การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 136 พบกันอีกครั้ง

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 136 พบกันอีกครั้ง

 

 

「แฮก…อีก…แฮก…!」

 

 

 

 

คิจินโอเค็นกำลังวิ่งผ่านดงต้นไม้อย่างไม่คิดชีวิต โดยใช้โอกาสในตอนที่เทพปีศาจกับโซระกำลังสู้กันช่วงท้าย

 

 

เลวร้ายสุดๆ

 

 

 

 

แขนขวาของเขาตอนนี้โดนฟันจนขาดวิ่นไปแล้ว เนื่องจากเหลือที่ไหลออกมาจากบาดแผลจึงทำให้ชุดคลุมสีขาวของนักบวชที่เขาสวมถูกย้อมเป็นสีแดงเข้มและทิ้งร่องรอยเอาไว้ตามทางที่เขาวิ่งหนีมา

 

 

แต่โอเค็นก็ไม่มีทางเลือกแม้จะต้องทิ้งร่องรอยนั้นไว้ก็ตาม เพราะเขาไม่สามารถห้ามเลือดที่ไหลออกมาได้ เวทฟื้นฟูก็ไม่มีแรงพอจะใช้แล้วด้วย ยิ่งเวลาแบบนี้จะรวบรวมเอาพลังอีกก็เป็นไปไม่ได้

 

 

เพราะถ้าเขายังช้ากว่านี้อีกละก็――พวกที่ไล่ตามมาต้องจับตัวเขาได้แน่

 

 

 

 

 

 

 

「แฮก…แฮก….จ-เจ้าบ้านั่นมันอะไรกัน….ของแบบนั้นมันโผล่ออกมาได้ยังไง…!」

 

 

 

ไพ่ตายใบสุดท้ายของโอเค็นอย่างเวทลมก็ถูกฟันทิ้งราวกับเป็นลมเย็นที่พัดผ่านร่างไปเฉยๆ ร่างกายของสาวกแห่งเทพสุดแกร่งก็ถูกฟันเหมือนเป็นกระดาษบางๆ

 

ไม่ใช่แค่นั้น เขายังสามารถต่อสู้ตัวต่อตัวกับเทพปีศาจที่ใช้ร่างของคิจินในการสังเวยอีก แถมยังไม่เห็นเลยสักแผล

 

 

ก็จริงอยู่ว่าเทพปีศาจที่จุติลงมานั้นจะแข็งแกร่งตามภาชนะที่ใช้ในการสังเวย ถึงจะเป็นอิซากิก็คงไม่สามารถดึงเอาพลังดั้งเดิมของเทพปีศาจออกมาได้หรอก

 

 

ทว่าตัวเขาก็เป็นถึง 1 ใน 16 หอกแห่งคาซานซึ่งมีพละกำลังที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม ถึงจะไม่เพียงพอที่จะบรรจุเอาพลังของเทพปีศาจทั้งหมดได้ แต่มันก็ไม่ควรจะออกมาแบบนี้สิ

 

 

จิตใจของโอเค็นยิ่งบอบช้ำพอนึกถึงฉากก่อนหน้านี้ ร่างของโซระที่รับการโจมตีของเทพปีศาจเข้าไปและต้านมันเอาไว้ได้จนกระเด็นออกมา ก่อนจะเตรียมใช้ไม้ตายสังหารเทพปีศาจ

 

 

แน่นอนว่าโอเค็นอาศัยจังหวะนั้นหนีออกมาโดยไม่ได้เห็นผลลัพธ์ของมัน แต่หลังจากเขาหนีมาได้สักพักสัญญาณของเทพปีศาจก็หายไป ออร่าคิที่คอยปกคลุมอยู่ทั่วเกาะก็เบาบางลงไปด้วย ผลลัพธ์ก็คงไม่ต้องนึกแล้วว่าออกมาหน้าไหน

 

 

 

「ไอ้เจ้าผู้ใช้มายาดาบเดียวนั่น ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย….! กล้าหลอกกันได้นะ….ว่าแล้วเชียวเจ้าพวกมนุษย์มันไว้ใจไม่ได้….คึก!」

 

 

 

 

โอเค็นยังคงขยับขาของตนต่อไปโดยส่งเสียงคร่ำครวญออกมาด้วย เขาจำเป็นต้องรีบกลับไปยังนากายามะให้เร็วที่สุด เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะต้องสาปนี้ให้พวกระดับสูงของลัทธิแห่งแสงได้ทราบ

 

แต่ตอนนี้ สมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการอำพรางร่างของเขา ซึ่งจำเป็นต่อการผ่านเข้าไปในประตูปีศาจ มันได้หายไปพร้อมกับแขนขวาของเขาแล้ว อิซากิและพวกพ้องของเขาที่มายังเกาะแห่งนี้ก็โดนสังหารโดยกองกำลังของตระกูลมิตสึรุกิไปหมดแล้ว คนของไทซานที่โอเค็นเอามาด้วยก็ไม่รอดเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาคงไม่สามารถผ่านประตูปีศาจไปได้แน่ ไม่สิแค่จะเอาชีวิตตัวเองให้รอดในตอนนี้ก็เป็นเรื่องยากแล้ว

 

 

 

โอเค็นพยายามจะเค้นพลังระหว่างนี้เพื่อรักษาตัวเอง ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ทว่าไม่ว่าจะกี่ครั้ง เลือดที่ไหลออกมานั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ทั้งที่เลือดไหลออกตัวไปมากขนาดนี้ร่างของเขามันควรจะเบาลงสิ แต่ทำไมขาของเขามันถึงได้หนักราวกับมีอะไรมาถ่วงกันนะ

 

 

 

 

 

「อึก….ค๊อก….!」

 

 

 

อาการคลื่นไส้ได้เข้ามาโจมตีและจุกอยู่ที่ลำคอของเขา พอเขาอาเจียนออกมาก็พบว่าก้อนเลือดจำนวนมากได้ไหลออกมาปากและรู้สึกหายใจไม่ออกอย่างน่าประหลาดใจ จากนั้นโอเค็นก็คุกเข่าล้มลง

 

 

 

เนื่องจากการอาเจียนนั้นจึงทำให้เกิดแอ่งเลือดขึ้นในจุดที่เขาล้มลง

 

 

 

 

เลือกจำนวนมากได้ไหลออกมาทางปาก จมูก วินาทีต่อมาทั้งร่างของเขาก็ล้มลงกับพื้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้กระแทกเข้ามาที่ร่างของเขาราวกับมีสว่านมาเจาะกะโหลกตนอยู่

 

 

ของเหลวสีแดงจากร่างของเขากระเซ็นไปทั่วทิศ โอเค็นที่กำลังจมกองเลือดอยู่ก็อาเจียนออกมาอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันเมื่อสัมผัสได้ถึงความอัปยศและความหวาดกลัวที่ตนได้เผชิญ

 

 

 

「――――สภาพเจ้าแย่มากเลยนะ โอเค็น」

 

 

 

เสียงอันแผ่วเบาได้ดังขึ้นมาจากเหนือหัวของโอเค็น เขาพยายามขยับขึ้นไปมองเพราะนึกว่าเป็นผู้ที่ไล่ตามเขามา

 

 

ทว่าภาพที่เขาเห็นก็คือคิจิน คาการิ

 

 

 

ทันทีที่เขารู้ว่าเป็นใคร ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของโอเค็นก็ฉายแววความยินดีออกมา

 

 

 

 

 

「ทะ ท่านคาการิ…อึก…ขอบพระคุณท่านจริงๆ …ที่มาช่วยข้า…!」

 

 

 

「ช่วยงั้นเหรอ? เหมือนเจ้าจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ」

 

 

 

「…..ท่านคาการิ…หมายความว่ายังไงกัน? 」

 

 

 

เสียงทุ้มต่ำได้ออกมาจากปากของคาการิที่มักจะพูดออกมาอย่างสบายๆ และร่าเริงอยู่เสมอ มันได้สะเทือนเข้าไปในแก้วหูของโอเค็น ราวกับเสียงฟ้าผ่า

 

 

 

ออร่าแห่งความไม่สบายใจได้ปกคลุมไปทั่ว โอเค็นเผลอกลืนน้ำลายโดยที่ไม่รู้ตัว

 

 

 

「หน้าที่ของข้าในครั้งนี้มีเพียงเฝ้ามอง ไม่ว่าจะเป็นการตายของคริฟ วาระสุดท้ายของอิซากิ และผลลัพธ์จากการกระทำของเจ้า..โอเค็น」

 

 

 

「…………ถ้า..งั้น..」

 

「ข้าได้รับคำสั่งมาจากท่านพี่ฮาคุโร่ให้ระวังเจ้าไว้เป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ข้าก็เลยได้เห็นอะไรน่าสนใจเยอะเลย พวกที่เกลียดท่านชียูผู้ยิ่งใหญ่และมองว่านั่นเป็นคำสาปสินะ….เจ้ามันเสียสติไปแล้ว คิจินที่ยอมทิ้งเหตุผลในการมีตัวตนของตัวเองเอ๋ย」

 

 

 

ใบหน้าของโอเค็นกระตุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น ตอนที่โอเค็นกำลังต่อสู้อยู่กับโซระ โอเค็นได้ทำการเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเมื่อถูกคมดาบจ่อคอเอาไว้ นี่คาการิได้ยินเรื่องนี้ด้วยงั้นหรือ

 

 

 

 

 

「นี่ท่าน…ได้ยิน…ด้วยงั้นเหรอ….!」

 

 

 

「อย่ามาถามอีกว่าทำไมข้าถึงไม่คิดจะช่วยเจ้า ข้าเป็นเพียงพยานที่คอยเฝ้าดูการต่อสู้และนำข้อมูลกลับไปโดยไม่ขาดหล่นแม้เพียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคตขึ้นอีก..ท่านพี่อาซึมะเองก็กำชับเสมอว่าไม่ให้ข้าออกโรง….หวังว่าเจ้าจะเข้าใจนะ」

 

 

 

 

คาการิถอนหายใจออกมา

 

 

 

「ตอนแรก ข้าก็ไม่มีความคิดจะช่วยเจ้าเลยสักนิด คนที่ทรมานทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขน่ะ สมควรจะตายโดยพวกศัตรูเสียให้หมด」

 

 

 

「……ท-ท่านคาการิ!」

 

 

「แต่เท่าที่ข้าเห็น ข้าว่าเจ้าก็ถูกลงโทษจนสาสมกับที่เจ้าได้ทำลงไปแล้ว หากเจ้าทำงามหน้าแค่เรื่องนี้ ข้าว่าก็พอจะพอเจ้ากลับนากายามะได้อยู่หรอก ทว่า――」

 

 

 

 

ีนี่เป็นครั้งแรกเลยที่อารมณ์หงุดหงิดได้เกิดขึ้นบนใบหน้าของคาการิ

 

 

และมันก็ส่งผ่านออกมาทางน้ำเสียงที่เขาใช้

 

 

「ตอนนั้นเจ้าบอกว่าเจ้าไม่อยากจะตายเหมือนกับพ่อของเจ้า ก็เลยเป็นเหตุผลที่เจ้าเข้าร่วมกับลัทธิแห่งแสงเพื่อทำลายสิ่งที่เจ้ามองว่าเป็นคำสาปนั่นมันอะไรกัน? 」

 

 

 

「ร-เรื่องนั้นมัน……」

 

 

「คิจินก็คือคิจินถึงแม้พวกเขาจะฝักใฝ่ในเทพแห่งแสงก็ตาม แต่การเชื่อมต่อกับท่านชียูก็ไม่ใช่สิ่งที่จะตัดขาดกันได้ ทว่าตามคำพูดของเจ้าแล้วหากมันเป็นเรื่องจริงก็หมายความว่า ลัทธิแห่งแสง มีความสามารถที่จะทำการตัดสายสัมพันธ์ของคิจินกับท่านชียูงั้นหรือ」

 

 

 

หรือก็คือคาการิสงสัยว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของลัทธิแห่งแสงคือการโค่นล้มเทพปีศาจชียูหรือไม่ และหากทำมันได้ทำเร็จจริงละก็ ไม่ว่าจะเป็นพรหรือคำสาปก็ตาม แต่การที่คิจินตัดสายสัมพันธ์กับเทพปีศาจไปย่อมทำให้พวกเขาอ่อนแอลงเป็นแน่

 

 

 

สรุปก็คืออย่างน้อยภายในลัทธิก็ต้องมีอะไรสักอย่างแฝงอยู่แน่ๆ

 

 

 

การกระทำหลายๆ อย่างของโอเค็นเองก็มีจุดที่น่าสงสัยอยู่เยอะ แต่ต้นตอของมันต้องเป็นภายในลัทธิแห่งแสงแน่ๆ นั่นคือสิ่งที่คาการิเชื่อ

 

 

 

การจ้องมองที่เฉียบคมของคาการิได้ทิ่มแทงร่างของโอเค็น ใบหน้าของโอเค็นหมอบต่ำลงไม่ใช่เพราะเขาสามารถสู้หน้าได้ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากจะให้คาการิอ่านสีหน้าของเขาได้

 

 

 

 

 

「โอเค็น ท่านพี่อาซึมะเองก็ตระหนักได้แต่แรกแล้วว่าความภักดีของเจ้าไม่ได้มีต่อนากายามะ แต่เป็นทางลัทธิแห่งแสง ถึงจะเป็นแบบนั้นท่านพี่ก็แสดงไมตรีจิตกับทางไทซานและทำเหมือนกับเจ้ายังเป็นผู้นำของทางไทซานเช่นเดิม แต่เจ้ากลับแอบเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังในนามของลัทธิแห่งแสง อีกทั้งยังพยายามแยกเขี้ยวใส่ท่านชียูผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ตอนนี้เจ้ามันก็ไม่ต่างอะไรกับหนอนแมลงในคราบของคิจินเลยสักนิด เจ้าคิดจริงหรือว่าทำมาถึงขนาดนี้แล้วกษัตริย์แห่งนากายามะจะช่วยเหลือเจ้าอีก? 」

 

 

「ท่านคาการิ นั่นมันเรื่องเข้าใจผิด….ได้โปรดให้ข้า…ให้ข้าได้อธิบายเรื่องราวเสียก่อน….!」

 

 

 

「อันที่จริงถ้าเจ้าบอกกับข้ามาตามตรงจริงเข้าก็อยากฟังอยู่หรอก――แต่น่าเสียดายที่เวลาของพวกเราหมดลงแล้ว」

 

 

 

「…………หา? 」

 

 

 

คาการิยักไหล่เบาๆ ส่วนทางโอเค็นก็แสดงสีหน้าสับสนออกมา

 

 

 

 

ทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้นมาจากทางเบื้องหน้าของคาการิและจากหลังหากเป็นโอเค็น

 

และคนที่ปรากฏออกมาให้โอเค็นซึ่งหันใบหน้ากลับไปดูด้วยความหวาดกลัวนั่นก็คือ ชายผมสีดำ ดวงตาสีดำ และถือดาบสีดำซึ่งตนเคยสู้มาจนถึงเมื่อครู่――โซระ

 

 

 

โอเค็นที่เห็นก็กรีดร้องออกมาทันที

 

 

ทว่าทางโซระกลับไม่ได้สนใจโอเค็นเลยแม้แต่น้อย คนที่เขากำลังจ้องมองอยู่ตอนนี้ก็คือคาการิ

 

 

จากนั้นเขาก็เปิดปากขึ้น

 

 

 

 

「มาเจอกันในที่แปลกๆ ――ไม่สิคงไม่แปลกอีกต่อไปแล้วมั้ง หรือก็คือนายจะเป็นคู่ต่อสู้คนถัดไปของฉันสินะ คาการิ? 」

 

 

 

「ไม่หรอกๆ ข้าไม่คิดจะสู้เลยสักนิดโซระเอ๋ย」

 

 

 

 

คาการิยิ้มออกมาให้กับการพบกันอีกครั้งหลังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง

 

 

 

「แต่ถ้าให้พูดกันตามตรงข้าก็อยากจะสู้กับเจ้าจริงๆ นะ แต่ท่านพี่อาซึมะสั่งห้ามไม่ให้ข้าสู้เลยเด็ดขาดนี่สิ」

 

 

「ฉันก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกนายหรอกนะ แต่ถ้านายไม่สู้ก็แล้วไป――แต่ว่าหมอนี่ฉันขอฆ่าทิ้งเลยแล้วกัน」

 

 

 

ว่าแล้วโซระก็จ้องมองไปยังโอเค็นที่พยายามถอยหนีด้วยร่างที่เต็มไปด้วยเลือด

 

 

คาการิที่ได้ยินก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อยและตอบกลับไป

 

 

 

「ข้าก็ดูการต่อสู้กับเจ้าและโอเค็นมาแล้ว ดังนั้นสิทธิ์ของผู้พ่ายแพ้ย่อมตกเป็นของผู้ชนะ จะอยู่หรือตายเจ้ากำหนดมันได้เลย คิจินกับมนุษย์ไม่ต่างกันหรอกในเรื่องนี้」

 

 

 

「ท่านคาการิ!」

 

 

 

เสียงกรีดร้องออกมาจากปากของโอเค็น

 

 

ทายาทแห่งไทซานซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกครอง 1 ในเขาทั้ง 5 กำลังคลานไปกอดขาของคาการิในสภาพที่น่าสังเวช

 

 

 

「ได้โปรดเถิด เมตตาข้าด้วย…ถ้าท่านช่วยข้า ข้าสาบานว่าจะบอกทุกอย่างที่ข้ารู้ให้ท่านฟัง…!」

 

 

「ก็บอกไปแล้วนี่โอเค็น ว่าข้ามาทำภารกิจของข้า นั่นคือการเป็นพยานเฝ้าดู ข้าไม่สามารถเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้าได้หรอก」

 

 

 

 

คาการิใช้มือสะบัดเอาโอเค็นที่พยายามจะเข้ามาเกาะขาเขาออกไป

 

 

ลัทธิแห่งแสงเป็นกลุ่มองค์กรที่ชักใยเรื่องราวหลายๆ อย่างในเงามืดมากว่า 300 ปี หากพวกเขาจะบอกความลับสำคัญของลัทธิให้กับโอเค็นที่แค่โดนดาบจ่อคอแล้วพ่นทุกอย่างออกมาหมด ลัทธิที่ว่าก็คงไม่อยู่รอดมาจนถึงตอนนี้แน่

 

 

 

ดังนั้นคาการิก็เลยมองว่าข้อมูลที่โอเค็นมีอยู่ไม่ได้สำคัญอะไรนัก แต่อย่างน้อยก็พอจะเดาได้ว่าทางลัทธิแห่งแสงกำลังพยายามทำอะไรสักอย่าง――ที่เกี่ยวข้องกับเทพปีศาจ ข้อมูลเท่านี้ก็น่าจะเกินพอแล้ว เดี๋ยวที่เหลือก็ปล่อยให้ฮาคุโร่พี่ชายขอเขาจัดการต่อแล้วกัน

 

 

――ไม่สิถ้าเป็นถึงระดับท่านพี่ฮาคุโร่ ก็น่าจะพอรู้เรื่องนี้บ้างแล้วแน่ๆ

 

 

จากนั้นร่างของคาการิก็หายไปราวกับสายหมอก

 

 

โอเค็นที่ตระหนักได้แล้วว่าน้องคนสุดท้องแห่งนากายามะกำลังจะจากไปก็พยายามเปิดปากข้อร้องความเมตตาอีกครั้ง

 

แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำแบบนั้น ดาบสีดำของโซระก็พุ่งลงมาเสียก่อน

 

 

――เลือดได้กระจายไปทั่วพื้น ไม่นานนักร่างของคิจินที่ถูกผ่าครึ่งก็แน่นิ่งไป

 

 

 

นี่คือจุดจบของโอเค็น

 

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน