อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 180 มุ่งเป้าไปที่นาง

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 180 มุ่งเป้าไปที่นาง

ตอนพิเศษ 180 มุ่งเป้าไปที่นาง

จือเหลียงรู้สึกว่าน้ำหนักที่เหยียบหลังเท้าของนางหนักเป็นพันชั่ง นางแทบจะยืดตัวขึ้นไม่ได้เพราะความเจ็บปวด

เมื่อนางเริ่มหายเจ็บและเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นางก็เห็นเนี่ยนเนี่ยนเชิดหน้าจูงหงหยาและติงเซียงเดินเข้าไปแล้ว

จือเหลียงส่งเสียงสบถไล่หลังของทั้งสามด้วยความโมโห “ไม่รู้จะอยู่หรือตาย คิดว่าหน้าตาดีแล้วจะรอดหรืออย่างไร? เป็นแค่คนรับใช้ ไม่ได้ดีไปกว่าข้าเลย เตรียมตัวตายเสียเถอะ ฮึ่ม”

จือเหลียงสบถคำหยาบอีกสองสามคำ จากนั้นเดินโซซัดโซเซไปยังห้องโถง

เนี่ยนเนี่ยนไปถึงประตูแล้ว สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างเปิดม่านให้ทั้งสามเข้ามา

ทันทีที่เข้าประตูมา เนี่ยนเนี่ยนก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว ในห้องมีฮูหยินเฒ่าไป๋ แม่นมอวี๋ หลิ่วซื่อ หลิ่วยางยาง ชายหนุ่มผู้สง่างามและ… หญิงที่แต่งตัวเป็นคนรับใช้ชาย

เนี่ยนเนี่ยนมองหน้าอกค่อนข้างอวบอิ่มของถังหมิ่นหยาง แล้วมุมปากของนางก็กระตุก

แม้ว่านางจะเข้าใจการแต่งตัวเป็นคนรับใช้ผู้ชาย แต่สิ่งที่นางไม่เข้าใจก็คือ อย่างน้อยนางควรซ่อนความเป็นสตรีเอาไว้ ด้วยหน้าอกที่มองแวบเดียวก็รู้แล้ว มีเพียงผีเท่านั้นที่จะเชื่อว่านางเป็นบุรุษ ไม่ต้องพูดถึงริมฝีปากแดง ฟันขาวสะอาด และใบหน้าหวานมีเสน่ห์ของนาง

แม่นมอวี๋เพิ่งบอกพวกนางว่าองค์ชายเก้าและองค์หญิงสิบสามอยู่ที่นี่

ดังนั้นชายคนเดียวในห้องนี้ก็คือองค์ชายเก้า ส่วนคนรับใช้ชาย… คือองค์หญิงสิบสามงั้นหรือ?

หงหยาและติงเซียงยังคงงุนงง ก่อนที่พวกนางจะทันได้ตอบสนอง พวกนางก็ได้ยินเสียงหลิ่วยางยาง “บังอาจ เหตุใดไม่คุกเข่าลงเมื่อเห็นองค์ชายเก้าและองค์หญิงสิบสาม?”

ฮูหยินเฒ่าไป๋มองการแสดงออกของหลิ่วยางยางแล้วยิ่งไม่พอใจมากขึ้น เสียงของนางพลันเย็นชา “ยางยาง องค์ชายเก้าและองค์หญิงสิบสามอยู่ที่นี่ เจ้าพูดจาเยี่ยงนี้ได้อย่างไร?”

หลิ่วยางยางตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ใบหน้านางซีดลง ด้วยเมื่อครู่นี้นางค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นอวี้ซีเข้ามา

นางรีบสงวนท่าที ด้วยการถอยไปหนึ่งก้าว พร้อมกับหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะไปพูดว่า “ฮูหยินเฒ่า ข้า…”

ฮูหยินเฒ่าไป๋ไม่แม้แต่จะมองมาที่นาง นางหันหน้าไปพูดกับเนี่ยนเนี่ยนและคนอื่น ๆ ว่า “อวี้ซี ติงเซียง หงหยา เหตุใดไม่ทำความเคารพองค์ชายเก้าและองค์หญิงสิบสาม?”

สายตาของนางดูเคร่งขรึม และท่าทางของนางก็ค่อนข้างจริงจัง

หงหยาและติงเซียงหวาดกลัวมาก จนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตกใจ แล้วคำนับถังอวี้เทียนและถังหมิ่นหยาง

มีเพียงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้นที่ขมวดคิ้ว ในชีวิตของนาง นางคุกเข่าคำนับเพียงพ่อแม่ บรรพบุรุษและผู้อาวุโสที่ใกล้ชิดเท่านั้น นางไม่เคยคุกเข่าให้คนอื่นเลย

ความเย่อหยิ่งของนางได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเด็ก นางจึงไม่อาจคุกเข่าต่อหน้าองค์หญิงสิบสามจอมเอาแต่ใจที่มีอายุไล่เลี่ยกับนางได้

อย่างมากที่สุด… ก็แค่ถอนสายบัว

ทุกคนในห้องตกตะลึง ฮูหยินเฒ่าไป๋ขมวดคิ้ว หลิ่วซื่อมองอย่างเย็นชาพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก ส่วนหลิ่วยางยางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ

ร่องรอยความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าขององค์ชายเก้า ส่วนองค์หญิงสิบสามมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึงกล้าดูหมิ่นข้า” ถังหมิ่นหยางพูดจบก็ยกมือขึ้นตบหน้าเนี่ยนเนี่ยนอย่างแรง

เนี่ยนเนี่ยนเม้มปากและถอยหลังไปเล็กน้อย นางไม่สามารถโจมตีองค์หญิงสิบสามได้ ทำให้นางยิ่งโกรธแค้นอยู่ในใจ

นางหันกลับไปหาถังอวี้เทียน แล้วตะโกนว่า “พี่เก้า ช่วยข้าจับนางแพศยาที่กล้าดูหมิ่นศักดิ์ศรีของราชวงศ์ ทั้งยังไม่เคารพข้าด้วย โทษคือตายสถานเดียว”

ถังอวี้เทียนลังเลเล็กน้อย เขาคิดว่าวันนี้เขามาเยี่ยมฮูหยินเฒ่าไป๋ จึงไม่เหมาะที่จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่โต แต่การกระทำของหญิงสาวเมื่อครู่นี้ ทำให้น้องหญิงสิบสามโกรธมาก แม้แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออก

เขาเหลือบมองฮูหยินเฒ่าไป๋ที่ขมวดคิ้วจนเกือบจะเป็นปม ราวกับว่านางไม่พอใจพฤติกรรมขององค์หญิงสิบสามที่กระทำในจวนของนางอย่างมาก

ถังอวี้เทียนถอนหายใจ นับประสาอะไรกับฮูหยินเฒ่าไป๋ เขาก็เสียใจเช่นกันที่พาน้องหญิงสิบสามออกมา

หากรู้ล่วงหน้าเขาคงไม่ยอมใจอ่อนพานางมาด้วย ตอนนี้คงไม่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้

“สิบสาม นี่เป็นเรื่องของจวนซูกั๋วกง ฮูหยินเฒ่าควรเป็นคนจัดการเอง เจ้าเพียงแค่คอยดูอยู่ตรงนี้ก็พอ”

ถังหมิ่นหยางไม่พอใจ “พี่เก้า ท่านกำลังพูดอะไรเพคะ? นางไม่เคารพข้า นั่นคือเป็นเรื่องของราชวงศ์ ต่อให้ข้าจะฆ่านางตอนนี้ ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ”

เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะเบา ๆ “องค์หญิงสิบสาม ท่านหมายความว่าอย่างไร ตราบใดที่ข้าคุกเข่าลงคำนับท่าน ก็แสดงว่าข้าเคารพท่าน และข้าจะไม่ถูกทุบตีจนตายงั้นหรือ?”

ถังหมิ่นหยางผงะ แล้วยิ้มเย้ยหยัน “เจ้ามาพูดตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ข้าจะจัดการกับเจ้า”

ฮูหยินเฒ่าไป๋หรี่ตาลง ถังหมิ่นหยางกำลังแก้ตัว นางเพิ่งฟังคำพูดของหลิ่วยางยาง และรู้สึกว่าอวี้ซีเป็นหายนะ นางจึงต้องการใช้โอกาสนี้กำจัดนาง แม้ว่าอวี้ซีจะปฏิบัติต่อนางอย่างสุภาพและอ่อนโยนในวันนี้ ก็คงจะไม่อาจหลบหนีได้

การทำหยกหรูอี้ของไท่จื่อแตกกลายเป็นเรื่องรองลงมา

ถังอวี้เทียนขยิบตาให้ถังหมิ่นหยาง เพื่อบอกให้นางหยุดได้แล้ว ฮูหยินเฒ่ายังคงยืนอยู่ตรงหน้านาง ดังนั้นอย่ากระทำให้มากเกินไป

แต่ถังหมิ่นหยางในฐานะองค์หญิงแห่งราชวงศ์นั้นหยิ่งยโสอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่านางเป็นธิดาองค์สุดท้องของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน บางครั้งนางก็ทำสิ่งผิดในวังหลวง แต่พี่น้องคนอื่น ๆ ก็จะปล่อยนางไป แม้แต่ไท่จื่อผู้เคร่งครัดต่อบรรดาน้อง ๆ มาโดยตลอด ก็ยังยุ่งกับกิจการบ้านเมืองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงแทบจะไม่สนใจนางเลย ฮ่องเต้กำลังพักฟื้นในวังหลวง และไม่ได้พบนางเป็นเวลานาน จึงทำให้ถังหมิ่นหยางนิสัยเสียมากกว่าเดิม

นางไม่แม้แต่จะฟังคำพูดของสนมเยว่ผู้เป็นมารดาของนาง นับประสาอะไรกับฮูหยินเฒ่าไป๋ที่นางไม่คุ้นเคย

แม้ว่านางตั้งใจจะแต่งงานกับไป๋หลิวอี้ แต่นางจะไม่ลดสถานะองค์หญิงของนางเพื่อทำให้ฮูหยินเฒ่าพอใจ ด้วยการไม่จัดการกับคนที่นางเกลียด

ดังนั้น เมื่อนางเห็นความเฉยเมยของถังอวี้เทียน นางก็ยิ่งไม่พอใจ ก้าวเข้าไปพูดว่า “ท่านจะไม่ช่วยข้าใช่หรือไม่เพคะ? พวกเจ้าทุกคนบังอาจไม่ฟังข้า ดี เช่นนั้นข้าจะจัดการเอง วันนี้ข้าจะฆ่าหญิงที่บังอาจดูหมิ่นข้า แล้วมาดูกันว่าใครจะกล้าต่อปากต่อคำอีก” ทันทีที่นางพูดจบ นางก็เปิดม่านประตู แล้วพูดกับคนข้างนอกว่า “พวกเจ้าเข้ามาหาข้า ลากตัวหญิงโง่เขลาเหล่านี้ออกไปให้หมด แล้วทุบตีพวกมันให้ตาย”

คนที่ยืนอยู่นอกโถงเล่อฝูคือสาวใช้คนสนิทสองคนของนาง แม้ว่าพวกนางจะแต่งตัวเป็นคนรับใช้ชายด้วย แต่พวกนางก็ติดตามองค์หญิงสิบสามอย่างมีสติ และคอยปรนนิบัตินางอย่างระมัดระวัง

เมื่อได้ยินคำสั่งของนางแล้ว พวกนางก็รีบวิ่งเข้ามาทันที

คนรับใช้คนอื่น ๆ ในโถงเล่อฝูตกตะลึง ส่วนจือเหลียงยกยิ้มอ่อน

โม่เพียวที่กำลังแอบซ่อนตัวอยู่นอกโถงเล่อฝูในขณะนี้ จู่ ๆ รูม่านตาของนางก็หดตัวทันที

นางได้ยินว่าองค์ชายเก้าและองค์หญิงสิบสามกำลังจะมา นางจึงตามมาดูด้วยความกังวลใจ

เมื่อได้ยินคำสั่งเช่นนั้น นางก็นึกภาพเหตุการณ์องค์หญิงสิบสามรังแกได้ทันที คิดจะทุบตีกันให้ตายเลยจริงหรือ?

โม่เพียวผงะไปครู่หนึ่ง เหวินหย่าบอกนางเป็นพันครั้งว่าให้ปกป้องคุณหนู หากคุณหนูถูกรังแก นางจะมีหน้ากลับไปพบเหวินหย่าได้อย่างไร

คิดได้ดังนั้น โม่เพียวก็รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนในห้องกำลังตกตะลึงกันอยู่ เมื่อรู้ตัวโม่เพียวก็ได้เปิดม่านเข้ามาแล้ว

………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

โม่เพียวจะช่วยเนี่ยนเนี่ยนยังไงดีน้า หรือว่าลำพังเนี่ยนเนี่ยนคนเดียวก็เอาอยู่?

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท