ตอนที่ี 23 คุณหนูสาวผู้ไม่รู้จักระมัดระวังตัว
บรรยากาศในลิฟต์ตอนนี้ค่อนข้างตึงเครียด
ชายหนุ่มปริศนานิ่งแข็งค้างทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เกิดมาทั้งชีวิตมันไม่เคยพานพบเห็นใครที่สวยขนาดนี้มาก่อน แม้ไม่รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ แต่หนึ่งสิ่งอย่างที่รับรู้ได้แน่นอน
คือมันจำต้องปรับแก้ภาพลักษณ์ของตัวเองเสียใหม่
“…”
“ขอโทษครับ”
“…”
“ขอโทษทำไมคะ?”
“ขอโทษที่ผมทำเสียงดัง”
“คือผมไม่คิดว่าใครคนอื่นจะมาได้ยิน”
“ก็เลยเผลอไป”
“…”
“ขอโทษจริง ๆ ครับ”
“…”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
“ดิฉันไม่เก็บมาใส่ใจหรอก”
คุณหนูสาวเมญ่าส่ายหน้าไม่เอาความ
อย่าว่าแต่ส่ายหน้าไม่เอาความ กระทั่งเหลือบมองให้ความสนใจยังไม่มีมากมายอะไรนัก เพียงแค่เหลือบมองไปตามมารยาท กล่าวสนทนาโต้ตอบไปตามมารยาทขั้นพื้นฐานตามที่ควร
แต่ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มปริศนา เนื้อตัวของมันพลันมีพลังงานมากมายผุดขึ้นมาไม่มีหยุดหย่อน ฝ่าเท้าขยับพยายามก้าวเท้าเข้าไปใกล้อีกนิด กลิ่นหอมจากเรือนร่างทำเอามันเหม่อลอยไม่ได้สติ
กว่าจะรู้สึกตัวก็เป็นตอนที่อีกฝ่ายเลือกขยับถอยห่างเล็กน้อย เป็นสัญญาณบ่งบอกให้มันได้รับรู้ว่าตัวของหล่อนสังเกตเห็นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น พอรับรู้เฉกเช่นนั้นมันรีบถอยห่างออกทันที
ถอยห่างออกด้วยความตกใจ
“…”
“!!!”
“…”
ชายหนุ่มปริศนาลอบสูดลมหายใจเข้าลึก
พยายายามรวบรวมสติมากมายที่ล่องลอยไปกับสายลมให้หวนคืนกลับมาที่เดิม หลังจากได้สติเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวไม่เลือกเงยหน้ามองสู้สายตา ไม่กล้ากระทำผิดพลาดเหมือนครั้งก่อนหน้า
มันเลือกที่จะมองไปทางอื่นไม่มีคิดสบสายตาก่อนจะกล่าวต่อ
“คะ คือ”
“…”
“จะว่ายังไงดีล่ะ”
“ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อน”
“คุณเองก็อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?”
“…”
“ถะ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรครับ”
“ผมแค่อยากจะถามเฉย ๆ ถามได้ใช่ไหมครับ?”
“…”
“ถามได้ค่ะ”
“…”
“อือ~”
“ถ้าจะให้ตอบละก็”
“ดิฉันไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่”
“เพียงแค่แวะหน้ามาหาคน”
“ตอนนี้ก็กำลังจะกลับบ้านค่ะ”
“…”
“งั้นเหรอครับ?”
ชายหนุ่มปริศนาหรี่ตามอง
ภายใต้แววตาราบเรียบยากจะมีใครพานพบเห็นห้วงลึกจิตใจอีกฝ่าย บังเกิดแนวทางความรู้สึกผิดแปลกขึ้น ตามสัญชาตญาณดิบที่เคยช่วยชีวิตมันมาตลอด เดาได้ว่าคนที่หญิงสาวแวะเวียนมาหา
น่าจะเป็นผู้ชายซึ่งถ้าหากเป็นผู้ชายจริงขึ้นมา
…‘ขอให้เป็นพวกมีสมองมีสตินึกคิด’
…‘กล้ามาแย่งของ ๆ ฉัน’
…‘เกรงว่าคงไม่ได้ตายดี’
“…”
—
ทุกสิ่งอย่างผ่านพ้นไปรวดเร็วเหลือเกิน
ระยะทางจากชั้น 3 ลงมายังชั้นแรกสุดของตึกอาคาร มันใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ หากเป็นไปได้มันอยากให้ลิฟต์เสียลิฟต์ค้างมันตั้งแต่ตอนนี้เลย จะได้ใช้ระยะเวลากับหล่อนให้มาก
แน่นอนว่าเรื่องราวแบบนั้นมันคงไม่เกิดขึ้นง่ายดาย พอประตูลิฟต์ทั้งสองเปิดออก เปิดเผยให้เห็นฉากภาพลานจอดรถ หล่อนก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากลิฟต์ พร้อมทิ้งท้ายด้วยสุ้มเสียงแผ่วเบา
ทิ้งท้ายตามมารยาทไม่ได้มีเหตุผลอื่นแอบแฝง
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“คุณครับ?!”
“คะ?”
“เรายังจะได้เจอกันอีกไหม?”
“ถามออกมาแบบนี้”
“มีความหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่าคะ?”
“มะ ไม่ใช่ครับ!”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
“แค่รู้สึกว่าพูดคุยกันถูกคอ!”
“…”
“เราจะได้เจอกันอีกแน่นอนค่ะ”
“ตราบใดที่เขาคนนั้นยังไม่ไล่ฉันไปไหน?”
“คนที่คุณหมายถึงคือ?”
“อีกเดี๋ยวคุณก็รู้เอง แต่ตอนนี้”
“…”
“ความลับค่ะ~”
คุณหนูเมญ่าเผยรอยยิ้มมุมปาก
เพียงแค่รอยยิ้มมันก็มากพอที่จะช่วงชิงหัวจิตหัวใจใครคนอื่น ในอกพลันเต้นแรงอีกครั้ง หากแต่ในห้วงจิตใจมันกับไม่ได้มีอารมณ์เชิงบวกอย่างเดียว มันยังมีห้วงอารมณ์เชิงลบเจือปน
อีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน เป็นใครกันแน่ ทำไมหญิงสาวแสนสวยงดงามปานเทพธิดาถึงได้เอ่ยปากแบบนั้นออกมา ความหึงหวงบางส่วนกำลังเข้าครอบงำจิตใจ
สองเท้าเริ่มเดินตามติด
“…”
สายตาชายหนุ่มปริศนาจดจ้องมองแผ่นหลัง
ก่อนจะจดจ้องมองฝ่ามือขาวเนียน เพียงแค่เสี้ยวพริบตาเดียวเท่านั้นที่สันดานดิบเหนือล้ำทุกสิ่งอย่าง หัวสมองพลันสั่งการให้ร่างกายของมันขยับเข้าหาคิดเหนี่ยวรั้งอีกฝ่ายทันที
ขณะที่ฝ่ามือของมันกำลังจะจับเข้ากับฝ่ามือขาวเนียน
หมับ!
“…”
“!!!”
“…”
เพียงเสี้ยวพริบตาเดียว
แววตาราบเรียบแปรเปลี่ยนกลายเป็นบ้าคลั่งต้องการหล่อนให้กลายเป็นของตน แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวสมองกับความเป็นจริงเบื้องหน้า มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่าง ดวงตาพลันเบิกกว้าง
ออกอาการตื่นตระหนกตกใจขั้นสุด เนื่องจากฝ่ามือของมันไม่ได้พุ่งเข้าไปคว้าจับฝ่ามือหญิงสาวตามที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรก ไม่ใช่กระทั่งฝ่ายที่ได้จับ แต่เป็นฝ่ายที่โดนจับต่างหาก
ซึ่งชายหนุ่มที่เข้าแทรกแซงจับข้อมือชายปริศนาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
“…”
เป็นทราเวียร์นั้นเอง
ชายปริศนาที่รู้สึกตัวพยายามดึงฝ่ามือของตัวเองออกมา สีหน้าของมันก็ต้องแปรเปลี่ยนอีกครั้งเพราะเรี่ยวแรงที่จับบีบกับมากมายมหาศาลจนขยับเนื้อตัวไปไหนไม่ได้ เหงื่อเริ่มปรากฎบนใบหน้า
คุณหนูสาวเองก็ตื่นตกใจไม่แพ้กัน ใช่ว่าหล่อนจะสัมผัสรู้สึกไม่ได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หล่อนคิดเตรียมการขยับถอยห่างไม่ปล่อยให้โดนแตะเนื้อต้องตัวอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าจะโดนแทรกแซง
แถมคนที่เข้ามาแทรกแซงแทรกกลางยังเป็นเขาอีกต่างหาก
“…”
“ปล่อย!”
“…”
ชายหนุ่มปริศนากัดริมฝีปากแน่น
พยายามชักดึงมือของตัวเองออกมา น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดทั้งมวลล้วนสูญเปล่าเปล่าประโยชน์ ทราเวียร์หรี่ตามองเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันจนมันเผลอสั่นกลัวสั่นสะท้าน
ก่อนสุ้มเสียงเย็นชาจับจิตจะเริ่มตัดเข้าประเด็นทันทีไม่มีอ้อมค้อม
“…”
“ฉันบอกให้ปล่อย”
“…”
“ไม่เคยมีคนบอกเหรอครับ”
“ว่าการแตะเนื้อต้องตัวคนอื่น”
“โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่คุณไม่รู้จัก”
“มันเป็นการเสียมารยาท”
“…”
“ไอ้หนูแกเป็นใคร?”
“…”
“เอาเวลามาถามผม”
“ไปถามตัวเองดีกว่าครับ”
“เมื่อกี้ คุณคิดจะทำอะไร?”
“…”
“คุณนักเรียน?”
คุณหนูสาวเมญ่ากะพริบตาน่ารักเอ่ยทักขึ้นมา
บอกกล่าวตามตรงเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าอีกฝ่ายโผล่หน้าเข้ามาแทรกแซงแทรกกลางด้วยเหตุผลอะไรตอนไหน แต่สิ่งที่เขาได้กระทำลงไป ได้หยุดยั้งไม่ปล่อยให้เธอต้องโดนเอาเปรียบ
มันกับทำให้เธอรู้สึกดีใจจนแทบจะหุบยิ้มไม่ได้เลยละ
“…”
“ฮิฮิฮิ!~”
“…”
ทันทีที่เห็นคุณหนูสาวหลุดยิ้มหัวเราะไม่มีสำนึก
เป้าหมายแรกเริ่มต้นต้องการเล่นงานชายหนุ่มปริศนา ตอนนี้มันได้แปรเปลี่ยนขยับย้ายมาที่คุณหนูสาวแสนสวยผู้งดงามปานเทพธิดาเป็นที่เรียบร้อย สีหน้าทราเวียร์ดำมืดเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
พร้อมกล่าวตำหนิติเตียนคุณหนูสาวทันทีไม่มีปล่อยผ่าน
“…”
“ไม่รู้จักระมัดระวังตัว”
“…”
คุณหนูสาวเลิกคิ้วไม่พอใจเป็นที่สุด
มาบอกเธอไม่รู้จักระมัดระวังตัวได้ไง ก็ในเมื่อก่อนทุกสิ่งอย่างมันจะเกิดขึ้น เขาดันยื่นมือเข้ามาแทรกแซงแทรกกลางเสียก่อน ลองเขาไม่ยื่นมือเข้ามาและปล่อยผ่านปล่อยให้มันดำเนินต่อไปสิ
รับรองได้เลยว่าเธอจะแสดงให้เห็นเองว่าเธอระมัดระวังตัวแค่ไหน
“ไม่รู้จักระมัดระวังตัวเอาเสียเลย ให้ตายสิ”
“…”
“รู้จักสิค่ะ ทำไมจะไม่รู้จัก”
“ไม่รู้จักต่างหากครับ”
“ก็บอกว่ารู้จักก็รู้จักสิ”
“…”
“ยัยเด็กดื้อด้าน”
“…”
“คุณต่างหากที่ดื้อด้าน!”
ต่างฝ่ายต่างต่อปากต่อคำไม่มีลดละ
ไม่ว่าจะด้านของคุณหนูสาวแสนสวยจากตระกูลเอมเมอริซ หรือจะด้านของทราเวียร์ชายหนุ่มร่างสูงผู้ครอบครองใบหน้าราบเรียบหัวคิ้วขมวดแน่นไม่พอใจตลอดปี เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร
ส่วนทางด้านชายหนุ่มปริศนามันพลันหรี่ตามองจ้องเขม็งไม่มีปล่อยผ่าน
…‘ไอ้เด็กนี่เหรอคนที่เธอมาหา?’
“…”