”

ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นรอยยิ้มของเซี่ยงเส้าหลง เธอจึงรู้สึกตื่นตระหนก แต่เธอยังคงพูดออกมาว่า

“ใช่!”

“คุณแน่ใจเหรอ”

“แน่ใจสิ!”

“ถ้าความจริงไม่เป็นอย่างที่คุณพูด จะทำยังไง”

เซี่ยงหยิ่งพูดเสียงแหลม “นายจะบอกว่าฉันใส่ร้ายเซี่ยงเส้าจุนงั้นเหรอ ล้อเล่นหรือเปล่า! ฉันยอมสละศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อที่จะใส่ร้ายเขาเนี่ยนะ ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น”

“หึหึ……”

เซี่ยงเส้าหลงมองเซี่ยงหยิ่งที่กำลังตื่นตระหนก เขายิ้มอย่างมีเลศนัย “คุณหนูเซี่ยง อย่าตื่นตระหนกสิ เดี๋ยวผมจะแนะนำให้คุณรู้จักใครบางคน ผมว่าคุณน่าจะสนใจมาก!”

พูดจบ สิบสององครักษ์เสื้อเลือดคุมตัวชายหนุ่มตัวสั่นเทาเดินเข้ามา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขายังสวมชุดพนักงานของโรงแรมหยวนเห้าอยู่บนตัว

เซี่ยงหยิ่งรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี เพราะโรงแรมที่เธออยู่กับเซี่ยงเส้าจุนในวันนั้น คือโรงแรมหยวนเห้า!

เมื่อชายหนุ่มต้องเผชิญหน้ากับสายตาทุกคน เขาถึงกับทรุดลงบนพื้น และพูดเหมือนจะร้องไห้ “ผม……ผมไม่ได้ตั้งใจ!”

“วันนั้นผมแค่หน้ามืดตามัว เลยแอบติดเครื่องดังฟังเอาไว้ในห้อง 1206 !”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนถึงกับอึ้งไปทันที!

เพราะวันนั้นทั้งสองคนอยู่ที่ห้อง 1206 !

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท