ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 599 งานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปี

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ตอนที่ 599 งานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปี

เมื่ออวิ๋นเหมี่ยน ศิษย์พี่ใหญ่แห่งอู่ตังกล่าวถึงข้อดีและข้อเสียชัดเจน ทุกคนในงานเลี้ยงก็สงบลงแล้ว ในที่สุดก็ไม่อิจฉาโบนัสของเจ้าสำนักที่น้องดาบได้รับอีก

ในในใจของคนส่วนใหญ่กลับเกิดคำถามบางอย่าง

นั่นก็คือ หากข้ากลายเป็นเจ้าสำนักบ้าง แล้วได้รับสวัสดิการพิเศษในการฝึกวิชาของสำนักแบบนั้น สถานการณ์จะเป็นอย่างไรกันนะ

แน่นอน ความคิดเหล่านี้ผ่านเข้ามาในหัวเพียงแวบเดียวเท่านั้น ไม่มีใครกล้าคิดเป็นจริงเป็นจังมากเกินไป

เพราะทุกคนต่างเข้าใจดีว่าตัวเองเป็นเจ้าสำนักไม่ได้

ทุกคนยังตระหนักรู้ในความสามารถตนเองอยู่บ้าง

ทว่าหลังจากเชิญร่ำสุราครุ่นคิดครู่หนึ่ง กลับซักไซ้น้องดาบต่อ “อย่าบอกนะว่าเป็นเจ้าสำนักแล้ว ข้อดีอย่างเดียวก็คือฝึกวิชาได้เร็วกว่าผู้เล่นทั่วไป ไม่มีอย่างอื่นแล้วหรือ”

น้องดาบยักไหล่ “ก็มีอำนาจของ NPC เจ้าสำนักตามขอบเขตที่กำหนด แต่ข้ารู้สึกว่าแบบนั้นไม่มีประโยชน์อะไร อย่างมากอีกหนึ่งเดือน รอให้ข้าฝึก ‘คัมภีร์ดาบโลหิต’ จนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว ข้าค่อยส่งต่อตำแหน่งเจ้าสำนักให้คนธรรมดาเดินดิน แล้วก็ออกจากสำนักดาบโลหิต”

เชิญร่ำสุราได้ยินแล้วงงไม่หยุด “เจ้าวางแผนจะเป็นเจ้าสำนักนานขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าเพื่อเร่งความเร็วในการฝึกวิชาหนึ่งเดือน”

“ไม่ใช่!” น้องดาบส่ายหน้าอย่างเยือกเย็น “หลังจากผู้เล่นเข้าสำนักมาแล้ว ก็จะถูกผูกมัดอยู่กับสำนัก ถ้าคิดจะออกจากสำนักแล้วออกเลยก็เป็นเรื่องยากมาก…

…ถ้าไม่ทรยศสำนัก ก็ต้องถูกไล่ออกจากสำนัก แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีบทลงโทษร้ายแรง ทำให้ความสามารถของผู้เล่นเสียหายเยอะมาก จุดนี้สหายเชิญร่ำสุราน่าจะเข้าใจลึกซึ้ง”

เชิญร่ำสุราพยักหน้าอยากเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเข้าใจว่า “หรือพูดได้อีกอย่างว่า เป้าหมายที่แท้จริงของเจ้าคือ หลังจากเรียนทักษะยุทธ์ของสำนักดาบโลหิตเรียบร้อยแล้ว ก็จะใช้วิธีออกจากตำแหน่งเจ้าสำนัก เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสำนักโดยไม่มีอะไรเสียหาย…

…พอเป็นแบบนี้ ก็จะมีข้อได้เปรียบที่ทำให้เจอกับวิทยายุทธ์ระดับสูงของสำนักเล็กๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังใช้ฐานะผู้เล่นมือใหม่หาบ้านเล็กต่อไปได้ ระหว่างนั้นก็จะไม่เกิดผลเสียใดๆ ต่อความสามารถของเจ้าด้วย แถมยังได้เสพสุขกับโบนัสการฝึกวิชาของเจ้าสำนัก?”

น้องดาบได้ยินแล้วหน้าเหวอ จากนั้นถามกลับด้วยน้ำเสียงโมโห “เจ้าพูดมาให้ชัดๆ นะ อะไรคือหาบ้านเล็กต่อไป เจ้าอยากตายหรือไง”

เชิญร่ำสุราได้ยินแล้วรีบยกมือยอมแพ้ “ข้าพูดผิดไปแล้ว ดื่มสุราลงทัณฑ์ ดื่มสุราลงทัณฑ์ ข้าดื่มสุราลงทัณฑ์ตัวเองสามจอก!”

พอทุกคนเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็ระเบิดเสียงหัวเราะทันที

ชั่วขณะนั้น ทั้งในและนอกโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง

หลังจากหัวเราะเสร็จ อินปู้คุยกลับเข้ามาอยู่ข้างกายเยี่ยเว่ยหมิง “สหายเยี่ย ตอนนี้ข้าเพิ่งจะค้นพบว่าในบรรดาผู้เล่นจากหลายสำนัก มีแค่สำนักมือปราบเทพของพวกเจ้าที่มีความตระหนักรู้สูงสุด สมกับเป็นคนของทางการ แตกต่างจากคนรากหญ้าอย่างพวกเรา แม้แต่คุณภาพของผู้เล่นก็สูงขนาดนั้น ช่างน่าชื่นชมจริงๆ!”

เยี่ยเว่ยหมิงเลิกคิ้ว “มีอะไรก็ว่ามา เจ้าจะมาชื่นชมพวกเราทำไม”

“ก็ต้องชื่นชมที่พวกเจ้าไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดน่ะสิ” อินปู้คุยกล่าวอย่างจริงจัง “เมื่อครู่ตอนเจ้าสำนักรุ่นที่ห้าของสำนักดาบโลหิตบรรยาถึงโบนัสของเจ้าสำนัก ทุกคนล้วนมีท่าทางอิจฉาริษยา แต่มีอยู่ไม่กี่คนที่พอตกตะลึงแล้วก็แสดงออกได้อย่างใจเย็น จุดนี้ผู้เล่นจากสำนักมือปราบเทพอย่างพวกเจ้าสามคนทำได้เลย”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วจนใจนิดหน่อย ข้าจะบอกได้อย่างไรว่าสำนักมือปราบเทพของข้าไม่มีวิทยายุทธ์ของสำนัก

แต่ยังดีที่จุดประสงค์ของอินปู้คุยไม่ได้มาเพื่อสำรวจความคิดของเยี่ยเว่ยหมิง หลังจากเกริ่นด้วยการชมแล้ว ก็เผยใบหน้ายิ้มแล้วกล่าวทันทีว่า “สหายเยี่ย ที่ข้ามาหาเจ้าครั้งนี้ ความจริงแล้วยังมีธุระอย่างอื่นด้วย”

เยี่ยเว่ยหมิงมองเขาด้วยสายสื่อว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว “เรื่องอะไร”

“ส่งภารกิจ”

“มาหาข้าเพื่อส่งภารกิจ?” เยี่ยเว่ยหมิงงงอีกแล้ว

“ใช่แล้ว ส่งภารกิจ” ขณะที่พูด อินปู้คุยนำจดหมายเชิญฉบับหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิงพร้อมบอกว่า “นี่คือจดหมายเชิญมางานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปีของอาจารย์ปู่ อาจารย์ปู่กำชับเป็นพิเศษว่าให้ข้านำมันมาให้สหายเยี่ย วานให้สหายเยี่ยส่งให้ถึงมือหวงโส่วจุน ดังนั้น ข้าเพียงส่งจดหมายเชิญให้ถึงมือสหายเยี่ย ก็นับว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว”

งานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปี?

เยี่ยเว่ยหมิงรับจดหมายเชิญมาด้วยสีหน้าครุ่นคิด แล้วแจ้งเตือนระบบก็เด้งออกมาทันที

[ติ๊ง! คุณพบภารกิจ ‘ส่งจดหมายเชิญ’]

[ส่งจดหมายเชิญ]

กรุณารีบนำจดหมายเชิญร่วมงานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปีของจางซานเฟิงแห่งสำนักอู่ตังไปส่งให้ถึงมือหวงโส่วจุน

ระดับภารกิจ: 1 ดาว

รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 10000 แต้ม ค่าตบะ 1000 แต้ม

บทลงโทษภารกิจ: ไม่มี

……

ภารกิจง่ายๆ อย่างการ ‘ส่งจดหมาย’ ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องแบ่งเป็นสองส่วน ส่งต่อให้ผู้เล่นสองคนจบภารกิจ การกระทำนี้ของจางซานเฟิงแฝงความหมายอื่นไว้แน่ๆ!

เยี่ยเว่ยหมิงหยักหน้า รับจดหมายมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้สิ อีกประเดี๋ยวพองานเลี้ยงจบ ข้าจะกลับสำนักมือปราบเทพไปพบหวงโส่วจุนทันที”

อินปู้คุยได้ยินแล้วโล่งอก “เช่นนั้นก็รบกวนสหายเยี่ยด้วย”

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงคีบผักกาดกวางตุ้งเข้าปาก หลังจากเคี้ยวสองทีแล้วกลืนก็ถามเหมือนไม่ได้จริงจังว่า “จางชุ่ยซานกับครอบครัวกลับมาจากเกาะน้ำแข็งอัคคีหรือยัง”

“กลับมาแล้ว!” อินปู้คุยพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “จางชุ่ยซานกับฮูหยินตอนนี้อยู่ที่สำนักอู่ตัง แต่จางอู๋จี้กลับถูกลักพาตัวไประหว่างที่พวกเขากลับมา ทุกอย่างเหมือนที่ข้าบันทึกไว้ในกลยุทธ์ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก สนใจแต่กินอาหารต่อไป

……

สำนักมือปราบเทพ ห้องประชุมงานของหวงโส่วจุน

[ติ๊ง! คุณทำภารกิจระดับหนึ่งดาว ‘ส่งจดหมายเชิญ’ สำเร็จ ได้รับรางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 10000 แต้ม ค่าตบะ 1000 แต้ม]

หวงโส่วจุนมองจดหมายเชิญงานเลี้ยงวันเกิดในมือปราดหนึ่ง แล้วมองเยี่ยเว่ยหมิงที่นั่งตัวตรงอย่างสง่า ก่อนจะถามด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “เจ้ารู้หรือเปล่าว่าจางซานเฟิงส่งจดหมายเชิญให้ข้าทำไม”

“ง่ายมากขอรับ” เยี่ยเว่ยหมิงตอบอย่างใจเย็นมาก “นักพรตจางแม้จะมีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นคนในยุทธภพ กล่าวได้ว่าแตกต่างจากสำนักมือปราบเทพของเราชัดเจน หากไม่จำเป็น ทั้งสองฝ่ายก็จะพยายามไม่ติดต่อกันมากเกินไป เพราะไม่เป็นผลดีกับทั้งสำนักอู่ตังและสำนักมือปราบเทพขอรับ”

หวงโส่วจุนได้ยินแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็อธิบายต่อ “เหตุผลที่ข้าเพิ่งตอบไปเมื่อครู่นี้ นักพรตจางย่อมไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจ แต่ครั้งนี้กลับให้พวกเรามาส่งจดหมายเชิญ เช่นนั้นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว…”

พอกล่าวถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็มองหวงโส่วจุนด้วยสายตาหนักแน่นจริงจัง “สำนักอู่ตังพบปัญหาแล้ว เป็นปัญหาใหญ่เกี่ยวกับที่อยู่ของดาบฆ่ามังกรและราชสีห์ขนทองหวังเซี่ยซุน!”

“นักพรตจางหวังว่าครั้งนี้พวกเราจะให้ความช่วยเหลือสักเล็กน้อย…

…เรื่องของสำนักชิงเฉิงก่อนหน้านี้ ข้าเคยขอให้นักพรตจางรับรองให้หลินผิงจือ ดังนั้นเรื่องนี้พวกเราติดค้างอู่ตังอยู่ พวกเราต้องชดใช้คืนขอรับ”

หวงโส่วจุนพยักหน้าอีกครั้งแล้วโยนอีกคำถาม “เช่นนั้นทำไมเขาต้องให้เจ้ามาส่งจดหมายเชิญให้ได้”

เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “เรื่องนี้หวงโส่วจุนต้องไม่สะดวกออกหน้าเองแน่นอน ส่วนนักพรตจางก็ต้องการให้คนที่ทำงานเก่งมาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้…

…ดังนั้น เขาจึงเลือกข้า”

ตอนนี้หวงโส่วจุนกลับโยนจดหมายเชิญคืนให้เยี่ยเว่ยหมิง “ในเมื่อเจ้ารู้ทุกอย่างแล้ว เช่นนั้นก็ไม่ต้องให้ข้าพูดอะไรมาก รับภารกิจไปเถอะ”

[ติ๊ง! พบภารกิจ ‘เรื่องเศร้าสลดในงานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปี’]

[เรื่องเศร้าสลดในงานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปี]

เป็นตัวแทนสำนักมือปราบเทพเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดอายุร้อยปีของจางซานเฟิง และช่วยอู่ตังแก้ไขวิกฤตในครั้งนี้

ระดับภารกิจ: 5 ดาว

รางวัลภารกิจ: ตัดสินจากระดับความสำเร็จของภารกิจ

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: ค่าความรู้สึกดีของจางซานเฟิงลดลง 50 แต้ม ค่าความรู้สึกดีของ NPC ทั้งสำนักอู่ตังลดลง 30 แต้ม!

……

ภารกิจนี้ดูน่าสนใจเหมือนกันนะ!

แม้ดูจากภายนอก ระดับภารกิจมีเพียงห้าดาว แต่ห้าดาวจะต้องเป็นมาตรฐานต่ำสุดในการทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน

ทำอย่างไรถึงจะถือว่าแก้ไขวิกฤติของสำนักอู่ตัง

ถ้าเป็นตามต้นฉบับเดิม ปล่อยให้จางชุ่ยซานและภรรยาฆ่าตัวตาย ก็นับว่าแก้ไขวิกฤตของสำนักอู่ตังได้แล้ว!

ซึ่งอิงตามพื้นฐานนี้ ระดับความสำเร็จในการทำภารกิจก็จะส่งผลโดยตรงต่อรางวัลในตอนสุดท้าย

เกรงว่านี่คงจะเป็นลักษณะที่แท้จริงของภารกิจนี้สินะ?

ส่วนการประเมินขั้นต่ำให้เป็นภารกิจระดับห้าดาว ก็เพื่อรับประกันว่าอย่างน้อยเรื่องราวจะไม่เลวร้ายเหมือนต้นฉบับเดิม เลวร้ายจนถึงขั้นจางชุ่ยซานและภรรยาฆ่าตัวตายและไม่มีทางแก้ไขวิกฤตให้อู่ตังได้!

ชั่วพริบตาเดียวเขาก็มองแก่นแท้ของภารกิจออกแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงเก็บจดหมายเชิญอีกครั้งพร้อมเอ่ยถามว่า “ข้ารับภารกิจนี้ขอรับ เช่นนั้น ของขวัญอวยพรวันเกิดล่ะขอรับ?”

หวงโส่วจุนอมยิ้มพร้อมถามกลับ “ของขวัญอะไร”

เยี่ยเว่ยหมิงตอบกลับอย่างมีเหตุผล “ของขวัญวันเกิดให้นักพรตจางไงขอรับ ท่านคงไม่ให้ข้าไปร่วมงานที่อู่ตังมือเปล่าใช่ไหม”

หวงโส่วจุนยิ้มบางๆ “ประกาศิตกระบี่ดอกท้อที่ข้ามอบให้เจ้าก่อนหน้านี้ก็ไม่เลวใช่ไหม”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึม ท่าทีแน่วแน่ไม่หวั่นไหว

เยี่ยเว่ยหมิงย่อมตัดใจนำประกาศิตกระบี่ดอกท้อมาเป็นของขวัญวันเกิดไม่ได้อยู่แล้ว จึงแสดงจุดยืนทันที “ที่จริงเรื่องของขวัญวันเกิด ข้าน้อยย่อมคิดหาวิธีการเองได้ ลาก่อนขอรับ”

เป็นอย่างที่คาดไว้ ในภารกิจครั้งนี้ หวงโส่วจุนไม่ได้เตรียมจะช่วยเหลือด้านวัตถุแต่อย่างใด

เพราะคำพูดของเขาเมื่อครู่นี้แฝงความหมายไว้อีกชั้น นั่นก็คือจางซานเฟิงติดค้างน้ำใจเยี่ยเว่ยหมิงคนเดียว ในระหว่างนั้นเจ้ายังเก็บประกาศิตกระบี่ดอกท้อไว้ในกระเป๋าตัวเองคนเดียว เรื่องงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ เจ้าก็ควรคิดหาทางเอาเองเช่นกัน

หากคิดไม่ออกจริงๆ เจ้าจะนำประกาศิตกระบี่ดอกท้อมาเป็นของขวัญวันเกิดก็ได้!

แต่เยี่ยเว่ยหมิงจะทำใจไหวได้อย่างไร

“เด็กมีอนาคตสอนได้” หวงโส่วจุนพยักหน้าเบาๆ แล้วเสริมว่า “หากเจ้าจัดการเรื่องนี้ได้ดี ข้าอาจจะพิจารณาถ่ายทอด ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ให้เจ้าอีกหนึ่งกระบวนท่าก็ได้”

แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าหวงโส่วจุนกำลังบริหารบุคลากรแบบทั้งให้รางวัลและลงโทษ แต่พอได้ยินคำว่า ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังอดฮึกเหิมไม่ได้ “ขอบคุณหวงโส่วจุน!”

พอออกจากห้องประชุมของหวงโส่วจุนแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ส่งจดหมายหาอินปู้คุยทันที

[ได้กำไรแล้ว อาจารย์ปู่ของเจ้าชอบอะไร…

…อืม…ข้าพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ตอนนี้ข้าต้องเตรียมของขวัญวันเกิดด้วยตัวเอง คิดว่าควรจะมอบอะไรให้เขาดี นักพรตจางถึงจะดีใจที่สุด]…เยี่ยเว่ยหมิง

หลังจากผ่านไปสามวินาที ข้อความของอินปู้คุยก็ถูกส่งกลับมาแล้ว เนื้อหาในนั้นเรียบง่ายมาก ตอบเพียงไม่กี่ตัวอักษร

[กระบี่อิงฟ้า!]…อินปู้คุย

[ขอตัวก่อน!]…เยี่ยเว่ยหมิง

ถ้าข้าเก่งถึงขั้นทำให้กระบี่อิงฟ้ากลับคืนสู่เจ้าของได้ตอนนี้ ข้ายังจะมอบมันให้คนอื่นทำไม

หากเทียบกับกระบี่อิงฟ้า ข้ายอมมอบประกาศิตกระบี่บุปผาโรยให้เป็นของขวัญยังดีกว่า!

แต่ดูท่าแล้ว อินปู้คุยเหมือนจะยังไม่รู้ว่าจางซานเฟิงชอบอะไรกันแน่

สงสัยข้าต้องคิดหาทางเรื่องของขวัญเองแล้ว

เช่นนั้น…

ควรจะมอบอะไรให้ดีล่ะ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน