My Death Flags Show No Sign of Ending – ตอนที่ 53 ความกลัว

My Death Flags Show No Sign of Ending

 

[ … ก็ ดูเหมือนเรื่องราวจะเป็นแบบนั้นแหละ ] – เอลล์

[ น่ากลัวเกินไปแล้ว! นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี้ย !? ] – ลีฟา

 

เมื่อลีฟาได้ฟังเรื่องราวจากเอลล์ เธอถึงกับตัวสั่นพลางกอดไหล่ทั้ง 2 ข้างของเธอ เพราะเรื่องที่เธอเพิ่งจะได้ฟังมันน่าขนลุกจนเกินไป

แต่นั้นคือเหตุผลที่เอลล์อยากจะให้ลีฟาได้ฟังมัน

ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์รอบๆตัวของฮาโรลด์จึงค่อยๆประกอบเบาะแสต่างๆขึ้นเป็นชิ้นเป็นอันเรื่อยๆ และนั้นช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของลีฟาที่มีต่อฮาโรลด์

 

[ แล้วไงต่อ !? ] – ลีฟา

 

ดูเหมือนลีฟาเธอจะงับเหยื่อเข้าเต็มเปา นั้นคือสิ่งที่เอลล์เล็งเอาไว้

 

[ ฉันว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนล่ะกันเนอะ ฉันต้องนอนแล้ว ไม่งั้นมีหวังเผลอหลับตอนเฝ้ายามแน่ๆ ] – เอลล์

[ เอ๋ .. ] – ลีฟา

[ ยิ่งกว่านั้น พรุ่งนี้พวกเราต้องขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อสู้กับมอนเตอร์นะ พวกเราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ] – เอลล์

[ บู่ๆ เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วจ้า … ] – ลีฟา

 

ลีฟ่าบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงงอนนิดหน่อย แต่ทันทีที่เธอทิ้งตัวลงนอน ลมหายใจของเธอก็เริ่มสงบนิ่งเป็นจังหวะทันที

ก็อย่างที่บอกไปหลายครั้งก่อนหน้านี้ เอลล์นั้นยังไม่ได้บอกเพศจริงๆของเธอให้กับลีฟารู้เลย และเธอกลับมานอนข้างๆกับคนที่ไม่รู้ว่าเป็นเพศชายหรือหญิงโดยไม่ระวังตัวซักหน่อยหรอ ?

ถึงกระนั้น วันรุ่งขึ้นก็มาถึงโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

บางที สิ่งที่เธอได้ฟังมาจากเมื่อคืนยังติดอยู่ในหัวของเธอ ลีฟาได้แต่แอบมองฮาโรลด์ซ้ำไปซ้ำมาและพยายามหลบสายตาของเขาตั้งแต่เช้า

เธอดูกระสับกระส่ายสุดๆ บางทีความอยากรู้อยากเห็นกับศีลธรรมในตัวของเธอกำลังต่อสู้กันอยู่

จริงๆฮาโรลด์ก็สังเกตเห็นพฤติกรรมของลีฟาเช่นกัน แต่เขาก็ทำเป็นไม่ได้สนใจและเดินต่อไปเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไร

จุดหมายปลายทางของพวกเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของยอดเขา ที่ซึ่ง มังกรไฮดร้าอาศัยอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องสงสัยในจุดหมายปลายทางที่ฮาโรลด์กำลังพาไป

มอนเตอร์ส่วนใหญ่ที่พวกเขาเจอถูกฮาโรลด์จัดการเคลียให้คนเดียวทั้งหมด เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดี แต่เขาแทบไม่พูดอะไรเลย จึงทำให้ลีฟาหาจังหวะเหมาะๆพูดคุยกับฮาโรลด์ไม่ได้เลยเช่นกัน และเอลล์เองก็ทำเพียงแค่คอยสังเกตปฎิกิริยาของทั้งสองด้วยความสนอกสนใจ ดังนั้น พวกเขาทั้ง 3 คนจึงไม่มีใครพูดอะไรกันเลยสักคำตลอดการเดินทาง

ราวกับอดทนต่อสายตาของลีฟาไม่ไหวอีกต่อไป จู่ๆฮาโรลด์ก็หยุดเดินแล้วหันหลังกลับมา

ทันใดนั้น เขาก็เปิดปากขึ้นกับลีฟา

 

[ เฮ้ ] – ฮาโรลด์

[ อะ- อะไรหรอ ? ] – ลีฟา

[ สิ่งที่เธอทำมันกวนชั้นมาซักพักแล้ว มีอะไรก็พูดมา ถ้าไม่มีอะไรก็หยุดจ้องชั้นด้วยสายตาแบบนั้นซักที มันน่ารำคาญ ] – ฮาโรลด์

 

ด้วยท่าทางและคำพูดของเขาค่อนข้างกดดันอีกฝ่าย หากเป็นคนธรรมดาคงหน้าซีดไปแล้ว แต่ปฎิกิริยาของลีฟากลับตรงกันข้าม

ราวกับได้รับการอนุญาต ลีฟาเธอถามคำถามที่อยากรู้ออกไปทันที ซึ่งเป็นไปอย่างที่เอลล์คิดไว้ไม่ผิด

 

[ งั้น ฉันจะข้ามๆเรื่องน่าเบื่อเข้าประเด็นหลักเลยละกัน จริงรึปล่าวที่นายเกือบถูกประหารชีวิต ? ] – ลีฟา

 

การจ้องมองอันเย็นเฉียบพุ่งมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตรงมาที่เอลล์

ลีฟา ที่เมื่อวานยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฮาโรลด์ .. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครในที่นี้ให้ข้อมูลของเขากับเธอ

 

[ … ได้ยินมาแค่ไหน ? ] –  ฮาโรลด์

 

เขาไม่ได้ถามว่าได้ยินมาจากใคร? แต่ได้ยินมาแค่ไหน ? เหมือนเป็นการตอบคำถามด้วยคำถามอย่างไงอย่างงั้น

ในเวลาเดียวกัน ตามที่เอลล์แอบสังเกต บางทีเรื่องราวนี้อาจจะยังมีความลับอื่นๆซ่อนอยู่ที่อาจจะทำให้เรื่องราวมันสมบุรณ์ยิ่งขึ้น

ถ้าหากฮาโรลด์ต้องการเพียงแค่จะยืนยัน เขาก็ไม่จำเป็นต้องถามว่าลีฟารุ้มามากแค่ไหน กล่าวอีกนัยนึงก็คือ ยังมีอะไรบางอย่างที่เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้เก็บซ่อนเอาไว้

และคำตอบของฮาโรลด์คือการตรวจสอบว่าลีฟาได้ยินมาแค่ไหน และเป็นการตรวจสอบข้อมูลที่เอลล์บอกกับเธอด้วย บางทีเขาคงอยากจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าความลับของเขาถูกล่วงรู้ถึงแค่ไหน ?

ซึ่งลีฟาเองดูเหมือนจะไม่ตระหนักถึงความตั้งใจจริงๆของฮาโรลด์ เธอจึงเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆที่ได้ฟังมาจากเอลล์เมื่อคืน และสีหน้าของฮาโรลด์ก็บูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ต้นจนจบ

 

[ —– ก็ตามที่เล่ามานั้นแหละ ] – ลีฟา

[ ก็ถูกต้องตามนั้น ถ้าเข้าใจแล้ว หยุดจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้นซะ ไม่เช่นนั้น ชั้นจะตัดเอ็นข้อเท้าของเธอทั้ง 2 ข้าง แล้วทิ้งไว้บนภูเขาลูกนี้ ] – ฮาโรลด์

[ ความคิดของนายจะน่ากลัวไปไหน… ] – ลีฟา

 

หลังจากฟังเรื่องราวที่ลีฟาเล่าจนจบ ฮาโรลด์ก็กล่าวกับลีฟาว่าหยุดจ้องซักทีแล้วก็ขู่ไปอีกรอบว่าจะปล่อยทิ้งไว้บนเขา แม้ว่าลีฟาเองจะรู้สึกว่ายังไม่ได้คำตอบที่พอใจนัก แต่เธอก็ยอมถอยแต่โดยดี เพราะเมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมแย่ๆที่ฮาโรลด์เคยทำมา เธอเลยคิดว่าบางทีที่ฮาโรลด์ขู่เขาอาจจะทำจริงๆก็ได้

อย่างไรก็ตาม เอลล์ที่แอบสังเกตฮาโรลด์อย่างใกล้ชิด เธอไม่พลาดที่จะพบว่าฮาโรลด์แสดงปฎิกิริยาอะไรบางอย่างเล็กๆ มันเกิดขึ้น 2 ครั้ง

ครั้งแรก คือตอนที่ชื่อของ”โคดี้” ถูกเอ่ยขึ้น ครั้งที่ 2 มาจากคำว่า “ตัวทดลอง”

เมื่อเห็นปฎิกิริยาเช่นนั้น เอลล์มั่นใจว่าฮาโรลด์เองคงสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในจุดนี้ได้ แต่ฮาโรลด์กับยอมรับมันด้วยตัวเองโดยไม่แก้ไขให้มันถูกต้อง

บางทีหลังจากนี้ถ้าหากมีโอกาส ฮาโรลด์อาจจะเข้ามาติดต่อกับเอลล์ นั้นคือสิ่งที่เอลล์คิด

เอลล์ตั้งตารอคอยเวลาที่ฮาโรลด์เข้ามาติดต่อกับเธอแทบไม่ไหว เธออยากจะรู้ว่าเธอจะสามารถดึงข้อมูลจากฮาโรลด์ได้มากน้อยแค่ไหนกัน มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ใกล้เคียงกับความตื่นเต้นของนักล่าสมบัติที่พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงหน้าหีบสมบัติในเขาวงกต

แม้ว่าเอลล์กำลังตื่นเต้นในใจอยู่คนเดียว แต่ขาของฮาโรลด์ก็ไม่ได้ก้าวช้าลงแต่อย่างใด และในที่สุด เมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน พวกเขาทั้ง 3 คนก็มาถึงยอดเขากิแรน

 

[ พวกเรามาถึงแล้ว! ยะหู้ว ] – ลีฟา

 

ลีฟาร้องออกมาด้วยดีใจราวกับว่าเธอลืมจุดประสงค์หลักที่เธอมาในครั้งนี้ไปจนหมดสิ้น 

แม้ว่ายอดเขากิแรนจะมีบริเวณหินที่เห็นได้ชัดอยู่บ้างประปราย แต่โดยปกติแล้วมันควรจะเป็นที่ราบ และขณะที่เราอยู่ตอนนี้มีหิมะปกคลุมอยู่เบาบาง แต่หากเป็นในฤดูหนาว พื้นที่ทั้งหมดนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ

และที่ใจกลางของยอดเขา มีปล่องภูเขาไฟขนาดความกว้างกว่า 200 เมตรตั้งอยู่

ฮาโรลด์เดินไปยังปล่องภูเขาไฟโดยปล่อยลีฟาที่มัวแต่ชื่นชมกับความสำเร็จในการพิชิตยอดเขาของเธออยู่ และด้วยความอยากรู้ว่าฮาโรลด์จะทำอะไร เอลล์จึงเดินตามฮาโรลด์ไป

เมื่อฮาโรลด์มองลงไปที่ปล่องภูเขาไฟ เขาก็พบเส้นทางที่มันไม่ลาดชันมากนัก และมีหลายๆพื้นที่ที่สามารถหยั่งเท้าได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็กระโดดลงไปทันที

การกระโดดลงไปแต่ละขั้น ละขั้น ของฮาโรลด์ ดูมั่นคงและลื่นไหลเป็นอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่มีอันตรายใดจากลาวาเพราะภูเขาไฟแห่งนี้เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ด้วยเวลาไม่นาน เขาก็กระโดดลงไปกว่า 100 เมตรแล้ว

หลังจากกระโดดลงไปถึงก้นของปล่องภูเขาไฟ ฮาโรลด์ก็หยิบวัตถุอะไรบางอย่างคล้ายเครื่องจักรออกมา เอลล์มองเห็นไม่ชัดนักว่าเป็นอะไรเพราะมันค่อนข้างไกล แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทันทีที่ฮาโรลด์ติดตั้งเครื่องนั้นเสร็จ เขาก็กระโดดเบาๆกลับขึ้นมาตามเส้นทางเดิม

 

[ นั้นเป็นความสามารถทางร่างกายที่น่าทึ่งมาก ไม่มีทางที่ฉันจะเลียนแบบการเคลื่อนไหวนั้นได้ ] – เอลล์

[ ฮืม เข้าใจก็ดีแล้ว ] – ฮาโรลด์

[ แล้ว นายไปทำอะไรมาหรอ ? ] – เอลล์

[ ไม่ใช่เรื่องของเธอ ] – เอลล์

 

( ตอบกลับมาในทันทีเลยแฮะ เอาเถอะ ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาง่ายๆหรอก บางที มันอาจเป็นอุปกรณ์อะไรบางอย่างจากศูนย์วิจัยที่เขากำลังทำงานให้อยู่ก็ได้มั้ง ) – เอลล์

 

[ ไงก็เถอะ เธอ- .. ] – ฮาโรลด์

 

สายตาของฮาโรลด์เย็นเฉียบลงกว่าเดิม

 

(หรือว่าเขาจะถามเกี่ยวกับเรื่องในตอนนั้นแล้ว!?) – เอลล์

 

ในขณะที่เอลล์คิดเช่นนั้น ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเข้ามายังโสตประสาทของพวกเธอทั้งสองคน เวลาสำหรับการสนทนานี้จึงหมดลงโดยปริยาย

พวกเธอทั้ง 2 มองหาลีฟาผู้เป็นเจ้าของเสียงร้องนั้นและพบกับเธอในทันที แต่มีปัญหาหนึ่ง นั้นคือเธอกำลังเผชิญหน้ากับมังกรขนาดยักที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

นั้นคือมังกรไฮดร้า

ไม่รู้เพราะถูกมองเป็นศัตรูหรือว่าอาหารกันแน่ มังกรไฮดร้ากำลังไล่ล่าลีฟา เธอหลบการโจมตีนั้นได้อย่างหวุดหวิดและเขวี้ยงหลอดทดลองอะไรบางอย่างออกไปทันที ทันใดนั้นเกิดเสียงระเบิดขึ้น

การโจมตีนั้นเข้าเป้าเต็มๆ แต่ดูเหมือนมันจะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เท่าไหร่นัก หากเป็นเช่นนี้ ลีฟาอาจแพ้แน่

เมื่อเห็นภาพนั้น เอลล์ก็เผลอมองไปทางฮาโรลด์ แต่เขากลับยืนกอดอกนิ่ง ดูเหมือนเขาต้องการแค่ชมการต่อสู้ระหว่างลีฟากับมังกรน้ำแข็งเท่านั้น

 

[ นายจะไม่ช่วยเธอหน่อยหรอ ? ] – เอลล์

[ ชั้นไม่เคยบอกว่าจะให้แม่นั้นยืมพลังทุกครั้งที่เกิดปัญหาซักหน่อย ชั้นจะปล่อยให้เธอจัดการมันด้วยตัวของเธอเอง ก็จนกว่าจะไม่ไหวจริงๆล่ะนะ ] – ฮาโรลด์

[ ช่างเย็นชา ] – เอลล์

 

จากมุมมองของเอลล์ การที่มังกรไฮดร้าจะถูกจัดการลงด้วยพลังของลีฟาเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้ และจุดที่ยากก็คือ การตัดสินใจช่วยเหลือลีฟานั้นมันจะเกิดขึ้นเมื่อเร็วเกินไปหรือสายเกินไปนั้นไม่สามารถบอกได้ หากพิจารณาถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลีฟา มันไม่ดีกว่าหรอที่จะช่วยเหลือเธอตั้งแต่ตอนนี้ ?

 

[ …. หากศัตรูระดับนี้ยังหาทางทำอะไรไม่ได้ ก็ไม่มีค่าที่จะต้องข้องแวะด้วยอีก ] – ฮาโรลด์

[ นายหมายความว่าไง ?] – เอลล์

 

เพราะได้ยินฮาโรลด์พึมพัมอะไรบางอย่าง เอลล์จึงถามออกไป แต่กลับได้เพียงความเงียบที่ตอบกลับมา เขาทำเพียงแค่ดูการต่อสู้ของลีฟาอย่างตั้งใจ

เอลล์เองก็ยอมแพ้ที่จะถามอะไรกับฮาโรลด์ต่ออีก และหันกลับมาดูการต่อสู้ของลีฟา และเธอเองก็แอบเตรียมการอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือลีฟาในกรณีฉุกเฉิน 

ขณะหลบเลี่ยงกรงเล็บของมันและลมหายใจน้ำแข็ง ลีฟาเธอโยนหลอดทดลองออกไปอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่ระเบิด มีเพียงของเหลวใสๆไหลปกคลุมไปทั่วร่างของมังกรไฮดร้า

ลีฟาทำแบบนั้นซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง และทันใดนั้น เธอก็โยนหลอดทดลองไปพื้นที่ว่างระหว่างเธอกับมังกรน้ำแข็ง จู่ๆก็เกิดหมอกสีขาวแพร่กระจายออกไป

อาจเพราะสิ่งนี้รบกวนการมองเห็นของมัน มังกรไฮดร้าตกอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียนเพราะมองไม่เห็นลีฟา มันเริ่มเดินไปเดินมาไปทั่วอย่างหลงทิศหลงทาง

ลีฟาไม่พลาดโอกาสนั้น เธอทิ้งระยะห่างออกมาจากเจ้ามังกรนั้นและเริ่มต้นร่ายเวทมนตร์ทันที

 

[——– จบแค่นี้แหละ !! {Flame burst} !] – ลีฟา

 

ลูกบอลไฟยักหลายต่อหลายลูกที่ดูราวกับดาวตกพุ่งตรงใส่มังกรไฮดร้า ในจังหวะที่เกิดการปะทะ ก็เกิดเสียงคำรามอันสยดสยองพร้อมกับการระเบิดครั้งใหญ่

เปลวไฟที่เกิดจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์นี้รุนแรงกว่าที่เอลล์รู้จัก แน่นอนว่าเวทมนตร์นั้นเป็นเพียงการสร้างลูกไฟหลายต่อหลายลูกเพื่อพุ่งไปเข้าไปโจมตี แต่การระเบิดในตอนท้ายจนทำให้ร่างของมังกรลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟนั้นมัน-

อย่างไรก็ตาม พลังการโจมตีนั้นไม่รุนแรงไปหน่อยหรอ ? ลีฟาทำอะไรลงไป ? มีอะไรในโลกใบนี้ทำแบบนั้นได้ด้วย ? นั้นคือสิ่งที่เอลล์คิด

เปลวไฟยังคงลุกโชนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และลีฟาที่มองภาพนั้นอย่างตั้งใจพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย  เธอจ้องมองร่างของมังกรน้ำแข็งที่ล้มลงที่พื้น ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะสร้างความเสียหายได้มากพอสมควร

แต่ทว่า ร่างของมันยังคงขยับอยู่ได้ มังกรไฮดร้าลุกขึ้นและชูคอของมันขึ้นไปยังบนท้องฟ้า แล้วคำรามออกมาอย่างสุดเสียง

 

[ แฮกๆ ไม่มีทางน่า … โดนไปขนาดนี้ยังไม่สำเร็จอีกหรอ ? ] – ลีฟา

 

น้ำเสียงของลีฟาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นั้นคือการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเธอแล้ว แต่ยังไม่สามารถจัดการมันลงได้ 

ไม่ผิดแน่ นี่คือขีดจำกัดของเธออย่างแน่นอน

มังกรน้ำแข็งสยายปีกของมันและเริ่มบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างของมันพุ่งออกมาจากเปลวไฟที่ยังลุกโชนอยู่ และตามร่างกายของมันมีบาดแผลน้อยใหญ่อยู่เต็มไปหมด 

อย่างไรก็ตาม มังกรไฮดร้านี่ยังมีพลังเหลือมากพอที่จะต่อสู้

มังกรไฮดร้าฟื้นตัวแล้วและเริ่มบินออกไป ขณะที่ลีฟาเองเผลอคิดไปว่ามันคงจะบินหนีไป แต่ทว่าร่างขนาดยักนั้นกำลังวกกลับมา

มังพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าในแนวดิ่ง ขณะที่มันพุ่งลงมา มันห่อปีกของมันเพื่อทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้น 

ตามปกติแล้ว เป้าหมายของมันคือลีฟาแน่นอน และเธอเองก็ใช้พลังของเธอไปจนหมดแล้ว เธอจึงไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีนั้นได้

หากโดนเต็มๆแน่นอนว่าถึงตาย ถึงจะโดนเฉี่ยวๆ แน่นอนว่าต้องมีบางส่วนของร่างกายขาดออกไปแน่ๆ

แต่ว่าการโจมตีที่ถึงตายนั้นกลับถูกสะกัดกั้นด้วยเสียงที่เกิดจากการกระทบกันของโลหะกับอะไรบางอย่างดังกึกก้อง 

มังกรน้ำแข็งล่วงลงทันทีและไถลไปบนพื้นจนทำให้แนวหินบนภูเขาถูกทำลายเป็นทางยาว 

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ลีฟา เอลล์เองก็สับสนเมื่อได้เห็นภาพนั้น ไม่ใช่เพราะอยู่ไกลจากจุดที่ต่อสู้เลยมองเห็นไม่ชัด แต่นั้นเพราะไม่เชื่อในสายตาตัวเองและไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ร่างขนาดมหึมาของมังกรน้ำแข็งที่ควรจะมีน้ำหนักกว่า 1 ตันกลับถูกโจมตีจนล่วงลงจากฟ้าด้วยดาบ 2 เล่มในมือของฮาโรลด์

ความเหนื่อยล้า ความกลัว ความประหลาดใจ 

ลีฟาทรุดตัวลงตรงนั้นราวกับไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะยืนต่อ

 

[ … ยุ่งยากเสียจริง ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์กล่าวออกมาราวกับพูดกับตัวเอง หากคุณมองตามแนวสายตาของฮาโรลด์ไป คุณจะพบว่ามีมังกรไฮดร้าอีกตัวกำลังบินตรงมายังตำแหน่งที่เขาอยู่

บางที เสียงคำรามในตอนนั้น อาจจะเป็นเสียงสำหรับเรียกพักพวก

หากคิดตามปกติ สถานการณ์ในตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติแล้ว แต่ทว่า ฮาโรลด์กลับไม่มีทีท่าว่าจะหนีแต่อย่างใด

ดาบรูปร่างกว้างและยาวที่เขาถืออยู่ในมือขวา ใบมีดสีหม่นดูหนักที่มีแนวเส้นสีน้ำเงินกำลังไหลผ่าน มีคริสตั้นสีเขียวหยกถูกฝังอยู่ที่ฐานของใบดาบ และที่ดาบจับดูราวกับเปลวไฟกำลังลุกโชม

ในทางกลับกัน ที่มือข้างซ้ายกลับเป็นเพียงดาบสีดำรูปร่างเล็กๆบางๆ มันปราศจากการตกแต่งใดๆและให้ความรู้สึกเฉียบคม มันเข้ากับลักษณะของฮาโรลด์อย่างสมบูรณ์แบบ 

ด้วยดาบยักในมือขวาที่กำลังพาดอยู่บนบ่า และดาบในมือซ้ายที่ห้อยต่ำลงดูราวกับกำลังจับมันอย่างหลวมๆ ฮาโรลด์จับจ้องไปยังมังกรน้ำแข็ง ที่มันกำลังพยายามยกร่างของตัวเองขึ้นคำราม และอีกตัวที่กำลังบินลงมาจากท้องฟ้า 

ในที่สุด มังกรทั้ง 2 ตัวก็ลงมาหยุดอยู่ข้างกัน เหลือเพียงความรู้สึกหวาดกลัว เหมือนกับเอาชีวิตไปทิ้งหากคิดจะท้าทายพวกมันทั้ง 2

 

[ สิ่งที่กำลังรอพวกแกอยู่คือความตาย อย่าขัดขืนและยอมตายแต่โดยดีซะ ] – ฮาโรลด์

 

เขากำลังพูดกับมอนเตอร์ ? ไม่มีทางที่มอนเตอร์พวกนั้นจะเข้าใจคำพูดของเขา แต่ทว่า มังกรไฮดร้าพวกนั้นกลับโกรธขึ้นมา บางทีอาจจะเพราะบาดแผลที่พวกมันได้รับ หรือไม่ก็อาณาเขตของพวกมันถูกลุกล้ำล่ะมั้ง 

แต่ความโกรธเหล่านั้นกลับอยู่เพียงไม่นาน

มันเหมือนกับแสงแฟลสที่เห็นเพียงเส้นของดาบที่วิ่งผ่าน แต่พวกมังกรก็รู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

คอของมันถูกตัดออกจนล่วงหล่น มันรวดเร็วมาก ไม่สามารถขัดขืนใดๆได้ทัน

ราวกับของเล่นที่ถูกทำลายลง

ตอนนี้ ฮาโรลด์ยืนอยู่บนหลังของไฮดร้าตัวหนึ่งที่คอของมันถูกตัดเป็นที่เรียบร้อย ทันทีที่เห็นเลือดที่พุ่งออกมาจากคอของเพื่อนของมัน มังกรไฺฮดร้าอีกตัวก็พ่นไอเย็นใส่เขา

การโจมตีนั้นควรจะแช่แข็งคนที่โดนได้ในพริบตา แต่ร่างของฮาโรลด์กับหายวั้บไป พร้อมกับเสียงร้องโหยหวน และตาขวาของมังกรถูกเฉือนออก

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ขณะที่ไม่มีเวลาจะให้คิด กรงเล็บทั้ง 3 ในมือข้างซ้ายของมันถูกฟันขาดในฉับเดียว 

มันไม่สามารถขัดขืนได้ และพยายามกางปีกที่จะบินหนีขึ้นไปบนฟ้า แม้ว่าจะบินขึ้นไปได้หลายเมตรแล้ว แต่ปีกของมันกับถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้องจนล่วงกลับลงมาที่พื้นอีกครั้ง

ฮาโรลด์ยังไม่หยุดแค่นั้น เขายังคงโจมตีต่อไปอีกครั้ง และ อีกครั้ง ซ้าย ขวา หน้าหลัง ด้วยความเร็วที่เห็นเพียงภาพติดตา 

มันไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้อีกต่อไป มันเป็นการกระทำอันโหดร้ายที่ผู้แข็งแกร่งกำลังย้ำยีผู้อ่อนแออยู่ฝ่ายเดียว

แม้เอลล์ที่ยืนอยู่ห่างไกล เธอเห็นภาพโดยรอบอย่างชัดเจน แต่สายตาของเธอก็ไม่สามารถมองตามความเร็วของฮาโรลด์ได้ทัน เธอรู้สึกตัวอีกที ร่างของมังกรน้ำแข็งก็ถูกฟันและฟันและฟัน จนสภาพของมันดูไม่ออกแล้วว่าเป็นตัวอะไร

 

นี่คือชายที่ชื่อ ฮาโรลด์ สโตร์ก งั้นหรอ ?

 

หมอนี่คือ “เด็กเวร ฮาโรลด์” คนนั้น ? หมอนี่คือ “นักฆ่าอัศวิน” คนนั้น ? หมอนี่คือ “อัจฉริยะที่อายุน้อย” ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เข้าร่วมกับกองอัศวินคนนั้น ?

ฉายาที่กล่าวมา ไม่สามารถอธิบายภาพที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ได้

มีบางอย่างกระเด็นมา มันติดอยู่ที่แก้มของเธอ มันทำให้เอลล์กลับมามีสติอีกครั้ง 

เมื่อเธอเช็ดมันด้วยมือขวา ทันทีที่เธอรู้ว่ามันเป็นเลือดของมังกรไฮดร้า ตัวเธอถึงกับหนาวสั่น

เอลล์เคยเห็นผู้คนมากมายที่ถูกเรียกว่า “ผู้แข็งแกร่ง” ด้วยสายตาของตัวเองมาก่อนนับไม่ถ้วน เรื่องเล่าวีรกรรมมากมายที่เคยได้ยินได้พบมาจากทั่วทุกมุมโลก ตำนานความกล้าหาญของสุดยอดนักรบจากดินแดนต่างๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ช่างเบาบางเหลือเกินหากเทียบกับภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอ ความแข็งแกร่งของฮาโรลด์อยู่เหนือชั้นยิ่งกว่าและไม่สามารถถูกเทียบได้ในระดับของมนุษย์ ตัวตนของฮาโรลด์ เป็นดั่งภัยพิบัติที่มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือแพร่กระจายความตายออกไปทุกที่ที่มันไปถึง

ในตอนนี้ เอลล์คิดว่าทั้งเธอและลีฟาต่างรู้สึกถึงสิ่งเดียวกัน 

สิ่งเดียวที่พวกเธอทั้ง 2 รู้สึกต่อฮาโรลด์ มีเพียงแค่ความหวาดกลัว.

 

———————–

 

ผู้แปล : ฮาโรลด์ของเรา ผมดำ ชุดดำ ถือดาบคู่ รวดเร็วที่สุดในเรื่อง เป็น solo player ติดอยู่ในโลกของเกมส์ เหลือแค่หาเมียเป็นนักดาบที่ชื่ออาซึ- ก็ใช่เลย ไม่ใช่ว่าเกมส์ brave heart เป็นภาคเสริมของ Sword art online หรอกนะ ? 

ว่าแต่ เอลล์นี่เป็นตัวละครที่เจ้าเลห์ใช้ได้เลยนะ หลอกล่อให้ลีฟาอยากรู้ แล้วยืมมือลีฟาล้วงข้อมูลของฮาโรลด์ ต้องรอดูกันว่า เอลล์หรือกิฟเฟลต์มีจุดมุ่งหมายอะไรในตัวฮาโรลด์กันแน่ ?

ปล. มาคิดๆดูแล้ว สาวดุ้น ก็คือ ผู้ญ ดังนั้นจึงเปลี่ยนคำเรียก เอลล์จาก เขา กลับเป็น เธอ นะ 

———————

สนับสนุนขนมแมวเลียผู้แปลได้ที่

ธนาคาร กสิกร / 0708329649 / กิตติพิชญ์ นิธีพิพัฒพงค์

 

 

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Status: Ongoing
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ ” ฮาโรลด์ สโตร์ก” สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท