ตอนที่ 337 : ไข่อสูรมิติ
หวังเย่าบนชั้นสองไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เขากลับแสดงท่าทีดีใจออกมา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ไข่บนเวที
ในสายตาคนอื่นแล้วมันอาจจะเป็นไข่ที่ดูลึกลับ แต่ในสายตาของหวังเย่าที่มีระบบเทพอสูรอยู่กับตัวแล้ว ข้อมูลทั้งหมดได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
ระดับหรือข้อมูลอื่น ๆ ได้บอกออกมาทั้งหมด
อาจจะกล่าวได้ว่าในห้องโถงแห่งนี้คนที่รู้จักไข่นี่ดีที่สุดก็คือหวังเย่า
พวกตระกูลชั้นนำ, สมาคมและสำนักต่าง ๆ ล้วนแต่ด้อยกว่าเขาทั้งหมด
การรู้ข้อมูลทำให้ได้เปรียบคนอื่น ๆ
นอกจากนี้การมีระบบอยู่ด้วยก็ทำให้เขาสามารถฟักมันออกมาได้
เมื่อมองดูข้อมูลของไข่นั้นหวังเย่าก็สับสนขึ้นมา
ทันทีที่ไข่ปรากฏขึ้นมาบนเวที หวังเย่าก็ใช้ระบบตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของมันทันที
****
ชื่อ : อสูรมิติ(ยังไม่ฟัก)
เลเวล : ยังไม่มี
ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง
ความสามารถพื้นฐานหลังฟัก มี 3 สกิล หนึ่งเดียวกับมิติ, ตัดมิติ, เคลื่อนย้ายมิติ
หนึ่งเดียวกับมิติ สามารถหลอมรวมตัวเองกับมิติได้ มองข้ามการโจมตีทุกประเภท (นอกจากการโจมตีที่ทำลายมิติได้และความแข็งแกร่งที่ต่างกันเกินไป)
ตัดมิติ ตัดมิติออกเป็นชิ้น ๆ ราวกับใบมีดมิติ หากสกิลเลเวลสูงสุดสามารถตัดทุกอย่างได้
เคลื่อนย้ายมิติ มันสามารถเดินทางผ่านมิติได้แต่ในช่วงเวลเวลต้น ๆ นั้นอาจจะไม่ไกลมาก เลเวลสูงสุดสามารถเดินทางได้หลายพันไมล์
****
เมื่อเห็นสกิลเหล่านั้น หวังเย่าก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที สกิลเหล่านี้คือสิ่งที่เขาต้องการ
อสูรมิตินี้เป็นสัตว์อสูรที่โดดเด่น
แค่ระดับของมันก็อยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงแล้ว สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่กิเลนไฟก็ยังไม่มีระดับที่สูงขนาดนี้
บางทีในอนาคตมันอาจจะขึ้นไปเหนือกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างระดับเทพก็ได้ สำหรับว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนนั้น หวังเย่าไม่อาจจะจินตนาการออก
ดังนั้นหวังเย่าจึงอยากได้ไข่นี่อย่างมาก สำหรับว่าจะฟักมันออกมาสำเร็จหรือไม่นั้น ตราบใดที่หวังเย่ามีเงินมากพอ งั้นเขาก็สามารถทำได้
น้ำยาวิวัฒนาการพันขวดและน้ำยาพลังอีกพันขวดรวมถึงผลเลือด, ผลจิตวิญญาณและผลมังกรรวมถึงทรัพยากรอื่น ๆ
ผลเลือดนั้นหวังเย่าได้มาจำนวนมาก เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่ามันจะหมด นอกจากนี้เขายังมีเงินที่จะหาซื้อของอื่น ๆ ได้อีก
ปัญหาหลักคือหวังเย่าต้องใช้เลือดตัวเองในการฟักมันเป็นระยะเวลา 3 วัน เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญในตอนนี้คือต้องคว้ามันมา คิดเรื่องอื่นในตอนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์
หวังเย่าส่ายหน้ากดความตื่นเต้นในใจก่อนจะมองไปที่เวที
จากนั้นเฉินเหล่าก็ได้พูดขึ้นต่อ “ฉันจะทำการประมูลไข่นี่ หวังว่าจะมีคนหาทางฟักมันได้สำเร็จ ต้องบอกก่อนว่าหากคนที่ได้มันไปสามารถฟักมันออกมาได้…หอสมบัติสวรรค์จะคืนเงินทั้งหมด ! เราจะไม่มีทางผิดคำพูด ! ”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ทุกคนต่างก็พากันอึ้ง
“อะไรนะ ? ! หอสมบัติสวรรค์คิดจะทำแบบนี้จริง ๆ หรือ ? ”
“ฟักมันออกมาได้สำเร็จจะคืนเงินทั้งหมด หอสมบัติสวรรค์เอาจริงรึไง ? ”
“ไข่นี่ฟักออกมาได้ยากแค่ไหนถึงกับทำให้หอสมบัติสวรรค์รับปากแบบนี้”
“ฉันคิดว่าคนที่ฟักมันได้สำเร็จคงไม่ต้องจ่ายเงินเลยสักนิดเพื่อจะได้ไข่นี่มา”
“นายพูดแบบที่ฉันคิดพอดีเลย ฉันเข้าประมูลด้วยดีมั้ย ? ถ้าฉันฟักมันออกมาได้สำเร็จล่ะ ? ”
“พี่ชาย นายไม่เห็นรึไงว่าผู้ดูแลที่หอสมบัติสวรรค์หามาก็ยังฟักมันออกมาไม่ได้ นายที่เป็นผู้ดูแลขั้น 1 คิดว่าจะทำได้รึไง ? ”
“ถึงจะวาดฝันไว้สวยแค่ไหนแต่ความจริงน่ะโหดร้าย นายไม่ต้องเศร้าไปหรอก”
“ฉัน…ฉันแค่พูดเฉย ๆ…”
…
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเหล่า ทุกคนก็แสดงสีหน้าอึ้งออกมาและฮือฮาไม่หยุด
คนบนชั้นสองและชั้นสามพากันตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน
“ดูเหมือนว่าหอสมบัติสวรรค์จะตัดสินใจมาดีแล้ว ฉันเดาว่าไข่นี่น่ะไม่ได้ฟักออกมาง่าย ๆ ไม่งั้นแล้วหอสมบัติสวรรค์คงไม่ตกลงแบบนี้” ฟางฉิงหัวพูดขึ้น
“ในความเห็นของฉันแล้ว หัวหน้าหอสมบัติสวรรค์นี่น่าสนใจจริง ๆ ยังไงซะพวกเขาคงไม่เชื่อว่าจะมีคนฟักมันออกมาได้สำเร็จ พวกเขาได้เรียกผู้ดูแลระดับสูงเป็นจำนวนมากมา แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ” เฉี่ยนเจินเฉียนในอีกห้องได้พูดขึ้นมา
ด้วยคำพูดของเขานั้น ทั้งฮวงเทียนเจวี๋ยน, จางจื้อเฉียงและไป๋พั่วหล้างค่อนข้างจะเห็นด้วย พวกเขาเองก็คิดเหมือนกับเฉี่ยนเจินเฉียน
“หากมีใครในโลกฟักมันออกมาได้สำเร็จ งั้นเขาก็คงเหนือกว่าผู้ดูแลทั้งหมด” ฟางฉิงหัวพูดขึ้นมา
บอกได้ว่าในหัวของเฉี่ยนเจินเฉียนมีเด็กคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา
“ไม่น่าจะเป็นไปได้…” เฉี่ยนเจินเฉียนพึมพำออกมาและมองลงไปที่ชั้นสอง
ที่เขาไม่รู้เลยก็คือคนในห้องนั้นกำลังตื่นเต้นอยู่
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเหล่า หวังเย่าที่กำลังกังวลว่าจะไม่มีเงินสู้กับคนอื่น ๆ ก็ไม่คิดเลยว่าหอสมบัติสวรรค์จะประกาศออกมาแบบนี้
หวังเย่าต้องขอบคุณ ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าราคามันจะสูงแค่ไหน ยังไงเขาก็ต้องเอามันมาให้ได้
เขาจะได้ไข่อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์โดยที่ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่นิดเดียว….
