ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ – ตอนที่ 33 ผู้กล้าคนก่อนและกับดักที่เห็นได้ชัด

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ โฮะ โฮะ ข้าคืออาจารย์ใหญ่แห่ง Lizwadia , เอาล่ะๆ เหล่าหนุ่มสาวเอ๋ยให้ข้าได้ทราบนามของพวกเจ้าหน่อยสิ ]

 

คุณปู่ที่นั่งอยู่บนโต้ะนั้นตัวเล็กมากจนผมคิดว่าเป็นเด็ก เขาได้เอ๋ยถามชื่อของพวกเรา

. . . นี่มันอะไรกัน 

พวกคนแก่ในโลกนี้ทำไมตัวเล็กกันจัง 

ยายแก่เองก็ตัวเล็กเหมือนกัน 

แถมยังทำตัวแย่ด้วย. . . 

เอาเถอะ พักเรื่องความสูงของปู่ไว้ก่อน ปู่นี่สวมหมวกที่ดูเหมือนหมวกของจอมเวทย์ และผ้าคลุมสีเขียวซึ่งดูต่างจากผ้าคลุมทั่วไป และเขาเรียกตัวเองว่า อาจารย์ใหญ่

แน่นอน ก็นี่มันเป็นห้องของอาจารย์ใหญ่ แล้วใครจะเป็นคนถามล่ะนอกจากอาจารย์ใหญ่

โต๊ะ และ เก้าอี้นั้นทำจากไม้และมันดูมีราคาแพงมาก อีกทั้งที่ผนังก็มีของตกแต่งประดับไว้อยู่มากมาย

แม้แต่โซฟาตัวนั้นแค่ผมมองก็รู้สึกอยากจะลองนั่งดูสักครั้งจังแหะ

 

[ ดิฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะคะที่จะบอกชื่อของดิฉันออกไป แต่ ไม่เคยมีใครสอนคุณมาก่อนเลยหรือคะ ว่า ” ถ้าหากคุณต้องการจะทราบชื่อของใครสักคน คุณต้องบอกชื่อของตัวเองก่อน” นี่คือสิ่งที่ดิฉันได้รับการสั่งสอนจากทางโบสถ์ค่ะ!!! ]

[ ทำไมเธอถึงทำตัวจริงจังห๊ะ ]

 

เบอร์นาเดส เธอกล่าวออกมาพร้อมกับแอคท่าชี้นิ้วไปทางอาจารย์ใหญ่ 

ที่สำคัญ !!! ตอนที่เธอแอ็คท่าอยู่นั้น หนองโพเธอถึงกับกระเพื่อม !! รู้มั้ยการที่ได้เห็นหนองโพดึ๋งๆแบบนี้มันช่างรู้สึกดีจริงๆ แต่ ผมขอพูดอีกครั้ง ทำไมเธอถึงวางท่าจังห๊ะ. .

 

[ . . . . . . . . . . . . . . ]

 

ดูสิ !!!!

พี่สาวแว่นสุดสวยคนนั้นถึงกับจ้องเขม่งใหญ่เลย มันรู้สึกราวกับว่าโดนอาจารย์ผู้หญิงเหี้ยบๆจ้องเลยนะ

และที่สำคัญ ท่านอาจารย์ใหญ่คงจะต้องโกรธจนลมออก——-

 

[ โฮะ ๆ ๆ ยอดเยี่ยมๆ ข้าจะให้บอกชื่อของข้าแก่พวกเธอ ]

 

. .  . . . . . ตาแก่คนนี้กับหัวเราะออกมาหน้าตาเฉย แถมลุกขึ้นมาตอบคำถาม—-

 

[ ข้ามีชื่อว่า รูการอน ราชาของเหล่าฮอบบิทผู้ปกครองแห่งดินแดนตะวันตก ข้าคือฮอทบิทเพียงผู้เดียวในโลกนี้ที่ได้เป็นอาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนเวทย์มนตร์ Lizwadia แห่งนี้ .ผู้คุมกฏ และ ราชา , รูการอน 73 ปี จ้าาาา ]

 

บึ้ม !!! 

คลื่นพลังรุนแรงระเบิดออกมาจากร่างของอาจารย์ใหญ่ รูการอน เขาประกาศชื่อออกมาพร้อมกับปล่อยจิตคุกคามอย่างรุนแรง สมแล้วกับฉายา “ผู้คุมกฎ และ ราชา รูการอน ”

หลังจากผ้าคลุมที่ปลิวไสวเพราะการระเบิดพลังค่อยๆทุเลาลงจนผ้าคลุมกลับมาปกคลุมร่างเล็กๆของ คุณปู่คนนี้ เขาเพียงหัวเราะออกมาเล็กๆเท่านั้น

 

[ ” ผู้คุมกฏ และ ราชา รูการอน ” นี่คือชื่อที่แสดงถึงตัวข้า . . . เอาล่ะ เด็กน้อยเอ๋ย บอกชื่อของพวกเธอมาได้แล้ว . .]

 

สายตาของ รูการอนจับจ้องไปยังเบอร์นาเดส สิ่งที่ปู่แสดงออกมา ณ ขนะนี้นั้น ไม่มีรอยยิ้มเหมือนกับครั้งที่ผ่านๆมา

 

[. . . .ผู้คุมกฏ และ ราชา , รูการอน อืม จิตวิญญาณที่คุณปล่อยออกมานั้น เหมาะสมกับ ฉายา ” ผู้คุมกฏ และ ราชา ” จริงๆ ถ้าอย่างงั้น ดิฉันคงต้องแนะนำตัวบ้าง . .ตัวแทนผู้ขึ้นตรงต่อศาสนจักรอัลครีออร่าศักดิ์สิทธิ์ ชื่อของดิฉัน ” เบอร์นาเดส เดอะ กันเน้อร์ ” ( the gunner ) !! สวยใสวัย 16 ค่ะ ]

 

เธอควงปืนด้วยนิ้วมือของเธอ พร้อมกับหมุนตัวเองไปด้วย 

แล้วก็ 

ชวิ้ง

เธอโพสท่าตัวเองพร้อมกับปืนของเธอ . . . .

 

[ . . . . . . . . ]

[ . . . . . . . . .]

[ . . . . . . . . . ]

[. . . . . . . . .]

 

ดวงตา ของทั้ง 4 คนในห้องกำลังจ้องมาที่ผม . .

เบอร์นาเดสกับท่านอาจารย์ใหญ่ส่งสายตาแบบคาดหวังในการแนะนำตัวของผมเอามากๆ โดโต้ซังนี้เหมือนจะดูตกใจ ส่วนอาจารย์สาวแว่นพราวเสน่ห์ส่งสายตาเฉิงประเมินในตัวผม

 

[ . . . เอ่อออ ผมเป็นนักเดินทางเร่ร่อนท่องเที่ยวไปทั่วไม่มีที่อยู่แน่นอนครับ ยู ยาชิโระครับ [[นักผจญภัย]] อายุ 16 ปีครับ ] 

 

ในปากของเบอร์นาเดสที่กำลังชี้ปากกระบอกปืนมาทางผม ผมได้ใช้เทคนิคลับที่ขื่อว่า[ยางลบล่องหน] ขว้างลูกกวาดอย่างรวดเร็ว เพื่อขัดขวางการโจมตีของเธอในขนะที่ผมกำลังประกาศชื่อของผมออกมา

 

[ ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะครับ แต่ว่า มันจะไม่เป็นอะไรจริงๆหรอครับที่จะให้ผมมาเป็นอาจารย์ผู้ช่วยเพียงเพราะอาจารย์โดต้าซังแนะนำมา ]

 

หากเป็นที่โรงเรียนในญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้อาจจะไม่ยุติธรรมนัก แต่ก็นะ สำหรับโดโต้ซัง มันก็มีเหตุผลที่เขาต้องการผมให้มาเป็นอาจารย์ผู้ช่วย

อันที่จริง แม้ว่าโดโต้ซังจะเคยพยายามปรับเปลี่ยนปืนเวทย์มนตร์ที่ผมเคยออกแบบไว้ให้เป็นแบบลูกโม่ แต่ก็มีเพียง [เค้าคนนั้น]  เท่านั้นที่ปรับแต่งมันได้สำเร็จ

แม้ว่าโดโต้ซังจะดูไม่ได้เรื่องก็ตาม แต่เค้าเป็นถึง 1 ใน 10 ของนักวิจัยเวทย์ศาสตร์ของโลกที่ถูกทางโรงเรียนร้องขอให้ทำวิจัยเรื่องของอาวุธโบราณที่ถูกค้นพบขึ้นเมื่อ2-3ปีที่ผ่านมา หรือนั้นก็คือ ปืนเวทย์มนตร์ที่ผมเคยออกแบบไว้นั้นเอง และยังพัฒนาทฤษฎีเวทย์มนตร์ใหม่ที่ขื่อว่า [ Magic clad ] ซึ่งดูเหมือนว่าทางศาสนจักรจะนำมาเผยแพร่ 

และนี่คือเหตุผลที่ทางโรงเรียนถึงได้ให้การสนับสนุนเขา

แต่สำหรับเหล่านักเรียนนั้นไม่ !!

เพราะโดโต้ซังเป็นคนทึ่มๆ ทำให้ความนิยมที่นักเรียนมีต่อเขานั้นตกฮวบ

เหล่านักเรียนยอมถูกสอนโดยใครก็ได้แต่ไม่ใช่กับโดโต้ซัง 

แต่ก็อาจารย์ท่านอื่นๆต่างมีความสามารถด้อยกว่าโดโต้ซังทั้งนั้น

ด้วยเหตุเช่นนี้ การกลั่นแกล้งอาจารย์จึงได้เริ่มขึ้น

แม้โดโต้ซังจะอยู่ในจุดยืนที่ค่อนข้างหนักหนา เพราะเหล่านักเรียนชั้นหัวกะทิหลายๆคน เริ่มกลั่นแกล้งเขาโดยการแกล้งร่ายเวทย์มนตร์พลาดไปทางเขาบ้าง แกล้งเอากบไปไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของเขาบ้าง หรือแพร่กระจายเรื่องน่าอับอายของเขาในอดีตบ้าง และสิ่งเหล่านี้นั้นทำให้เขาหมดกำลังใจพอสมควร

. . . . . ผมจะว่ายังไงดี เมื่อโดโต้ซังบอกเรื่องนี้กับผม มันทำให้ผมตกใจพอสมควรที่เหล่านักเรียนมีปัญญากลั่นแกล้งได้แค่นี้เองหรอ ?

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ เขาคงไม่สามารถทำวิทยานิพนธ์ของเขาส่งให้กับทางโรงเรียนได้แน่ แต่ถ้าจะให้เขาเพิกเฉยต่อเหล่านักเรียน และมุ่งตั้งใจทำวิทยานิพนธ์เพียงอย่างเดียว เขาไม่ใช่คนแบบนั้น

เพื่อที่จะหาคนที่สามารถพูดภาษาอเล็กซีเรียได้อย่างคล่องแคล่วเพื่อมาสอนวิชาภาษาเวทย์มนตร์ศาสตร์ และคนที่มีความรู้อย่างดีเกี่ยวกับปืนเวทย์มนตร์ นั้นคือสิ่งที่เขาวางแผนไว้ และแล้ว บุคคลนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมา

อืม หมอนั้นคือผมเอง

ดูเหมือนว่าโดโต้ซังจะเล็งเห็นว่าผมนั้นมีความสามารถในฐานะอาจารย์ที่ตัวเขาเองนั้นไม่มี ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้โดโต้ซังก็ได้ไปขอร้องตาลุงมาสอนนะ เพราะเล็งเห็นว่าเป็นเอลฟ์ แต่กับถูกปฏิเสธมา

 

[ สำหรับผมนั้นไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะครับ ที่จริง เพียงแค่ความจริงใจที่ท่านอาจารย์โดโต้เรกเก้แสดงออกมาให้ผมรับรู้นั้น ก็เพียงพอแล้วที่ผมจะช่วยอาจารย์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแล้วครับ ]

 

เพราะสิ่งตอบแทนที่ผมต้องการมีเพียงแค่สาวๆในชุดเครื่องแบบนักเรียนเท่านั้น เอิ๊กๆ แต่นั้นคงบอกออกไปไม่ได้หรอก

 

[ อึกก . . . คุณยาชิโระ ขอบคุณมากๆเลยครับ !!!!! ]

 

โดโต้ซังกล่าวคำขอบคุณคำพูดของผมทั้งน้ำตา. . .

ได้โปรดอย่าทำให้ผมรู้สึกบาปไปกว่านี้เลยครับ โดโต้ซัง

 

[ มันก็จริงอยู่ ที่ทางโรงเรียนของเราเคารพในการตัดสินใจของท่านอาจารย์โดโตเรกเก้ . . . .  แต่ สำหรับดิชั้นนั้น การที่จะให้บุคคลแปลกหน้าที่ไม่รู้จักที่มาที่ไปมาเป็นผู้ร่วมงานนั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ชั่วคราว แต่ก็เป็นถึงอาจารย์ผู้ช่วยเลยนะคะ  ดังนั้น ดิชั้นขอคัดคัานค่ะ ท่านอาจารย์ใหญ่ ]

 

อาจารย์สาวแว่นพราวสเน่ห์ได้ก้าวออกมา แม้เธอกำลังกล่าวถ้อยคำคัดค้านต่ออาจารย์ใหญ่ แต่สายตาของเธอกับจับจ้องมาที่ผมราวกับกำลังประเมินตัวผม

 

[ . . . .  เอ่อออ คือ ท่านอาจารย์ ? ? ? ]

[ ดิชั้นขออภัยที่เสียมารยาทด้วยค่ะ . . ดิชั้นคือเลขาส่วนตัวของท่านอาจารย์ใหญ่รูการอน และดิชั้นถูกเรียกว่า [[ Seiten Magician ]] ชื่อของดิชั้นคือ Zelga Ul Helcroze’ Largruka Felcasio Clarture’ ค่ะ ]

 

ยะ . .ยาวว โคตร !!!

นี่เป็นชื่อที่ยาวเป็นอันดับสองเลยนะตั้งแต่ที่ผมเคยได้ยินมา 

ไงก็ตามดูเหมือนว่า อาจารย์ เซลก้าจะเข้ากันได้ดีกับเบอร์นาเดสและท่านอาจารย์ใหญ่นะ เพราะตอนที่อาจารย์เซลก้าแนะนำตัวนั้นเธอได้ประกาศฉายาของเธอออกมาด้วย 

ผมเรอะ !! ผมบอกแค่อาชีพของผมนะเมื่อกี้

แต่เดี่ยวนะ จอมเวทย์สวรรค์งั้นรึ . . . .

ขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น เบอร์นาเดสได้ก้าวออกมาที่ข้างหน้าผม และเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าของอาจารย์เซลก้า

 

[ ระ. .รึว่า !! คุณคือผู้ที่อยู่บนจุดสู่งสุดของเหล่า[ผู้อัญเชิญ] ว่ากันว่าเป็นผู้ได้รับพรปกป้องศักดิ์สิทธิ์จากเหล่าราชาแห่งภูติ และได้รับอนุญาติในการอัญเชิญพวกเขาลงมาได้ จอมเวทย์แห่งสรวงสวรรค์ The Clarture’  ผู้นั้นหรือคะ !!!  ]

[ . . . . ถูกต้อง แม้ชื่อ Clarture’ นั้นจะมีคนอื่นใช้เหมือนกับดิชั้น แต่ผู้ที่สามารถใช้ชื่อ [จอมเวทย์แห่งสรวงสวรรค์] ได้นั้นมีเพียงดิชั้นคนเดียว . . . . แล้วก็ ท่านอาจารย์——– ]

[ ว้าวๆๆ ยอดไปเลย นี่มันสุดยอดมากๆเลยนะคะ !!ยาชิโระซัง ท่านผู้นี้คือจอมเวทย์แห่งสรวงสวรรค์เลยนะคะ !!!! ว่ากันว่า ศาสตร์แห่งเวทย์มนตร์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของศาสตร์แห่งเวทย์มนตร์อื่นๆ ของโลก !!! ผู้ครอบครองศาสตร์แห่งสรวงสวรรค์ !!!! และบุคคลที่สุดยอดคนนี้ ยืนอยู่ที่ด้านหน้าพวกเราเลยนะคะ !!!!!! ]

[ เธอเสียงดังไปแล้วนะ . . ]

ผมเลิกสนใจเบอร์นาเดส ที่ตอนนี้กำลังทำสายตาระยิบระยับอยู่ข้างๆผม

[ ท่านอาจารย์ใหญ่คะ ]

 

อาจารย์เซลก้าหันหลังกลับไปพูดกับอาจารย์ใหญ่เพื่อขอคำตัดสิน และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อคำพูดของอาจารย์เซลก้านั้น อาจารย์ใหญ่ได้จ้องมาที่ผม . . 

 

[ อืม ยาขิโระใช่มั้ย ]

[ ครับ ]

 

แม้ว่าจิตคุกคามที่ท่านอาจารย์ใหญ่ปล่อยออกมาในขณะนี้จะไม่รุนแรงเหมือนเมื่อสักครู่ แต่มันก็มากพอให้รู้สึกว่ากำลังถูกกดดันอยู่

สายตาของท่านอาจารย์จับจ้องมาที่ผม และดูเหมือนจะกระพริบถี่ๆ2-3ครั้งและได้พูดบางอย่างออกมา

 

[ เธอผ่านจ้าาาา หลังจากนี้ มันจะดีมากถ้าหากเธอเริ่มการสอนเหล่านักเรียนโดยเร็วที่สุดนะ ]

[ ห๊ะ เอ๋!!!! แค่นี้หรอครับบ ]

 

คำตัดสินนั้นประกาศออกมาโดยปราศจากการทดสอบใดๆ ทำเอาตื่นเต้นฟรีซะงั้น

 

[ อืมยังไงก็ตาม ข้าก็หวังไว้ว่าเธอจะทำงานของเธอออกมาได้ดีนะ ยาชิโระคุง . . . เอาล่ะ โดโตเรกเก้คุง พาเขาออกไปได้แล้ว ]

[ ครับ ]

 

โดโต้ซังตอบรับพร้อมกับ พาพวกเราไปยังวงแหวนเคลื่อนย้ายเพื่อไปยังชั้นอื่น

 

[ งั้นไปกันเลยนะ ]

 

แม้ปกติโดโต้ซังจะปลดปล่อยบรรยากาศมืดหม่นออกมาอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ใบหน้าเขาดูเหมือนถูกปลดปล่อย หลังจากเปิดการทำงานวงแหวนเคลื่อนย้าย ตอนนี้พวกเราก็มาอยู่ที่ชั้นล่างของหอนาฬิกา

ความรู้สึกตอนเคลื่อนย้ายนี้ เหมือนกับตอนขึ้นลิฟจริงๆ

 

[ อุกกกก . . ดิชั้นไปต่อไม่ใหวแล้วค่ะ ]

[ เป็นอะไรของเธอเนี้ย ก่อนหน้านี้จนถึงตอนนี้ก็ยังปกติอยู่เลยไม่ใช่หรอห๊ะ ]

 

เมื่อแสงที่เกิดจากเวทย์มนตร์เคลื่อนย้ายดับลง เบอร์นาเดสเธอรีบออกจากวง  พร้อมทำท่าพะอืดพะอมเหมือนจะอาเจียน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ในห้องของอาจารย์ใหญ่เธอยังดูไม่เป็นอะไรอยู่เลย

 

[ เมื่อตะกี้ พวกเราได้เข้าพบกับท่านผู้นำของประเท– ไม่สิ ท่านผู้นำของเมือง มันค่อนข้างเป็นทางการ และนั้นมันทำให้ดิฉันกดดันเป็นอย่างมาก แต่ก็. . .   .  ดิฉันว่าดิฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย เพราะฉนั้น ดิฉันขอตัวออกไปรอที่ด้านนอกนะคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยาชิโระซัง ]

 

อืม ก็ใช่นะ เวลาที่คนเหล่ารู้สึกเครียดหรือกดดันมากๆ บางครั้งก็อาจทำให้ป่วยได้ แล้วก็ยัยนี่ดูเหมือนว่าจะป่วยจริงๆนั้นแหละ

 

[ อืมมม ถ้าหากไม่ไหวจริงๆก็กลับไปที่โรงแรมนะครับ ผมได้จ่ายเงินไว้กับตาลุงไว้แล้ว  ถ้าหากว่าเธอต้องการอาหาร หรือห้องพัก เธอแจ้งกับที่นั้นได้เลยนะครับ ]

[ . . . . ดิฉันต้องขอขอบคุณสำหรับความใจดีของยาชิโระซังจริงๆค่ะ แต่ทำไมดิฉันรู้สึกว่าแบบนี้มันเหมือนกับติดสินบนกันคะ เพราะถ้าหากดิฉันปล่อยคุณไปคนเดียวล่ะก็ คุณต้องใช้ความใจดีของคุณล่อลวงเหล่านักเรียนหญิงที่กำลังตกที่นั่งลำบาก แล้วก็ !!! คุกคามพวกเธอสินะคะ นี่คือเหตุผลจริงๆของคุณสินะคะ ยาชิโระซัง ]

 

ทำไมหัวข้อการสนทนาถึงกับกลายมาเป็นประโยคที่ชวนให้ผมรู้สึกอยากเขกหัวยัยนี่สักที แต่ผมไม่เขกหัวเธอหรอกนะ เพราะเธอดูแย่จริงๆ และนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอมากกว่า

 

[ เลิกพูดอะไรบ้าๆสักทีน่า ต่อให้พวกเธอเหล่านั้นสวยและรูปร่างดีแค่ใหนแต่ถ้าหนองโพไม่ใหญ่ ผมก็ไม่มีทางจะไปแตะต้องพวกเธอหรอกนะ กลับไปอัพอายุสัก 5 ปีแล้วค่อยมาใหม่นะนู๋ๆ ]

[ พอได้ฟังแบบนี้แล้วคุณช่างเป็นตัวอันตรายจริงๆนะคะ . . . . อุกก ดิฉันขอโทษอีกครั้งนะคะ ยาชิโระซัง ถ้างั้นดิฉันขอรับความมีน้ำใจของคุณไว้นะคะ ]

 

หลังจากล่ำลากัน เบอร์นาเดสเธอก็เดินกลับไปที่โรงแรมก่อนด้วยสภาพที่พร้อมจะอาเจียนตลอดเวลา

 

[ ที่จริง. . คนส่วนใหญ่หลังจากที่ได้ใช้วงแหวนเวทย์เคลื่อนย้ายครั้งแรกมักจะรู้สึกแย่แบบนั้นนะ . . .ว่าแต่ ยาชิโระซังไม่เป็นอะไรนะครับ ]

[ หือ .  . ผมสบายดีครับ ]

 

มันก็เหมือนขึ้นลิฟที่โลกก่อนผมละนะ 

แค่นี้สบายมาก

 

[ ถ้าอย่างงั้น ทางนี้ครับ อาคารเรียนอยู่ทางฝั่งตะวันออก ชั้นที่ 2 ครับ ]

 

______________

 

กับดักแปรงลบกระดาน. . . 

มันเป็นกับดักที่ทุกๆคนน่าจะรู้จักกันดี มันเป็นกับดักที่ใช้ได้ทั้งประตูแบบเลื่อนและแบบเปิดปิด วิธีการก็คือนำแปรงลบกระดานไปไว้ด้านบนระหว่างประตู โดยใครก็ตามที่เปิดประตูเข้ามาในห้องจะถูกแปรงลบกระดานตกใส่หัวและทำให้ผงชอล์กย้อมผมเป็นสีขาว ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของกับดักนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นอาจารย์ใหม่

และผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเจอกับดักนี้ที่ต่างโลก

หลังจากที่พวกเราออกมาจากหอนาฬิกา พวกเราก็มุ่งตรงมาที่ตึกเรียนในชั้นที่ 2 และตอนนี้ก็ได้มาหยุดที่หน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง แม้หลายๆสิ่งที่โรงเรียนแห่งนี้จะแตกต่างจากโรงเรียนที่ญี่ปุ่น  แต่กับดักแปรงลบกระดานที่พวกเราเจอนี้ มันทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆสมัยเรียนชั้นประถมเสียจริงๆ

ในเวลานั้น ทุกสิ่งทุกอย่างช่างสนุกเสียจริงๆ . . .

 

[ ฮะ ฮะ . . . ผมต้องขอโทษด้วยครับ ยาชิโระซัง มันมักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอครับ ]

 

โดโต้ซังหัวเราะออกมาแห้งๆพร้อมกับเอื้อมมือเพื่อพยายามหยิบแปรงลบกระดานออกมา

 

[. . .  อย่านะครับ อาจารย์โดโตเรกเก้ !! ]

[ เอ๋ ทำไมล่ะครับ ]

 

ผมเอื้อมมาไปหยุดมือของเขาเอาไว้

 

[ มันคือการดวลครับ . . . ถ้าหากคุณพลาดโดนกับดักแค่ระดับนี้ คุณก็เป็นได้แค่อาจารย์ธรรมดา . . แต่ถ้าคุณโมโหเพราะกับดักแค่นี้ คุณก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนนึง. . กับดักนี้มันคือสิ่งที่ใช้วัดค่าความเป็นครูในตัวคุณ , มันคือสารท้าดวลจากนักเหล่านักเรียน ]

 

แม้ตอนเด็กนั้นผมจะเคยอธิบายความหมายของกับดักแปรงลบกระดานแก่อาจารย์ แต่สุดท้ายก็ยังคงโดนอาจารย์ต่อว่าอยู่ดีนั้นแหละ

 

[ แล้ว อย่างนี้จะต้องทำไงล่ะครับ ]

[ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ โปรดเชื่อมั่นในตัวผม เพราะผมจะเป็นผู้ที่ต่อสู้กับแปรงลบกระดานอันนี้เองครับ ]

[ . . . . ขะ เข้าใจแล้วครับ ยาชิโระซัง— ไม่สิ ท่านอาจารย์ยาชิโระ ผมขอฝากภาระนี้ไว้ที่คุณนะครับ ]

 

เอาล่ะ ตอนนี้ผมเตรียมตัวพร้อมแล้ว

กับดักแปรงลบกระดานที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ คือ 1 ใน 3 กับดักสุดฮิตในระบบการศึกษาประเทศญี่ปุ่น  และตอนนี้จิตวิญญาณคนญี่ปุ่นของผมกำลังลุกโชน

นี่คือสิ่งที่เรียกว่า”การท้าทายจากเหล่านักเรียน”จริงๆหรอ . . . .นี่ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าท้าทายเลยสักนิด ผมคนนี้ได้รับสารท้ารบจากพวกแกแล้ว !!!! 

ในขณะที่แปรงลบกระดานยังอยู่ที่ช่องว่างด้านบนประตู ผมจึงเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้องเรียนทันที—-

ตุบ !!! 

อะไรบางอย่างนุ่มๆได้ล่วงลงใส่กลางหัวผมพอดี พร้อมด้วยควันสีขาวฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ และเสียงหัวเราะดังขึ้น มันเป็นเสียงของเหล่าเด็กๆ ที่หัวเราะเยาะเย้ยแก่ผมผู้ถูกกับดัก

ผมยังคงใจเย็นเดินเข้าไปในห้องเรียนที่ไม่ว่ามองไปทางใหนก็พบกับเหล่านักเรียนที่กำลังหัวเราะเยาะอยู่

 

[ . . . . !!! ]

[ ปะ เป็นไปไม่ได้ ]

 

เริ่มมีนักเรียนบางกลุ่มสังเกตุเห็น และเสียงหัวเราะที่เคยดังอยู่กลับหายไปแทบจะในทันที

อืม

สิ่งที่เหล่านักเรียนต้องการคืออะไรน่ะหรอ . . . นั้นก็คืออารมณ์ปฏิกิริยาของอาจารย์หลังถูกกับดักแปรงลบกระดาน ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ และการโวยวาย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้น การทำเป็นไม่สนใจการแกล้งของเหล่านักเรียน ไม่แม้จะหลบมันด้วยซ้ำ แปรงลบกระดานยังคงอยู่บนหัวราวกับว่า

เป็นมงกุฏ และยังคงมุ่งตรงไปยังโต๊ะของอาจารย์อย่างสง่าผ่าเผย

ภาพของผมที่ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรทำให้เหล่านักเรียนต่างพากันตกตะลึง ผมมาหยุดยืนอยู่ที่โต้ะของอาจารย์และได้ใช้ฝ่ามือตบไปที่โต๊ะอย่างเต็มแรง

 

[ พวกเธอช่างอ่อนหัดกันเสียจริงๆ . . อย่าหยุดความพอใจของตัวเองเพียงแค่กับดักแปรงลบกระดานเพียงชั้นเดียวสิ คราวหน้าลองใส่กับดักถังใส่น้ำลงไปด้วยดูนะ ]

 

ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งห้องเรียนจนทำให้เสียงของผมที่พูดออกมาดังก้องไปทั้งห้อง

 

[ เอาล่ะ เรามาเริ่มการแนะนำตัวกันเลยดีกว่า ทุกคน นั่งประจำที่ได้แล้ว ]

 

เหล่านักเรียนที่ยังเฮฮากันอยู่เมื่อตะกี้ ตอนนี้บรรยากาศภายในห้องกับเงียบสงบราวกับกลางดึกเลยทีเดียว

ในหมู่ของเหล่านักเรียนนั้น  มีเด็กผู้หญิง 3 คนยังคงยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะของตัวเอง . . .ไม่สิ พวกเธอทั้ง 3 เพิ่งจะลุกยืนขึ้น เพราะผมได้ยินเสียงของเก้าอี้ที่กำลังล้มลง 

นะ นั้นมัน มาน่า ลูเล่ กับ เอริ เทสโตเรีย นี่ !!! 

ผมรู้เพียงว่าพวกเธอทั้ง 2 นั้นเป็นนักเรียนของ โรงเรียน Lizwadia แต่การที่ได้มาพบพวกเธอทั้ง 2 ในห้องเรียนนี้นั้นมันช่างบังเอิญเสียจริง

แล้วอีกคน. . . . .  

เอ่อ ไม่รู้แหะ แต่ผมรู้สึกเหมือนเคยพบเธอที่ใหนมาก่อนแน่ๆ 

เส้นผมยาวสลวยสีเงินนั้น และดวงตาสีเขียวมรกต. . .

ผมต้องเคยพบกับเธอมาก่อนหน้านี้แน่ๆ . . . .

หือ . . 

หือออออออออ . . .! 

นั้นมัน ซิลเวีย เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ? 

ไม่ ไม่ใช่ นึกออกแล้ว เพราะเธอปล่อยผม ผมเลยจำเธอไม่ได้

เธอคือน้องสาวของซิลเวีย 

หรือก็คือ เจ้าหญิงลำดับที่ 3 ของอาณาจักรลีเซอเรี่ยน 

Alicia Lark Sheriotto Leezelion ( อลิสเซีย ลาร์ก เชอรีอ็อตโต้ ลีเซอเรี่ยน )

เธอคือ อาจารย์สอนความรู้เรื่องเวทย์มนตร์ของผมเมื่อ 3ปีก่อนเองครับ . . .

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

Status: Ongoing
ยู ยาชิโระ” เขาเคยถูกอัญเชิญมายังต่างโลกเมื่อตอนเขาอยู่ม.ต้นปี 2 มันคือโลกที่เต็มไปด้วยดาบและเวทย์มนตร์!! หลังจากได้ต่อสู้เพื่อเหล่าองค์หญิงที่น่ารัก(ผู้อัญเชิญเขามา) แม้จะมีหลายครั้งที่พ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่เคยท้อที่จะลุกขึ้น . . ในที่สุด เขาก็นำพาความสงบกลับมายังโลกใบนี้ 3 ปีหลังจากนั้น จอมมารที่เคยถูกผู้กล้าคนก่อนจัดการได้กลับมาฟื้นคืนชีพและนำพาโลกสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง. . ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องอัญเชิญ 4 ผู้กล้าคนใหม่ !! และเพื่อที่จะนำพาความสงบสุขกลับมายังโลกแห่งนี้ ท่านผู้กล้ารุ่นที่2 “อามากิ ไคโตะ” ได้ชักดาบของเขาขึ้น …….แต่ว่า กลับไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กนักเรียนชายม.ปลายผู้ซึ่งไร้พลังเวทย์ในร่างกายคนนั้น คนที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกับ อามากิ ไคโตะและผองเพื่อน เขาคือ ท่านผู้กล้าคนก่อน ผู้ที่เคยปราบจอมมารลง เมื่อ 3 ปีก่อน !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท