Martial god space ตอนที่ 351 สังหารหมู่
บนท้องฟ้าในเวลานี้ มีร่างศิษย์ของวิหารซวนหยวนบินกระจายอยู่รอบๆ ด่านภัยพิบัติสวรรค์ของ เย่ ซีหวิน เมื่อพวกเขามองเห็น เย่ ซีหวิน เพิ่งผ่านการทดสอบของด่านภัยพิบัติสวรรค์ ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลบางแห่งมีเลือดไหลออกมาไม่ยอมหยุด เสื้อผ้าภายนอกของเขาขาดวิ่นสภาพน่าสังเวชมองจากภายนอกไม่ต่างอะไรจากขอทาน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอที่สุด พวกมันไม่รอช้ารีบบินเข้ามาหา เย่ ซีหวิน ทันที พวกมันไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้ฟื้นตัว
หากไม่ฉวยโอกาสลงมือฆ่า เย่ ซีหวิน ตอนนี้ อาจจะไม่มีโอกาสอีกเลยในอนาคต!
ฟางเฉิน หัวเราะอย่างเย้ยหยันในระหว่างที่เขาบินลงถึง เขาจ้องมองไปที่ร่างของ เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาที่รู้สึกเสียดาย และเหยียดหยามผสมปนเปในเวลาเดียวกัน
” พวกเจ้าเป็นใคร? ” เย่ ซีหวิน แสร้งทําเป็นไม่รู้จักพวกเขา แต่เขาแอบโคจรเคล็ดวิชาพลังกําเนิดใหม่ฟินิกซ์อย่างเงียบๆ เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ด้วยความแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน ในตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์
ดังนั้น เย่ ซีหวิน ไม่รีบร้อนที่จะรักษาแผลเหล่านี้ เขาตั้งใจจะหลอกให้พวกมันเชื่อว่าเขาเพิ่งผ่านการทดสอบของด่านภัยพิบัติสวรรค์ และกําลังตกอยู่ในสภาพอ่อนแอที่สุด และมองหาโอกาสจัดการพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว เพราะอีกฝ่ายมีผู้นําเป็นถึงจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 กําลังจับตามองเขาด้วยความระมัดระวัง
สําหรับ เย่ ซีหวิน จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 นั้น ไม่ได้ทําให้เขาต้องกังวล ในสายตาของ เย่ ซีหวิน พวกเขานับว่ามีพรสวรรค์ที่สามารถฝึกฝนจนบรรลุขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 พวกเขาจะกลายเป็นบุคคลที่น่าเกรงขาม เมื่อบรรลุขอบเขตลมปราณมหานักปราชญ์ต่อไปในอนาคต จอมยุทธเหล่านี้มักจะมีไพ่ตายซ่อนเก็บเอาไว้เสมอ
” ไหนๆ เจ้าก็กําลังจะตายแล้ว ข้าจะบอกเจ้าเพื่อเป็นกุศล พวกเราเป็นศิษย์ของวิหารซวนหยวน! ” จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 7 พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ในสายตาของคนอื่นๆ เย่ ซีหวิน ดูเหมือนคนที่ตายไปแล้ว พวกเขายอมบอกความจริงโดยไม่ปิดบัง
เย่ ซีหวิน แสยะยิ้มที่มุมปาก เขาแค่ต้องการถ่วงเวลาอีกเพียงไม่กี่ลมหายใจ พวกมันคงคาดไม่ถึงว่า เย่ ซีหวิน จะสามารถฟื้นตัวได้ในเพียงช่วงเวลาสั้นๆ พวกมันประเมินเขาเอาไว้ต่ำเกินไป
” มีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขากําลังพยายามถ่วงเวลา พวกเรารีบโจมตีมันทันที! ” สีหน้าของ ฟางเฉิน เปลี่ยนกลายเป็นเคร่งเครียด เขารีบตะโกนออกคําสั่ง ทันทีที่เขาสังเกตเห็นการหายใจของ เย่ ซีหวิน เริ่มมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเขากําลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
โดยปกติแล้ว ไม่มีใครมีทักษะการฟื้นฟูมากกว่าหนึ่ง หรือสองเคล็ดวิชา และประสิทธิภาพในการรักษาของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ในตอนแรก พวกเขาคิดว่าอาการบาดเจ็บของ เย่ ซีหวิน ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองชั่วโมงในการฟื้นตัว แต่พวกเขาไม่คิดว่า เย่ ซีหวิน จะมีเคล็ดวิชาพลังกําเนิดใหม่ฟินิกซ์ที่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์
ฟางเฉิน คาดไม่ถึงว่า เย่ ซีหวิน จะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ในตอนแรกเขาคิดว่า เย่ ซีหวิน เพียงแค่ต้องการถ่วงเวลา แต่ถึงเขาจะพยายามถ่วงเวลาเพียงเล็กน้อย มันก็ไม่ช่วยให้ เย่ ซีหวิน ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
” ถึงเจ้าจะรู้ตัว แต่มันก็สายไปแล้ว! “ เย่ ซีหวิน ตะโกนเสียงดัง ออร่าที่สะพรึงกลัวของเขาได้ถูกปลดปล่อยออกมาทันที
เย่ ซีหวิน จงใจเผยให้เห็นรอยแผลตามตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆ เพื่อหลอกให้คนอื่นๆ ตายใจ เขาสามารถฟื้นตัวรักษาบาดแผลทั้งหมดได้ภายในเพียงไม่กี่ลมหายใจ
” พวกเจ้าศิษย์ของวิหารซวนหยวนคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ พวกเจ้าปิดผนึกทางออกและป้องกันการติดต่อจากโลกภายนอก หนําซ้ำยังคิดฆ่าศิษย์ของสถาบันยอดยุทธทั้งหมด ความทะเยอทะยานของพวกเจ้าช่างน่ายกย่องจริงๆ! ” เย่ ซีหวิน หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ” ฟางเฉิน มอง เย่ ซีหวิน ด้วยความประหลาดใจ เขาจําได้ว่าไม่มีใครแอบฟังการสนทนาของพวกเขาก่อนหน้านี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพูดเรื่องนี้ต่อหน้าบุคคลคนภายนอกให้ล่วงรู้แผนการของพวกเขา
แน่นอนว่า เรื่องนี้จะต้องถูกปกปิดเป็นความลับ หากคนของสถาบันยอดยุทธล่วงรู้ความลับนี้ไม่อาจนึกภาพของผลลัพท์ที่จะตามมา
แววตาของ ฟางเฉิน เต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาไม่สามารถปล่อยให้ เย่ ซีหวิน หลบหนีไปได้ เย่ ซีหวิน จะต้องตายเพียงสถานเดียวเท่านั้น
” ข้ารู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ…หึ! แม้แต่กําแพงก็มีหู พวกเจ้าอย่าหวังจะได้ออกไปจากที่นี่ คนของพวกเจ้ามีมากกว่าร้อยคน ส่วนพวกเจ้าทั้ง 4 อยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 ส่วนอีกคนอยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับขั้นลึกซึ้ง ถ้าพวกเจ้าทั้งหมดตาย ผู้นําวิหารซวนหยวนของพวกเจ้าคงเจ็บปวดไม่น้อย! ” เย่ ซีหวิน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะบรรลุขอบเขตลมปราณระดับตํานาน แต่มันยากที่จะฝึกฝนให้อยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานาน สถาบันยอดยุทธมีผู้คนมากมายนับล้านที่ไม่สามารถฝึกฝนจนถึงขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 9 มีเพียงห้าในสิบคนเท่านั้น พวกเขาถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นในหมู่อัจฉริยะ บุคคลเหล่านี้ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า และถือเป็นบุคคลสําคัญที่ได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม
ความตายของพวกเขา นับว่าเป็นการสูญเสียอันใหญ่หลวงของกองกําลังหลัก
” เจ้ารู้มากเกินไป วันนี้เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปได้! ” ฟางเฉิน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาตรวจสอบตําแหน่งของเหล่าสาวก เพื่อให้มั่นใจว่า เย่ ซีหวิน จะต้องตายอยู่ที่นี่
” ลําพังฝีมืออย่างเจ้านะเหรอ? จะฆ่าข้า! “ เย่ ซีหวิน หัวเราะอย่างเย้ยหยัน ร่างของเขากลายเป็นภาพติดตา และหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทันทีที่เขาปรากฏตัวก็อยู่ด้านหน้าของจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 7
