Martial God Space – ตอนที่ 341

ตอนที่ 341

Martial god space ตอนที่ 341 ข้อพิพาท

เย่ ซีหวิน ใช้เวลากับอนุสาวรีย์หินอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไรเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้จะจบลง แต่ในความเป็นจริง ปัญหาที่กำลังจะตามมามันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น คัมภีร์กระบี่ บินตัดผ่านสมรภูมิรบต่างโลกไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง การปรากฏตัวของมันดึงดูดความสนใจของเหล่าจอมยุทธนับไม่ถ้วน ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์หินแห่งนี้มีเมืองตั้งอยู่ ในช่วงเวลาสั้นๆ เมืองแห่งนี้หนาแน่นไปด้วยเหล่าจอมยุทธที่พร้อมใจมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับมัน

เพียงชั่วเวลาหนึ่งเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ก็คึกคักไปด้วยผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศ

ภายในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมือง เย่ ซีหวิน กำลังมองหาที่นั่ง มีเสียงเอะอะดังขึ้นมาไม่ไกลจากโต๊ะของเขา เมื่อหันไปทางต้นเสียงเขาก็เห็นจอมยุทธกลุ่มหนึ่ง นั่งร่วมโต๊ะกันอยู่ห้าถึงหกคน สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเขาคือ หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง คือหนึ่งในนั้น

เธอนั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มคนหนึ่ง พวกเขาคุยกันยิ้มแย้ม และหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เย่ ซีหวิน วิเคราะห์จากใบหน้าของเขาแล้ว เขาเป็นชายหนุ่มรูปงามมีหน้าตาที่หล่อเหลา ดูจากการแต่งตัวของเขาแล้วดูสง่าผ่าเผยน่านับถือ

” นั่นเขาเหรอ? ” หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง ไม่อาจซ่อนความประหลาดใจในแววตาของเธอ เมื่อสังเกตเห็น เย่ ซีหวิน ภายในโรงเตี๊ยมเดียวกัน

เย่ ซีหวิน ทำเป็นไม่สนใจเธอ และนั่งลงเมื่อเจอโต๊ะที่ยังว่างอยู่

” เกิดอะไรขึ้น? เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็น เย่ ซีหวิน ” ท่าทางเขาดูเย่อหยิ่ง “

” ข้ารู้จักเขา! องค์ชายเปา (เปา ฉินหวาง) เขาเป็นคนที่ขโมยคัมภีร์กระบี่ไป! ” หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง มองไปยัง เย่ ซีหวิน และกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

” โอ้! ทุกคนส่วนใหญ่ต่างมาที่นี่ก็เพราะคัมภีร์กระบี่ ข้าไม่คิดเลยว่าคัมภีร์กระบี่จะตกอยู่ในมือของเขา! ” เปา ฉินหวาง มองไปยัง เย่ ซีหวิน ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

เปา ฉินหวาง เผยรอยยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังโต๊ะของ เย่ ซีหวิน ก่อนจะกล่าวว่า ” ข้าได้ยินมาว่าสหายพึ่งได้รับคัมภีร์กระบี่มาเมื่อไม่นานนี้ หากท่านยินดีส่งคืนให้กับ สุสานกระบี่ ของเรา ข้าจะตอบแทนท่านเป็นการชดเชย รบกวนสหายแล้ว! “

เย่ ซีหวิน ส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า ” คัมภีร์กระบี่ไม่ได้อยู่กับข้า! ” เขาพยายามนึกย้อนความทรงจำเกี่ยวกับ สุสานกระบี่ ผู้นำของพวกเขาคือ ปรมาจารย์กระบี่ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเพลงกระบี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ เป็นเรื่องยากที่จะหาคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน

เขาไม่คาดว่า คัมภีร์กระบี่จะดึงดูดความใจสนคนจาก สุสานกระบี่

” มันชัดเจนอยู่แล้วว่า คัมภีร์กระบี่เจ้าเป็นคนเอามันไป แต่เจ้ากลับไม่กล้ายอมรับ! ” หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง พูดแทรกขึ้นมา เธอมั่นใจอย่างมากว่า เย่ ซีหวิน เป็นคนขโมยคัมภีร์กระบี่ไป เพราะเขาพึ่งสังหารจอมยุทธวัยกลางคนไปโดยไม่มีความลังเล

” เจ้าบอกว่ามันอยู่ที่ข้า เจ้ามีหลักฐานหรือไม่ ” เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างเฉยเมย

” คัมภีร์กระบี่อยู่ในแหวนมิติของเจ้า นั่นไงคือหลักฐาน! ” หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว และกล่าวต่ออีกว่า ” ส่งคัมภีร์กระบี่มา! ไม่เช่นนั้น วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า! “

เย่ ซีหวิน หันไปมองพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง ตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ดูเหมือนว่าเธออยากฆ่าเขาให้ตายซะตอนนี้หากเป็นไปได้

” คัมภีร์กระบี่นี้สำคัญต่อ สุสานกระบี่ เป็นอย่างมาก ในไม่ช้า ท่านปรมาจารย์กระบี่ ผู้นำของเราก็มาด้วย ข้าหวังว่าสหายจะเห็นแก่หน้าข้าสักครั้ง! ” น้ำเสียงของ เปา ฉินหวาง อาจฟังดูจริงใจ แต่มองจากคำพูดของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นคำขอที่ไม่อาจปฏิเสธได้

” หน้าอย่างเจ้าไม่คู่ควร เมื่อเทียบกับคัมภีร์กระบี่! ” เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างเย้ยหยัน เปา ฉินหวาง เป็นคนประเภทที่เขารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง มองภายนอกอาจดูเป็นคนดี แต่แท้จริงแล้วเขี้ยวลากดิน

ทันใดนั้น สีหน้าของ เปา ฉินหวาง ก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่คาดว่า เย่ ซีหวิน จะรู้ทัน เขาอ้างชื่อของ สุสานกระบี่ เพื่อผลประโยชน์ของเขาในเรื่องต่างๆ ซึ่งมันก็ได้ผลทุกครั้ง

เปา ฉินหวาง ไม่อาจระงับความโกรธของเขาได้ ปราณกระบี่ระเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างรุนแรง ผู้คนภายในโรงเตี๊ยมต่างพากันแตกตื่น พวกเขาจะต่อสู้กันที่นี่! ตอนนี้?

” เช่นนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจกันอีกต่อไป! ” เปา ฉินหวาง กัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธ

” เจ้ายังขายหน้า ไม่พออีกหรือ? ” ท่าทีของ เย่ ซีหวิน ยังคงสงบนิ่ง แม้ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวของ เปา ฉินหวาง จะถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นมหาสมุทร แต่มันกลับหยุดอยู่ห่างจาก เย่ ซีหวิน ประมาณ 3 ฟุต ไม่อาจสัมผัสเขาได้แม้แต่ปลายผม

” เย่ ซีหวิน ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่? ” ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเต็มไปด้วยความประหลาดใจในน้ำเสียง

เย่ ซีหวิน เงยหน้าขึ้นมอง เขาก็มองเห็นหน้าสหายเก่าทั้งสาม นั่นคือ เจียน วู่เฉิน , ลูกหมาป่า และมู่ หลิง ที่หายไปเป็นเวลานาน พวกเขากำลังเดินเคียงข้างกันเข้ามา

” ทำไมพวกเจ้ามาด้วยกัน ” เย่ ซีหวิน รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คาดว่าจะได้พบกับคนรู้จักที่นี่ เพราะอาณาเขตของสถาบันยอดยุทธนั้นกว้างใหญ่มันเป็นไปได้ยากมาก มีศิษย์ใหม่เข้าร่วมกับสถาบันยอดยุทธนับล้านคน เย่ ซีหวิน ไม่คิดว่าจะได้พบกับพวกเขา เมื่ออยู่ที่นั่นในช่วงเวลาสั้น ๆ

เย่ ซีหวิน เชื่อมั่นว่าสักวัน เขาจะตามหาพวกเขาจนเจอ แต่ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเร็วขนาดนี้

” เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ” ลูกหมาป่า จ้องมองไปที่ เปา ฉินหวาง แล้วถาม

เปา ฉินหวาง มองหน้า ลูกหมาป่า ด้วยความขมขื่น เห็นได้ชัดว่าเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับ ลูกหมาป่า

” พวกเจ้าสามคน! ” เปา ฉินหวาง ตื่นตระหนกทันทีเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามเดินเข้ามา เขาพยายามข่มความรู้สึกเอาไว้ และรีบกล่าวอย่างเร่งรีบว่า ” เคล็ดวิชาลับสุสานกระบี่ อยู่กับเขา! “

” พวกเจ้าก็รู้ดีนี่ ตอนนี้ท่านผู้นำของเรา พยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะจับ คัมภีร์กระบี่ มันอาจเป็น เคล็ดวิชาลับสุสานกระบี่ ดังนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสุสานกระบี่ของเรา! ” เปา ฉินหวาง พูดอย่างตะกุกตะกัก ระหว่างสบตากับพวกเขาทั้งสาม

มู่ หลิง และเจียน วู่เฉิน มองหน้า เย่ ซีหวิน ด้วยความสงสัย เพราะพวกเขาก็ได้รับมอบหมายให้ตามหา คัมภีร์กระบี่ แต่ไม่คาดว่า คัมภีร์กระบี่ จะตกอยู่ในมือของ เย่ ซีหวิน

เย่ ซีหวิน ผายมือพร้อมกับยักไหล่ แสดงให้เห็นว่า เขาไม่มี คัมภีร์กระบี่

” ถ้าเขาบอกว่าไม่มีคัมภีร์กระบี่ ก็แสดงว่าเขาไม่มีอย่าไปรบกวนเขา เจ้ารีบไสหัวไป ในขณะที่ปู่ของเจ้ายังอารมณ์ดี! ” ลูกหมาป่า พูดด้วยท่าทางอวดดีของมันเช่นเคย เปา ฉินหวาง ไม่เคยอยู่ในสายตาของมันตั้งแต่แรก

” ถ้าเขาบอกว่าไม่มีคัมภีร์กระบี่ ก็คือไม่มี! ” เจียน วู่เฉิน กล่าวต่ออีกว่า ” ส่วนท่านผู้นำ ข้าจะคุยกับเขาเอง! “

” มันเป็นไปไม่ได้ คัมภีร์กระบี่ จะต้องอยู่กับเขา พวกเราทุกคนเห็น คัมภีร์กระบี่ หายไปกับตา ในเวลานั้นมีเพียงเขายืนอยู่คนเดียวเท่านั้น! ” หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง ตะโกนแทรกขึ้นมาเสียงดัง น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความไม่พอใจ

” ผู้หญิงน่ารำคาญนี่! กวนใจเจ้าอยู่เหรอ? ” ลูกหมาป่า ถามเขาอีกครั้ง

” ข้าอุตสาห์ไว้ชีวิตเจ้าหนหนึ่ง ดูเหมือนเจ้าจะไม่สำนึก สงสัยคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่มั้ย! ” เย่ ซีหวิน กล่าวอย่างเย็นชา

” เจ้าว่าอะไรนะ? ” หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง ไฟแห่งความแค้นของเธอลุกโซนขึ้นอีกครั้ง เธอไม่คิดว่าการไว้ชีวิตของ เย่ ซีหวิน จะเป็นหนี้บุญคุณ สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือ สังหารเขา มันเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยดับไฟแค้นที่สุ่มอยู่ในหัวใจของเธอสงบลงได้

” ข้าเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย อย่าคิดว่าเจ้าเป็นผู้หญิงแล้วข้าจะไม่กล้าลงมือ! ” เย่ ซีหวิน เหลือบไปมองเธอด้วยหางตา ผู้หญิงคนนี้สร้างปัญหาให้เขาไม่หยุดหย่อน ทันใดนั้น จิตสังหารภายในร่างของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมา

หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง ก้าวถอยหลังไปโดยที่ไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจของเธอกลับมาอีกครั้ง เมื่อหันไปเจอ เปา ฉินหวาง ที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ ดังนั้น เธอจึงกล่าวออกมาด้วยความหยิ่งยโสว่า ” ฮึ! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เจ้ามันก็แค่ไอ้ขี้ขโมย คิดว่าจะขู่ข้าได้เหรอ! “

” เพียงข้าไม่ลงมือ เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้างั้นหรือ? ข้าแค่ไม่อยากให้มือเปื้อนเลือดไปมากกว่านี้ ฆ่าพวกเจ้าเพียงการเคลื่อนไหวครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว! ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

” เจ้า! ” คำพูดของ เย่ ซีหวิน ทำให้หญิงสาวในเสื้อคลุมสีแดง จุกแน่นที่หน้าอกหายใจแทบไม่ออกเพราะความโกรธ

” เหอะ! วาจาเจ้าช่างโอหังยิ่งนัก! ” เปา ฉินหวาง กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาไม่คิดว่า เย่ ซีหวิน จะหยิ่งยโสถึงเพียงนี้ ราวกับว่าไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา จากนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า ” เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร! ”

” นั่นมันเรื่องของข้า เหตุไฉนเลยจะเทียบกับเจ้าได้ ของสิ่งนี้มีค่ามากกว่าเศษเงินที่เจ้าจะมอบให้ข้า อาศัยหน้าอย่างเจ้าน่ะเหรอ ข้าต้องยอมส่งคัมภีร์กระบี่ให้! ” เย่ ซีหวิน กล่าว และหัวเราะเยาะอย่างเย้ยหยัน

เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ใว้หน้าเขา และคิดจะลงมือใช้กำลังโดยไม่ฟังเหตุผล เย่ ซีหวิน ไม่ใช่คนประเภทหาเรื่องใครก่อน แต่ใครก็ตามที่คิดจะข่มเหงเขา พวกมันจะต้องชดใช้อย่างสาสม

มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไร เขาจะหยุดพวกมันภายในคมดาบเดียวเท่านั้น!

เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเลิกลา เย่ ซีหวิน ก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป

เปา ฉินหวาง มองไปทาง เจียน วู่เฉิน และมู่ หลิง แล้วพูดขึ้นมาว่า ” เจียน วู่เฉิน, มู่ หลิง เจ้ายังจะปกป้องคนประเภทนี้อีกเหรอ? คัมภีร์กระบี่ เป็นสิ่งที่ท่านผู้นำของเราต้องการมากที่สุด หากเจ้าปล่อยมันไป ก็เตรียมรับผลที่ตามมา! “

” บัดซบ! เจ้ายังไม่หยุดอีกเหรอ เย่ ซีหวิน บอกว่าเขาไม่มีมัน! นั่นหมายความว่าเขาไม่มีจริงๆ แม้แต่ตอนที่เขาได้รับคัมภีร์โบราณของเทพเจ้า เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเรื่องนี้เลย ” ลูกหมาป่า ออกมาปกป้อง เย่ ซีหวิน พร้อมกับพูดถึงสิ่งที่เขาเคยทำ

” คัมภีร์โบราณของเทพเจ้า? เจ้าก็คือ เย่ ซีหวิน คนนั้น! ” ทันใดนั้น เปา ฉินหวาง ก็ตระหนักได้ในทันทีว่าเขาเป็นใคร เย่ ซีหวิน เป็นหนึ่งในศิษย์หน้าใหม่ที่ไม่มีใครไม่รู้จักในเวลานี้ มีข่าวลือเกี่ยวกับวีรกรรมเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็น การฝ่าด่านทดสอบที่หน้าประตูเมืองยอดยุทธ รวมไปถึง การสังหารศิษย์ผู้คุ้มกฏของหอตุลาการ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่เลื่องลือก็เพราะ คัมภีร์โบราณของเทพเจ้า เย่ ซีหวิน ถูกตามล่า และสังหารผู้คนมาตลอดทาง จนถึงสถาบันยอดยุทธ บางทีเขาอาจไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธที่อายุน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน

หนึ่งหน้าของคัมภีร์โบราณของเทพเจ้า ดึงดูดความสนใจของเหล่าจอมยุทธมากมาย แม้ว่าชื่อเสียงของ เย่ ซีหวิน พึ่งจะปรากฏเมื่อไม่นานนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าตอแย เย่ ซีหวิน

เย่ ซีหวิน เป็นหนึ่งในรายชื่อบุคคลที่ไม่ควรไปเข้ายั่วยุ

ใครก็ตามที่ไปยั่วยุ เย่ ซีหวิน ไม่สำคัญว่าเขาเผชิญหน้ากับใคร แม้แต่คนของ สุสานกระบี่ เขาก็ไม่ไว้หน้า

” หากเจ้ากำลังตามหา คัมภีร์กระบี่ มันหายเข้าไปในอนุสาวรีย์หินก้อนนั้น เจ้าสามารถหามันได้ที่นั่น! ” เย่ ซีหวิน กล่าว

” เย่ ซีหวิน หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะเชื่อเจ้า! “

” ข้าก็เชื่อเจ้าเช่นกัน! “

ในเวลานี้ มู่ หลิง และเจียน วู่เฉิน ยืนยันในคำพูดของ เย่ ซีหวิน

Martial God Space

Martial God Space

Status: Ongoing

เย่ ซีหวิน ก่อนหน้านี้เป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาถูกส่งมายังอีกโลกหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า โลกแห่งวรยุทธ โลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยเหล่าจอมยุทธที่น่าเกรงขาม พวกเขาสามารถทำลายภูเขาทั้งลูกได้ในหมัดเดียว พวกเขายังสามารถยืดอายุขัยของตนเองออกไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด เดิมทีความสามารถของเขาค่อนข้างธรรมดาๆ แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ค้นพบบางสิ่งเข้าโดยบังเอิญ และสิ่งนั้นเรียกว่า พื้นที่ลึกลับ เขาสามารถเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ต่างๆ ภายในพื้นที่ลึกลับ สำหรับคนทั่วไปการฝึกฝนเคล็ดวิชาจนสำเร็จจะต้องใช้เวลาหลายปี แต่สำหรับเขาสามารถฝึกสำเร็จได้ภายในหนึ่งปี ตราบเท่าที่เขามีหินวิญญาณมากพอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท