ตอนที่ 372 : กลับเมืองหัวเซี่ย
วันต่อมา หวังเย่าก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับฟ่านฉิงเหมยที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ อืม…” ฟ่านฉิงเหมยลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองไปที่หวังเย่าที่ยิ้มให้กับเธออยู่ เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา
จากนั้นเธอก็ลดมือลงไปก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างแข็ง ๆ ด้านล่าง
“อื้อ ! ” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขามองไปที่ฟ่านฉิงเหมยโดยไม่มีท่าทีว่าจะยอมอ่อนข้อให้ จนทำให้ฟ่านฉิงเหมยอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา
ตอนนี้หวังเย่าไม่อาจจะอดใจไหวอีกต่อไปแล้ว ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เขาก็จับตัวเธอพลิกกลับก่อนจะกดหลังเธอไว้
ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดตั้งแต่เช้า
ตอนบ่ายทั้งสองก็ได้ลงมากินข้าวเที่ยง พร้อมกับหารือเรื่องบางอย่าง
แม้ว่าหวังเย่าจะไม่ได้หล่อเหลาแต่ก็ดูมีเสน่ห์อยู่ มันราวกับว่าเขามีแรงดึงดูดอยู่ในตัว
ส่วนผู้หญิงนั้นทั้งสวยและสง่า มันทำให้ผู้ชายหลายคนต้องหันกลับมามองที่เธอ
ต้องบอกว่าทั้งสองคนนั้นดูเหมาะสมกันอย่างมาก
ใบหน้าของฟ่านฉิงเหมยยังแดงก่ำอยู่ เธอนั่งกินข้าวตรงหน้าหวังเย่า แต่ไม่กล้ามองหน้าเขานัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้านี้ทั้งสองคนก็เล่นกันอยู่นานหลายชั่วโมง เธอไม่อยากยอมรับว่าเธอก็รู้สึกสนุกไปกับมัน
ส่วนหวังเย่าเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขายังกินข้าวได้ตามสบาย
ผ่านไปสักพักทั้งสองก็กลับไปที่ห้องพักของตัวเองเพื่อขึ้นไปเก็บของก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปที่สนามบิน
วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะเดินทางกลับเมืองหัวเซี่ย
ไม่นานหลังจากนั้นทั้งสองก็มาถึงสนามบิน
หลังจากที่ตรวจสอบสัมภาระเสร็จสิ้น พวกเขาก็นั่งรอกว่า 10 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเครื่อง
ครั้งนี้ทั้งสองยังคงนั่งที่นั่งเฟิร์สคลาสเหมือนเดิม
จนผ่านไปสักพักเครื่องบินก็บินขึ้นมาถึงชั้นสตราโทสเฟียร์ก่อนจะมุ่งหน้าไปตามเส้นทางของมัน
หวังเย่ามองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับคิดถึงบางอย่าง
ฟ่านฉิงเหมยที่นั่งข้าง ๆ เห็นแบบนั้นก็ไม่คิดจะรบกวน เธอเองก็มองออกไปด้านนอกเช่นกัน ฉากด้านนอกนั้นคือฉากที่งดงามยากจะเห็นได้
…
ระหว่างทางพวกเขาไม่ได้เจอกับอุบัติเหตุที่เป็นอันตรายใด ๆ สุดท้ายเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินของเมืองหัวเซี่ย
หวังเย่าลงจากเครื่องพร้อมกับฟ่านฉิงเหมย แต่เธอบอกว่ามีเรื่องต้องไปจัดการที่มหาวิทยาลัยและได้แยกตัวออกไป
เพราะถึงอย่างไร เธอก็ต่างจากหวังเย่า เธอเรียนอยู่ และยังเรียนไม่จบเหมือนหวังเย่า
เมื่อเห็นฟ่านฉิงเหมยแยกตัวออกไป หวังเย่าก็ได้เอามอเตอร์ไซค์ออกมาก่อนจะมุ่งหน้าไปที่บริษัท
ผ่านไปสักพัก หวังเย่าก็ไปที่บริษัทเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ เมื่อพบว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมา
เขาพบว่าจ้าวเมิ่งซีไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย ดูเหมือนเธอจะไปที่ที่พักของกลุ่มทหารรับจ้าง ดังนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที
ไม่นานหลังจากนั้นหวังเย่าก็มาถึงพักของกลุ่มทหารรับจ้าง
“หัวหน้ากลับมาแล้ว ! ”
“หัวหน้ากลับมาแล้ว ! ”
ทันทีที่เขาปรากฏตัวก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาไม่หยุด
“หัวหน้า ! ”
“อาเย่า ! ”
แทบจะในทันทีก็มีเสียงของลัวจ้าวฮว่าและโจวอวิ๋นดังขึ้นมา พวกนั้นรีบวิ่งเข้ามาหาเขาราวกับหมาที่เจอเจ้าของ
“การฝึกฝนของพวกนายเป็นยังไงบ้าง ? ” หวังเย่ามองไปรอบ ๆ แล้วยิ้มออกมา
“แน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วงหัวหน้า พวกเราฝึกฝนกันอย่างหนักเชียวล่ะ”
“ใช่ ” ทุกคนตอบกลับเป็นเสียงเดียวกัน
“งั้นหรือ ? ” หวังเย่าพูดขึ้น “งั้นฉันขอทดสอบพวกนายหน่อยละกัน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันเงียบและรีบวิ่งหนีออกไปทันที
มันไม่ยากเลยที่จะเดาว่าการทดสอบของหวังเย่านั้นน่ากลัวแค่ไหน
“พวกนายนี่…” หวังเย่าส่ายหน้าก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
จ้าวเมิ่งซีก็อยู่ในห้องด้วย
เพราะได้คุยกับฟ่านฉิงเหมยมา จ้าวเมิ่งซีจึงรู้ว่าหวังเย่ากลับมาแล้ว
“เธอมารอฉันหรือ ? ” หวังเย่าเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะถามขึ้นมา
“พี่ฉิงเหมยไปไหน ? ” จ้างเมิ่งซีไม่ได้สนใจคำถามของหวังเย่า แต่กลับถามขึ้นมาแทน
“เธอบอกว่าจะไปที่มหาวิทยาลัย” หวังเย่าตอบกลับ
“งั้นหรือ” จ้าวเมิ่งซีไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อีก “นายกับพี่ฉิงเหมยไปเมืองอรุณแล้วเป็นยังไงกันบ้าง ? ” จ้าวเมิ่งซีถามขึ้นมา
“ก็ดีนะ ฉิงเหมยมีความสุขดี” หวังเย่าตอบกลับก่อนจะแอบมองไปที่จ้าวเมิ่งซี เพราะกลัวว่าเธอจะโกรธ
“งั้นก็ดีแล้ว ฉันเสียดายที่ไม่ได้ไปกับนายด้วย นายไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกรธหรอก ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” จ้าวเมิ่งซีเหมือนจะรู้ว่าหวังเย่าคิดอะไรอยู่จึงยิ้มออกมา
หวังเย่าโล่งอกเมื่อได้ยินแบบนั้น
แต่หลังจากที่หัวเราะแล้ว จ้าวเมิ่งซีก็มองไปที่หวังเย่าพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มแปลกๆ “ ฉันได้ยินมาว่านายไปหาพ่อฉัน ? ”
“เอ่อ…”