กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ – ตอนที่ 14 ระดับเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้า

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

        เรื่องที่จะเข้าสำนักศึกษาราชวงศ์จั่วสุย อวิ๋นโม่ไม่รีบร้อน ด้วยระดับความเร็วในการฝึกฝนของเขา ในอีกครึ่งปีต้องทำได้สูงกว่าข้อกำหนดแน่ นี่เป็นเรื่องสบายมาก ตอนนี้เรื่องที่เขาอยากทำที่สุดก็คือการรักษามารดาให้หายดี ทำให้นางกลับมาฝึกฝนได้อีกครั้ง

        หากไม่มีน้ำนมปฐพี การจะรักษาหลีเยียนเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ในเมื่อมีหินผลึกที่มีน้ำนมปฐพี ทุกสิ่งก็กลายเป็นง่ายขึ้นมา หินผลึกชิ้นนี้มีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง คือรองรับพลังใดๆ ในโลกได้ หลีเยียนที่ฝึกฝนจนถึงระดับเปลี่ยนชีพจรแล้วแต่กลับสูญเสียลมปราณในร่างกาย ความแข็งแกร่งของเส้นชีพจรและจุดตันเถียนยังไม่ถึงระดับที่จะสามารถดูดซับปราณธรรมชาติได้ ต้องรักษาด้วยการทำให้ภายในร่างกายรองรับและบ่มเพาะพลังปราณได้อีกครั้ง

        ปกติแล้วพลังปราณที่ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นสร้างขึ้น ใครก็ไม่สามารถดึงมาใช้ได้ แต่สำหรับอวิ๋นโม่แล้วไม่ใช่ปัญหา ถึงจะเป็นอาการบาดเจ็บแบบเฉพาะเจาะจงของผู้ป่วย เขาก็สามารถใช้โอสถวิเศษชักนำพลังปราณของผู้อื่น ปรับพลังให้เข้ากับสภาพร่างกายของผู้บาดเจ็บเพื่อรักษาลมปราณโดยเฉพาะ แต่แน่นอนว่าอวิ๋นโม่ไม่คิดทำร้ายผู้อื่น จึงตัดสินใจใช้ปราณของสัตว์อสูร

        ก่อนที่สัตว์อสูรจะแปลงกายนั้น การฝึกฝนแตกต่างจากพวกมนุษย์มาก แต่เมื่อชีพจรของสัตว์อสูรเปลี่ยนเป็นพลังปราณ กลับมีความใกล้เคียงกับลมปราณของมนุษย์

        สัตว์อสูรทั่วไปตัวหนึ่ง แค่พละกำลังของมันก็แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับเปลี่ยนชีพจรทั่วไป พละกำลังของอวิ๋นโม่ในตอนนี้ หากคิดจะเก็บเกี่ยวพลังปราณในร่างของสัตว์อสูรระดับเปลี่ยนชีพจร เกรงว่าคงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ดังนั้นเรื่องเฉพาะหน้าที่เขาต้องทำก็คือพัฒนาพละกำลังให้ถึงระดับเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้า ขณะเดียวกันก็ใช้น้ำนมปฐพีปรับพื้นฐานร่างกายของตนเองให้แข็งแกร่งมั่นคง เขาเชื่อว่าหากเสริมกำลังด้วยน้ำนมปฐพีและเลื่อนถึงระดับเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้า สัตว์อสูรทั่วๆ ไปก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

        หลังออกจากที่พักของประมุขตระกูลและกลับถึงบ้าน อวิ๋นโม่รีบนำน้ำนมปฐพีออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว เขาใช้ปลายมีดแหลมกระเทาะหินผลึกจนเป็นรูขนาดเล็กรูหนึ่ง คุณค่าที่ถูกกักเก็บอยู่ภายในก็ปรากฏออกมา สิ่งที่หลับใหลอย่างสงบอยู่ภายในนั้นคือน้ำนมปฐพีที่มีขนาดเล็กกว่าไข่นกเสียอีก

        อีกด้านคืออ่างอาบน้ำที่อวิ๋นโม่ตระเตรียมไว้ เขาหยดน้ำนมปฐพีหนึ่งหยดเล็กลงไปอย่างระมัดระวัง เพียงครู่เดียวน้ำในอ่างไม้ก็เปลี่ยนเป็นสีขาวราวน้ำนม หลังใช้เศษหินผลึกที่สะกิดออกมาปิดกลับไป อวิ๋นโม่ก็กระโดดลงไปในอ่างอาบน้ำ

        เพียงครู่เดียวความเจ็บปวดทั่วร่างกายก็ประดังประเดเข้ามา ถึงอวิ๋นโม่จะเคยแบกรับความเจ็บปวดรูปแบบต่างๆ มาแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับจากน้ำนมปฐพีนี้ก็ยังทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน กระนั้นในดวงตาของอวิ๋นโม่ก็ยังตื่นเต้นยินดี เพราะสามารถสัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อของตนกำลังแข็งแกร่งมากขึ้น

        หลังจากแช่อยู่ในน้ำตลอดทั้งคืน น้ำนมปฐพีหยดนั้นก็ถูกอวิ๋นโม่ดูดซับไปจนหมด เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อของตนเองแข็งแกร่งถึงระดับน่ากลัว เสริมกำลังร่างกายมาตลอดทั้งคืน แม้จะไม่ทำให้บรรลุถึงระดับเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้าในทันที แต่ร่างกายที่อยู่ในระดับเสริมกำลังขั้นเจ็ดชั้นฟ้าก็มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ร่างเสริมกำลังในชาติก่อนของเขายากที่จะมีคนเทียบได้ แต่อวิ๋นโม่มั่นใจว่าร่างเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้าในชาติก่อนของตนยังไม่อาจสู้พละกำลังของร่างเสริมกำลังขั้นเจ็ดชั้นฟ้าของเขาในชาตินี้

        ด้วยเหตุที่อวิ๋นโม่สามารถเอาชนะอวิ๋นเลี่ยได้ เดือนนี้เขาจึงได้รับยาลูกกลอนเสริมกำลังทั้งหมดหกเม็ด เมื่อมีน้ำนมปฐพีแล้ว ลูกกลอนเสริมกำลังเหล่านี้ก็นับเป็นแค่ยาจืดเท่านั้น ดังนั้นอวิ๋นโม่ตัดสินใจจะนำไปขาย จะได้นำเงินไปเตรียมการล่าสัตว์อสูรบนเขาเหนือเมฆา 

        การขึ้นเขาเหนือเมฆาจำเป็นต้องมีอาวุธที่ค่อนข้างดี มิเช่นนั้นหากไปมือเปล่าก็ยากที่จะสะกิดหนังหนาๆ เพื่อสังหารสัตว์อสูร

        โชคของอวิ๋นโม่นับว่าไม่เลว บังเอิญเจอแผงลอยเปิดประมูลพอดี เขารีบมอบยาลูกกลอนเสริมกำลังทั้งหกเม็ดแก่แผงประมูล

        แม้ยาลูกกลอนเสริมกำลังจะมีใช้กันทั่วไป แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์รายย่อยหรือมีทุนทรัพย์น้อยถือเป็นสิ่งของหายาก ดังนั้นลูกกลอนเสริมกำลังหกเม็ดของอวิ๋นโม่จึงทำให้เขาได้รับเงินถึงสองเหรียญทอง กับอีกแปดสิบเหรียญเงิน

        ลูกกลอนเสริมกำลังขายออกได้ราคาดี แต่ยังไม่ใช่เรื่องที่อวิ๋นโม่ดีใจที่สุด เรื่องที่เขาดีใจที่สุดก็คือ อีกหนึ่งเดือนให้หลังเมืองกวนซานเจิ้นจะเปิดประมูลถุงเฉียนคุนหนึ่งใบ!

        ถุงเฉียนคุน เป็นถุงเล็กๆ ใบหนึ่ง ภายในมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ ใช้เก็บอาวุธและสิ่งของได้สะดวกยิ่ง เท่าที่อวิ๋นโม่รู้มา แม้แต่อวิ๋นเว่ยเซิงผู้เป็นประมุขตระกูลก็ยังไม่มีถุงเฉียนคุน ตนเองต้องการเข้าไปในเทือกเขาเหนือเมฆา หากมีถุงเฉียนคุนสักใบหนึ่งก็จะสามารถเก็บรวบรวมยาสมุนไพรและสิ่งต่างๆ ได้โดยสะดวก

        จะต้องประมูลถุงเฉียนคุนมาให้ได้!

        อวิ๋นโม่รู้ดีว่า สิ่งของเช่นนี้ เมื่อปรากฏขึ้นมาจะดึงดูดให้ผู้คนในเมืองแย่งชิงอย่างบ้าคลั่ง ราคาจะต้องสูงจนถึงระดับที่น่ากลัว ด้วยฐานะของเขาในตอนนี้ แม้แต่โอกาสที่จะเข้าไปแย่งชิงก็ยังไม่มี

        อวิ๋นโม่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ต้องเร่งบรรลุระดับเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้าแล้วเข้าไปเสาะหาทรัพยากรในหุบเขาเหนือเมฆา จะได้สะสมเงินทองเพื่อซื้อถุงเฉียนคุน 

        หลังจากกลับถึงบ้าน อวิ๋นโม่ก็เริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง กลางวันฝึกหมัดทลายภูผาเสริมพื้นฐานพลัง กลางคืนใช้น้ำนมปฐพีเสริมร่างกาย ฝึกทั้งวันทั้งคืนเพื่อการเลื่อนระดับ

        หลังจากดูดซับน้ำนมปฐพีหยดที่สี่ อวิ๋นโม่ก็บรรลุถึงระดับเสริมกำลังขั้นแปดชั้นฟ้า ตอนนี้เขามีความสามารถที่จะปกป้องตนเองเมื่อเข้าไปในเทือกเขาเหนือเมฆาแล้ว

