เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เมืองหัวเซี่ยที่เห็นภายนอกหน้าต่างเริ่มเล็กลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเครื่องบินก็ขึ้นไปสู่ชั้นสตราโทสเฟียร์
เมื่อบินขึ้นมาบนท้องฟ้า หวังเย่าก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทีเหม่อลอย
การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ไม่มีเหตุฉุกเฉินอะไรระหว่างทางเหมือนครั้งที่หวังเย่ามาที่หัวเซี่ย สุดท้ายพวกเขาก็มาถึงที่ชานเมืองอรุณ
เมืองค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นฉากที่คุ้นตา หวังเย่าก็ถอนหายใจออกมา
นี่คือเมืองอรุณ เมืองเกิดของเขา
สุดท้ายเครื่องบินก็ได้ลงจอดที่สนามบิน ทั้งสองได้ลงจากเครื่องและมุ่งหน้าออกสนามบินทันที
“นี่คือเมืองอรุณ เมืองที่นายกับเมิ่งเอ๋อร์อยู่สินะ” หลังจากที่ออกจากสนามบินมาแล้ว ฟ่านฉิงเหมยก็มองไปรอบ ๆ ตัวแล้วพูดขึ้นมา
“ใช่ มันมีความทรงจำมากมายที่นี่” หวังเย่ายิ้มออกมาพร้อมกับนึกถึงบางอย่าง
“วันนี้ฉันจะพาเธอเที่ยวเอง” หวังเย่ามองไปที่ฟ่านฉิงเหมยแล้วพูดขึ้นมา
“ฉันเองก็อยากรู้ว่าที่ที่พวกนายเติบโตมามันเป็นยังไง” ฟ่านฉิงเหมยพยักหน้าตอบรับและมองไปที่หวังเย่า ในใจเธอรู้สึกอบอุ่นอย่างมาก
“งั้นก็ไปกันเถอะ” หวังเย่าพูดจบก็จับมือฟ่านฉิงเหมยแล้วเดินออกไป
…
ในวันนั้นหวังเย่าได้พาฟ่านฉิงเหมยไปทัวร์รอบ ๆ เมือง
ฟ่านฉิงเหมยยิ้มออกมาตลอดทั้งวัน นี่คือรอยยิ้มแห่งความสุขที่แท้จริงของเธอ
ในตอนเย็นพวกเขาได้จองโรงแรมเพื่อเข้าพัก ในตอนที่ฟ่านฉิงเหมยอาบน้ำอยู่นั้น หวังเย่าก็ได้โทรหาหลี่ว่านเฟิง
ทั้งสองตกลงกันว่าจะไปยังมิติภูเขาเขาวัวในวันพรุ่งนี้เพื่อทำการฟักไข่ผึ้งแปดปีกกว่าพันตัวให้กับหลี่ว่านเฟิงตามที่ตกลงกันไว้
เมื่อวางสาย เขาก็มองไปที่ห้องน้ำที่มีเงาสะท้อนร่างที่ดูสมบูรณ์แบบ หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่นพร้อมเลือดลมที่ร้อนขึ้นมา
เสียงอาบน้ำได้หยุดลงพร้อมกับฟ่านฉิงเหมยในผ้าเช็ดตัวที่เดินออกมา
ตัวของเธอยังมีไอร้อนลอยอออกมา ผิวของเธอดูขาวกระจ่างแดงระเรื่อ เมื่อเห็นฟ่านฉิงเหมยในสภาพนั้น หวังเย่าจะอดทนได้อย่างร เขารีบพุ่งเข้าหาฟ่านฉิงเหมยทันที
ทั้งสองนอนกอดก่ายกันบนเตียง หวังเย่าจูบฟ่านฉิงเหมยอย่างดูดดื่ม
“ฉันไม่รู้ว่าจะดีรึเปล่า” ฟ่านฉิงเหมยอ่อนระทวยกับจูบของหวังเย่า
ผ้าเช็ดตัวของเธอถูกโยนลงกับพื้นพร้อมกับเตียงที่สั่นกระเพื่อมไปมา
นี่คืออีกคืนที่พวกเขาต้องเหน็ดเหนื่อย
เช้าวันต่อมา หวังเย่าก็ตื่นขึ้นและอดไม่ได้ที่จะหาวออกมา
เมื่อเอื้อมมือไปข้าง ๆ ก็พบว่าฟ่านฉิงเหมยไม่อยู่ด้วยแล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน หวังเย่าก็แสดงสีหน้าพอใจออกมา
หลังจากที่ลุกขึ้นอาบน้ำแล้ว หวังเย่าก็ไปนั่งบนโซฟา ไม่นานฟ่านฉิงเหมยก็กลับมาพร้อมกับอาหารเช้าที่เธอเตรียมไว้
ทันใดนั้นฟ่านฉิงเหมยก็หน้าแดงก่ำ
เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะคึกขึ้นมาอีกรอบ
“อย่าคิดเลย เมื่อวานยังไม่พอใจรึไง” ฟ่านฉิงเหมยคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็หูแดงหน้าแดงขึ้นมา เธอไม่คิดว่าเธอจะทำมันลงไปได้
น่าอายแต่ก็ไม่อาจจะลืมได้…
“ฉันคิดว่าเธอเองก็ต้องการมัน” เมื่อได้ยินคำพูดของฟ่านฉิงเหมย หวังเย่าก็ยักคิ้วและพูดขึ้นมา
หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้กินข้าวเช้าด้วยกัน
ฟ่านฉิงเหมยมองค้อนมาที่หวังเย่า ก่อนจะกินข้าวเช้าที่เธอทำมา
“วันนี้ฉันจะไปที่มิติลับภูเขาเขาวัวกับลุงหลี่เพื่อฟักไข่ผึ้งแปดปีก เธออยากไปด้วยรึเปล่า หรือว่าอยากรอฉันอยู่ในเมือง” ในตอนที่ดื่มนมหลังอาหารนั้น หวังเย่าก็ได้หันไปถามฟ่านฉิงเหมย
“แน่นอนว่าต้องไปด้วย ได้ยินมาว่านายกับเมิ่งเอ๋อร์ได้ไปที่มิติลับภูเขาเขาวัวในตอนทดสอบ ฉันอยากเห็นว่ามันจะเป็นแบบไหน” ฟ่านฉิงเหมยพูดขึ้น
“ไม่มีปัญหา” หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปกับจ้าวเมิ่งซีแค่ 2 คน และยังเป็นการทดสอบของโรงเรียน แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี
หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จทั้งสองก็ได้ออกจากโรงแรมและมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองที่หลี่ว่านเฟิงรออยู่
“ลุงหลี่” ก่อนที่จะไปถึงประตู หวังเย่าก็ได้ตะโกนออกมา
“ลุงหลี่” ฟ่านฉิงเหมยเองก็ทำความเคารพหลี่ว่านเฟิงเช่นกัน
หลี่ว่านเฟิงไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่หวังเย่าด้วยสายตาแปลก ๆ แทน
หลี่ว่านเฟิง, จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยเคยพบกันมาก่อนแล้ว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะรู้จักกัน
หลี่ว่านเฟิงรู้ว่าฟ่านฉิงเหมยเป็นอะไรกับหวังเย่า
“มาถึงแล้วสินะ” หลี่ว่านเฟิงมองไปที่หวังเย่า “ไปกันเถอะ”
เมื่อพูดจบ หลี่ว่านเฟิงก็เดินขึ้นรถ ก่อนที่หวังเย่าและฟ่านฉิงเหมยจะขึ้นไปตาม
หลังจากนั้นรถก็ได้ขับออกจากเมืองโดยคนของหลี่ว่านเฟิงมุ่งหน้าไปที่มิติลับภูเขาเขาวัว
ด้วยความแข็งแกร่งของหลี่ว่านเฟิงแล้ว สัตว์อสูรรอบเมืองอรุณไม่ได้มีค่าในสายตาของเขามากนัก เพราะแบบนั้นเขาถึงกล้าขับรถออกมาแบบนี้
สำหรับว่าทำไมถึงไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ เพราะหลี่ว่านเฟิงบอกว่าไม่ได้ชมวิวด้านนอกมานานแล้ว
รถน่ะเดินทางได้ช้า แต่หวังเย่าไม่คิดจะทักท้วงอะไรออกมา เขาคิดว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่
“หวังเย่า กลุ่มทหารรับจ้างและบริษัทของนายเป็นยังไงบ้าง ? นายเจอปัญหาอะไรรึเปล่า ? ถ้ามีปัญหาอะไรนายก็บอกฉันมาได้เลย ฉันจะช่วยนายเอง” หลี่ว่านเฟิงถามขึ้นมา
“ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี มันไม่มีปัญหาอะไรในตอนนี้ ถ้ามีปัญหาอะไร ผมคงต้องรบกวนลุงหลี่อย่างแน่นอน” หวังเย่าหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่า เด็กน้อย นายนี่ยังไม่คิดเกรงใจใครเหมือนเดิมเลยนะ” หลี่ว่านเฟิงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น