” เจ้ากําลังรนหาที่ตาย! ” จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 7 ถึงแม้เขาจะประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้เห็นความเร็วของ เย่ ซีหวิน แต่เขาก็ไม่ประมาท ทันใดนั้น เขาพ่นพลังสายฟ้าออกมาจากปากทันที มันเป็นอีกหนึ่งเคล็ดวิชาลับขั้นสูง
พลังสายฟ้านั้นคล้ายๆ กับพลังสายฟ้าของด้านภัยพิบัติสวรรค์ แต่น่าเสียดาย ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เห็น เย่ ซีหวิน ยืนอยู่ท่ามกลางการโจมตีของพลังสายฟ้าจากด้านภัยพิบัติสวรรค์ โดยไม่ได้ขยับจากจุดเดิมแม้แต่นิดเดียว
เย่ ซีหวิน หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เพียงแค่เขายื่นมือออกไป พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองได้โคจรไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว เขาคว้าจับพลังสายฟ้านั้นด้วยมือเปล่า และบดขยี้มันจนระเบิดกลายเป็นไอ พลังสายฟ้าเหล่านั้นไม่สามารถทําร้าย เย่ ซีหวิน ได้แม้แต่เส้นผม
มือของเขาเปลี่ยนกลายเป็นกรงเล็บมังกร จากนั้นเขาก็ตบไปที่ร่างของจอมยุทธคนนั้นทันที
” ปังงง! ” จอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 7 ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทัน เพียงแค่หนึ่งการโจมตีร่างของเขากลายเป็นหมอกเลือด เย่ ซีหวิน สามารถฆ่าศิษย์ของวิหารซวนหยวนได้อย่างง่ายดาย
” เขาตายได้อย่างไร? ”
“ มันเป็นไปไม่ได้! ”
บรรดาศิษย์ของวิหารซวนหยวน ไม่อาจเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เย่ ซีหวิน สามารถฆ่าศิษย์ขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 7 ได้จริงๆ เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะโจมตีสวนกลับ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้ตั้งแต่แรก พวกเขาคิดว่าสามารถเอาชนะ เย่ ซีหวิน ได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
” แกต้องตาย! “ ฟางเฉิน ตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น นี่เป็นเหมือนการตบหน้าเขาฉาดใหญ่ เย่ ซีหวิน สังหารศิษย์ของพวกเขาต่อหน้าต่อตา
ออร่าที่น่ากลัวภายในร่างของ ฟางเฉิน ปะทุออกมาอย่างรุนแรง เขายิงลําแสงพลังอันน่าสะพรึงกลัวกวาดไปทาง เย่ ซีหวิน พื้นที่บริเวณโดยรอบที่ลําแสงตัดผ่านพังทลายกลายเป็นฝุ่นผงในทันที
เย่ ซีหวิน หัวเราะอย่างเย้ยหยัน เขาแกว่งดาบใบมีดยาวในมือ พร้อมกับยิงปราณดาบโจมตีกลับไปทันที ลําแสงพลังอันน่าสะพรึงปะทะเข้ากับปราณดาบ ทําให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงราวกับการระเบิดของดวงดาว
ดูเหมือนดวงดาวนับแสนดวงกําลังระเบิดอยู่เบื้องหน้าของ ฟางเฉิน เขาไม่มีเวลาตอบสนอง ลําแสงพลังของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ โดยปราณดาบของ เย่ ซีหวิน ลําแสงพลังของเขาถูกกวาดล้างมันสลายไปในทันที
“ เปรี้ยงง! ” ปราณหยวนที่ปกป้องร่างของ ฟางเฉิน ถูกฉีกขาดโดยปราณดาบของ เย่ ซีหวิน
“ ฉัวะ! ” ฟางเฉิน กระอักเลือดแแกมาเต็มปาก ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของเขาถูกฉีกขาดโดย เย่ ซีหวิน เลือดพุ่งทะลักออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ หน้าอกของเขามีรอยแผลึกจนมองเห็นกระดูกเป็นภาพน่ากลัวอย่างมาก
ฟางเฉิน มองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เขาคาดไม่ถึงว่า เย่ ซีหวิน จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ออร่าที่ออกมาจากตัวเขามันบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า เขาอยู่ในขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตํานานระดับ 6 เท่านั้น ดังนั้น พวกเขาจึงมั่นใจได้ว่าเพียงศิษย์คนใดคนหนึ่งก็สามารถฆ่า เย่ ซีหวิน ได้อย่างง่ายดาย
แต่พวกเขาคาดไม่ถึงว่า สิ่งต่างๆ ที่พวกเขาคิดจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ กายาทรราชย์ของ เย่ ซีหวิน นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง
โชคดียังดีในช่วงเวลาวิกฤตเป็นตาย ฟางเฉิน ใช้พลังทั้งหมดของเขา เพื่อหลบหลีกการโจมตีของ เย่ ซีหวิน ได้อย่างเฉียดฉิว ไม่เช่นนั้นเขาคงตายด้วยน้ำมือของเย่ ซีหวินไปแล้ว
“ วันนี้พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย! “ เย่ ซีหวิน มองดู ฟางเฉิน ด้วยแววตาที่เย็นชาประดุจน้ำแข็ง จากนั้นเขาก็พูดต่ออีกว่า “ ไม่ใช่แค่พวกเจ้าเท่านั้น สาวกทั้งหมดของวิหารซวนหยวน ทุกคนจะต้องตาย! ”
” ช่วยกันฆ่ามัน ข้าอยากเห็นมันตายต่อหน้าข้า! ” ฟางเฉิน ตะโกนออกคําสั่งอย่างเร่งรีบ
สาวกสามคนที่เหลืออยู่ของวิหารซวนหยวน พวกเขารีบพุ่งตัวเข้าไปหา เย่ ซีหวิน โดยไม่มี ความลังเล ความแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน นั้นผิดปกติมากเกินไป สามารถกล่าวได้ว่า เขาเป็นเห มือนสัตว์ประหลาดในคราบของมนุษย์
ในเวลานี้ พวกเขารู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เย่ ซีหวิน แต่หากร่วมมือกัน พวกเขาอาจมีโอกาสเอาชนะ หรือสามารถทําให้เขาบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ไม่ปล่อยให้พวกเขาทําได้สําเร็จ เขาไม่สนใจการโจมตีจากสาวกเหล่านั้น เขารีบไล่ติดตาม ฟางเฉิน และหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะสะบัดดาบใบมีดยาวในมือ พร้อมกับปลดปล่อยปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวยิงออกไป
” วิ้งงง! “ ปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตัดข้ามท้องฟ้ามาด้วยรวดเร็วราวกับสายฟ้า เพียงชั่วพริบตาเดียว ปราณดาบก็ไล่ตาม ฟางเฉิน ทันแล้ว
ฟางเฉิน ตะโกนเสียงดังราวกับคนเสียสติ เมื่อเห็นปราณดาบไล่ตามมาทัน ” ข้าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นในหมู่อัจฉริยะ ข้าจะบรรลุขอบเขตลมปราณนักปราชญ์ได้ในอนาคตอันใกล้ ข้าจะมาตายที่นี่ไม่ได้ ข้าต้องไม่ตาย ข้าจะตายไม่ได้! ข้าาา..อั่กกก! “
ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจนจบประโยค ปราณดาบของ เย่ ซีหวิน ก็มาถึงตัวของเขาแล้ว
” ฉัวะ! ” พลังป้องกันของ ฟางเฉิน ถูกทําลายลง หัวของเขาถูกตัดทันทีโดย เย่ ซีหวิน เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะโจมตีสวนกลับ
” พวกเราต้องรีบหนี! พวกเราต้องรายงานเรื่องนี้กับศิษย์พี่ฝาน ชายผู้นี้ได้ทําลายแผนการทั้งหมดของพวกเรา! ” สาวกสามคนที่เหลืออยู่ของวิหารซวนหยวน ตระหนักได้ในทันทีว่า เย่ ซีหวิน ที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาตอนนี้ เป็นนักฆ่าที่ไร้ความปราณีราวกับว่าเขาเป็นเทพแห่งความตายที่กลับชาติมาเกิดใหม่ พวกเขารีบหนีไปกันคนละทิศทาง เพื่อไม่ให้ เย่ ซีหวิน ไล่ตามทันและสังหารพวกเขาทั้งสามได้ในคราวเดียวกัน
แต่ เย่ ซีหวิน จะปล่อยให้พวกเขาหลบหนีสําเร็จได้อย่างไร เขายื่นฝ่ามือออกไป ปราณฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ก่อตัวเหนือสาวกทั้งสาม มันขยายตัวใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับก้อนเมฆบนท้องฟ้า เพียงชั่วพริบตาฝ่ามือสีทองก็ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า ก่อนจะตบกระแทกลงมาบดขยี้ร่างของพวกเขาทั้งสามจนแหลกละเอียด