        ประสบการณ์ในชาติก่อนบอกกับอวิ๋นโม่ว่า ทางที่ดีที่สุดไม่ควรเปิดเผยความสามารถด้านการแพทย์และพละกำลังที่แข็งแรงของตนเอง มิเช่นนั้นจะเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้แข็งแกร่งคนอื่น และจะตกอยู่ในอันตราย เขาจึงตัดสินใจเข้าไปในเทือกเขาเหนือเมฆาโดยการปิดบังตัวตน

        หลังจากเก็บชุดยาวสีเทาใส่ห่อผ้า อวิ๋นโม่ก็ผลักประตูออกไป

        “พี่ใหญ่ ท่านจะไปข้างนอกอีกแล้ว” เมิ่งเอ๋อร์วิ่งเข้ามาด้วยความสดใสราวนกน้อย

        “ข้าจะไปข้างนอกสักหลายวัน เจ้าอยู่บ้านต้องฝึกฝนให้ดี” อวิ๋นโม่ลูบศีรษะของน้องสาวอย่างอ่อนโยน

        ยามนี้เมิ่งเอ๋อร์บรรลุจุดสูงสุดของระดับเสริมกำลังขั้นห้าชั้นฟ้าแล้ว ใกล้จะเข้าสู่ขอบเขตระดับเสริมกำลังขั้นหกชั้นฟ้า ความเร็วในการฝึกฝนเช่นนี้ที่จริงนับว่าเหนือกว่าศิษย์ทั่วไปของตระกูลอวิ๋นแล้ว อวิ๋นโม่ไม่ให้เมิ่งเอ๋อร์แช่ยาเสริมกำลังอีก ยาทุกชนิดมีพิษสามส่วน หากใช้มากไปก็ไม่ใช่เรื่องดี เขาจึงให้เมิ่งเอ๋อร์ฝึกฝนเพลงกระบี่เทพธิดาเพื่อสลายสิ่งตกค้างจากตัวยา รอให้ไม่เหลือพิษตกค้างแล้ว เขาจะให้เมิ่งเอ๋อร์ใช้การแช่ยาเสริมกำลังฝึกฝนอีกครั้ง

        อย่าเห็นว่าอวิ๋นโม่เอาแต่อาศัยตัวยาจำนวนมากในการฝึกฝน นั่นเป็นเพราะในอนาคตเขาจะใช้วิธีที่แสนเจ็บปวดชนิดหนึ่งมาสลายพิษจากตัวยาที่ตกค้างในร่างกาย อวิ๋นโม่ไม่ต้องการให้เมิ่งเอ๋อร์เผชิญกับความเจ็บปวดเช่นนั้น

        “เจ้าค่ะ พี่ใหญ่!” แม้อยากติดตามพี่ชายไป แต่เมิ่งเอ๋อร์ผู้รู้ความก็ไม่ทำให้อวิ๋นโม่ลำบากใจ

        อวิ๋นโม่ออกจากบ้านตระกูลอวิ๋นไปยังบริเวณเปลี่ยวร้างแห่งหนึ่ง เขาเปลี่ยนมาใส่ชุดยาวสีเทาเรียบๆ ก่อนสวมหน้ากากที่เตรียมเอาไว้ลงบนหน้า จากนั้นย้อนกลับเข้าไปในเมืองกวนซานเจิ้นแล้วขึ้นเทือกเขาเหนือเมฆา เขาจะต้องหาซื้ออาวุธที่เหมาะมือสักชิ้น

        ……………………………………

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

Status: Ongoing
ถูกศิษย์รักทรยศ! แพทย์โอสถอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกหักหลัง! ทั้งเคี่ยวเข็ญ ผลักดัน คอยหลอมสมุนไพรเพิ่มพูนกำลังตลอดหลายร้อยปี บัดนี้.. เด็กไร้ค่านั่นได้ใช้นาม “จักรพรรดิลั่วเทียน” ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับกลายเป็นเพียงเสี้ยนหนามที่ต้องถูกกำจัด! ฉับพลัน การจุติครั้งใหม่จึงอุบัติขึ้น.. ในร่าง “อวิ๋นโม่” จุดด่างพร้อยของตระกูลที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนตายอย่างไร้ทางสู้ แม้เป็นร่างใหม่ ภพชาติเปลี่ยนไป แต่ไฟบรรลัยกัลป์แห่งความเจ็บแค้นนั้นยังคุกรุ่น ครานี้หรือ.. จักยอมให้เหยียบย่ำ ทั้งโอสถตำรา.. คาถา.. สมุนไพร.. หม้อหลอมยา.. และพละกำลัง จากคนธรรมดาจึงทะยานขึ้นเหนือใต้หล้า.. ในฐานะปรมาจารย์เทพโอสถ! “ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจ ดูแลดั่งลูกในไส้ เจ้ากลับสังหารอาจารย์ จักทุ่มเทฝึกฝนสุดกำลัง ให้ไอ้ศิษย์ทรยศนั่นต้องจ่ายค่าตอบแทน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท