เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย – ตอนที่ 12 ปลายสายจากหมอสาว

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

ตอนที่ 12 ปลายสายจากหมอสาว

 

ณ ช่วงเวลาตอน 3 ทุ่ม

 

ขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งอ่านหนังสือพร้อมไฮไลน์เนื้อหาที่ต้องการจะจดจำ เป็นตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ข้างเตียงเกิดดังขึ้น พอหยิบมาดูก็เป็นสายจากใบเฟิร์น

 

เป็นสายจากหมอสาวห้องพยาบาล

 

“…”

 

“หืม?”

 

“…”

 

ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

ก่อนจะทอดถอนหายใจออกมา ทอดถอนหายใจเต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์ด้านลบ ลองได้โทรมากลางดึกแบบนี้ คงไม่พ้นต้องเกิดเรื่องราวบางสิ่งอย่างแน่นอน เขาวางหนังสือและเลือกกดรับสาย

 

ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด

 

“…”

 

ทันทีที่เขากดรับสาย

 

สุ้มเสียงสายหนึ่งก็ดังแทรกแซงแทรกซ้อนเข้ามาทันที ทั้งยังไม่มีท่วงท่าต้องการหยอกล้อ ไม่มีท่วงท่าสบายใจชอบเป็นไปตามอารมณ์เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา น้ำเสียงกับราบเรียบจริงจัง

 

ทั้งยังแอบแฝงไปด้วยความโกรธเคือง

 

“…”

 

“ต้องการให้ช่วยไหม?”

 

“…”

 

นิ่งเงียบไม่มีตอบสนองตอบกลับไป

 

ทราเวียร์ส่ายหน้าปฏิเสธแผ่วเบาพร้อมกล่าวตอบปฏิเสธกลับไป แม้จะรู้ว่าหากเขาต้องการร้องขอความช่วยเหลือจากหมอสาว ทุกสิ่งอย่างคงผ่านพ้นไปได้ง่ายดาย แต่เขาก็ไม่ได้เลือกเส้นทางนั้น

 

เขาเพียงแค่อยากอยู่นิ่งเงียบไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับใครคนอื่น

 

“อย่าดีกว่าครับ”

 

“…”

 

“ที่แล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ”

 

“อย่าไปยุ่งวุ่นวายเลย”

 

“แต่!”

 

“…”

 

“ผมตัดสินใจไปแล้วครับ”

 

“…”

 

“ผมตัดสินใจไปแล้ว”

 

ใช่ เขาตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว

 

ลองทราเวียร์ได้กล่าวถ้อยเฉกเช่นนี้ออกมา ต่อให้ต้องการโน้มน้าวให้แปรเปลี่ยนการตัดสินใจใหม่ย่อมทำได้ยากยิ่ง ใบเฟิร์นหมอสาวขมวดคิ้วขณะมือกำโทรศัพท์แน่น

 

ก่อนจะเค้นเสียงไม่พอใจขั้นสุดที่อีกฝ่ายดื้อด้านไม่เข้าเรื่อง

 

“นายนี่มัน!”

 

“…”

 

“ใจอ่อนไม่เข้าเรื่อง”

 

“…”

 

“ไม่ได้ใจอ่อนสักหน่อย”

 

“แค่ไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตเท่านั้น”

 

“นั้นแหละที่เขาเรียกว่าใจอ่อน”

 

“…”

 

“เข้าประเด็นเถอะครับ”

 

เป็นอีกครั้งที่ทราเวียร์เลือกตัดบท

 

แม้ใจหญิงสาวหมอพยาบาลอยากจะดุด่า อยากจะด่าทอให้มากกว่านี้ แต่ถ้าเกิดไม่เข้าประเด็นเอาแต่เทศนาวนเวียนไป เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะตัดสายหนี หมอสาวสูดลมหายใจปรับเปลี่ยนอารมณ์

 

ก่อนจะเริ่มเข้าประเด็นหลักที่เธอเลือกโทรมาหาในตอนนี้

 

“…”

 

“คือว่า”

 

“…”

 

“ก่อนกลับบ้าน”

 

“หลังรู้เรื่องทั้งหมด”

 

“หลังจากรู้ว่านายโดนทำอะไรบ้าง”

 

“ฉันก็เลยทำเรื่องลาให้กับนาย”

 

“…”

 

“ทำเรื่องลาให้กับผม?”

 

“ทำไมไม่บอกผมก่อน”

 

“ถ้าบอก”

 

“นายจะยอมไหมล่ะ?”

 

“ก็คงไม่”

 

“…”

 

“เพราะแบบนี้ไง”

 

“ถึงได้ยื่นไปโดยไม่บอกนาย”

 

“ช่วยแล้วยังไม่สำนึกอีก”

 

“…”

 

“ขอบคุณครับ”

 

ทราเวียร์ยิ้มแห้งจนปัญญาเหลือเกิน

 

ต่อให้ไม่ชอบใจต้องการจะปฏิเสธยังไง แต่มันก็แปรเปลี่ยนไม่ได้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของใบเฟิร์นหมอสาวมันได้ช่วยเขาเอาไว้จริง ๆ อีกอย่างเอาเข้าจริงการพักผ่อนอยู่บ้านก็ไม่เลว

 

เกิดเสนอหน้าโผล่ออกไปตอนนี้ พวกเศษเดนเศษขยะทั้งหลายคงไม่พ้นต้องยื่นหน้าเข้ามาก่อกวนเขาไม่เลิกรา ดีไม่ดีทุกสิ่งอย่างที่อดทนอดกลั้นมาตลอดมันอาจระเบิดขึ้นมาก็ได้

 

แต่ว่านะ ยื่นเรื่องไปตอนเย็นของวันนี้ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงดีคำขอลากับได้รับการอนุมัติทั้งที่ไม่ใช่เวลาปรกติธรรมดา ไม่ใช่เวลาทำงาน มันรวดเร็วเกินไปรึเปล่า รวดเร็วจนผิดปรกติ

 

ทราเวียร์ขมวดคิ้วถามกลับด้วยความสงสัย

 

“เร็วเกินไปรึเปล่า?”

 

“…”

 

“ก็ตามที่เห็น”

 

“เอาเข้าจริง”

 

“เรื่องมันน่าจะเสร็จพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ”

 

“แต่เหมือนจะมีคนขี้เกียจรอ”

 

“…”

 

“เมญ่า เอมเมอริซ”

 

หากจะมีใครสักคนที่พร้อมยื่นมือแทรกแซง

 

เขาเชื่อได้เลยว่าต้องมีชื่อของหล่อนแปะติดอยู่อย่างแน่นอน ทราเวียร์ขยี้ผมด้วยความปวดหัวปวดกระบาลลองหล่อนได้เข้ามายุ่งวุ่นวายด้วย เขารับรู้ได้เลยทันทีว่าต่อจากนี้มันต้องวุ่นวายมากแน่

 

แน่นอนว่าข้อสันนิฐานของทราเวียร์ใบเฟิร์นเองก็เห็นพ้องต้องกัน หากจะมีใครสักคนที่เร่งกระบวนการทำงานทั้งหมด โดยไม่มีสนใจใครคนอื่นเน้นความต้องการส่วนตัวเป็นหลัก

 

ก็คงมีแค่คุณหนูสาวตระกูลเอมเมอริซนั้นแหละ

 

“น่าจะเป็นเธอแหละที่เร่งเรื่องให้”

 

“ถ้าไม่ได้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายกลางคัน”

 

“คำร้องขอของนายอาจจะถูกปัดตกไปแล้วก็ได้”

 

“…”

 

“อย่าบอกนะ?”

 

“…”

 

“น่ารังเกียจใช่ไหมล่ะ?”

 

ทราเวียร์ขมวดคิ้วแน่น

 

ดูเหมือนรอบนี้เจ้าพวกเศษเดนเศษขยะทั้งหลายจะไม่เลิกราง่ายดาย กระทั่งถึงขั้นใช้อำนาจบาตรใหญ่ของตัวเองเข้ามาขัดขวางกระบวนการทำงาน เข้ามาขัดขวางไม่ให้เขาลาพักอยู่บ้าน

 

นี่มันค่อนข้างเป็นอะไรที่ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดเหลือเกิน

 

“…”

 

“เฮ้อ!~”

 

“…”

 

แต่เอาเถอะ

 

เรื่องที่เกิดไปแล้ว ได้รับการแก้ไขไปด้วย จะไปครุ่นคิดมากมายก็ใช่เรื่อง ทราเวียร์เลยเลือกเปลี่ยนประเด็น เปลี่ยนไปเรื่องอื่นแทน เรื่องที่ดูดีมีสาระมากพอและเกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง

 

เป็นต้นว่าเรื่องวันเวลาที่ยื่นร้องขอไป

 

“…”

 

“แล้วยื่นไปกี่วัน?”

 

“…”

 

“ตอนแรกว่าจะยื่นไป 1 สัปดาห์”

 

“แต่คิดไปคิดมา”

 

“ฉันว่า 2 สัปดาห์ดีกว่า”

 

“…”

 

“นานอยู่นะ 2 สัปดาห์”

 

ชายหนุ่มร่างสูงหยิบปฏิทินขึ้นมา

 

พร้อมหยิบปากกาขึ้นมาเขียนประดับติดเอาไว้ แต่ก็อย่างที่บอกกกล่าวออกไปช่วงเวลา 2 อาทิตย์สำหรับพักผ่อนมันค่อนข้างเป็นอะไรที่ยาวนานอยู่พอสมควรนานจนอาจจะเบื่อได้เลยล่ะ

 

แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจนะ ถึงความปรารถนาดีที่หล่อนมอบให้ บางที 2 อาทิตย์มันอาจไม่ใช่สำหรับต้องการให้บาดแผลของเขาหายจนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ มันน่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า

 

ใบเฟิร์นยิ้มหัวเราะเบาสบายขณะกล่าวตอบ

 

“ไม่นานหรอก”

 

“…”

 

“อีกอย่างในระหว่างนี้”

 

“ระหว่างที่นายหยุดพัก”

 

“ฉันจะส่งการบ้านทั้งหมดให้”

 

“อย่าลืมทำมาส่งด้วยละ”

 

“…”

 

“ขอบคุณครับ”

 

เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาสำหรับเขาอยู่แล้ว

 

ก่อนบรรยากาศนิ่งเงียบจะเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง หมอสาวห้องพยาบาลนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายต้องการจะบอกกล่าวบางสิ่งอย่างออกมา เธอนิ่งไปหลายต่อหลายวินาที

 

ก่อนจะกล่าวออกมาแผ่วเบาผ่านทางปลายสาย

 

“คือว่านะเวียร์?”

 

“…”

 

“ฉันยังยืนยันคำเดิม”

 

“ถ้านายอยากเล่นกลับ”

 

“ฉันเป็นธุระให้ได้นะ”

 

“…”

 

“ขอบคุณครับสำหรับความเป็นห่วง”

 

คำขอบคุณที่้ถูกพูดออกมาไม่ต่างอะไรไปจากคำปฏิเสธ

 

หมอสาวห้องพยาบาลยิ้มแห้ง นี่เธอกำลังคาดหวังอะไรอยู่กันแน่ รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนดื้อด้านขนาดไหนแต่ก็ยังเลือกที่จะลองกล่าวมันออกไป เธอส่ายหน้าให้กับความโง่งมของตนเอง

 

หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยเรื่อยเปื่อยไปตามอารมณ์ โดยคนที่นำบทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นหมอสาวเป็นหลัก และเรื่องที่หล่อนหยิบยกขึ้นมาพูดคุยก็ไม่พ้นต้องเป็นเรื่องร่างกายของเขา

 

เป็นเรื่องการคืบหน้าของบาดแผลที่หล่อนได้รักษาไป

 

“…”

 

 

หลังจากวางสายเสร็จ

 

ร่างสูงไม่มีขยับไปไหนยังคงนั่งนิ่งเงียบตามเดิม เหมือนเดิมไม่มีแปรเปลี่ยน นั่งนิ่งเงียบคล้ายกำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความทรงจำห้วงความคิดบางสิ่งอย่างก่อนจะมีเหลือบมองไปที่กรอบรูป

 

มองไปที่รูปของเขากับแฟนเก่าที่เคยถ่ายร่วมกัน

 

…‘มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงนะ’

 

“…”

 

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท