ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 133 ตัดแขน! ลงโทษหนัก!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นหัวสมองของทุกคนก็ค้างเติ่ง ฮั่วจ้านมองฮั่วสงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พูดตะกุกตะกัก “พ่อ…นี่พ่อกำลังทำอะไรอยู่!”

“ทำไมพ่อถึงคุกเข่าให้กับเศษสวะ!”

ผัวะ!

ฮั่วสงฟาดฝ่ามือใส่อย่างแรง ส่งผลให้ฮั่วจ้านกระเด็นออกไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นเยียบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด “ไอ้ลูกเวร!”

“ใครใช้ให้แกกล้าพูดลบหลู่นายพลน้อย?”

“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”

ฮั่วจ้านถึงกับอึ้งไป เขายืนเหม่ออยู่ตรงนั้นด้วยดวงตาที่เหม่อลอย สีหน้าไร้จิตวิญญาณ

“เจ้า….เจ้าตระกูลฮั่ว คุณ…คุณหมายความว่า…?”

เสิ่นเสว่เหลียนลุกขึ้นยืนขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ฮั่วสงคุกเข่าให้กับศัตรูที่ฆ่าลูกชายของเขา!

อย่าบอกนะว่า ก่อนจะมาที่นี่เขาได้เสียสติไปแล้ว?

เซี่ยงเส้าหลงพ่นลมหายใจออกมา เสิ่นเสว่เหลียนไม่มีทางรู้ว่า ตระกูลฮั่วเขตตะวันออกเฉียงเหนือนั้นได้รับการสนับสนุนจากอำนาจของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแต่แรก เจ้าตระกูลฮั่วคนปัจจุบันซึ่งก็คือฮั่วสงผู้เป็นพ่อ คงจะอดตายที่ชายแดนไปนานแล้ว และจะไม่มีตระกูลฮั่วที่มีอิทธิพลในเขตตะวันออกเฉียงเหนืออย่างทุกวันนี้!

“ฮั่วสง! คุณบ้าไปแล้วเหรอ!”

เซี่ยงเวิ่นเหอเบิกตากว้างมองเขา “เซี่ยงเส้าหลงฆ่าลูกชายของคุณนะ!”

ฮั่วสงตอบอย่างเย็นชาว่า “เจ้าลูกชายนอกคอกคนนั้น ได้กระทำการเนรคุณเช่นนี้ ตายยังน้อยไป!”

“คุณ…คุณ…”

นิ้วที่สั่นเทาของเซี่ยงเวิ่นเหอชี้มาที่เขา พูดอะไรไม่ออก!

คนเป็นพ่อยังบอกว่าลูกชายของเขาตายยังน้อยไป แล้วเขาจะพูดอะไรได้อีก?

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงลุ่มลึกและกว้างใหญ่ พูดอย่างเฉยเมยว่า “ฮั่วสง ฉันต้องการคำอธิบาย!”

ฮั่วสงรีบก้มหน้า “รายงานนายพลน้อย ผมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดในบ้านแล้ว บ่ายวันนี้ฮั่วปินได้ติดต่อคนแค่คนเดียว!”

จากนั้นก็ชี้ไปที่เซี่ยงปิง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ซึ่งก็คือเขา!”

เซี่ยงปิงตื่นตระหนกทันที “คุณ…คุณอย่าพูดเหลวไหล! มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม!”

“ฮึ!”

แรงอาฆาตฉายแววผ่านดวงตาของฮั่วสง แม้ว่าเซี่ยงเส้าหลงจะฆ่าลูกชายของตนเอง แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขากลับเกลียดเซี่ยงปิงมากกว่า!

ถ้าเขาไม่ลากลูกชายของตนเข้าไปพัวพันด้วย ฮั่วปินจะตายเพราะไปล่วงเกินเซี่ยงเส้าหลงได้อย่างไร?

“นายพลน้อย กล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าเซี่ยงปิงมาหาฮั่วปินในเวลาประมาณสี่โมงเย็น โดยบอกว่าเขาพบผู้หญิงชั้นดีคนหนึ่ง ชวนเขาไปลิ้มชิมรส จากนั้นทั้งสองก็ออกไป ในกล้องวงจรปิด บทสนทนาระหว่างทั้งสองถูกบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน นายพลน้อยได้โปรดตรวจสอบ!”

สายตาที่เย็นชาของเซี่ยงเส้าหลงกวาดไปทั่วร่างกายของเขาราวกับใบมีด ยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างกระหายเลือด “ที่แท้ ก็นายนั่นเอง…”

เมื่อมองดูดวงตาที่เย็นชาของเขา เซี่ยงปิงรู้สึกราวกับตกลงไปในห้องใต้ดินน้ำแข็ง ตามสัญชาตญาณ เขาหันกลับไปและกำลังจะวิ่งหนี การกระทำนี้ได้ยืนยันตัวตนของเขาในฐานะผู้กระทำผิด สายตาของเซี่ยงเส้าหลงหรี่ลง “เลี่ยหลง! ฉิวหนิว!”

เงาร่างสองคนปรากฏออกมาทันที ได้ยินเพียงเสียงร้องโหยหวน เซี่ยงปิงถูกชายสองคนจับแขนไว้คนละข้าง จับกดลงบนพื้น!

“พ่อ! คุณย่า! ช่วยผมด้วย!”

เส้นโลหิตดำเห็นเด่นชัดอยู่บนหน้าผากของเซี่ยงเวิ่นเหอ “เซี่ยงเส้าหลง! แกต้องการอะไร! ปล่อยลูกชายของฉันนะ!”

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงมืดมนราวกับนรก จ้องตรงไปที่เสิ่นเสว่เหลียน แล้วพูดว่า “สมรู้ร่วมคิดกับคนนอก ทำร้ายลูกชายคนโตของตระกูลเดียวกัน ตามกฎบรรพบุรุษของตระกูลเซี่ยง ควรลงโทษอย่างไรดี?!”

สีหน้าของเสิ่นเสว่เหลียนแย่ลงอย่างมากทันที!

เซี่ยงเส้าหลงได้ก้าวผ่านประตูเข้ามา ตามกฎของบรรพบุรุษ เขาได้คืนสถานะลูกชายคนโตของตระกูลเซี่ยงแล้ว และอวิ๋นเสว่เหยนก็เป็นภรรยาของเขา ทำร้ายอวิ๋นเสว่เหยนก็เท่ากับทำร้ายเซี่ยงเส้าหลง

“ว่าไง? ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเหรอ? งั้นผมจะช่วยตอบให้!”

เซี่ยงเส้าหลงแผดเสียงดังลั่น “ทำร้ายตระกูลเดียวกัน ต้องโบยร้อยครั้ง ไล่ออกจากตระกูล ถ้าหากเป็นทายาทสายตรงของตระกูล ต้องเพิ่มโทษอีกหนึ่งขั้น! ตัดแขนตัดขาอย่างละข้าง เนรเทศออกไปพันลี้ อย่าได้หวนกลับมาอีกตลอดกาล!”

ใบหน้าของเซี่ยงปิงเต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ “ไม่! ผมไม่เอา! พ่อ! ช่วยผมด้วย!”

“เซี่ยงเส้าหลง! แกกล้าแตะต้องลูกชายของฉันเหรอ?”

เซี่ยงเวิ่นเหอมีสีหน้าอาฆาตแค้น!

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงน่าสะพรึงกลัว “เลี่ยหลง!”

ฟิ้ว!

“โอ๊ย!”

ท่อนแขนโชกเลือดยกขึ้นพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของเซี่ยงปิง เซี่ยงเวิ่นเหอมองไปยังแขนขาที่ขาดลงตรงหน้าเขาอย่างตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นเสียงคำรามสั่นสะเทือนแก้วหูก็ดังขึ้น “อาๆๆ! เซี่ยงเส้าหลง! ฉันจะฆ่าแก!”

“เวิ่นเหอ!”

ในขณะที่เซี่ยงเวิ่นเหอกำลังจะเอาเป็นเอาตายกับเซี่ยงเส้าหลง คำพูดที่เย็นเยียบของเสิ่นเสว่เหลียนก็ระเบิดขึ้นข้างหูเขา!

เซี่ยงเวิ่นเหอดวงตาแดงก่ำ “แม่! แขนของเซี่ยงปิงไม่มีแล้ว! ไม่มีแล้ว!”

มือทั้งสองของเสิ่นเสว่เหลียนกระตุกเล็กน้อย แต่น้ำเสียงรุนแรงกว่านั้น “เซี่ยงปิงละเมิดกฎบรรพบุรุษ ต้องแบกรับผลกรรมเอง แค่เหลือแขนข้างหนึ่ง ก็นับว่าบุญแล้ว!”

“แต่ว่า…”

“ไม่มีคำว่าแต่! หุบปากซะ!”

เซี่ยงเส้าหลงชำเลืองมองเธออย่างมีความหมายลึกซึ้ง สมาชิกของตระกูลเซี่ยงมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ การกระทำของเสิ่นเสว่เหลียนแสดงพวกเขาให้เห็นว่า ตนเองนั้นจัดการอย่างเป็นธรรมและไม่เห็นแก่ตัวเพียงใด เขาปฏิบัติตามกฎของบรรพบุรุษของตระกูลเซี่ยงอย่างเคร่งครัด และแม้ว่าหลานชายแท้ๆ ของเขาจะทำผิด ก็ลงโทษอย่างแรงไม่มีการผ่อนปรน ได้รับความรู้สึกดีๆ จากผู้อาวุโสของตระกูลเซี่ยง

และการลงโทษตัดแขนตัดขาข้างหนึ่งก็เพราะคำพูดของเสิ่นเสว่เหลียนด้วย ถ้าตนเองยังทำอะไรต่อไป จะเห็นชัดเจนว่าตนเองไม่มีเหตุผล และทิ้งภาพจำที่ไม่ดีไว้กับสมาชิกของตระกูลเซี่ยง

สมกับที่เป็นผู้หญิงที่ควบคุมตระกูลเซี่ยงมานานกว่าสิบปี เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจริงๆ!

อย่างไรก็ตาม เซี่ยงเส้าหลงก็ไม่ได้ตั้งใจจะเอาเรื่องเอาราวต่อ แขนข้างเดียวของเซี่ยงปิง ก็เพียงพอให้เขาหลาบจำไปอย่างยาวนานแล้ว!

จากนั้นก็มองไปที่เสิ่นเสว่เหลียน แล้วพูดว่า “คุณหญิงเสิ่น เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ แต่ว่า คุณลืมอะไรไปอย่างหนึ่งหรือเปล่า…”

“พิธีแต่งตั้งพี่ใหญ่ของผมเป็นทายาท เมื่อไหร่จะจัดขึ้น?”

รูม่านตาของเสิ่นเสว่เหลียนหดตัวเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้จะสามารถผัดผ่อนออกไปให้ได้นานที่สุด แต่เซี่ยงเส้าหลงเกิดพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตอนที่คนของตระกูลเซี่ยงรวมตัวกันมากที่สุด ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้โดยตรง

เมื่อเห็นสีหน้าจัดแจงของเธอ เซี่ยงเส้าหลงก็ยิ้มอ่อน “อะไรนะ? หรือว่าคุณจะเปลี่ยนใจ?”

“ไม่แน่นอน!”

แววตาของเสิ่นเสว่เหลียนหรี่ลง แล้วพูดว่า “เส้าจุนทำเพื่อให้ได้เหมืองทองคำเพื่อตระกูลเซี่ยง บวกกับการที่เขาเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเซี่ยง ย่อมมีคุณสมบัติที่จะเป็นทายาทของตระกูลเซี่ยง!”

“แต่คุณอย่าลืมนะว่า แม้ว่าฉันจะเป็นคนดูแลตระกูลเซี่ยง แต่ความจริงแล้วผู้จัดการตระกูลเซี่ยงนั้นไม่ใช่ฉัน!”

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงหรี่ลงเล็กน้อย เขาย่อมรู้ว่าเจ้าตระกูลเซี่ยงนั้นไม่ใช่เสิ่นเสว่เหลียน แต่เป็นเซี่ยงซือสุ้น คุณปู่ที่เขาไม่ค่อยได้พบหน้าสักเท่าใด

แต่ตอนที่เซี่ยงซือสุ้นป่วยและเก็บตัวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาไม่สนใจเรื่องในตระกูล นอกจากชื่อและสมญานามเจ้าตระกูลแล้ว เรื่องอื่นๆ ล้วนอยู่ภายใต้อำนาจควบคุมของเสิ่นเสว่เหลียน แต่ตอนนี้เมื่อเสิ่นเสว่เหลียนพูดถึงเขาขึ้นมา มันกลับได้ผลเกินคาด!

การเลือกทายาทจะต้องได้รับการตัดสินใจจากเจ้าตระกูลคนก่อน มิฉะนั้น มันจะเป็นโมฆะ!

เซี่ยงเส้าหลงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ถ้าปู่ของผมรักษาไม่หาย ตระกูลเซี่ยงจะไม่มีวันมีทายาทงั้นเหรอ?”

“ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย!”

เสิ่นเสว่เหลียนพูดอย่างเฉยเมย “อาการป่วยของคุณปู่ของคุณ ไม่ใช่ว่ารักษาไม่หาย หากหายาในตำนานเจอ อาการป่วยของคุณปู่ของคุณจะดีขึ้น และมีโอกาสรักษาให้หายได้ พอถึงตอนนั้น มีเขาตัดสินใจแต่งตั้งเซี่ยงเส้าจุนเป็นทายาท จึงจะถูกทำนองคลองธรรม ได้รับการยอมรับจากทุกคนในตระกูลเซี่ยง!”

คนในตระกูลที่เหลือพากันพยักหน้าหลังจากได้ยินจนจบ เพราะสิ่งที่เสิ่นเสว่เหลียนพูดนั้น เป็นไปตามกฎของตระกูลเซี่ยงโดยไม่มีจุดด่างพร้อยใดๆ

แต่เซี่ยงเส้าหลงกลับขรึมลง ด้วยศักยภาพของตระกูลเซี่ยง ถ้าเป็นยาทั่วไปก็คงจะได้มาอยู่ในมือนานแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะรอมาเป็นเวลานานกว่าสิบปีจนเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือยาที่ต้องการนั้นหายากมาก แม้แต่ศักยภาพของตระกูลผู้สูงศักดิ์อย่างตระกูลเซี่ยงยังอับจนหนทาง!

“ที่เรียกว่ายาในตำนาน มันคือยาอะไร?”

เสิ่นเสว่เหลียนแลบลิ้นเบาๆ “เห็ดอมตะ!”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท