สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 76 อย่าคิดเองเออเองสิ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

พิธีมอบรางวัลวัวทองในปีนี้จัดขึ้นที่โรงแรมซิงฮั่น

โรงแรมซิงฮั่นเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหรง เจ้าของเป็นคนที่ลึกลับไม่ค่อยที่จะปรากฏตัวสักเท่าไหร่ แม้แต่ผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมซิงฮั่นก็ยังไม่เคยเจอตัวเจ้าของเลย

แต่ก่อนจะถึงเวลาประกาศรางวัลก่อนครึ่งชั่วโมง เจ้าของผู้อยู่เบื้องหลังของโรงแรมก็ได้โทรศัพท์ไปหาผู้จัดการใหญ่

“ไปที่ลานจอดรถ รับผู้หญิงคนที่ชื่อซูสือเยว่ เชิญเธอเข้าไปในงาน หาที่นั่งที่มองเห็นชัดที่สุด แล้วบริการให้ดี”

“ครับ!”

ผู้จัดการใหญ่ตอบรับอย่างขยันขันแข็ง “เจ้านายครับ คุณผู้หญิงที่ชื่อซูสือเยว่ท่านนี้ มีเอกลักษณ์เฉพาะอะไรไหมครับ?”

ปลายสายนั้นเงียบไปสักพักหนึ่ง “เธอสวยมาก”

พอพูดจบแล้วเขาก็วางสายไป

ผู้จัดการใหญ่: “……”

เอกลักษณ์เฉพาะก็คือสวยมาก!?

ดาราสาวที่มาร่วมงานพิธีมอบรางวัลวัวทองในวันนี้มีใครที่ไม่สวยบ้างล่ะ?

แล้วอย่างนี้เขาจะหาคนเจอได้อย่างไร!

เมื่อจนปัญญา ผู้จัดการใหญ่ก็ทำได้เพียงแค่ค้นหาข้อมูลของซูสือเยว่ในอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งรีบลงลิฟต์ไปด้วย แล้วไปรับที่ลานจอดรถด้วยตนเอง

ที่ทำให้เขารู้สึกตกใจก็คือ ซูสือเยว่คนที่เจ้านายให้เขาดูแลนั้น เมื่อก่อนนี้นึกไม่ถึงเลยว่าเป็นแค่นักแสดงแทนในฉากต่อสู้คนหนึ่ง!?

ไม่ใช่ว่าบนอินเทอร์เน็ตไม่มีรูปของเธอ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร รูปทุกใบที่มีใบหน้าของเธอกลับดูคลุมเครือ สุดท้ายแล้วก็มองไม่ออกเลยว่าเธอหน้าตาเป็นเช่นไร!

ในขณะที่ผู้จัดการใหญ่กำลังตามหาคนที่ลาดจอดรถอย่างกระวนกระวายนั้น ก็ได้มีรถมาเซราติคันสีดำมาจอด

ซูสือเยว่สวมชุดราตรีเปิดไหล่สีน้ำเงินเดินรถมาจากรถ

เป็นครั้งแรกที่เธอสวมชุดที่เปิดเผยขนาดนี้ เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยชินอยู่บ้าง

หญิงสาวน้ำเสื้อคลุมสีขาวมาคลุมไว้บนร่างแล้วยิ้มเล็กน้อยเพื่อบอกลาเด็กน้อยทั้งสองที่อยู่บนรถ “เป็นเด็กดีแล้วกลับไปก่อนนะ”

ซิงเฉินเกาะอยู่ที่กระจกรถราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรม ดวงตาคู่โตปริ่มน้ำเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม “ถ้าตามหม่ามี๊ไปเข้าร่วมได้ก็คงจะดี”

ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าตระกูลฉินไม่เคยผ่านงานเลี้ยงค็อกเทลปาร์ตี้หรือการเลี้ยงที่เป็นทางการแบบนี้

แต่เป็นเพราะซิงหยุนกับซิงเฉินเด็กสองคนไม่ได้รู้สึกสนใจร่วมโอกาสเช่นนี้เลย ดังนั้นจึงไม่เคยคิดที่จะไปเข้าร่วมมาก่อน

แต่ตอนนี้ เมื่อได้เห็นซูสือเยว่ที่งดงามสง่าผ่าเผยและเซ็กซี่ดึงดูดใจผู้คน จู่ ๆ ซิงเฉินก็รู้สึกอยากไปเข้าร่วมขึ้นมา

เขาอยากจะจูงมือเธออยู่ต่อหน้าของทุกคน บอกพวกเขาอย่างภาคภูมิใจว่าผู้หญิงแสนสวยคนนี้เป็นหม่ามี๊ของเขา!

“เด็กดี”

ซูสือเยว่ยกมือลูบศีรษะเขาอย่างจนปัญญา “คืนนี้เป็นพิธีมอบรางวัลของวงการแสดง มีนักข่าวและสื่ออยู่เต็มไปหมด”

“ถ้าหม่ามี๊พาหนูเข้าไปก็อาจจะถูกคนเห็นเข้า”

“แด๊ดดี้ของลูกไม่อยากให้พวกลูกเปิดเผยตัวตน ด้วยกลัวว่าจะถูกคนที่ไม่เกี่ยวข้องตามรังควาน”

“ดังนั้นเป็นเด็กดีแล้วกลับไปก่อนนะ หม่ามี๊จะดูแลตัวเองดี ๆ วางใจเถอะ!”

ซิงเฉินเม้มปาก ก่อนที่จะมุดหัวเล็ก ๆ กลับเข้าไปในรถ “รีบกลับบ้านเร็ว ๆ นะครับ!”

เมื่อพูดจบแล้ว ก็ได้สตาร์ทรถ

แผ่นหลังของซูสือเยว่เริ่มไกลห่างออกไปจากกระจกรถขึ้นทุกที

จวบจนร่างของหญิงสาวหลงเหลือไว้แค่เพียงจุดเล็ก ๆ ในสายตา ซิงเฉินจึงได้ถอนหายใจแล้วกลับเข้าไปนั่งในรถใหม่ “พี่ชาย”

“หรือว่าจะโทรศัพท์หาพี่หนานเซิงดี ให้เขาช่วยดูแลคุณแม่หน่อย?”

ซิงหยุนเงยหน้าขึ้น ใช้สายที่ราวกับกำลังมองคนโง่อยู่มองไปที่ซิงเฉินแวบหนึ่ง “ยังไม่ถึงคิวของเขา”

“หมายความว่ายังไง?”

เด็กน้อยกลอกตามองดูซิงเฉินแวบหนึ่ง “นายไม่เห็นเลยหรอกว่าตลอดทั้งบ่ายนี้ไม่มีข่าวคราวจากแด๊ดดี้เลย?”

ซิงเฉินไม่เข้าใจ “ไป๋ลั่วบอกว่าบ่ายนี้คุณพ่อกำลังยุ่งอยู่กับการประชุมที่บริษัท”

“พยายามทำงานและประชุมอย่างสุดชีวิต ก็เพื่อที่จะได้มีเวลาออกมาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้”

พอพูดจบแล้ว เขาก็มองดูซิงเฉินอย่างราบเรียบแวบหนึ่ง “โง่ขนาดนี้ หลังจากนี้ก็คงจะหาแฟนไม่ได้”

ซิงเฉิน : “……”

พี่ชายเขาก็ยังเด็กเหมือนกัน แต่ทำไมในหัวถึงเริ่มรู้เรื่องพวกนี้แล้วล่ะ?

……

เมื่อเดินไปส่งซิงหยุนและซิงเฉินแล้ว ซูสือเยว่ยกกระโปรงเดินออกไปจากลานจอดรถอย่างเชื่องช้า

แต่ว่าลานจอดรถของที่นี่กว้างใหญ่เกินไป ฉับพลันนั้นซูสือเยว่ก็เลยไม่รู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหน

ที่ลานจอดรถมีผู้คนมากมายที่กำลังยุ่งอยู่ ราวกับต้องการหาใครบางคน

“เมื่อก่อนเธอเป็นนักแสดงแทน ดังนั้นก็คงจะไม่ค่อยสวยแล้วก็ไม่ค่อยมีออร่าสักเท่าไหร่ หาให้ละเอียด อย่างปล่อยให้ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาผ่านไปแม้แต่คนเดียว!”

น้ำเสียงที่เยียบเย็นของชายผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยเตือน

ผู้รักษาความปลอดภัยทุกคนตอบรับคำหนึ่ง แล้วเริ่มพากันแยกย้าย

ในตอนที่ทุกคนเดินผ่านเธอไปนั้น ต่างก็ไม่เหลือบมองเลยแม้แต่คนเดียว

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วแน่น รอจนบอดี้การ์ดแยกกันไปแล้ว จึงได้เดินไปที่ข้างกายของชายผู้เป็นหัวหน้าอย่างระมัดระวัง “ขออนุญาตถามค่ะ ทางออกอยู่ตรงไหน?”

ชายคนนั้นชี้นิ้วอย่างกระสับกระส่าย ๆ ไปยังทิศทางหนึ่ง “เดินตรงไปจากตรงนี้ก็ถึงแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ”

ซูสือเยว่พยักหน้า ในตอนที่คิดว่าจะจากไปนั้น จู่ ๆ ก็หันกลับไปราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“คือว่า”

เธอมองใบหน้าของผู้จัดการใหญ่อย่างจริงจังแวบหนึ่ง “ฉันอยากบอกว่า…”

“คนที่เป็นตัวแทนนักแสดง ทุกคนต่างก็สวยมากแล้วก็มีออร่ามาก ไม่ได้ธรรมดาเลยสักนิด”

อย่างเช่นเธอ

เพียงแต่ ซูสือเยว่ไม่ได้พูดประโยคนี้ออกไป

เมื่อเธอพูดประโยคนี้จบแล้ว ก็หมุนกาย แล้วก้าวเท้ายาว ๆ เดินจากไป

ผู้จัดการใหญ่มองไปยังทิศทางที่หญิงสาวจากไป แล้วแอบกลอกตาอยู่เงียบ ๆ “ประสาท”

……

ในตอนที่ซูสือเยว่ออกมาจากลานจอดรถนั้น หลิงหยวนที่เป็นผู้ช่วยของลั่วเยียนนั้นก็ได้รอเธออยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว

พอเห็นซูสือเยว่เดินมา หลิงหยวนก็รีบเข้ามาแล้วยัดการ์ดเชิญใส่ในมือของซูสือเยว่ “ลั่วเยียนเข้าไปข้างในแล้ว”

“คืนนี้เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงเอกผู้หญิง ก็เลยมีคนตามหาตัวเธอค่อนข้างมาก”

“อืม”

ซูสือเยว่ยิ้มอย่างแผว่เบาแล้วเก็บการ์ดเชิญ จากนั้นตามหลิงหยวนเข้าไปในงานเลี้ยงด้วยกัน

ภายในงานดูคึกคักเหลือเกิน

งานพิธีมอบรางวัลยังไม่เริ่ม นักแสดง ผู้กำกับ เหล่าโปรดิวเซอร์ต่างก็พากันทยอยเข้ามาจับกลุ่มพูดคุยกัน

ซูสือเยว่หาที่นั่งมุมหนึ่งนั่งลงไปตามใจชอบ

“ว้าว เธอมาจริง ๆ ด้วย”

ก้นเธอนั่งยังไม่ทันจะได้ร้อนดี ด้านหลังก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น

เป็นเซี่ยงหวั่นฉิงนั่นเอง

ซูสือเยว่หันกลับไปโดยไม่รู้ตัว

ทางด้านหลัง เซี่ยงหวั่นฉิงกำลังควงแขนเฉิงเซวียนเดินตรงเข้ามาหาเธอ

เซี่ยงหวั่นฉิงสวมชุดกระโปรงตัวยาวบางเบาราวกับนางฟ้า ส่วนเฉิงเซวียนสวมชุดสูทสีขาวเลี่ยมทอง สง่างามและดูมีฐานะ

เมื่อทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน เปรียบดั่งคู่สร้างคู่สม

ซูสือเยว่ยิ้มมุมปากเบา ๆ “ฉันจำได้ว่าตอนที่ยังไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอ ฉันเคยบอกกับพวกเธอเอาไว้ ไม่ว่าพวกเธอจะได้รับรางวัลหรือว่าไม่ได้รับ ฉันก็จะมาดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”

เซี่ยงหวั่นฉิงหัวเราะเยาะ “เธอนี่มันรักษาคำมั่นสัญญาจริง ๆ”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ซูสือเย่วยังคงยิ้มอย่างไม่ต้อยต่ำหรือไม่สูงส่งจนเกินไป “ฉันเองก็คงจะไม่อาจที่จะไม่รักษาสัจจะกับคนที่ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ทั้งสองคนนี้หรอกจริงไหม?”

เซี่ยงหวั่นฉิงหน้าขาวซีด “เธอพูดอะไร!”

“เปล่านี่”

ซูสือเยว่ยังคงนั่งลงบนเก้าอี้ มุมปากโค้งขึ้นราวกับจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “อย่าคิดเองเออเองสิ”

“หรือว่า ตัวเธอเองยอมรับว่าเธอเป็นอย่างที่ฉันพูด ไม่ต่างอะไรกับสัตว์?”

สีหน้าของเซี่ยงหวั่นฉิงดูไม่น่ามองเป็นอย่างมาก

“อย่าไปทะเลาะกับคนที่อยู่ต่ำกว่าเลย”

เฉิงเซวียนแค่นเสียงเย็นชา แล้วกุมมือของเซี่ยงหวั่นฉิงเอาไว้ “ตอนนี้หล่อนก็แค่ปากดีไปอย่างนั้นแหละ”

“อย่างไรเสียหลังจากผ่านพิธีมอบรางวัลในคืนนี้ไป สถานะทางสังคมของเธอกับฉันก็จะเปลี่ยนไปแล้ว จะไปโมโหกับคนต่ำต้อยอย่างนี้ทำไมล่ะ?”

เซี่ยงหวั่นฉิงหรี่ตาลง “ก็จริง”

“ซูสือเยว่ ถึงเธอจะปากดีต่อไป ก็เปลี่ยนแปลงชะตากรรมที่จะถูกพวกเราเหยียบให้จมดินไม่ได้หรอก”

  

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท