นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature) – ตอนที่ 100 เสาะหาสายข่าว

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

ตอนที่ 100 – เสาะหาสายข่าว

 

ในห้องมืดที่ผนึกแน่น ชิ่งเฉินมีภาพยนตร์ที่สามารถดูได้ มีพลังใจอันเข้มแข็งสามารถอดทน หลิวเต๋อจู้ทนไม่ไหวเด็ดขาด

จากการคาดคะเนของหลินเสี่ยวเสี้ยว หมอนี่เกิน 48 ชั่วโมงก็พังทลายแล้ว

ตามที่ชิ่งเฉินเห็น หมอนี่หลายชั่วโมงแรกถ้าไม่ห่วงแต่เล่นแล้วดูอุปกรณ์สื่อสารสักแวบก็จะไม่มีเรื่องราวของเขาเหล่าจวินแล้ว

ในทางเดินมืด ๆ มีเสียงอ้อนวอนของหลิวเต๋อจู้ดังขึ้น แต่ชิ่งเฉินไม่ใจอ่อนสักนิด

อย่างที่หลินเสี่ยวเสี้ยวพูด เขาข้ามผ่านอุปสรรคที่ยากที่สุดในใจมาได้แล้ว : รู้ว่าตนเองควรจะเรียนรู้การเผชิญหน้ากับโลกอันโหดร้ายเย็นชาใบนั้นอย่างไร

หลี่ซูถงกล่าวกับเขาว่า “บางเวลาตอนที่พวกเราทำการตัดสินใจจะต้องละทิ้งการประเมินที่มาตรฐานของโลกกำหนดขึ้นอย่าง ‘โหดร้าย’ หรือ ‘เมตตา’ บนการเดินทางของชีวิต เธอเพียงต้องทำการตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุดออกมาก็ได้แล้ว”

ชิ่งเฉินถอนหายใจ “ข้อด้อยของหลิวเต๋อจู้คนนี้เยอะเกินไปแล้ว บางครั้งอยากจะทิ้งเขาจริง ๆ”

“ทิ้ง? ทำไมล่ะ?” หลี่ซูถงกล่าวอย่างเต็มไปด้วยความสนใจ “ถ้าเธออยากเลือกตัวแทนของโลกภายนอก งั้นขณะนี้หลิวเต๋อจู้เหมาะสมที่สุดแล้ว เขาฉลาดนิดหน่อยโลภนิดหน่อย แต่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง เขาไม่มีกำลังขวัญ แต่มีจิตใจหยิ่งทะนงไร้สาระ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง, มีความทะเยอทะยาน, มีวินัยในตัวเอง, มีความกล้าหาญ อีกฝ่ายจะยินยอมเป็นหุ่นเชิดให้เธอเหรอ”

ชิ่งเฉินตกอยู่ในห้วงคิด

หลี่ซูถงถามว่า “เอาล่ะ เรื่องที่หนึ่งปิดบัญชีแล้ว เรื่องที่สองคืออะไร”

“ชำระหนี้แค้นหนึ่งอย่าง ถามคำถามหนึ่งข้อ”

ชิ่งเฉินกล่าว

……

นับถอยหลัง 163:00:00

จากการทะลุมิติครั้งนี้เวลาเพิ่งจะผ่านไปห้าชั่วโมง สีท้องฟ้าเป็นสีเทา จวนจะถึงรุ่งสางแล้ว

ในเขตที่เก้าของเมืองหมายเลข 7 ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังผลักเก้าอี้เข็น บนเก้าอี้เข็นนั่งไว้ด้วยเด็กสาวผมยาวที่ขาทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่ง

พวกเขาเดินอยู่ในถนนมืดสลัวใต้อาคาร เทียบกับนีออนฮอโลกราฟีตระการตาบนฟ้าแล้ว ที่นี่อย่างกับเป็นโลกอีกใบ

พื้นดินเปียกแฉะ ตอนที่เดินพื้นรองเท้ากับพื้นดินสัมผัสกันจะส่งเสียงแฉะ ๆ ออกมา

บนอาคารข้างถนนเป็นกราฟิตี้ทุกแห่งหน ในท้องถนนที่เดินผ่านมีคนจรจัดที่เอาผ้าพลาสติกคลุมตัวกำลังนอนหลับ ข้างกายพวกเขากองเต็มไปด้วยขยะ

ยังมีท่อขึ้นสนิมที่ไร้คนบำรุงรักษา

นี่ก็คือชั้นต่ำสุดของเมืองไซเบอร์ ทุกสิ่งล้วนดูหดหู่และผุพังขนาดนั้น

สโลแกนต่อต้านและกลิ่นเหม็นเน่าเห็นได้ทั่วไป

ช่างขัดแย้งกับโลกเหนือเวหา

เด็กสาวสังเกตมองโดยรอบอย่างเงียบงัน สีหน้าตื่นตระหนกและหวาดหวั่นอยู่บ้าง

ชายหนุ่มเข็นเด็กสาวเลี้ยวผ่านถนนสองเส้น คล้ายกับว่ากำลังหลบเลี่ยงอะไรอยู่

“หวังอวิ๋น” ด้านหลังพวกเขามีเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นมา

หวังอวิ๋นหมุนตัวขวับกลับไปมอง ค้นพบด้วยความตื่นตะลึงว่าเป็นหูเสี่ยวหนิวกับจางเทียนเจินสองคน พวกเขาก็นั่งอยู่บนเก้าอี้เข็น สีหน้ายังคงอ่อนแอและซีดขาวมาก

คนที่เข็นเก้าอี้เข็นเป็นนักท่องเวลาที่ตระกูลหูกับจางสองตระกูลว่าจ้าง ถึงคนเหล่านี้ไม่อาจช่วยเหลือหูเสี่ยวหนิวกับจางเทียนเจินแก้ไขความยุ่งยากที่มาจากตระกูลเฉิน แต่สามารถทำเรื่องที่ค่อนข้างจิปาถะได้

หูเสี่ยวหนิวถามเสียงอ่อนว่า “ก่อนที่จะกลับคืนครั้งที่แล้ว เธอจากไปคนเดียวเพราะกลัวว่าฉากในวันนี้จะปรากฏขึ้นสินะ”

หวังอวิ๋นเม้มปาก ไม่พูดไม่จา

ตามแผนการ เธอจะนั่งรถคันหนึ่งทะลุที่ราบเจียงหวยอันกว้างใหญ่นอกเมือง เลาะไปตามชายขอบสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 119 มุ่งสู่เมืองหมายเลข 3

นี่กับแผนการเดิมของพวกเธอที่จะมุ่งหน้าไปเมืองหมายเลข 18 ไม่ตรงกัน แต่ขณะนี้เธอจำเป็นจะต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไร้ทางเลือกอื่น

และเส้นทางหนีเอาชีวิตรอดสายนี้ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่เธอจ่ายเงินก้อนโตที่โลกภายนอกซื้อมา

ขณะนี้ หวังอวิ๋นมองหูเสี่ยวหนิว ตื่นตระหนกไร้ที่เปรียบ “นายหาฉันเจอได้ไง”

หูเสี่ยวหนิวอธิบายอย่างสงบนิ่งว่า “เธอรอให้นักท่องเวลาที่ตระกูลว่าจ้างมารับเธอ ส่งเธอขึ้นรถหนีออกจากที่นี่ แต่เผอิญว่าก่อนที่จะทะลุมิติฉันหาคนคนหนึ่งในหมู่พวกเขาเจอ จ่ายค่าจ้างสองเท่าซื้อร่องรอยของเธอ หาพวกเขาง่ายกว่าหาเธออยู่บ้าง”

พูดจบ ชายหนุ่มคนนั้นที่ด้านหลังหวังอวิ๋นพูดขออภัยหนึ่งประโยคเสียงเบา ๆ จากนั้นปล่อยเก้าอี้เข็น จากไปเงียบ ๆ

ระหว่างอาคารอันคับแคบ ในถนนสายเล็กที่มืดสลัว เด็กสาวที่ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่บนเก้าอี้เข็นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย

“นายจะเอายังไง” หวังอวิ๋นถามเสียงต่ำ

“ทำไมถึงหักหลังพวกเรา” หูเสี่ยวหนิวถามด้วยอารมณ์หม่นหมอง “พวกเราเป็นเพื่อนนักเรียนกันมาหนึ่งปีกว่า แล้วยังเป็นเพื่อนกัน”

หวังอวิ๋นถามกลับว่า “งั้นฉันทำผิดอะไรล่ะ ถึงทำให้พวกนายหลังจากวันนั้นเลือกที่จะกีดกันฉัน”

หูเสี่ยวหนิวรู้ว่าสิ่งที่หวังอวิ๋นพูดถึงคือคืนวันนั้นที่พวกเขาไปบ้านเจียงเสวี่ยแล้วถูกจับ

ตอนนั้น หวังอวิ๋นฟื้นขึ้นมาก่อน จึงถูกคนร้ายสอบสวนก่อนเพื่อน

แล้วเธอก็ทนแรงกดดันไม่ได้ พูดออกมาถึงความจริงที่ว่าพวกเขาสี่คนล้วนเป็นนักท่องเวลา แล้วยังเคยร้องไห้ขอความเมตตา

ภายหลัง สามคนที่เหลือก็ฟื้น เป็นพยานต่อฉากที่หวังอวิ๋นขอความเมตตา

หูเสี่ยวหนิวลังเลแล้วกล่าวว่า “พวกเราไม่ได้กีดกันเธอเลย ทุกคนไม่ได้พูดอะไรกับเธอมาก แค่รู้สึกว่าเธอจะต้องรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจ ดังนั้นให้เธอสงบใจอยู่คนเดียว ไม่ได้ตั้งใจจะโทษเธอเลย ตอนหลัง เธอให้ไป๋หว่านเอ๋อร์เสนอเปลี่ยนแผนการเดินทาง ทุกคนแค่นึกว่าเธออยากรีบไปจากสถานที่ที่ทรมานจิตใจออกไปผ่อนคลาย  พวกเราก็เลยเปลี่ยนแผนการเดินทางทันที”

“นายทำเป็นมีมิตรภาพจอมปลอมอยู่ที่นี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย” หวังอวิ๋นนั่งบนพื้น น้ำตาไหลรินช้า ๆ “นายอาจจะไม่ได้ดูถูกฉัน แต่ไป๋หว่านเอ๋อร์เป็น วันที่สองหลังเกิดเรื่อง นางมาบอกฉันว่าอยากจะย้ายออกไปอยู่คนเดียว นางบอกว่าไม่มีทางอยู่ร่วมกันคนที่ทรยศตัวเองได้!”

หูเสี่ยวหนิวเงียบไป

เสียงของหวังอวิ๋นยิ่งมายิ่งดัง “ฉันก็แค่ฟื้นมาเป็นคนแรก ดังนั้นเลยถูกสอบสวนเป็นคนแรก นายนึกว่ามีแค่ฉันที่ทนการสอบสวนไม่ได้เหรอ แค่ว่ายังไม่ถึงตาพวกนายก็เท่านั้นแหละ เปลี่ยนเป็นพวกนายถูกสอบสวนก็ทนไม่ได้เหมือนกัน พวกนายมีคุณสมบัติอะไรมาดูถูกฉัน?!”

พูดถึงตอนจบ เสียงของเธอลดต่ำลงไปใหม่ “ฉันอยากให้พวกนายประสบกับเรื่องเหมือน ๆ กันด้วย อย่างนี้พวกนายก็จะไม่มีคุณสมบัติมาเหยียดหยามฉันอยู่บนที่สูงแล้ว”

หวังอวิ๋นไม่อาจรับได้ที่ท่าทางน่าเกลียดของตนเองถูกคนพบเห็น ดังนั้นหลังเรื่องราวตอนที่มีคนหาเธอพบแล้วสัญญาถึงอนาคตอันงดงาม เธอจิตใจสั่นคลอน

จางเทียนเจินจู่ ๆ ถามว่า “งั้นทำไมเธอต้องทำขนาดนี้ด้วย แม้แต่เรื่องที่เสี่ยวหนิวมีมือถือสองเครื่องยังบอกคนร้าย บางครั้งฉันก็สามารถเข้าใจสภาพจิตใจของเธอนะ แต่การกระทำทุกอย่างของเธอไม่ใช่แค่เพื่อให้ได้รับความสมดุลทางจิตใจ จริงไหม มีแรงกระตุ้นด้านผลประโยชน์ด้วย”

ณ ขณะนี้เอง ด้านนอกถนนสายเล็กมีเสียงฝีเท้ามากมายดังขึ้นมา ชายชุดดำหลายคนจู่ ๆ เร่งเข้ามา

นักท่องเวลาคนอื่น ๆ ที่ตระกูลหวังอวิ๋นว่าจ้างเร่งมาถึงแล้ว

ในพริบตา ทั้งสองฝ่ายกลายสภาพเป็นสถานการณ์ประจันหน้ากัน

สกุลหวังมีผู้ที่มามากกว่าในจินตนาการ ด้านหูเสี่ยวหนิวมีแค่ 3 คน แต่อีกฝ่ายกลับมีกำลังเสริมมา 6 คน

ในที่สุดหวังอวิ๋นมีความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหน่อย เธอสงบสติอารมณ์ได้บ้าง มองไปทางจางเทียนเจิน “ใช่ ฉันทำเพื่อผลประโยชน์จริง ๆ พวกนายกับหลิวเต๋อจู้ล้วนไม่จำเป็นว่าจะสามารถให้ผลประโยชน์กับฉัน ตอนนี้ได้โปรดหลีกทาง ผ่านวันนี้ไป ทุกคนยังคงเป็นเพื่อนนักเรียน”

ด้านหลังหูเสี่ยวหนิวกับจางเทียนเจิน นักท่องเวลาสามคนที่ตระกูลพวกเขาจ้างมาสบตากันอย่างท้อใจ ล้วนมีเจตนาจะล่าถอย

สกุลหู, สกุลจางมอบเงินทองจำนวนหนึ่งเป็นรางวัลให้ที่โลกภายนอกจริง ๆ แต่พวกเขาเสียชีวิตเพื่อเงินทองมันไม่คุ้มค่า

…………………………………….

 

ตอนที่ 101 – วัตถุต้องห้าม ACE-017

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท