ตอนที่ 165 – ฝุ่นจางหาย
ชิ่งไฮวนอนบนพื้นเงียบ ๆ เงยหน้ามองท้องฟ้า
เขาใช้มือปิดลำคอของตนเองเพื่อห้ามไม่ให้เลือดไหลเร็วเกินไป
ราวกับว่าอย่างนี้จะสามารถชะลอเวลาตายของตนเอง นำชีวิตของตนเองกลับมาอยู่ในมือใหม่อีกครั้ง
เมฆดำสลายไปแล้ว พืชพรรณก็ไม่สนเขาอีกแล้ว
หลังจากวิ่งหนีเอาชีวิตรอดยาวนานหลายชั่วโมง ชิ่งไฮวจู่ ๆ รู้สึกว่าชั่วขณะนี้สบายอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้เหน็ดเหนื่อยเกินไปจริง ๆ
มีเสียงฝีเท้าดังมาจากที่ไกล ๆ เสียงเหยียบใบไม้เน่าเบา ๆ นั้นเหมือนกับเพลงกล่อมเด็ก ชิ่งไฮวรู้สึกว่าตนเองง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว
ชิ่งไฮวหันศีรษะไปให้เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นชัด ๆ
แต่เด็กหนุ่มนั่นไม่ได้เข้ามาใกล้เขา ทว่านั่งยอง ๆ ตรงที่ที่ไกลจากเขามาก รอให้เขาตายสนิทเงียบ ๆ
“จนกระทั่งเวลานี้ยังจะรอบคอบขนาดนี้เลยเหรอ” ชิ่งไฮวคิดในใจ
ลูกตาของเขากลายเป็นสีแดงสดเพราะเลือดคั่ง ในที่สุดเขาก็ได้เห็นรูปลักษณะของเด็กหนุ่มชัด ๆ
ขณะที่กำลังจะตาย ชิ่งไฮวนึกเรื่องราวได้มากมาย
แล้วก็คิดเรื่องราวได้มากมาย……
เด็กหนุ่มนี้เป็นอัศวินที่ขึ้นมาใหม่
แต่โลกข้างนอกไม่ได้พูดว่า การสืบทอดของอัศวินกำลังจะขาดไปแล้วเหรอ ไม่มีใครสามารถข้ามเกณฑ์ตั้งต้นนั้นไปได้เลย
มีคนน้อยมากที่รู้ว่าสรุปแล้วเกณฑ์ตั้งต้นคืออะไร ทุกคนแค่รู้ว่ายากมาก
ว่ากันว่าหลี่ตงเจ๋อของชมรมเหิงเคยเกือบจะกลายเป็นผู้สืบทอดอัศวิน แต่สุดท้ายยังล้มเหลว นี่เป็นหนึ่งในความเสียใจชั่วชีวิตของหลี่ตงเจ๋อ
เช่นนั้น เด็กหนุ่มนี่เป็นศิษย์ของใคร เฉินเจียจาง? หวังเสียวจิ่ว? หลี่ซูถง?
ไม่ถูก ชิ่งไฮวย้อนนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดหลังตนเองพบกับเด็กหนุ่ม จู่ ๆ เขาคิดถึงปัญหาข้อหนึ่งขึ้นมา: เมื่อวันก่อนอีกฝ่ายยังเป็นแค่คนธรรมดา วันนี้กลับสามารถใช้ความเร็วที่เร็วอย่างยิ่งวิ่งตามตนเองมาติด ๆ
“เด็กหนุ่มนั่นภายในวันเดียวก็ทะลวงด่านสำเร็จแล้ว เขาเพิ่งจะเลื่อนขึ้นเป็นอัศวินนะ!” ในใจชิ่งไฮวเกิดคลื่นลูกใหญ่มหึมา
“เด็กหนุ่มนั่นทำไมดูแล้วคุ้นตาขนาดนี้นะ แล้วทำไมอีกฝ่ายเพิ่งเลื่อนขึ้นมาก็สามารถใช้มีดใบไม้สารทได้แล้วล่ะ!”
คำถามชุดนี้วนเวียนอยู่ในสมองเขาไม่หยุด ราวกับว่าจะกวนสมองเขาให้เละเป็นโจ๊ก
เดี๋ยวนะ!
ในที่สุดชิ่งไฮวก็นึกออกว่าตนเองเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหน เมื่อหนึ่งปีก่อนในงานเลี้ยงวันเกิดของชิ่งซีลูกหลานสายตรงกลุ่มการเงิน อีกฝ่ายก็นั่งอยู่ในมุมสักมุม
ชิ่งซีเคยไปคุยกับอีกฝ่ายคนนี้อยู่ไม่กี่คำ แต่อีกฝ่ายดูขี้อายสุด ๆ ไม่ชอบสนทนากับผู้คนเลย
จนกระทั่งไม่นานมานี้ เขาจึงรู้ว่าคนที่ตนเองเห็นตอนนั้นชื่อว่าชิ่งเฉิน เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงของสังเวียนแห่งเงา
แต่สิ่งที่ประหลาดคือ ชิ่งเฉินตอนนั้นดูเหมือนจะโตกว่าตอนนี้อยู่บ้าง ดูโตกว่าหลายปีเลย
อีกอย่าง หน้าตาก็ไม่ได้เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง อย่างกับไปทำศัลยกรรมมา
ประหลาด
ประหลาดเกินไปแล้ว!
ปัจจุบันนี้ ชิ่งเฉินที่เดิมควรจะอยู่ในเรือนจำหมายเลข 18 ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ประกอบกับเรื่องที่หลี่ซูถงหายตัวไป
ชิ่งไฮวถึงจะมีสมองหมูก็ควรจะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว: อีกฝ่ายไม่เคยล่วงเกินหลี่ซูถงเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่ากลายเป็นนักเรียนของหลี่ซูถง!
ส่วนข่าวลือที่ว่าอีกฝ่ายถูกหลี่ซูถงกักขัง เกรงว่านั่นก็ทำไปให้คนอื่นดูเท่านั้นเอง
ในแววตาชิ่งไฮวปรากฏความเลื่อนลอย ที่แท้เขาก็ตัดคำตอบที่ถูกต้องไปตั้งแต่ต้น
บุคคลชายขอบที่ดูไม่สะดุดตาที่สุดดูสวะที่สุดคนนั้นกลับซ่อนตัวอยู่ในความมืดและกลายเป็นผู้ท้าชิงเงาที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดไปแล้ว
อัศวินกับชมรมเหิงล้วนขึ้นชื่อด้านปกป้องข้อบกพร่องของตนเอง สมาชิกครอบครัวตัวเองเข้าร่วมสังเวียนแห่งเงา จะต้องช่วยสุดชีวิตแน่!
ครู่ต่อมา ชิ่งไฮวเบิกตากว้าง ตนเองไม่ใช่ว่าก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของอีกฝ่ายหรือ หลี่ซูถงพาชิ่งเฉินมายังสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ก็คือตั้งใจมาล่าตนเองเป็นพิเศษสินะ
อย่างนี้ สังเวียนแห่งเงาเปิดรอบแรก บ้านสี่ก็ถูกคัดออกไปตรง ๆ เลย!
ชิ่งไฮวใช้พลังเฮือกสุดท้ายยิ้มออกมา เขาอยากรู้มากว่าตอนที่ผู้ท้าชิงเงาคนอื่นค้นพบตัวตนนี้จะแสดงออกอย่างไร
มีแต่ตัวเองโดนหลอกไม่ได้สิ
เลือดที่อยู่ข้างตัวเขาไหลนองเป็นกองเลือดแล้ว ในวาระสุดท้ายของชีวิตนี้ เด็กหนุ่มที่นั่งยอง ๆ อยู่ที่ไกล ๆ จู่ ๆ กล่าวเสียงเบา ๆ ว่า “เฉาเวยก่อนตายยังแว้งกัดอย่างกับเสือร้าย คุณกลับไม่เคยคิดเรื่องเสี่ยงตายแลกชีวิตเลย ดังนั้นผมถึงบอกว่าคุณสู้เขาไม่ได้”
เด็กหนุ่มนั่นนั่งยอง ๆ อย่างสงบนิ่ง น้ำเสียงก็สงบนิ่งมาก ราวกับว่ากำลังพูดข้อสรุปที่ธรรมดาสามัญมาก
รอยยิ้มของชิ่งไฮวแข็งค้างบนใบหน้าในพริบตา จากนั้นสูญเสียพลังชีวิตทั้งหมด
ฆ่าคน ฆ่าที่ใจ
แต่สิ่งที่ชิ่งเฉินพูดไม่ผิดเลย เดิมทีเขานึกว่าชิ่งไฮวจึงจะเป็นศัตรูที่ตึงมือที่สุดคนสุดท้าย แต่ในความเป็นจริงตอนที่ฆ่าเฉาเวยเขาก็เข้าใจว่าชั่วขณะสุดท้ายของการดิ้นรนจากความตาย บุคคลตัวเล็ก ๆ ประเภทที่ไต่เต้ามาจากชั้นล่างนั้นจึงน่ากลัวที่สุด
เพราะว่าทุกคนล้วนไม่มีทางถอย
แล้วก็ไม่เคยจะถอย
นับถอยหลัง 00:30:00
จวนจะคืนกลับแล้ว
ชิ่งเฉินก้มหน้าลงมองวัตถุต้องห้าม ACE-019 หุ่นเชิดบนข้อมือ
การไล่ฆ่าชิ่งไฮวครั้งนี้ หุ่นเชิดมีผลงานเป็นอันดับหนึ่ง ในเวลาเดียวกันก็ทำให้ชิ่งเฉินเข้าใจความแข็งแกร่งของวัตถุต้องห้ามแล้ว
อันดับแรกสุดเขาไปล่าสังหารทหารสหพันธรัฐห้านาย สังเวยวิญญาณคนห้าคนนั้น
ชิ่งเฉินมองดูศพห้าศพกลายเป็นฝุ่นผงอย่างทำอะไรไม่ได้ ลมหอบเดียวก็ปลิวไปแล้ว
ความน่ากลัวของการสังเวยประเภทนี้เหนือกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ไปไกลลิบ: ชีวิตหนึ่งชีวิตจากมีเลือดเนื้อสดใสจนสลายกลายเป็นฝุ่นเพียงใช้เวลาชั่วดีดนิ้วเท่านั้นเอง
มิน่าละครูถึงพูดว่า หุ่นเชิดในสายตาของทุกคนเป็นวัตถุต้องห้ามที่ชั่วร้ายเป็นพิเศษชิ้นหนึ่ง
หลังการสังเวย เส้นด้ายที่เดิมทีสีแดงของหุ่นเชิดกลับเป็นโปร่งใส ปัจจุบันนี้พันอยู่บนข้อมือของชิ่งเฉิน ถ้าไม่สังเกตแสงให้ละเอียดเกรงว่าจะไม่ค้นพบเลย
หลังจากชิ่งเฉินล่าสังหารทหารก็ใช้เวลาสามนาทีสอบสวนชื่อของหวังเฉียงออกมา
จากนั้นเขาได้เป็นประจักษ์พยานถึงความน่ากลัวของหุ่นเชิดด้วยตาตนเอง
ตอนที่ปลายอีกด้านของเส้นด้ายพันไปบนข้อมือของหวังเฉียง คนที่มีชีวิตเป็น ๆ คนนั้นก็ราวกับจะกลายเป็นนิ้วเป็นแขนของชิ่งเฉิน สมองไม่ต้องจงใจสั่งการ “หุ่น” ก็จะกระทำการทุกสิ่งตามเจตจำนงของโฮสต์อย่างเคร่งครัด
ไม่มีการเบี่ยงเบน ไม่มีการล่าช้า ความรู้สึกชนิดนี้ช่างน่าอัศจรรย์เป็นพิเศษ
การต่อสู้นี้ยุติลงในที่สุด ชิ่งเฉินตะโกนเข้าไปในป่าไม้ว่า “ท่านอาจารย์ ท่านอยู่แถวนี้สินะครับ”
“แค่ก ๆ อยู่ ๆ” หลี่ซูถงเดินออกมา “มีคำถามอะไรอยากถามเหรอ”
“ตอนนี้ผมอยู่แรงก์อะไรครับ” ชิ่งเฉินสงสัย
“แรงก์ E” หลี่ซูถงกล่าว
“ท่านไม่ได้บอกว่า หลังสำเร็จด่านเป็นตายครั้งแรกจะเป็นแรงก์ F เหรอครับ” ชิ่งเฉินสงสัยอีกครั้ง
“ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรนะ คุณสมบัติทางกายภาพที่เธอแสดงออกมาทั้งหมดคือแรงก์ E งั้นเธอย่อมเป็นแรงก์ E” หลี่ซูถงถอนหายใจ “กฎสามัญของอัศวินมากมายถูกเธอทำลายไปแล้ว”
ชิ่งเฉินพูดในใจว่าที่แท้เป็นเช่นนี้
หลี่ซูถงยิ้มถามว่า “เป็นไง ฉ้นพบว่าหลังจากเธอฆ่าเฉาเวยแล้วฆ่าชิ่งไฮวอีกได้กลายเป็นเชี่ยวชาญไปแล้ว แรงก์ E คนหนึ่งฆ่าแรงก์ C สองคน รู้สึกยังไง”
ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ในใจยังมีความกลัวเหลืออยู่”
“เธอจะต้องจำให้ขึ้นใจนะ” หลี่ซูถงมองนักเรียนตัวเองแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “ครั้งนี้เธอยึดครองเวลาสถานที่และผู้คนที่เหมาะสม ข้อได้เปรียบของความเป็นเจ้าถิ่นของสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ถูกเธอใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แล้วยังมีพวกตาแก่ช่วยเหลือเธอ หลังจากออกไป เจอแรงก์ C แล้วต้องระวังให้จงหนัก แน่นอนว่า เธอรอบคอบเพียงพอแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาแว้งกัดเลย ฉันแค่เตือนเอาไว้”
ชิ่งเฉินพยักหน้าอย่างเป็นจริงเป็นจัง ไม่มีความรู้สึกลำพองใจสักนิด “ผมจำไว้ขึ้นใจแล้วครับ ท่านอาจารย์”
ไม่รู้ตอนไหน คำเรียกขานของชิ่งเฉินต่อหลี่ซูถงเปลี่ยนจากครูกลายเป็นท่านอาจารย์แล้ว
หลี่ซูถงยิ้มและกระซิบว่า “อืม พวกตาเแก่ก๊วนนั้นเห็นเธอฆ่าคนข้ามแรงก์จะต้องเบิกบานแน่ ๆ จำไว้วันหลังถ้ามาที่ป่าอีก ไม่มีเรื่องอะไรก็มาเดินเล่นที่สถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 สักรอบ หลอกเอาทรัพย์สมบัติจากในมือพวกเขามาไว้ในมือให้หมด……”
……………………………..
ปริศนานี้อีกนานกว่าจะเฉลย สปอยล์ไม่ได้เด็ดขาด
ตอนที่ 166 – คืนกลับ