My Death Flags Show No Sign of Ending – ตอนที่ 102 พบกันอีกครั้งในรอบ 5 ปี

My Death Flags Show No Sign of Ending

หลอดแก้วนั้นถูกทำลายลงพร้อมกับของเหลวสีฟ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณโดยมันไม่ถึงปากของวินเซนต์เลยซักหยด

 

[ อั๊ก .. ] – วินเซนต์

 

วินเซนต์ส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ของเหลวสีแดงสดไหลรินปนกับของเหลวสีฟ้าที่อยู่บนพื้น และที่มาของของเหลวสีแดงนั้นมาจากมือของวินเซนต์ที่ถือหลอดแก้วเมื่อซักครู่ หรือก็คือเลือดของเขา

ในตอนที่ฮาโรลด์คิดว่าคงไม่ทันแล้วและทำได้เพียงเฝ้ามอง เขาได้มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน มันเป็นเพราะลูกธนูที่พุ่งมาจากทางด้านหลังของเขาปักเข้าที่มือขวาของวินเซนต์

โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่านั้นเป็นฝีมือของใคร ฮาโรลด์พุ่งเข้าหาวินเซนต์ต่อทันที

เขาขอโจมตีจังๆอีกทีเดียวเท่านั้น นั้นเพราะไม่ว่าวินเซนต์จะทนเจ็บทนปวดได้มากแค่ไหน แต่ว่ามันก็ถึงขีดจำกัดของร่างกายเขาแล้ว ความเสียหายที่วินเซนต์ได้รับมาทั้งหมดนั้นเต็มหลอดแล้ว และหนทางเดียวที่วินเซนต์จะเอาชนะศึกตรงหน้าได้ก็คือน้ำยาของดวงดาว ซึ่งความหวังนั้นถูกทำลายลงไปแล้ว

และด้วยเหตุนี้ ฮาโรลด์จึงรีดแรงเฮือกสุดท้ายที่ยังเหลือยู่ในตัวของเขาเพื่อปิดฉากการต่อสู้นี้ทันที

วินเซนต์ทิ้งเศษที่เหลือของหลอดแก้ว และตั้งท่าเตรียมตั้งรับฮาโรลด์ทันที แต่ทว่ามันไม่ทันการ จังหวะนี้ไม่ต้องพูดถึงการตอบโต้หรือหลบหลีก แค่ตั้งรับก็ยังไม่ทัน ฮาโรลด์ใช้ด้ามของดาบกระทุ้งไปที่ท้องของวินเซนต์สุดแรงที่ซึ่งไร้การป้องกันจากชุดเกราะ

ในที่สุด ด้ามจับก็ถูกกระทุ้งจมเข้าไปในท้องของวินเซนต์ ร่างกายส่วนที่ยังไม่ได้รับบาดแผลของวินเซนต์น้อยลงอีกจุดหนึ่งแล้ว

วินเซนต์กระอักเลือดออกมาพร้อมกับล้มลงไปกองอีกครั้ง และในขณะที่มองดูคู่ต่อสู้ของตนล้มลง ฮาโรลด์ก็ไม่ได้คลายการป้องกันแต่อย่างใด

แต่ว่าครั้งนี้ วินเซนต์นิ่งสนิทไม่ไหวติง เขานิ่งสนิทไปเลยจริงๆ

 

[ นายจะไม่จัดการเขาให้จบๆไปหรอ ? ] 

 

แทนที่จะรู้สึกยินดีกับชัยชนะ แต่ทว่าฮาโรลด์กับรู้สึกทึ่งที่ตนอัดวินเซนต์ไปซะขนาดนี้แต่หมอนี่ยังมีชีวิตอยู่อีก และในขณะที่กำลังสับสนอยู่นั้น ก็มีเสียงๆหนึ่งเรียกเขาดังขึ้นที่ด้านหลัง .. พอคิดดูดีๆ มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่เจ้าของเสียงนั้นจะมาที่นี่ แต่ถ้าหากพิจารนาจากความรู้ที่มีอยู่ในเกมส์ ฮาโรลด์ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมคนๆนี้ถึงมาโผล่ที่นี่

 

[ หึ ไม่จำเป็น ว่าแต่ นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ โคดี้ ? ] – ฮาโรลด์

 

โคดี้ รูเซียล ในเนื้อเรื่องของเกมส์นั้น วินเซนต์จะต้องตายด้วยเนื้อมือของโคดี้ ผู้ที่เป็นเพื่อนรักของวินเซนต์

 

[ ก็ ช่วงนี้วินเซนต์เริ่มดูแปลกๆไป ดังนั้น ตอนที่เขาทำตัวลับๆล่อๆและเดินทางออกมาจากกองอัศวิน ข้าเลยแอบตามเขาออกมา ] – โคดี้

 

ฮาโรลด์เห็นด้วยกับคำตอบที่ฟังดูสมเหตุสมผล โคดี้ในตอนนี้ยังเป็นอัศวินซึ่งมันไม่เหมือนกับในเนื้อเรื่องของเกมส์ และนั้นทำให้เขายังอยู่ใกล้ตัววินเซนต์และคงสังเกตเห็นท่าที่ที่แปลกไปของเขา ด้วยความที่พวกเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรถ้าโคดี้จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ 

 

[ สรุปสั้นๆ นายแอบดูพวกเราสู้กันมาตั้งนานแล้วสินะ ? ช่างมีงานอดิเรกที่น่ารังเกียจเสียจริง ] – ฮาโรลด์

[ ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่ใช่แบบนั้น มันแค่– ข้าจะไปมีปัญญาที่ไหนยื่นมือเข้าสอดการต่อสู้ที่สุดระห่ำนั้นได้ ] – โคดี้

 

“ ถึงข้าจะเป็นพวกเอ้อระเหยลอยชาย แต่ข้าก็รักชีวิตตัวเองนะ ? ” โคดี้กล่าวออกมาพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ ซึ่งเอาจริงๆ ฮาโรลด์คิดว่า ที่โคดี้ทำแบบนี้ก็คงไม่อยากให้วินเซนต์ต้องตาย

 

“ในตอนสุดท้ายของการต่อสู้ โคดี้เขาก็ยิงธนูช่วยผม ดังนั้นเขาคงไม่ได้สงสัยอะไรในตัวผมแล้วล่ะมั้ง” ขณะที่คิดเช่นนั้น ฮาโรลด์ก็ใช้เวทมนตร์เยียวยาให้กับวินเซนต์

 

ถ้าหากอ้างอิงจากข้อมูลภายในเกมส์ ตัวของฮาโรลด์ภายในเกมส์นั้นสามารถใช้เวทมนตร์รักษาได้ แถมเก่งมากๆด้วย ซึ่งถ้าวัดเป็นตัวเลข ฮาโรลด์สามารถฮิวได้ทีละ 2000 หน่วยเลย ซึ่งมันสูงพอๆกับเอริกะภายในเกมส์ที่รับหน้าที่เป็นฮิวเลอร์หลักของปาร์ตี้ผู้กล้า

แต่ก็อย่างว่าแหละ ฮาโรลด์ไม่สามารถหาจังหวะใช้เวทมนตร์รักษาตัวเองได้เลยระหว่างการต่อสู้กับวินเซนต์ ทั้งๆที่ภายในเกมส์นั้นบาดแผลจะถูกรักษาทันทีหลังจากใช้เวทมนตร์รักษา แต่ในโลกแห่งนี้นั้นมีกฎที่เรียกว่าความเป็นจริงอยู่ กว่าเวทมนตร์รักษาจะสามารถรักษาบาดแผลให้หายสนิทได้นั้นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

และการยืนทอดน่องใช้เวทมนตร์ฮิวตัวเองต่อหน้าของวินเซนต์คงไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตายชัดๆ

 

[ โอ้ จะไม่เป็นอะไรแน่หรอที่จะช่วยเขา ?หากเขาฟื้นตัว เขาอาจจะลุกขึ้นมาโจมตีนายอีกครั้งก็ได้ไม่ใช่หรอไง ? ] – โคดี้ 

[ ถ้าร่างกายของหมอนี่ยังทำมาจากเลือดและเนื้อ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ] – ฮาโรลด์

 

นั้นเพราะฮาโรลด์สามารถดื่มน้ำยาอีเทอร์ที่เตรียมมาเพื่อฟื้นฟูร่างกายและความเหนื่อยล้าของตนได้ และตราบใดที่วินเซนต์ยังอยู่ในการควบคุม มันก็ไม่ยากอะไรที่จะจัดการของลงอีกครั้งหากเขารู้สึกตัว ถึงแม้ว่าฮาโรลด์จะหมดทั้งแรงกายและใจ แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก

ฮาโรลด์เก็บอาวุธของวินเซนต์เผื่อเอาไว้ก่อน ถึงแม้บาดแผลทางร่างกายของวินเซนต์จะหายดีแล้ว แต่เขาก็คงยังไม่รู้สึกตัวขึ้นมาง่ายๆหรอก ที่สำคัญ หากเขาปล่อยให้วินเซนต์นอนกองอยู่ที่นี่แบบนี้ เขาคงไม่รอดแน่ๆ ซึ่งฮาโรลด์ไม่สามารถทำแบบนั้นได้

 

[ หรือนายอยากให้หมอนี่ตายจริง ? ] – ฮาโรลด์

[ เฮ้ กล่าวหากันแรงเกินไปรึปล่าว ] – โคดี้

[ งั้นก็หุบปากเน่าๆของแกไปซะ ] – ฮาโรลด์

[ จ้า จ้า จ้า เข้าใจแล้ว ] – โคดี้

 

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ฮาโรลด์ออกจากตำแหน่งอัศวิน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้พูดคุยกับโคดี้อีกครั้ง ซึ่งคำพูดและนิสัยของโคดี้ยังคงเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน

ขณะนึกถึงวันวาน ฮาโรลด์ก็รักษาวินเซนต์เสร็จ บาดแผลที่หนักที่สุดถูกปิดและเลือดก็หยุดไหลแล้ว และขณะที่วินเซนต์ยังไม่ฟื้น ฮาโรลด์ก็แทบจะลอกคราบทุกสิ่งที่วินเซนต์พกติดตัวมา

 

[ นายกำลังทำอะไรน่ะ ? ] – โคดี้

[ เขาอาจจะซ่อนบางสิ่งที่เป็นอันตรายไว้กับตัวอีกก็ได้ ] – โคดี้

 

นั้นเพราะไม่จำเป็นที่วินเซนต์จะมีน้ำยาแห่งดวงดาวเพียงแค่ขวดเดียว ดังนั้นฮาโรลด์จึงตัดสินใจที่จะเช็คเพื่อความปลอดภัยดีกว่า

นอกจากนี้ สมบัติในตำนานอาจจะอยู่กับเขาแล้วก็ได้ นั้นเพราะยูสทัสสั่งให้เขามารอผมอยู่ที่นี่ ดังนั้นแสดงว่า —

 

[ … ดูเหมือนเขาจะไม่มีอะไร ] – ฮาโรลด์

 

สุดท้ายก็ปล่าวประโยชน์ สมบัติก็ไม่เจอ แถมต้องมีเสียแรงสู้กับวินเซนต์ สิ่งเดียวที่ฮาโรลด์ได้คือความเจ็บปวดที่ถูกวินเซนต์ที่ถูกล้างสมองอัดจนน่วม

 

[ ไงก็เถอะ ฮาโรลด์ นายมีแผนจะทำอะไรต่อ ? ]  – โคดี้

[ .. อันดับแรก กลับไปที่เมือง ] – ฮาโรลด์

[ ด้วยการเดินเท้า ? ] – โคดี้

[ มีรถม้ารอชั้นอยู่ใกลๆนี้ เพียงแค่ชั้นเรียก พวกเขาก็จะมารับทันที ] – ฮาโรลด์

 

กลุ่ม “ฟรีรี่” ค่อนข้างช่วยได้มากในเรื่องเล็กๆน้อยเช่นนี้

แผนก็คือ พาวินเซนต์ที่ได้รับบาดเจ็บไปตรวจดูอาการกับหมอ เมื่อหมอยืนยันแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไร ฮาโรลด์ก็จะปล่อยให้โคดี้พาเขากลับไปแม้ว่าจะยังถูกล้างสมองอยู่ก็ตาม นั้นเพราะถึงแม้ว่าเขาจะถูกล้างสมองอยู่ แต่เนื่องด้วยไม่มีอาวุธและชุดเกราะ ต่อให้เป็นโคดี้ วินเซนต์ก็ไม่อาจสามารถเอาชนะได้

 

[ ไปกันเถอะ ] – ฮาโรลด์

[ ตกลง ] – โคดี้

[ และนายต้องแบกหมอนี่ไปด้วย ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์กล่าวออกมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังวินเซนต์ ถึงแม้อาวุธและชุดเกราะของเขาจะถูกถอดออก แต่ด้วยขนาดตัวและกล้ามเนื้อ วินเซนต์ยังคงหนักเกือบ 100 กิโล

ดังนั้น หากต้องการนำวินเซนต์ออกจาถ้ำ ต้องมีคนหนึ่งที่แบกเขากลับออกไป พร้อมกับต้องเจอกับสถาพทางเดินที่ย่ำแย่กว่าจะถึงภายนอก และฮาโรลด์ที่พึ่งจบศึกมาหมาดๆ แน่นอนว่าเขายังคงเหนื่อยล้าอยู่ ดังนั้น โคดี้จึงต้องเป็นคนรับผิดชอบหน้าที่นี่

 

[ ฮ่าๆๆๆ นายล้อเล่นสินะ ? ] – โคดี้

[ ….. ] – ฮาโรลด์

[ แอ๊กกกกกก?! ] – โคดี้

 

โคดี้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันดังก้องไปทั่วซากปรักหักพังหลังจากโดนหมัดซ้ายของฮาโรลด์ชกเข้าท้องเต็มเปา

 

 

—————————–

 

 

ขณะที่แบกร่างของวินเซนต์ไว้บนหลัง โคดี้ลูบท้องของตนเองตรงจุดที่โดนฮาโรลด์ต่อยเมื่อสักครู่ พร้อมกับยิ้มออกมาเล็กๆ ในความทรงจำของโคดี้นั้น ฮาโรลด์เตี้ยกว่านี้เยอะ แต่ว่าตอนนี้นั้นพวกเขาทั้งคู่สูงเท่ากันแล้ว แถมยังกลายเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี แต่นิสัยของเขายังแย่เหมือนเดิม หรืออาจจะแย่ลงกว่าเดิมอีก

และหลังจากยกวินเซนต์ให้เป็นหน้าที่ของโคดี้ดูแล ฮาโรลด์ก็กลับลงไปในถ้ำ ดูเหมือนว่ามีบางอย่างที่เขาต้องลงไปหาที่นั้น แม้ดูๆแล้วเขาจะไม่ค่อยหวังเท่าไหร่ก็ตาม

โคดี้ไม่รู้ว่ามีอะไรถูกซ่อนอยู่ในถ้ำที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ แต่เขาคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวกับอาการแปลกๆของวินเซนต์ แต่พอคิดไปคิดมา เรื่องที่น่าสงสัยในตัวของฮาโรลด์ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และหลายๆสิ่งก็มักจะเกี่ยวข้องกับตัวของฮาโรลด์ แม้ว่าโคดี้จะพยายามทำความเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่มีหวัง ดังนั้นเมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้โคดี้จึงได้แต่ถอนหายใจ

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่หนักใจที่สุดของเขาตอนนี้คือตอนที่วินเซนต์ผู้เป็นเพื่อนรักของเขาจะฟื้นขึ้นมาและหายจากอาการแปลกๆนั้นหรือไม่

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี้ย ?” นั้นคือสิ่งที่โคดี้คิดและก้าวเท้าออกไปยังนอกถ้ำ

เขาจำได้ว่าเขาเข้าไปในถ้ำก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะใช้เวลาภายในถ้ำไปหลายชม.ทีเดียว มันเลยทำให้เขารู้สึกตัวว่าการต่อสู้ระหว่างวินเซนต์และฮาโรลด์นั้นกินเวลานานขนาดไหน

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดสำหรับเขาก็คือ แม้ว่าฮาโรลด์จะพึ่งจบศึกอันดุเดือดและยาวนานขนาดนั้น แต่พอจบศึกเขากลับยังมุ่งหน้าลึกเข้าไปภายในถ้ำต่อ ถึงแม้เขาจะรักษาตัวเองด้วยอีเทอร์แล้ว แต่ยานั้นไม่ส่งผลต่อความเหนื่อยล้าในจิตใจ ซึ่งความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ที่ยาวนานขนาดนั้นหากเป็นคนปกติคงขยับไม่ได้ไปสักพักใหญ่

 

[ สงสัยว่าตรรกะคนทั่วไปจะไม่มีผลกับฮาโรลด์แฮะ ] – โคดี้

 

จริงๆโคดี้รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกว่าตรรกะของคนทั่วๆไปใช้กับฮาโรลด์ไม่ได้

สำหรับตอนนี้ โคดี้เลือกที่จะพักความคิดเหล่านั้นเอาไว้ก่อน และหยิบวัตถุบางอย่างที่ส่องแสงสว่างออกมา มันเป็นสิ่งที่ฮาโรลด์มอบให้ โคดี้เปิดๆปิดๆเว้นเป็นจังหวะตามที่ฮาโรลด์บอกมา พร้อมกับชี้ไปทิศทางตามที่บอก เมื่อผ่านไปซักพักก็มีชายกลุ่มหนึ่งปรากฎขึ้นที่แนวต้นไม้

และหนึ่งในนั้นก็เรียกโคดี้ขึ้น

 

[ นายเป็นเพื่อนของบอสหรอ ? ] 

[ ถ้าหากบอสที่นายพูดถึงคือฮาโรลด์ ก็ใช่ หมอนั้นบอกพวกข้าว่าให้บอกพวกนายช่วยพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ] – โคดี้

[ รหัสล่ะ ? ] 

[ เหล่าผู้ที่มีหัวใจที่กล้าแกร่งได้รวมพลังกัน ณ อัญมณีแห่งท้องฟ้าที่ยิ่งใหญ่ ใช่ไหมนะ ? อะ ข้ามีนี่ด้วย ] – โคดี้

 

เมื่อกล่าวออกมาเช่นนั้นโคดี้ก็แสดงกุญแจสีเงินที่ได้รับมาจากฮาโรลด์

ดูเหมือนว่า รหัสลับและกุญแจนี่จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ยืนยันว่าเป็นพวกของฮาโรลด์จริงๆ เป็นวิธีการตรวจสอบที่ค่อนข้างรัดกุมทีเดียว

 

[ ….. ตามมา ]

 

เมื่อได้รับการยืนยัน ชายคนนั้นก็เดินนำโคดี้ไปที่รถม้าเล็กๆ 

 

[ พวกเราจะพาคุณและชายคนนั้นไปด้วยรถม้าคันนี้ แม้จะไม่ได้เดินทางเร็วอะไรมากนัก แต่พวกเราคงไปถึงที่เมืองใกล้ๆก่อนรุ่งสาง ]

[ แล้วฮาโรลด์ล่ะ ? ] – โคดี้

[ อย่ากังวลเกี่ยวกับบอสเลย เดี่ยวบอสก็คงหาทางทำอะไรได้สักทางแหละ ]

 

แม้จะได้คำตอบที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้เชื่อมั่นในตัวของฮาโรลด์ขนาดไหน

เมื่อคิดๆดูถึงเรื่องสมัยตอนป่าเบสติส โคดี้จำได้ว่าฮาโรลด์นั้นสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าการขี่ม้าเสียอีก ในตอนนั้นฮาโรลด์มีอายุเพียงแค่ 13 ปี ดังนั้นตอนนี้เขาคงเร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม

ซึ่งจริงๆแล้ว ในตอนที่ฮาโรลด์และวินเซนต์กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น โคดี้ได้ซุ่มดูอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นทั้ง 2 ฝ่ายได้อย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นความเร็วของฮาโรลด์ยังยากที่สายตาของโคดี้จะมองตามทัน ไม่ต้องพูดถึงคู่ต่อสู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับฮาโรลด์เลย ใครคนนั้นคงเห็นฮาโรลด์หายตัวไปจากจุดหนึ่งแล้วไปโผล่อีกจุดหนึ่งแน่ๆ

เมื่อคิดได้เช่นนั้น โคดี้ก็โล่งอกขึ้นเปาะหนึ่งและเริ่มเดินทางออกจากที่นี่ไป และหลังจากอยู่ในรถม้าหลายชม. ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่เมืองใกล้ๆเพื่อให้หมอเช็คอาการของวินเซนต์

กว่าการตรวจรักษาจะเสร็จ พระอาทิตย์ก็โผล่เลยขอบฟ้าไปไกลแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถหายใจได้เต็มอกหลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่าวินเซนต์ไม่เป็นอะไรและจะฟื้นขึ้นไม่นานหลังจากได้พักผ่อนซักหน่อย และหลังจากนั้นไม่นาน ฮาโรลด์ก็ตามมาสมทบ

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าฮาโรลด์มาที่นี่ได้อย่างไร โคดี้จึงถามกับเขา ซึ่งฮาโรลด์ก็ตอบว่าหลังจากได้การแจ้งจากคนที่ยังอยู่ใกล้ๆปากถ้ำว่าโคดี้และคนเจ็บออกไปจากที่นี่แล้ว และเนื่องจากขี้เกียจรอจนกว่ารถม้าจะมารับเขาเลยวิ่งมาแทน

หลังจากจบการต่อสู้อันสุดแสนดุเดือด เขาก็ไปสำรวจถ้ำต่อ และหลังจากออกมาจากถ้ำ ก็ออกเดินทางต่อด้วยการวิ่งอีกหลายสิบกิโลเมตร…. แค่คิดที่จะทำแบบนั้นจริงๆก็บ้าไปแล้ว

 

[ นายมันไม่ใช่มนุษย์รึไงฟร่ะ ] – โคดี้

[ ดูเหมือนนายอยากจะโดนชั้นอีกสักหมัดสินะ ] – ฮาโรลด์

[ ที่ข้าจะสื่อก็คือนายมันโครตคนเหล็กต่างหาก ] – โคดี้

 

รอยยิ้มและข้อแก้ตัวของโคดี้ไม่ช่วยหยุดลูกเตะที่ตรงมาที่น่องของเขาได้ และนั้นทำให้เขาถึงกับล้มลงด้วยความเจ็บปวด

ช่างไร้เหตุผลนัก แต่เขาก็ไม่ได้ตะโกนสิ่งที่คิดอยู้ภายในใจออกไป

 

[ อูยยย… อย่าเพิ่มจำนวนคนเจ็บในโรงพยาบาลจะได้ไหม … ] – โคดี้

[ พูดถึงคนเจ็บแล้วมันทำให้ชั้นนึกถึงวินเซนต์เลย เขาเป็นไงบ้าง ? ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์ถามออกมาขณะที่มองไปยังวินเซนต์ ที่ยังคงไม่ได้สติอยู่ที่เตียง

 

[ ในที่สุด พวกเราก็คุยกันปกติได้ซักที …. ก็ ตามที่หมอบอก ดูเหมือนว่าเขาจะปลอดภัยแล้วและคงจะฟื้นขึ้นในไม่ช้า ] – โคดี้

 

บาดแผลทั้งหมดที่วินเซนต์ได้รับจากฮาโรลด์นั้นรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้เลย แต่ต้องขอบคุณฮาโรลด์ที่ใช้เวทมนตร์เยียวยาเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์นั้น ซึ่งโคดี้ได้แต่สับสนว่าจะต่อว่าหรือขอบคุณหมอนี่ดี

ฮาโรลด์ตอบมาเพียงแค่ว่า “เข้าใจแล้ว” และท่าทางของเขาก็ยังเหมือนเดิม แต่โคดี้ไม่เชื่อว่าฮาโรลด์นั้นไม่ได้ไม่สนใจความเป็นตายร้ายดีของวินเซนต์ เพราะถ้าเขาไม่สนใจจริงๆ เขาคงไม่ถามถึงอาการของวินเซนต์ ไม่ควรแม้จะใช้เวทมนตร์รักษาเสียด้วยซ้ำ

 

[ ฮาโรลด์ แล้ว นายรู้รึปล่าวว่าทำไมวินเซนต์ถึงกลายเป็นแบบนี้ ] – โคดี้

[ ชั้นแน่ใจว่าเป็นฝีมือของยูสทัส เขาคงทำอะไรบางอย่างคล้ายกับการล้างสมองวินเซนต์ ] – ฮาโรลด์

[ นายหมายถึง … ศาสตราจารย์ ยูสทัส ฟรอยด์ คนนั้นหรอ ? แล้วเรื่องนี้เหมือนกับการล้างสมองอีกแล้ว— .. ] – โคดี้

[ อะไร ? ] – ฮาโรลด์

[ มะ- ไม่มีอะไร ] – โคดี้

 

โคดี้รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินชื่อของบุคคลที่อัจฉริยะที่สุดในอาณาจักรถูกเอ่ยขึ้นมา แต่เหตุผลหลักๆที่ทำให้เขาประหลาดใจนั้นคือคำว่า “ล้างสมอง” นั้นไม่ใช่เพียงอธิบายถึงท่าทางของวินเซนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่มันยังทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เคยประสบมากับตัวเองด้วย

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงที่ฮาโรลด์กำลังเผชิญชะตากรรมต้องโทษประหารจากเหตุการณ์ป่าเบลติส

ในตอนที่โคดี้พยายามสืบค้นเพื่อหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น เขาได้ใช้สารกล่อมประสาทบางอย่างเพื่อให้พูดความจริงกับเครื่องดื่มของฟินเนอร์แกน ซึ่งเป็นเพื่อนอัศวินของเขา ผู้ที่เป็น1ในผู้อภิปรายที่นำไปสู่การตัดสินของคณะลูกขุน อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่ฟินเนอร์แกนกำลังจะสารภาพ เขากลับคลุ้มคลั่งและพยายามเอาหัวโขกกับเสา

ต้องใช้แรงของชายฉกรรจ์ 2 คนถึงห้ามเขาไหว และในที่สุดเขาก็สงบลง อย่างไรก็ตาม ด้วยท่าที และใบหน้าที่แปลกไปของฟินเนอร์แกนยังคงฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของโคดี้

ฟินเนอร์แกนนั้นดูราวกับเขาถูก——

 

[ ถูกปีศาจเข้าสิง– .. ] – โคดี้

 

มันคือคำที่เขาพูดออกมาโดยสัญชาตญาณหลังจากเห็นการกระทำของฟินเนอร์แกนในวันนั้น โคดี้ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีแม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่ได้ที่พูดออกมาเช่นนั้นก็ตาม

และหลังจากเหตุการนั้น ฟินเนอร์แกนพรั่มเพ้อออกมาไม่หยุด ซึ่งทุกวันนี้เขาต้องลาออกจากการเป็นอัศวินและกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน จากที่โคดี้รู้ว่า ดูเหมือนว่านฟินเนอร์แกนจะไม่สามารถสื่อสารได้อีกและกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง

ซึ่งมันทำให้โคดี้อดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้คือชะตากรรมที่กำลังรอวินเซนต์อยู่เหมือนกันรึปล่าว แค่นึกถึงมันก็ทำให้อารมณ์ของเขาฟุ้งซ่านไปด้วยความโกรธและสงสารที่ไม่สามารถอธิบายได้

 

[ นายพูดถึงเรื่องอะไร ? ] – ฮาโรลด์

[ เอ่อ ข้า … ] – โคดี้

 

โคดี้ยังลังเลที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ฮาโรลด์ฟัง เพราะว่าอย่างแรก เขาไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฟินเนอร์แกนนั้นจะเกี่ยวข้องกับยูสทัสหรือปล่าว และ สอง ฮาโรลด์เป็นคนที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยแห่งนั้นและยูสทัสเป็นหัวหน้าของเขา

ซึ่งโคดี้ไม่แน่ใจว่า ณ เวลานี้ ฮาโรลด์อยู่ฝั่งไหนกันแน่ นั้นทำให้เขาลังเลที่จะเล่าออกมา

…อย่างไรก็ตาม ความลังเลนั้น เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เดียว

ถึงแม้เขาจะไม่สนิทกับฮาโรลด์หรือมีเวลาร่วมกันมากอะไรขนาดนั้น แต่โคดี้ก็เข้าใจตัวตนจริงๆของฮาโรลด์อยู่ระดับหนึ่ง

ฮาโรลด์คือผู้ที่ยืนหยัดเสี่ยงชีวิตตนเองในเหตุการณ์ป่าเบลติส หากไม่ใช่ฝีมือของฮาโรลด์ในวันนั้น ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับกองอัศวินและชนเผ่าสเตลล่านั้นอาจสูงขึ้นกว่านี้เป็น 2 เท่า

ถึงในตอนนั้นจะมีผู้แย้งว่าถ้าฮาโรลด์เอาเรื่องนี้ไปแจ้งกับผู้บังคับบัญชาก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดจะเกิดขึ้น ความเสียหายต่อกองอัศวินและเผ่าสเตลล่าอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าถ้ามองอีกมุม ฮาโรลด์เป็นเพียงอัศวินหน้าใหม่ หากจู่ๆเอาเรื่องน่าสงสัยไปแจ้งกับผู้บังคับบัญชา บางทีอีกเป็นตัวของฮาโรลด์เองที่จะถูกจับข้อหาทำตัวน่าสงสัย

อาจเพราะรู้ถึงเรื่องนี้ ฮาโรลด์จึงลงมือด้วยตัวคนเดียวโดยไม่พึ่งกองอัศวิน

เรื่องในครั้งนี้เช่นนั้น แม้ว่าหลังจบการต่อสู้ ฮาโรลด์จะสามารถสังหารวินเซนต์ได้เลยง่ายๆ แต่เขาก็กลับไม่ทำ แต่เลือกที่จะช่วยเหลือแทน แม้ว่าน่าจะมีเรื่องที่ปิดบังเอาไว้อยู่ แต่โคดี้ก็เชื่อว่าฮาโรลด์ไม่ใช่คนที่จะพรากชีวิตหรือศักดิ์ศรีผู้อื่นได้อย่างง่ายๆ

 

[ … จริงๆแล้ว เมื่อไม่กี่ปีก่อน มีชายคนหนึ่งตกอยู่อารมณ์คลุ้มคลั่งและสับสน อาการของเขาในตอนนั้นดูคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวินเซนต์ ] – โคดี้

 

โคดี้เล่าให้ฮาโรลด์ฟังว่า ฟินเนอร์แกนนั้น มีส่วนในการตัดสินโทษของฮาโรลด์ในเวลานั้น และสิ่งที่ทำให้ฟินเนอร์แกนคลุ้มคลั่งก็เพราะถูกโคดี้ถามถึงความจริงที่เกิดขึ้น

หลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมด ฮาโรลด์ก็เงียบลงราวกับกำลังคิดอะไรบางสิ่ง

 

[ ข้าไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเกิดจากเพราะอะไรกันแน่ แต่ว่าพอเป็นตอนนี้ข้าคิดว่าบางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์ฟรอยด์ก็เป็นได้ ] – โคดี้

[ … ชั้นยืนยันไม่ได้หรอกนะ แต่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นฝีมือหมอนั้นแหละ ไอ้หมอนั้นมีวิธีที่สามารถระงับเจตจำนงของคนๆนั้นและทำให้เขาหรือเธอกลายเป็นหุ่นเชิดเพื่อทำตามคำสั่งของเขาได้ ]  – ฮาโรลด์

[ ฟังดูสยองแหะ ไอ้ศาสตราจารย์นั้นมันเก่งขนาดนั้นเชียวหรอ ? ] – โคดี้

[ 1 สิ่งที่ชั้นรู้แน่นอนก็คือหมอนั้นเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ป่าเบสติส และเขาเป็นผู้บงการศาลใหตัดสินประหารชีวิตชั้น รวมถึงกลับคำตัดสินเพื่อช่วยชั้นด้วย ] – ฮาโรลด์

[ นักวิจัยธรรมดาๆเพียงคนเดียวจะมีอำนาจขนาดนั้นเลยหรอ ? ] – โคดี้

 

เมื่อได้ยินที่โคดี้ถาม ฮาโรลด์จึงดึงดาบของเขาออกมาจากฝัก

 

[ ดาบเล่มนี้ถูกสร้างโดยยูสทัส มันสามารถดูดซับพลังเวทมนตร์ของผู้ใช้เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถในการต่อสู้ทางร่างกาย แต่มันก็มีข้อเสีย นั้นคือนอกจากพลังเวทมนต์แล้วมันยังดูดอายุไขของผู้ใช้เช่นกัน ] – ฮาโรลด์

 

สิ่งที่อธิบายออกมานั้นทำให้โคดี้ถึงกับพูดไม่ออก

นั้นเพราะเขารู้ว่าฮาโรลด์ใช้ดาบเล่มนั้นมาโดยตลอด ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่อายุไขของฮาโรลด์ก็ถูกดูดไปพอสมควรแล้ว

 

[ เพื่อให้การวิจัยดาบนี้ก้าวหน้า และเขาจะได้สามารถปรับแก้ผลการดูดอายุได้ แต่จะทำแบบนั้นได้ จำเป็นจะต้องมีผู้ทดลอง แต่เมื่อคำนึงถึงศีลธรรม ซึ่งมันอาจเป็นปัญหาได้หากใช้มนุษย์เป็นผู้ทดลองจริงๆ ดังนั้นเขาจึงแก้ปัญหาโดยใช้มนุษย์ที่จะต้องตายอยู่แล้วเป็นผู้ทดลอง ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์พูดออกมาอย่างน่าตาเฉย ราวกับมันไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง

ใครได้ฟังคงคิดว่าฮาโรลด์นั้นโง่รึปล่าวที่ยอมใช้ดาบเล่มนี้ อย่างไรก็ตาม หากฮาโรลด์ไม่ยอมที่จะจับดาบเล่มนี้ในตอนนั้น เขาก็จะถูกโทษประหารและตาย และผู้ที่วางแผนสิ่งต่างๆเหล่านี้คือ ยูสทัส แถมยังเป็นผู้สร้างดาบปีศาจเล่มนี้อีกด้วย เห็นได้ชัดว่าฮาโรลด์ไม่มีทางเลือกตั้งแต่ต้นอยู้แล้ว

 

[ และเมื่อดาบเล่มนี้เสร็จสมบูรณ์ มันจะสามารถสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งของอาณาจักรได้ และเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่จะได้รับแล้ว ผู้นำระดับสูงของอาณาจักรจะลังเลซักแค่ไหนกันเชียวที่จะยอมกลับคำตัดสินของนักโทษประหารคนหนึ่ง ? ] – ฮาโรลด์

[ … ไม่จริง .. พวกเขาไม่ทำจริงๆ– ใชมั้ย ] – โคดี้

 

ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักร หรือชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในนั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกสร้างขึ้นจากการเสียสละ มันคือด้านมืดที่เกิดขึ้นในทุกๆอาณาจักร ซึ่งโคดี้ก็รับรู้ความจริงข้อนี้ดี

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพราะโคดี้รู้เรื่องนี้ดีแล้วจะเห็นด้วยกับมัน แม้ว่าบางครั้งเขาก็คิดว่าถ้าเหล่านักโทษประหารจะถูกจับไปทดลองก็สมควรแล้วด้วยซ้ำ แต่ว่าคนๆนั้นในครั้งนี้กลับเป็นฮาโรลด์ ผู้ที่ช่วยเหลือชีวิตของผู้คนไว้มากมาย ฮาโรลด์ถูกผลักไสให้ไปติดกับดัก ถูกทำให้กลายเป็นคนเลวทรามต่ำช้า ไม่มีทางที่โคดี้จะยอมรับในความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นนี้ได้

ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับ วินเซนต์ ฟินเนอร์แกน และที่ป่าเบลติส มันทำให้โคดี้รู้สึกเดือดดาลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต

อย่างไรก็ตาม เขาก็สงบลงเพราะการถูกความโกรธครอบงำนั้นไม่ช่วยอะไร และตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะจมอยู่กับความโกรธ ตอนนี้เป็นเวลาที่จะต้องทำความเข้าใจสถานการณ์ และพิจารณาหาทางรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

 

[ แต่ถ้าหมอนั้นทำถึงขนาดนั้นเพื่อให้นายมาอยู่ภายใต้การควบคุม แล้วทำไมเขาถึงพยายามทำให้ให้นายกับวินเซนต์ต้องฆ่ากันด้วยล่ะ ? ไม่ใช่ว่าพวกนายทั้งคู่ต่างอยู่ฝ่ายเดียวกันเรอะ ? ] – โคดี้

[ ไอ้หมอนั้นมีเป้าหมายของมัน ซึ่งชั้นก็แค่เล่นตามน้ำไปด้วยเฉยๆ แต่ทันทีที่ชั้นถูกจับได้ว่าหักหลัง หมอนั้นก็ส่งคนมาฆ่าชั้นทิ้งทันที เรื่องมันก็แค่นั้น ] – ยูสทัส

[ นั้นก็เป็นเหตผลที่ตรงไปตรงมาดี ] – โคดี้

 

สิ่งที่ฮาโรลด์พูดออกมาว่า “เล่นตามน้ำ” ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะทรยศยูสทัสตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แม้ว่าชีวิตของเขาจะอยู่ในกำมือของยูสทัส แต่ความเข็มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจของฮาโรลด์กลับไม่ลดลงเลย ถ้าไม่ล้างสมองเขา คงไม่มีทางที่ฮาโรลด์จะยอมจำนนต่อสิ่งใดหรือใครก็ตามได้เลย

เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ โคดี้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแห้งๆ พร้อมกับนึกว่า ก็สมกับเป็นฮาโรลด์ดี

 

[ แล้ว เป้าหมายของศาตราจารย์คืออะไร ? ] – โคดี้

 

 โคดี้ได้แต่สงสัยว่าอะไรคือสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี่

 

[ ก็ — ] – ฮาโรลด์

[ รอเดี่ยว ข้าเองก็อยากจะฟังด้วยเช่นกัน … ] – วินเซนต์

 

ก่อนที่ฮาโรลด์จะตอบ ก็มีใครบางคนพูดขัดขึ้นเสียก่อน

ถึงแม้ว่าเสียงของคนๆนั้นจะอ่อนแอและแผ่วมาก แต่สำหรับโคดี้มันเป็นเสียงที่เขาไม่มีวันลืม 

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Status: Ongoing
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ ” ฮาโรลด์ สโตร์ก” สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท