บทที่ 76 – ลืมตาจากนิทรา..?
“ร่างคัดลอกงั้นเหรอ?”
เสียงของผู้กล้าเอริเนียดังขึ้นในหัวของมิว แน่นอนว่ามิวเองก็อธิบายสถานการณ์ที่ตัวเองเจอให้กับเอริเนียฟัง
เพราะในตอนนี้การต่อสู้ระหว่างมิวกับฝูงร่างคัดลอกนั้นมันลากยาวเป็นร้อยปีแสงเห็นจะได้แล้ว ฝูงร่างคัดลอกพวกนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าร่างตอนแรก
นั่นก็แน่นอนว่าเพราะซินนี่กลัวว่ามิวจะใช้วิธีย้อนคืนพลังเพื่อทำให้บาดแผลตัวเองหายนั่นแหละนะ
ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าให้สิทธิ์ Administarter กับร่างคัดลอกทุกร่าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย ในจำนวนหลายร้อยร่างคัดลอกก็มีร่างที่มีสิทธิ์ดังกล่าวอยู่สองสามร่าง ซึ่งมีไว้เพื่อรอโจมตีมิวปิดฉาก
เลยทำให้ที่ออกมาสู้กับมิวมีแค่มิวที่มีแค่ความสามารถดั้งเดิมของเธอเท่านั้น ไม่ได้มีพลานุภาพขนาดนั้น
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าร่างคัดลอกอ่อนแอแต่อย่างใด เพราะมิวก็คือมิวแม้จะแค่ร่างคัดลอกจำนวนมาก แต่ฐานข้อมูลก็มีมิวเป็นหลัก
ซึ่งก็แข็งแกร่งในระดับเดียวกับมิวนั่นแหละนะ แถมยังมีเป็นร้อยร่างนั่นจึงทำให้มิวเพียงตอบโต้และสวนกลับพร้อมตั้งหลักเท่านั้น
ต่อให้เป็นมิวเองก็ยังรู้สึกปวดหัวกับจำนวนศัตรูที่ยิ่งจัดการก็ยิ่งเยอะขึ้นซะอย่างนั้น แน่นอนว่าสาเหตุที่มิวยังเหนือกว่าพวกร่างคัดลอกที่มีจำนวนมากกว่าก็มีเหตุผลของตัวเองอยู่เช่นกัน
เพราะว่าร่างคัดลอกมันก็เป็นแค่การคัดลอกข้อมูลที่มีอยู่แล้ววาง.. มันก็เหมือนกับการคัดลอกไฟล์เกมจากอีกที่ไปวางลงอีกที่
ซึ่งไม่ได้แปลว่าคนที่คัดลอกนั้นสามารถเข้าใจ code ของเกมนั้นๆ ได้นั่นแหละ นี่ก็เหมือนกันการคัดลอกมิวคนพวกนี้ก็ไม่สามารถเข้าใจข้อมูลของร่างกายมิวได้
เพราะเดิมทีมิวไม่ใช่ฐานข้อมูลที่สามารถเข้าใจได้ เนื่องจากเป็นคนจากโลกด้านนอก คนที่จะเข้าใจได้ก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละ
และนี่ก็เป็นเหตุผลเช่นเดียวกัน เพราะร่างคัดลอกคือร่างที่เกิดขึ้นในโลกแห่งนี้ กล่าวคือข้อมูลที่คัดลอกวางนั้นก็เป็นแค่ข้อมูลเลียนแบบเท่านั้น
เพราะมิวเกิดจากโลกด้านนอก ดำรงอยู่จากโลกด้านนอก การจะคัดลอกมิวที่มีความเสถียรเท่ากับมิว ก็คงมีแต่ต้องคัดลอกมิวแล้ววางมิวลงโลกด้านนอกเท่านั้น
เพราะสุดท้ายนี่ก็แค่เป็นการจำลองจักรวาลเท่านั้นนั่นแหละ
เหมือนกับการถ่ายภาพ สุดท้ายภายในภาพถ่ายก็เป็นแค่ภาพเสมือนที่ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเขานั่นเอง
พูดให้ถูกคือ ระนาบการดำรงอยู่ของตัวตนนั้น.. มิวอยู่เหนือกว่าร่างคัดลอกทั้งหลายนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าต่อให้ร่างคัดลอกจะเก่งเท่ามิวขนาดไหน
มิวก็สามารถเก่งกว่าพวกนั้นได้ตลอดเวลา.. ในกรณีที่พวกมันไม่ได้รับสิทธิ์ Administartor น่ะนะ
เพราะหากพวกมันได้รับสิทธิ์ก็เท่ากับว่าพวกมันแทบจะอยู่ระนาบการดำรงอยู่เดียวกันกับมิวไปแล้วนั่นเอง
และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ มิวยังคงเหนือกว่าเหล่าร่างแยกจำนวนมาก และร่างแยกเหล่านี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าร่างแยกที่ได้รับสิทธิ์ Administartor
“เดี๋ยวนะ.. นายท่านนี่อาจจะเป็นทางออกเดียวของนายท่านก็ได้”
จู่ๆ เอริเนียที่เงียบไปพักใหญ่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มิวไม่ได้ตอบเพราะคมดาบของร่างคัดลอกฟันมาที่เธอพร้อมกันสองทิศ
มิวได้แต่ดีดตัวหมุนเคว้งอาศัยพื้นที่ไร้โน้มถ่วงหลบออกไป พร้อมกับยื่นมือสองข้างไปจับร่างคัดลอกที่โจมตีมาทั้งคู่
พลังลึกลับของมังกรไหลเข้าร่างพวกนั้นแล้วก็ฉีกร่างพวกนั้นกระจุยกระจายอย่างง่ายดาย
เอาเข้าจริงการจัดการร่างคัดลอกของมิวมันง่ายกว่าการจัดการศัตรูอื่นด้วยแหลละนะ เพราะร่างคัดลอกเหล่านี้ทำให้มิวสามารถปล่อยพลังมังกรเข้าไปในตัวและยังควบคุมพวกมันได้
ดังนั้นมิวในตอนนี้หากไม่เจอพวกร่างคัดลอก Administartor เธอก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายได้
“หมายความว่าไง”
มิวอาศัยจังหวะนี้ตอบพร้อมกับดีดตัวทิ้งระยะห่างไปหลายปีแสง
“เรื่องนั้นไม่ยากเลยนายท่าน ต่อให้เป็นนายท่านก็คงเข้าใจได้ทันที”
“ไอ้การพูดแบบนั้นคือเธอจะสื่อว่าฉันโง่หรือไง?”
“คือเรื่องมันง่ายจริงๆ นะ นายท่าน.. สิ่งที่นายท่านต้องทำก็มีแค่อาละวาดให้สุดปล่อยมังกรคำรามของนายท่านปะทะกับร่างคัดลอกพวกนั้นให้สุดเท่าที่จะทำได้เลย”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ มิวก็ยังไม่เข้าใจว่าทำแบบนั้นแล้วมันจะช่วยอะไรมิวได้ เอริเนียไม่ได้ลีลาอะไรเพราะเธอรู้ว่ามิวก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่
“ที่ฉันจะหมายถึงก็คือ ถ้าออกไม่ได้.. มาลองวิธีพังมันทั้งจักรวาลจำลองเลยเป็นไงคะนายท่าน?”
“เดี๋ยวๆ ที่เธอพูดมามันไม่ดูเพ้อเจ้อยิ่งกว่าแผนฉันที่จะตามหาขอบจักรวาลอีกเหรอ ฉันจะไปทำลายจักรวาลได้ไงล่ะ?”
“ก็นายท่านคนเดียวทำไม่ได้หรอก แต่นายท่านคงไม่ลืมใช่ไหมว่าลมหายใจมังกรมันสามารถเป่าหายได้แม้แต่มิติของหอคอย”
“….เธอจะบอกว่า…”
“ใช่แล้วนายท่าน ถ้าหากพลังงานที่มหาศาลอย่างมังกรคำรามปะทะกันอย่างรุนแรงสิ่งที่ได้รับผลกระทบและแบกรับก็คงไม่พ้น Space-time ใช่ไหม?”
เมื่อพูดถึงจุดนี้เอริเนียเองก็ไม่คิดว่าเรื่องจะมาถึงจุดนี้เหมือนกัน แต่ถ้าหลุมดำเป็นแบบที่มิวอธิบายทางอื่นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกันได้
ดังนั้นทางเลือกที่เร็วและไวที่สุดตอนนี้มีแต่ทำลายมันซะ เหมือนตอนที่มิวเจาะรูให้กับหอคอย สิ่งที่มิวต้องทำในตอนนี้ก็แค่เจาะรูให้จักรวาลจำลองนี้เชื่อมต่อไปยังโลกด้านนอก
มิวคนเดียวอาจจะไม่มีพลังมากพอที่จะเขย่า space-time ก็จริง.. แต่ถ้าสิบคนล่ะ ร้อยคนล่ะ?
“แต่ว่านะ เราจะทำยังไงให้พวกนั้นใช้ลมหายใจมังกรล่ะ อ้ะ.. ลืมบอกเธอไปเจ้าพวกนี้เหมือนจะใช้ไม้เทพมังกรไม่ได้นะ พวกมันปล่อยลมหายใจมังกรออกจากปากโดยตรงเลย … แล้วก็ใช้การอัญเชิญอัตลักษณ์ไม่น่าจะได้ด้วย”
“….”
เมื่อเอริเนียได้ยินแบบนั้นเธอก็ถึงกับเข้าใจทันทีว่าทำไมมิวยังยันอยู่ได้ เพราะต่อให้เป็นมิวถ้ามีร่างคัดลอกเธอร้อยกว่าคนกระหน่ำเรียกอัญเชิญอัตลักษณ์
ภาพที่เห็นคงไม่ใช่การต่อสู้ของคน แต่เป็นสงครามไปแล้ว.. และเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรไม่ได้บ้างเอริเนียแทบจะเข้าใจทันที
“ดูเหมือนว่าข้อมูลของการอัญเชิญอัตลักษณ์จะไม่สามารถคัดลอกหรือทำซ้ำได้สินะคะ.. แต่ที่น่าแปลกใจคือทำไมไม้เทพมังกรถึงเป็นไปด้วย”
“เพราะเดิมทีต้นเหตุการณ์วิวัฒนาการของนายท่านมาจากการอัญเชิญอัตลักษณ์เหรอ แม้แต่ไม้เทพมังกรก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของอัญเชิญอัตลักษณ์”
“ที่บังคับนายท่านวิวัฒนาการ.. ไม่สิ…”
เอริเนียขมวดคิ้ว เธอเหมือนกับจับจุดแปลกๆ ในการวิวัฒนาการของเทพมังกรได้ แต่ว่ามิวไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ฟังได้
สิ่งที่ผู้กล้าเอริเนียพูดเมื่อกี้มิวจึงไม่ได้ฟังเลยสักนิด
“เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ นี่ไม่ใช่เวลาแบบนั้น… นายท่านเรียกใช้อัญเชิญอัตลักษณ์มาช่วยได้เลยค่ะ ฉันรู้ว่าที่นายท่านไม่ใช้เพราะกลัวจะโดนคัดลอกใช่ไหม?”
“อืม…”
ใช่แล้วที่มิวไม่ใช้ท่าอัญเชิญอัตลักษณ์เพราะเธอไม่เข้าใจหลักการคัดลอกของมัน เธอจึงไม่กล้าใช้ท่าสุ่มสี่สุ่มห้า หากโดนคัดลอกขึ้นมา
เธออาจจะตกที่นั่งลำบาก.. ดังนั้นมิวจึงใช้แค่ความสามารถพื้นๆ ที่อีกฝ่ายเองก็ใช้ใส่เธอเท่านั้นเอง แต่ว่าเอริเนียพูดต่อ
“ไม่ต้องห่วงนายท่าน พวกมันคัดลอกข้อมูลนายท่านก็จริง แต่การคัดลอกของมันก็คือการคัดลอกข้อมูลที่นายท่านมีในตอนนี้ แต่การที่พวกมันใช้ไม่ได้ก็หมายความว่า….”
“พวกมันไม่สามารถคัดลอกข้อมูลของการอัญเชิญอัตลักษณ์ได้ค่ะ”
มิวที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับร้องเอ้ะ ขึ้นมา.. ไม่สิ ถ้าเป็นงั้นแล้วทำไมถึงคัดลอกไม่ได้ล่ะ แต่นั่นไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้
“สิ่งที่นายท่านต้องทำก็มีแค่ทำให้นายท่านกลัวจนต้องใช้ท่าที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างมังกรคำรามออกมายังนายท่านเพื่อหยุด นายท่านน่าจะรู้ดีนะว่าอะไรคือสิ่งที่น่าจะทำให้นายท่านใช้ลมหายใจมังกรเพื่อป้องกัน”
เมื่อเอริเนียกล่าวแบบนั้นมิวก็พยักหน้า
มิวเชื่อในตัวเอริเนียเหมือนกับการที่เอริเนียเองก็เชื่อว่ามิวมีพลังพอจะทำลายจักรวาลจำลองได้.. มิวยกมือขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขอใส่เต็มกำลังแบบไม่กั๊กเลยนะ”
“ตามที่นายท่านรู้สึกพอใจเลย”
มิวหยุดการเคลื่อนไหวพร้อมกับหันกลับไป ด้านหลังมิวมีร่างคัดลอกที่เหมือนเธอซึ่งพุ่งมาด้วยความเร็วเหนือกว่าแสงหลายล้านเท่ามาหาเธอ
ในตอนนี้ทุกอย่างมันแทบเป็นการสโลว์อยู่ด้วยซ้ำ
เหล่าร่างงงแยกของมิวเหมือนจะรู้ว่ามิวคิดจะทำอะไร เพราะอย่างไรซะพวกมันทุกคนก็มีความทรงจำของมิว
สีหน้าพวกมันทุกคนเปลี่ยนสี พวกที่มีสิทธิ์ Administartor ที่ซ่อนตัวอยู่สองคนก็พุ่งออกมาจากฝูงร่างคัดลอก
ร่างกายของพวกมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าหลักเหตุและผล โดยที่ราวกับว่ามันไม่ได้เคลื่อนไหวมันมาอยู่ต่อหน้ามิวแล้ว
นี่แหละคือสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบสูงสุด.. ทว่ามิวยิ้มออกมาอย่างไม่เกรงกลัว มือของเธอชี้ขึ้นบนฟ้า ไม้เทพมังกรปรากฏขึ้นในมือ
มิวไม่คิดจะหลบ Administartor ทั้งสอง ดาบสองเล่มที่อาบพลังมังกรแทงทะลุเข้าที่ขั้วหัวใจของมิวพร้อมกับคอของมิว
ตัดผ่านอัตลักษณ์นิรันดร์ได้อย่างง่ายดาย
ปากพวกมันเปิดออกพร้อมกับจะพ่นมังกรคำรามในระยะประชิดเพื่อจะหยุดมิว.. แน่นอนว่าร่างคัดลอกอีกนับร้อยที่เร็วไม่เท่าก็เริ่มเปิดปากเช่นกัน
ใช่แล้ว.. สิ่งที่ทำให้มิวกลัวถ้าหากมันเป็นศัตรู.. มิวคิดว่ามันควรจะน่ากลัวยิ่งกว่าเจ้ายมทูตแห่งกาลเวลานั่นอีก..
ดวงตามรณะในตอนนั้น—
แสงสีขาวที่ถูกรวมมาไว้ตรงปากของเหล่าร่างคัดลอกนับร้อยก่อให้เกิดเป็นแสงสว่างเจิดจ้า.. แสงสว่างเหล่านี้วิ่งผ่านกาลอวกาศด้วยความเร็วระดับเดียวกับมิว
ซึ่งพูดอีกนัยหนึ่งก็คือดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลกในตอนนี้ก็สามารถมองเห็นแสงที่อยู่ห่างออกมานับล้านล้านปีแสงนี้ได้แบบเรียลไทม์
แสงนี้มันสว่างจ้าเสียยิ่งกว่าเนบิล่าที่ใดๆ เคยได้ยินมาก่อน มันไม่ร้อนแต่อย่างใด เพราะมันยังอยู่ในการควบคุมของร่างคัดลอกอยู่
ทว่าหากมันปล่อยออกมาเมื่อใด.. ทุกอย่างคงสูญสิ้นไปพร้อมกับมัน
มิวที่โดนแทงไปนั้นเธอไม่คิดจะหลบเพราะว่า… ถ้าหลบแสงเหล่านั้นก็คงไม่พุ่งมายังทิศทางเดียวกันแน่ๆ
และต่อให้ไม่หลบ… เธอในตอนนี้ก็รู้แล้วว่าแผลแค่นี้ไม่ตายแน่ๆ สำหรับเธอ
ในขณะที่มิวกำลังจะเตรียมปลดปล่อยลมหายใจมังกรพูดง่ายๆ คือกำลังจะชี้ไม้คทาเทพมังกรไปด้านหน้านั่นเอง
บางสิ่งบางอย่างอาจเป็นดวงตาขนาดใหญ่พลันเบิกขึ้นอย่างกะทันหันเหนือหัวมิว เหนือหัวร่างคัดลอก.. ทว่านั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการพังทลายแต่ตามมาด้วยเสียงจากอดีตกาล
มันคือเสียงร่ำร้องที่ราวกับก้าวข้ามกาลเวลา ก้าวข้ามโลก อยู่เหนือทุกแนวคิดแต่เต็มไปด้วยความรุนแรงว่า
เสียงร่ำร้องนั้นราวกับไร้ซึ่งเสียงไม่มีทั้งพลังงานหรือสิ่งใดเลย
มิวเงยหน้าขึ้น.. ทุกสิ่งทุกอย่างเงยหน้าขึ้น แม้แต่เอริเนียที่อยู่อีกโลกยังได้ยินเสียง แอเรียนก็ดี เทรต้าก็ช่าง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์การนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลจำลองนั้นต่างได้รับหรือได้ยินเสียงก้องกังวานที่ไร้เสียงนี้
สิ่งที่มิวเห็นอยู่เหนือหัวของตัวเธอนั้น..คือ….
รอยแตกร้าวของห้วงจักรวาล
ทุกสิ่งทุกอย่างพังครืนลงตรงนั้น
เธอยังแทบมองไม่เห็นต้นกำเนิดของเสียงด้วยซ้ำ
เธอกลับพบว่าจักรวาลนี้… จักรวาลจำลองนี้ แม้จะเป็นแค่จักรวาลจำลองก็ตามแต่มันล่มสลายไปพร้อมกับการตื่นจากนิทราของบางสิ่งบางอย่าง
ที่อยู่เหนือทุกอย่างทั้งปวง