ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ – ตอนที่ 32 ผู้กล้าคนก่อนถูกสังเกตการณ์

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ ว้าว ว ว ]

 

สิ่งที่ปรากฏทอดยาวต่อสายตาของผมตอนนี้คือสิ่งก่อสร้างของโรงเรียนเวทย์มนตร์ Lizwadia และหอนาฬิกาขนาดยัก ที่นี่คือสถานศึกษาของเหล่าผู้ใช้เวทย์มนตร์ที่โดดเด่นที่สุดในโลกรูนเบิร์กแห่งนี้ 

ผมได้ยินมาว่าสิ่งก่อสร้างกว่าครึ่งของเมืองนั้นเกี่ยวข้องกับทางโรงเรียน

แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ แค่ตัวโรงเรียนเองอย่างเดียวก็ใหญ่โครตๆแล้วล่ะนะ

 

[ ยาชิโระซัง ทางที่ครับ . ]

[คะ- ครับ ]

 

ชายรูปร่างผอมสูง ใบหน้าของเขานั้นดูราวกับว่าเขาพร้อมจะตายอยู่ทุกนาที ตอนนี้กำลังกวักมือเรียกผมให้มุ่งตรงไปทางหอนาฬิกา

สำหรับชายที่กวักมือเรียกผมนั้น เพราะเหตุผลบางอย่าง ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่กวักมือเรียกผมอยู่นั้นคือยมภูติรึปล่าว

และถ้าหากคุณสงสัยว่าผมมาที่โรงเรียนทำไม . .  . . 

มันไม่ใช่เพราะผมต้องการมาดูสาวๆในชุดเครื่องแบบนักเรียนหรอกนะ 

ผมมาด้วยเหตุผลอื่นต่างหาก

เหตุผลที่ผมมาที่โรงเรียนก็เพราะ . . .

ผมมาเป็นอาจารย์ชั่วคราวน่ะสิ . . .

 

___________

 

จอมเขมือบเบอร์นาเดส หลังจากที่เธอทานอาหารไปปริมาณมากกว่า 30 คนนั้นเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าฉายาของเธอไม่ใช่เรื่องโกหก และหลังจากนั้นไม่นานนั้นผมก็ถูกตาลุงเรียกเชคบิลเป็นเงินกว่า 300,000 f ( ราว สองล้านเยนได้ ) และในเวลาเดียวกัน ลูกค้าภายในร้านก็กำลังวุ่นวายจ่ายเงินกัน เพราะพวกเขาตั้งโต๊ะพนันกันว่าเบอร์นาเดสนั้นจะทานได้มากขนาดไหน

 

[ เฮ้ตาลุง ]

[ มีอะไร ข้ากำลังยุ่งมากๆตอนนี้ ]

 

ตาลุงตอนนี้กำลังวุ่นวายกับทำอาหารและนำอาหารที่เสร็จแล้วให้บ๋อยซึ่งก็คือผมนำไปเสริฟแก่ลูกค้าภายในร้าน

 

[ ตาลุงผิวขาวซีดที่มานั่งก๊งเหล้าตั้งแต่เที่ยงเป็นใครกัน ดูเหมือนเขาจะเพิ่งประสบเรื่องโชคร้ายมาเลยแหะ ]

 

ใช่แล้ว เพราะบรรยากาศรอบๆตัวเขานั้นราวกับว่าเขาพร้อมที่จะฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลา หลังจากกระดกแก้วเหล้าสุดท้าย เหมือนเขาจะบ่นพึมพัม มันดูราวกับว่าเขากำลังร่ายคำสาปใส่อะไรบางอย่าง และความรู้สึกมืดมนที่ปล่อยออกมานั้น มันทำให้ผมรู้สึกเห็นใจ

 

[ ข้าว่าถ้าเป็นเรื่องโชคร้ายล่ะก็คงไม่มีใครเกินแกหรอกนะ ยู ]

[ เงียบน่า . . . . เดี่ยวนะ เขาดูไม่เหมือนนักเดินทาง– ]

 

เพราะว่าเขาสวมผ้าคลุมที่เหมือนกับทางโรงเรียน หรือเขาคนนี้อาจจะเป็นอาจารย์ . . 

ไม่สิ อาจารย์ที่ไหน จะมาก้งเหล้าตั้งแต่เที่ยงกัน นี่มันแปลกเกินไปแล้ว

 

[ รึว่าเขาพึ่งจะโดนไล่ออกจากการเป็นอาจารย์ ? ]

[ ปล่าว ตรงกันข้ามเลย เขาเป็นบุคลากรสำคัญของทางโรงเรียนเลยล่ะ ]

[ อ้อออ ]

 

อ่าา ทำไมคนสำคัญของโรงเรียนถึงกลายมาเป็นไอ้มืดมนไม่ได้เรื่องแบบนี้กันนะ

 

[ . . . มีเรื่องหนึ่งที่ข้าสงสัย ยู นายยังพูดภาษาอเล็กซีเรียได้อยู่รึปล่าว ]

[ หาา ? พูดอะไรออกมาน่ะ ผมคนนี้ถูกสอนมาโดยอลิเซียและใช้มันด่ากับลุุงบ่อยๆจนจำได้ขึ้นใจแล้วนะ ]

 

ภาษาอเล็กซีเรียนั้นถูกใช้กันมากในหมู่พวกเอลฟ์ เมื่อเทียบกับภาษาอิสเรียวโบราณนั้นใช้พลังของภูติเพื่อให้เวทย์มนตร์ทำงาน ส่วนภาษาอเล็กซีเรียนั้นเพียงแค่ยืมพลังของภูติ เหล่าเอลฟ์นั้นเป็นมิตรกับธรรมชาติพวกเขาจะทำเพียงยืมพลังของเหล่าภูติเท่านั้นเพื่อใช้เวทย์มนตร์

ภาษาทั้งสองนั้นมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ในปัจจุบันนั้น ทั้งสองภาษาก็ไม่ได้เป็นที่นิยมนัก นั้นก็เพราะมีภาษาอิสเรียวสมัยใหม่ มันถูกประยุคมาจากภาษาอิสเรียวโบราณ และถูกใช้อย่างกว้างขวางในโลกเวทย์มนตร์แห่งนี้ เพราะภาษาอิสเรียวสมัยใหม่นั้นใช้ได้ทั้งในคำร่ายเวทย์มนตร์ และคำพูดในชีวิตธรรมดา

ดังนั้นภาษาอเล็กซีเรียจึงใช้ในหมู่ของพวกเอลฟ์เท่านั้น

 

[[ แกลองพูดอะไรในภาษาอเล็กซีเรียหน่อยซิ ]]

[[ หา ?? . . . . มารีด้าซังเป็นที่รักของผม ]]

[[ อ้าวไอ้เวร แกอยากตายซักรอบสินะ ]]

[[ เดี่ยวๆ ลุงบอกให้ผมลองพูดอะไรดูก็ได้เองนะ ]]

 

เพราะตาลุงที่ทำท่าทางเหมือนจะอัดผม ทำให้ผมแทบจะก้มหัวขอโทษแทบไม่ทัน

พอมาคิดๆเรื่องในอดีตแล้วมันช่างน่าคิดถึงจริงๆ

ขณะที่ผมกำลังรำลึกเรื่องในอดีตอยู่นั้น จู่ๆไหล่ของผมก็ถูกจับจากทางด้านหลัง

เดี่ยวนะ ตาลุงก็คุยกับผมอยู่ด้านหน้า? แล้วใครกัน. . .

 

[[ ผมขอพูดอะไรสักนิดได้มั้ยครับ ]]

[ แว๊กกกกกกกกก ??? ]

 

เมื่อผมหันกลับไปผมก็พบกับชายใบหน้าเหมือนผีที่หลุดมาจากหนังสยองขวัญ r 18 

 

[ ใจเย็นก่อน !!  เขาคือตาลุงมืดมนที่นั่งดื่มเหล้าตะกี้ไง ]

[ คะ- คือว่า ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ตกใจ พอดีผมบังเอิญได้ยินเรื่องที่คุณทั้งสองได้คุยกัน อ่า ใช่ ผมทำงานเป็นอาจารย์สอนที่ Lizwadia ผมชื่อว่า Leizelido Dotorage’ ]

 

ชายที่เหมือนผีคนนี้เรียกตัวเองว่า เรย์ซีลิโด้ โดโตเรกเก้(TL//อ่านงี้มั้ง) และยื่นนามบัตรมาให้กับผม

 

[ อ่า ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผม ยู ยาชิโระ ผมเป็นนักผจญภัยและ—– ]

 

ปัง ปัง !!!

