ตอนที่ 262 2 เรียวกิ 1 ไทเคียวคุ
ดาบของนักบุญดาบได้พุ่งเข้ามาโจมตีต่อ
ลานเต้นรำที่มีพายุโหมกระหน่ำได้เริ่มขึ้น
ฟัน ฟัน แทง ฟัน เแทง ฟัน ฟันฟันฟันฟัน
พอเจอการโจมตีแบบโหมกระหน่ำจากอีกฝ่าย ผมจึงถูกบังคับให้ต้องป้องกันโดยไม่สามารถโต้กลับได้เลย และทุกครั้งที่ผมป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายด้วยอาภรณ์วิญญาณ เสียงกระทบกันของโลหะก็ชวนให้แสบแก้วหูทุกที
แม้นักบุญดาบจะไม่ได้ใช้เทคนิคลับ แต่การลงดาบของเขาทุกครั้งก็ยังหนักหน่วงและเฉียบคม ถึงผมจะเสริมพลังมาพอตัวแล้วปลายดาบของเขาก็มักจะเข้ามาถึงตัวของผมเป็นระยะๆ อันที่จริงผมรู้สึกว่าเทคนิคการใช้ดาบของพ่อผมมันเฉยฉายเสียยิ่งกว่าเทคนิคปล่อยพลังใหญ่โตซะอีก
นอกจากนี้ด้านข้างของพ่อผมก็มีบัลเดอร์ที่เก่งเทียบเท่ากับพ่อผมปล่อยเทคนิคต่างๆ ออกมาเสริม เรียกได้ว่าเลวร้ายสุดๆ
「มายาสังหาร กระบวนท่าผสานหยินเล็ก คมดาบสีขาว」
พอผมตัดสินใจว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกคงไม่ดีแน่ ผมจึงรวมพลังที่เหลือในการฝืนปล่อยเทคนิคประสาน คมดาบสีขาวออกไป――
「มายาดาบเดียว ผสานโลกา ปราการแห่งขุนเขา (เสือขาว) 」
แล้วการโจมตีของผมก็ถูกขัดขวางโดยเทคนิคประสานสุดท้าย เห็นได้ชัดว่าปราการนั่นมันเป็นเทคนิคป้องกันที่คล้ายกับปราการที่ผมใช้เลย ภาพของเสือขาวได้ปรากฏขึ้นมาป้องกันร่างของนักบุญดาบเอาไว้
แม้จะเป็นเรื่องที่คาดเอาไว้แล้ว แต่ก็อดอารมณ์เสียไม่ได้จริงๆ ที่เทคนิคซึ่งผมพยายามฝึกมา ทำอะไรเขาไม่ได้เลย
หากนักบุญดาบมีความสามารถเหมือนบัลเดอร์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคป้องกันเลยสักนิด นอกจากนี้หากนักบุญดาบก็มีตัวเลือกอย่างการต้านคมดาบสีขาวของผมด้วยพลังที่เขามี
ทว่าที่เขาไม่ทำแบบนั้นคงเพราะคมดาบสีขาวของผมค่อนข้างจะเป็นภัยคุกคามต่อนักบุญดาบไม่ผิดแน่
ให้ตายสิ ยังไงความจริงที่เขาป้องกันการโจมตีแรงๆ ของผมได้ก็ไม่เปลี่ยนอยู่ดี คำว่าทางตันมันชักจะใกล้เข้ามาทุกที
ก่อนที่ผมจะมีเวลาคิดหาทางออก การโจมตีระลอกถัดไปก็เข้ามา
การโจมตีเหมือนกับประกายแห่งแสงของบัลเดอร์ได้ผ่านหน้าผากของผมไปจนทำให้เลือดไหลออกมาเต็มไปหมด เกือบจะหลบไม่ทันแล้วสิ
แน่นอนว่าบาดแผลของผมหายไปในทันที แต่เลือดที่ไหลออกมานั้นดันกระเซ็นเข้าไปในตาขวาแทน
「เวรเอ้ย!」
เกือบจะในเวลาเดียวกันกับที่ดวงตาขวาของผมกลายเป็นภาพสีแดง ดาบของนักบุญดาบก็ได้ทะลวงเข้ามาที่ไหล่ของผม ทำให้กระดูกไหปลาร้าของผมหักในทันที
คราวนี้เองก็เหมือนกัน บาดแผลของผมฟื้นตัวได้ทันที แต่การมองเห็นยังไม่กลับเป็นปกติ ผลกระทบชักจะหนักขึ้นไปเรื่อยๆ จนผมจะต้านไว้ไม่ไหวแล้ว
ผมกลายเป็นฝ่ายตั้งรับอีกครั้งและไม่สามารถสวนอะไรกลับไปได้ แต่ถึงจะเลือกลงมาในจุดเน้นป้องกัน ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้หมด ทันใดนั้นเอง――
ฉึก! เสียงแทงเข้ามาที่ร่างของผม อาการปวดแสบร้อนเกิดขึ้นบริเวณส่วนด้านขวาของผมด้วย ใช่แล้วมันคือดาบของบัลเดอร์ที่แทงเข้ามาตรงจุดบอดของผม
「โถ่เว้ย!」
ความสามารถในการฟื้นฟูของผมยังทำงานเช่นเดิม แต่มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ความเร็วในการฟื้นฟูตกไปมาก เป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายของผมเริ่มไม่ไหว
ตราบใดที่แผลไม่หาย ความเจ็บปวดก็จะไม่หายตาม ก็จริงว่าผมคุ้นเคยกับความเจ็บปวดระหว่างการต่อสู้บ้างแล้ว แต่ของที่เจ็บมันก็เจ็บอยู่ดีนั่นแหละ
ไม่มีทางเลยที่นักบุญดาบจะพลาดโอกาสนี้ การโจมตีของเขาได้พุ่งเข้ามาต่อจากบัลเดอร์ทันที ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบก่อนจะโดน แต่ก็หลบได้ไม่หมด
เปลือกตาขวาของผมถูกเฉือนออกไป เลือดได้สาดกระเซ็นไปทั่ว หากผมหลบช้ากว่านี้อีกนิด ตาขวาของผมได้ถูกคว้านออกไปหมดแน่
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างกันหรอก เลือดที่ไหลออกมานั้นได้ปิดตาขวาของผมจนมองไม่เห็นสิ่งใด
ตอนนี้มันกลายเป็นการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว
ทุกอย่างค่อยๆ เคลื่อนไหวเอนเอียงไปเรื่อยๆ เวลาเริ่มเดินช้าลงราวกับเข็มนาฬิกาหยุดนิ่ง
ดาบของนักบุญดาบและดาบแห่งแสงของบัลเดอร์ โถมเข้ามาฟาดฟันผมเพื่อส่งผมไปสู่ความตาย พอเหลือตาข้างเดียวแบบนี้จะหลบให้หมดมันก็ยากจะทำได้
ผมถูกฟันไปทั่วร่างจนในที่สุดผมก็ไม่เหลือแรงจะตั้งการ์ดได้อีกต่อไป ร่างของผมได้ร่วงลงไปกับพื้น
ลมหายใจหอบได้ออกมาจากปากของผม ความแข็งแกร่งที่เคยมีมันเลือนหายไปราวกับจะบอกว่าผลของ กำเนิด ได้หมดลงแล้ว
ผมพยายามจะพยุงร่างที่ไร้เรี่ยวแรงนี้ขึ้นมา เพื่อบอกว่าตัวเองยังไม่แพ้ แต่ร่างกายของผมกลับไม่ยอมฟังเลย
ผมไม่เหลือแรงที่จะสู้ต่อแล้ว แนวโน้มที่จะโค่นเขาลงได้ก็ไม่เหลือ ถึงแบบนั้นผมก็ต้องยืนขึ้นให้ได้ ผมจะไม่มีวันยอมก้มหัวให้กับพ่อของผมเด็ดขาด
ทว่านักบุญดาบและบัลเดอร์ก็ไม่ได้ใจดีขนาดจะรอดูผมฟื้นขึ้นมา เขาได้เริ่มใช้เทคนิคที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
「มายาดาบเดียว เรียวกิ (พิธีกรรมสังหาร) เทนโกคุ (สรวงสวรรค์) 」
『มายาดาบเดียว เรียวกิ (พิธีกรรมสังหาร) ชิโกคุ (ขุมอเวจี) 』
การมองเห็นของผมพร่ามัว ผมเริ่มไม่สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคลับที่สองร่างนั้นปลดปล่อยออกมาได้อีก
สิ่งเดียวที่ผมรู้ก็คือท้องฟ้าตอนนี้กำลังฉายแสงออกมาเจิดจ้า และแสงนั้นก็กลายเป็นโซ่ตรวนจำนวนยากจะนับได้พันแขนของผมเอาไว้ แล้วแขวนผมไว้กลางอากาศ
จากนั้นผืนดินกลายเป็นสีดำสนิท มีหนามจำนวนมากโผล่ขึ้นมาจากพื้นนั้นและพัวพันขาของผมที่ลอยอยู่เอาไว้
คงจะเป็นเหมือนที่ชื่อของมันบอก พิธีกรรมสังหารแห่งนรกกับสวรรค์ ผมตอนนี้กลายเป็นเหมือนนักโทษที่รอวันประหารเลย
ขณะที่ผมลอยอยู่กลางอากาศผมก็เริ่มคิดกับตัวเอง
เรียวกินั้นบางทีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ควรใช้กับมนุษย์เลยสักนิด มันคือสิ่งที่ใช้ผนึกบางสิ่งเอาไว้ให้จมอยู่ใต้หุบเหวตลอดกาล ผมอดรู้สึกแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
หากลางสังหรณ์ของผมถูกแล้วมันใช้เพื่อจัดการกับสิ่งใดกันล่ะ
ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ในตำนานแน่นอน เพราะหากต้องไปสู้กับพวกมันจริง แค่กระบวนท่ากับผสานก็เพียงพอแล้ว เรียวกิ จึงควรเป็นสิ่งที่ใช้กับของที่เหนือยิ่งกว่านั้น
ยิ่งผมพยายามคิดมากเท่าไหร่ จิตสำนึกของผมก็ยิ่งหลุดลอยเข้าไปทุกที ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาอ่านความคิดผมได้หรืออะไร แต่การกระทำต่อไปของพ่อผมคือคำตอบของคำถามนั้น
ภาพที่ผมพอจะเห็นก็คือร่างของพ่อผมกับบัลเดอร์กำลังเริ่มทับซ้อนกันเป็นร่างเดียว ก็ไม่ใช่ว่าพ่อผมยกเลิกการใช้อาภรณ์วิญญาณหรืออะไร แต่เพราะบัลเดอร์ได้มอบพลังทั้งหมดของเขาให้พ่อของผมแล้วนั่นเอง
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมผมรู้ได้ก็เพราะแรงกดดัน ออร่าคิที่พ่อผมปล่อยออกมาได้นั้นมันเพิ่มขึ้นมาถึงสองเท่าจากเดิม ออร่าแห่งแสงที่บัลเดอร์สาดส่องอยู่ก็หลั่งไหลออกมาจากร่างของพ่อผมด้วย
พ่อของผมที่ได้รับพลังและความสามารถของบัลเดอร์มาแล้ว ก็คงเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบกว่าสิ่งใดบนโลกแน่
จากนั้นเขาก็เอ่ยชื่อของเทคนิคหนึ่งออกมา
――มายาดาบเดียว ไทเคียวคุ (สังหารจ้าวเหนือฟ้าโลกา) โทริว (สยบมังกร)