 

[ ชะ- ดิฉันขอโทษจริงๆค่ะ ยาชิโระซัง ! ดิฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงหัวคุณเลยนะคะ ยาชิโระซังไม่บาดเจ็บตรงไหนนะคะ ]

[ ยัยบ้าเอ้ยย หัวผมเกือบจะโดนเป่ากระจุยอีกแล้ว ]

 

ผมหมอบแทบจะในทันทีที่เบอร์นาเดสยิงมา ทำให้ลูกปืนยิงถูกจานที่อยู่บนถาดในมือผม และพาสต้าเหล่านั้นกระจายอยู่ทั่วหัวผมในขณะนี้

—– ยัยบ๊องนี่ที่มีภาพลักษณ์ ประมานว่าเป็นหญิงสาวผู้มีเมตตา

แต่!! สำหรับผมแล้ว มันช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ 

ยัยนี่เป็นตัวปัญหาระดับ หกดาบขุนพลเลยล่ะ

ขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะลงโทษยัยนี่ยังไงดี ลุงที่เหมือนผี โดโต้ซัง ได้เดินเข้าไปหาเบอร์นาเดส ผู้เขมือบอาหารสำหรับ 37 ที่เข้าไปแล้ว และเป็นผู้สร้างหอคอยจานขนาดยักสูง 37 ชั้น

 

[ โฮ นั้นมัน ปืนเวทย์มนตร์ [[ kerykeion ]]  ไม่สิดูเหมือนว่าเธอจะปรับแต่งมันเป็นพิเศษซินะ ]

 

โดโต้ซังหยิบแว่นตาขึ้นมาสวม แต่ก็นะ ก็ยังเหมือนผีอยู่ดี . . .

 

[ โฮ คุณช่างมีสายตาที่แหลมคมจริงๆนะคะ เด็กนี่มีชื่อว่า [[ Failnaught ]] ได้โปรดอย่าจำสับสนอีกครั้งด้วยค่ะ ]

[ ยัยบ้า ก่อนหน้านี้เธอยังบอกว่าชื่อ misteltein อยู่เลย !! ]

[ คุณพูดอะไรกันคะยาชิโระซัง ดูนะคะ นี่คือ Failnaught มันเป็นรุ่นที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำและเพิ่มระยะการยิง และอีกอันคือ Misteltein มันคือรุ่นที่ถูกปรับแต่งเพื่อเพิ่มพลังการทำลาย  ฟุฟุ ไงล้าา~ ดิฉันบอกแล้วว่าไม่ได้โกหก มันไม่มีทางที่ซิสเตอร์คนนี้ผู้เป็นถึงสาวกของพระเจ้าจะพูดโกหกได้หรอกนะคะ ยาชิโระซัง ]

[ แต่เธอก็ยังเป็นซิสเตอร์เถื่อนที่ไล่ยิงชาวบ้านโดยไม่ยืนยันให้ถูกตัวก่อนอยู่ดีนั้นและ ]

(TL// ก็ไล่ยิงถูกคนแล้ว !!)

[ หมายความว่าอย่างไรกัน ดิฉันรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก—– ]

 

_________

 

อืม มันก็จริงอย่างที่เบอร์นาเดสว่ามานั้นแหละ ปืนทั้งสองที่เบอร์นาเดสนำออกมานั้นแตกต่างกันจริงๆ และปืนทั้ง 2 นั้นก็แตกต่างจากที่ผมเคยออกแบบไว้

ปืนทั้งสองนั้นเป็นแบบลูกโม่

ปืนเวทย์มนตร์ที่ผมเคยออกแบบไว้เมื่อ 3 ปีก่อนนั้นมันคล้ายๆกับปืนออโตเมติกในปัจจุบัน แต่มันติดปัญหาจริงที่ถ้าหากต้องการจะยิงรัวแบบปืนกลนั้น มันจะต้องใช้พลังเวทย์มนตร์อย่างมหาศาล

แต่สำหรับปืน2กระบอกนี้ มันค่อนข้างเล็กกว่ามาก ควรจะเรียกว่าปืนพกมากกว่ามั้งนะ

 

[ ยา- . . . . ยาชิโระซังคะ ?? ]

 

อันดับแรก ปืนเวทย์มนตร์นั้นมันไม่ได้ยิงกระสูนแบบเดียวกับปืนในปัจจุบันหรอกนะ จะต้องส่งพลังเวทให้กับกระสุนเวทย์มนตร์เพื่อให้มันจุดระเบิดและยิงออกไป หรือใช้ลูกปืนที่แกะสลักอักษรรูนลงไปเท่านั้น

ข้อดีของการใช้ปืนเวทย์มนตร์มี 2 ข้อใหญ่ๆด้วยกัน คือ 1 เรื่องความแม่นยำในวิถีเส้นตรง ยกตัวอย่างเช่น เวทย์มนตร์ระดับต่ำ [[ Fireball ]] มันเป็นเวทย์มนตร์ที่ยิงลูกไฟออกไปยังจุดที่เราเล็งไว้ ไม่ใช้แค่เวทย์ [[Fireball ]] เท่านั้น เวทย์สำหรับยิงประเภทอื่นๆ ผู้ใช้จำเป็นต้องฝึกฝนเพื่อความแม่นยำด้วย

 

[ นี่ๆ ยาชิโระซัง คะ ?? . . . ยา-ชิ-โระ-ซัง-คะ คุณได้ฟังที่ดิฉันพูดรึปล่าวคะเนี้ย ]

 

แน่นอนการที่คุณจะยิงเวทย์มนตร์ได้อย่างแม่นยำ จำเป็นจะต้องฝึกฝนอย่างมากจึงจะเชี่ยวชาญได้ เพราะอย่างงั้น ปืนเวทย์มนตร์จึงเป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าหากเป้าหมายอยู่ในทางตรง เพราะเราก็แค่เล่งเป้าให้ตรงกับเส้นทางการยิงเท่านั้น ดังนั้นปืนเวทย์มนตร์จึงมีความแม่นยำกว่ามาก แล้วปืนเวทย์มนตร์จะใช้ได้ดีถ้าหากเป็นการต่อสู้ที่ต้องการความรวดเร็วหรือเป้ายิงนั้นมีขนาดใหญ่มาก การยิงกระสุนเวทน์มนตร์โดยกำหนดจุดยิงนั้นคงไม่จำเป็นนัก

 

[ ดูนี่สิ !! ยาชิโระซัง นี่ไงอปไปไงคะ !!! ฟุฟุ ดิฉันได้ยินมาจากคุณมารีด้าซัง ดูเหมือนว่า ยาชิโระซังจะเป็นปีศาจราคะผู้คลั่งไคล้หนองโพยัก ใช่ม๊า~  . . . ถ้า- ถ้าหากยาชิโระหยุดเมินดิฉันล่ะก็. .ดิฉันจะให้ดูมันได้นิดหน่อย. . . ไม่สิ ดิฉันอนุญาตให้ยาชิโระซังสัมผัสมันก็ได้นะคะ . . .อร้ายยย ~ สำหรับซิสเตอร์ของผู้คนพูดออกมาได้ว่าให้จับมันได้นั้น มันช่างน่าอายจริงๆ ]

 

และเหตุผลที่ 2 ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้ในระยะประชิด แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นนกและลั่นไก เพราะอุปกรณ์ทำงานโดยใช้เวทย์มนตร์เป็นตัวกระตุ้นการทำงาน

จากเหตุผลที่ว่ามา 2 ข้อนี้ กล่าวได้ว่าปืนเวทย์มนตร์นั้นเป็นอุปกรณ์ปฏิวัติการต่อสู้ของเหล่าจอมเวทย์เลยก็ว่าได้ โดยเหล่าจอมเวทย์เปรียบเสมือนกลายเป็นถ่านไฟฉาย(แค่จ่ายพลังเวทย์ให้กับปืนก็พอ) เพราะเหล่าจอมเวทย์นั้นมีจุดอ่อนที่สำคัญคือพวกเขาต้องการระยะห่างและต้องใช้สมาธิอย่างสูงในการร่ายคาถา  และที่สำคัญถ้าหากโดนเข้ามาในระยะประชิดก็จะทำให้โดนลูกหลงจากเวทย์ที่ตัวเองร่ายด้วย แถมถ้าโดนโจมตีเวทน์มนตร์ก็จะไม่ทำงานอีก

ดังนั้นปืนเวทย์มนตร์นี้สามารถกลบจุดอ่อนของเหล่าจอมเวทย์ได้อย่างหมดจด

อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีปัญหาใหญ่อยู่

อย่างแรกเลย อักขระเวทย์ที่สลักลงบนกระสุนนั้นเป็นแบบที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว และนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องสลักอักขระเวทย์ลงบนกระสุนและการที่จะให้มันทำงานนั้นมันจะต้องใช้เหล็กแบบพิเศษ เหล็กที่นำมาใช้นั้นเป็นเหล็กที่นำกระแสพลังเวทย์ได้ดี และปัญหามันอยู่ที่เหล็กแบบพิเศษ เพราะมันนำกระแสพลังเวทย์ได้ดีจนเกินไป ทำให้มันเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว หลังจากยิงออกไปครั้งเดียวผลของอัขระที่สลักไว้ก็จะหายไป

ถึงแม้เหล็กพวกนี้จะหาได้ไม่ยากนัก แต่กว่าจะทำได้นัดนึงนั้นมันใช้เวลาอย่างมาก และนั้นมันทำให้แต่ละนัดแพงโครตๆ

อีกอย่าง เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับยิง ดังนั้นมันคงไม่เหมาะนักถ้าหากจะใช้มันโจมตีสำหรับพื้นที่กว้าง เพราะมันจะไร้ประโยชน์ทันทีถ้าหากยิงไม่โดน ดังนั้นมันจึงถูกใช้สำหรับยิงและเสียกระสุนไปอย่างปล่าวประโยชน์ 

ดังนั้นอุปกรณ์นี้จึงมีจุดบกพร่องอยู่มากมาย และข้อเสียเหล่านี้มันก็มากเกินกว่าข้อดีของมัน ดังนั้นผมจึงยอมแพ้ที่จะพัฒนามันต่อไป

และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมปืนเหล่านี้มาอยู่ในรูปแบบลูกโม่

 

[ . . . ยาชิโระซัง T T คะ. .ดิฉันจะร้องให้แล้วนะ ฮือๆ เพราะยาชิโระซังกำลังเมินดิฉันอยู่ มันทำให้ดิฉันเสียใจมากจนน้ำตาไหลไม่หยุดเลยนะคะ ]

 

—-อืมม ทำไมเขาถึงลดจำนวนกระสุนที่บรรจุได้กับความเร็วในการยิงแต่ละนัดลง? กระสุนที่ใช้ก็เป็นแบบเดิมหรือเขาจะมุ่งเน้นไปทางด้านอื่น? 

ไม่สิ นี่มัน!! ถึงแม้จะเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีเข้าไปมันก็มีแต่จะทำให้แย่ลง ดังนั้นเขาจึงลด จำนวนกระสุนและความเร็วในการยิงลงเพื่อมุ่งเน้นไปด้านความแม่นยำในการยิงมากขึ้น !!! 

ถ้าหากเป็นแบบลูกโม่แล้วล่ะก็ จำนวนกระสุนที่ใช้ก็จะลดลงตามไปด้วย แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนที่เกิดจากการยิงต่อเนื่อง

ตอนนี้ผมได้เข้าใจเหตุผลล่ะ ถึงแม้มันจะถูกสร้างให้มีประสิทธิภาพต่ำกว่าสิ่งที่ผมเคยออกแบบไว้ แต่เมื่อจอมเวทย์นำไปใช้มันกับทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

. . .คนที่สร้างมันขึ้นมาไม่ใช่เขาเป็นอัจฉริยะหรอกหรือ

 

[ . . . กระซิก . .นมดิฉันมันต่างจากคุณมารีด้าซังตรงไหนกันคะ กระซิก . . ทั้งๆที่ขนาดก็เท่าๆกันแท้ๆ . .ที่สำคัญของดิฉันออกจะเต่งตึง . .ของคุณมารีด้าซังน่ะย่อนยานแล้—–]

[ ห้ะ !!! เรื่องนมคุณมารีด้า !! นมคุณมารีด้าน่ะ!! เยี่ยมที่สุดแล้ว !! ถึงนมของเธอจะรูปทรงเยี่ยมเหมือนกันแต่มันดันมาอยู่บนซิสเตอร์ที่น่าผิดหวังแบบนี้ . .มันช่างเสียของจริง]

[ กรุณาอย่าต่อว่าคนอื่นหลังจากที่พึ่งจะเลิกเมินกันสิคะ !!!! ถึงแม้ คุณจะชื่นชมหนองโพดิฉันก็เถอะ ]

[ แน่นอน ผมพูดจริงๆนะ หนองโพของพวกเธอช่างสวยงามจริงๆ ที่สำคัญ เบอร์นาเดส เธอนำมันสักอันออกมาให้ผมดูหน่อยได้รึปล่าว . .]

[ Misteltein กับ Failnaught ใช่มั้ยคะ. . . อุเฮะ อุเฮะ ดิฉันไม่ให้ยาชิโระซังจอมบื้อดูหรอกค่ะ. .แต่ถ้า- ยาชิโระซังไม่เมินดิฉันอีกแล้วล่ะก็  . .อร้าาา อะนี่ โปรดดูแลมันด้วยค่ะ]

 

. . . . ยัยนี่ช่างหนวกหูจริง

ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมไม่รู้สึกผิดเวลาที่ผมหลงดูถูกคู่ต่อสู้ของผมเลยซักครั้ง . . .

นี่เป็นครั้งแรกเลย ที่ผมจะดูถูกเธอคนนี้ . . 

แต่มันกลับทำให้ผมแอบอารมณ์ดีเล็กๆ

 

[ . . .เหมือนกับที่ผมคิดไว้เลย ปืนลูกโม่นี้ !! ยอมทิ้งความเร็วในการยิงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแต่ละนัดให้มากขึ้น . ลำกล้องปืนพอมาดูชัดๆ มันยาวกว่าที่ผมคิดไว้ตอนแรกซะอีก . . . แล้วทำไมต้องเพิ่มความยาวและอัตราเร่งของกระสุนเวทย์มนตร์ หรือว่านี่ทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น ?? ]

[ เข้าสู่โหมดเมินกันอีกแล้วสินะคะ . . . ฮึบบ !” ]

[ เอ๋ เฮ้ !!! เอากลับมานะ ผมกำลังอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์มันอยู่นะ !! ]

[ ทำไมล่ะคะ แต่เดิมก็มันเป็นของดิฉันอยู่แล้วคะ ]

 

เฮ้อ . . ผมเผลอเมินเธออีกครั้ง และนั้นมันทำให้ที่เธองอนแหะ ช่างเถอะ ยังไงซะผมก็เข้าใจองค์ประกอบของปืนเวทย์มนตร์นี้เกือบทั้งหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม คนที่ออกแบบปืนนี้ช่างสุดยอดมาก นี่คือสิ่งที่ผมคิด เขาออกแบบมันโดยอิงกับการไปใช้งานจริงซึ่งต่างจากผมที่พยายามจะสร้างมันจากความรู้ของโลกเดิมเท่านั้น

ถึงแม้ความจริงที่มันยังคงมีราคาที่สูงมาก แต่มันก็สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้จริง แค่นี้มันก็สุดยอดแล้ว ผมอยากพบคนสร้างพวกนี้สักครั้งจัง . . . .

 

[ คิดไว้แล้วไม่มีผิด คงมีแต่นายที่ทำมันได้ ]

[ ว๊ากกกกกกกกก !! ]

 

ขณะที่ผมกำลังชื่นชมผู้สร้างเจ้าสิ่งนี้อยู่ในใจ ไหล่ของผมก็ถูกจับ ผมจึงหันกลับไป พบกับ . . .  โดโต้ซัง !!!!

 

 [ ได้โปรดอย่าทำให้ผมตกใจตลอดเวลาที่เราจะคุยกันสักที . . .ผมไม่ค่อยชอบเรื่องสยองขวัญเท่าไรหรอกนะ !! ]

[ ผมขอโทษจริงๆ  . .อืม นายชื่อ ยู ยาชิโระ สินะครับ ]

[ ครับ ผม ยู ยาชิโระ และเรื่อง —- เดี่ยวนะ คิดว่าผมจะปล่อยให้เธอทำแบบเดิมอีกรอบเรอะ !! ]

[ งับ !? ]

 

และอีกครั้ง เมื่อผมประกาศชื่อของตัวเองออกไป ปากกระบอกปืนของเบอร์นาเดสก็ชี้มาทางผม ผมจึงโต้กลับด้วยการขว้างก้อนแฮมขนาดเกือบ 1 กิโลเข้าไปที่ปากเธอ และนั้นมันทำให้เธอตกใจมาก แต่เมื่อเธอได้ลิ้มรสของแฮมแสนอร่อยนั้นแล้วเธอก็ลดปืนลง

. . .ถึงแม้ มันจะผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันเลยตั้งแต่ผมได้พบกับเธอ ในที่สุดผมก็ค้นพบวิธีต่อกรกับเธอสักที 

 

[ เอาล่ะ อะไรหรือครับที่คุณบอกว่ามีแค่ผมเท่านั้นที่สามารถทำได้ ? ]

[ อ้อเรื่องนั้น คือว่า ผมอยากขอให้คุณช่วยมาเป็นผู้บรรยายพิเศษของทางโรงเรียน Lizwadia ได้รึปล่าวครับ ]

[. . . . ขอโทษนะครับ ช่วยพูดใหม่อีกครั้งทีครับ . .] 

 

___________

 

และแล้ว ก็วนมาถึงตอนต้น

ขณะนี้ พวกเรากำลังเข้าไปยังหอนาฬิกา พวกเราก็พบกับห้องโถงขนาดใหญ่ ใต้เท้าของพวกเราเป็นหินที่ดูเหมือนกับหินอ่อน มันสวยงามและมันเงาน่าสัมผัส ที่เพดานเองก็สูงจนสามารถนำมังกรมาบินเล่นในห้องนี้ยังได้เลย

ที่ตรงกลางของห้องนั้น ผมก็พบกับเสาหินขนาดใหญ่มันตั้งค้ำจุนราวกับว่ามันค้ำไปถึงสรวงสวรรค์

และที่ใกล้ๆกับโคนของเสาหินนั้น มีโต๊ะของพนักงานต้อนรับตั้งอยู่ และตัวของพนักงานต้อนรับเองก็กำลังเขียนเอกสารบางอย่างด้วยปากกาขนนกของเธอ

 

[ ว้าวว นี่มันสุดยอดมากๆเลยนะคะ ใครจะไปคิดว่าสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการศึกษา แม้แต่ยิ่งใหญ่ของทางปราสาทหรือโบสถ์ ก็ไม่อาจเทียบได้เลยนะคะ ]

[ . . . . .แล้วเธอจะตามมาด้วยทำไมเนี้ยย ? ? ? ? ]

 

ผมได้ยินคำกล่าวชื่นชมหอนาฬิกาแห่งนี้ จริงๆผมก็จะไม่คิดอะไรมากหรอกถ้าหากคำพูดเหล่านั้นไม่ได้มาจากเบอร์นาเดสที่ตามผมมาด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

[ คุณหมายความว่าอะไรกันคะ ยาชิโระซัง  .เอ่อ ก็ ดิฉันได้รับคำสั่งมาจากพระเจ้าให้มาจับตาดูคุณ  และเพื่อปกป้องเหล่าเด็กนักเรียนจากมือปีศาจจอมฉวยโอกาสของคุณไงล่ะคะ ]  

 

ถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังเข้าใจผิดคิดว่าผมนั้นเป็นคนละคนกับ ยู ยาชิโระ ที่เป็นผู้กล้าคนก่อน แต่ผมก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี ว่ายัยนี่ตามผมมาทำไมกัน . . . .

 

[ ขอเหตุผลจริงๆ ? ? ]

[ ยาชิโระซัง ดิฉันอยากจะทานของหวานค่ะ ]

[ เธอกล้าพูดคำนั้นออกมาได้ยังไงกันฟร้ะ !!! ที่เธอกินไปเมื่อตะกี้มันยังไม่พออีกเรอะ !!! ]

 

แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมนึกว่าเธอจะอิ่มแล้วหลังจากทานอาหารเที่ยงปริมาณเท่ากับคน 40 ทาน แต่นั้นผมคิดผิด ดูเหมือนว่าเธอจะเก็บท้องไว้ทานของหวานอยู่

 

[ เฮ้อออ ก็ได้ๆ หลังจากเสร็จเรื่องนี้ก่อนละกัน ตกลงนะ ]

[ จริงนะคะ !!!! คุณสัญญาแล้วนะคะ!!” สาบานต่อพระเจ้าแล้วนะคะ!!! ห้ามผิดคำพูดนะคะ !!! —– ]

[ อ๊ากกกกก เงียบบบ !! ถ้าเธอยังไม่หุบปากล่ะก็ ผมจะไม่พาไปกินของหวานแล้วนะ !!! ]

[ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .]

 

ยัยนี่มัน . . . 

ช่างควบคุมง่ายอะไรเช่นนี้

 

[ กรุณารอสักคู่นะครับ ยาชิโระ ]

[อ่าครับ โดโต้ซัง ]

 

เมื่อเราเดินมาถึงกลางห้อง ดูเหมือนโดโต้ซังจะเดินเข้าไปคุยอะไรบางอย่างกับพนักงานต้อนรับ

ผมไม่ได้ยินที่โดโต้ซังคุยกับพนักงานต้อนรับ ดูเหมือนว่าโดโต้ซังจะคุยเสร็จแล้วและหันมาทางนี้

 

[ทางนี้ครับ ]

 

เมื่อเราตามโดโต้ซังไป พวกเราก็มาหยุดที่ด้านหน้าของเสาหิน

 

[. . . . หรือว่า นี่คือเวทย์เคลื่อนย้ายรึปล่าวคะ ]

 

ที่เสาหินนั้น เหมือนจะมีอักขะเวทย์มนตร์แกะสลักไว้อยู่ และนั้นมันทำให้เบอร์นาเดสรู้สึกสนใจ

 

[ หืมม มันก็แค่เหมือนกับยกให้ลอยขึ้นเท่านั้นแหละ(เหมือนกับลิฟ) . . . แต่เดี่ยวนะ เฮ้ ใครอนุญาติให้เธอพูดกันห๊ะ !! ]

 

ดูเหมือนว่า เบอร์นาเดส เธอจะลืมไปแล้วที่ผมเคยสั่งเธอไว้ว่า “ถ้าไม่อยู่เงียบๆ ก็อดขอหวาน ” ผมเลยหันกลับไปจ้องเธอเพื่อให้เธอรู้ตัว แต่เธอกับหัวเราะออกมาโดยไม่ลังเลเลยซักนิด . . .

 

[ ฮิฮิ พอมาคิดๆดูแล้ว พอทานของคาวเสร็จก็ต้องมาต่อด้วยของหวานเป็นเรื่องธรรมดา . . . .  ดังนั้น ยาชิโระซัง ที่คุณสัญญากับดิฉันไว้ว่าจะเลี้ยงอาหารดิฉันมื้อหนึง ดังนั้น ยาชิโระซังยังติดของหวานดิฉันอยู่นะคะ . . .ฟุฟุ พอมาคิดๆดูแล้วดูเหมือนว่าดิฉันจะชนะยาชิโระซังในการต่อรองครั้งนี้นะคะ ดิฉันช่างฉลาดจริงๆ ]

[ อ้อ ถ้าหากในกรณีนี้ง่ายมากเลย ผมก็แค่หาของหวานห่วยๆให้เธอทานก็พอ เอาเป็นอะไรดี . . . ดังโก๊ะธัญพืชเป็นไง ชอบมั้ยละครับคุณเบอร์นาเดส ]

[ อุว้าาาาา ดิฉันขอโทษค่ะ ยาชิโระซัง ]

 

เพราะว่าเธออธิบายเหตุผลออกมาพร้อมกับสีหน้าที่กวนโอ้ยสำหรับผม มันทำให้ผมอยากจะเอาดังโก๊ะธัญพืชให้เธอจริงๆ 

 

[ การเตรียมการสำหรับการเคลื่อนย้ายเสร็จแล้วครับ ยาชิโระซัง เบอร์นาเดสซัง รบกวนเชิญด้านในด้วยครับ ]

 

พวกเราเข้ามาด้านในตามคำเชิญของโดโต้ซัง และทันใดนั้นแสงที่อยู่รอบๆก็ยกพวกเราลอยขึ้นไป

มันเพียงชั่วอึดใจที่พวกเรารู้สึกว่ากำลังลอยขึ้น เมื่อถึงชั้นบน แสงเหล่านั้นก็เคลื่อนลงสู่ชั้นล่าง

 

[ ยินดีต้อนรับ เหล่าหนุ่มสาว โฮโฮ  .  . .]

 

สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาพวกเราคือชายแก่ดูเหมือนว่าเขาจะสูงซัก 50 เซ็นได้ กำลังนั่นในโต้ะทำงานที่ดูหรูหราเป็นพิเศษ และ . . . . . .

 

[ . . . . . .นายคือคนในข่าวลือ—– ไม่สิ นายคือคนที่จะมาเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษ ตามที่อาจารย์โดโตเรกเก้แนะนำมาสินะคะ . . . . . ]

 

และอีกคนคือ สาวแว่นสุดสวยที่มีดวงตาพราวเสน่ห์. . . .

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

Status: Ongoing
ยู ยาชิโระ” เขาเคยถูกอัญเชิญมายังต่างโลกเมื่อตอนเขาอยู่ม.ต้นปี 2 มันคือโลกที่เต็มไปด้วยดาบและเวทย์มนตร์!! หลังจากได้ต่อสู้เพื่อเหล่าองค์หญิงที่น่ารัก(ผู้อัญเชิญเขามา) แม้จะมีหลายครั้งที่พ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่เคยท้อที่จะลุกขึ้น . . ในที่สุด เขาก็นำพาความสงบกลับมายังโลกใบนี้ 3 ปีหลังจากนั้น จอมมารที่เคยถูกผู้กล้าคนก่อนจัดการได้กลับมาฟื้นคืนชีพและนำพาโลกสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง. . ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องอัญเชิญ 4 ผู้กล้าคนใหม่ !! และเพื่อที่จะนำพาความสงบสุขกลับมายังโลกแห่งนี้ ท่านผู้กล้ารุ่นที่2 “อามากิ ไคโตะ” ได้ชักดาบของเขาขึ้น …….แต่ว่า กลับไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กนักเรียนชายม.ปลายผู้ซึ่งไร้พลังเวทย์ในร่างกายคนนั้น คนที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกับ อามากิ ไคโตะและผองเพื่อน เขาคือ ท่านผู้กล้าคนก่อน ผู้ที่เคยปราบจอมมารลง เมื่อ 3 ปีก่อน !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท