สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1187 กลับบ้าน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1187 กลับบ้าน

เมื่อชาวบ้านซีเหลียงที่กำลังต่อแถวรอออกนอกเมืองเห็นเพื่อนบ้านของตัวเองที่ออกจากเมืองไปแล้วย้อนกลับมาอีกครั้งใจของพวกเขาจึงกระตุกวูบขึ้นมาทันที เขารีบชะโงกหน้าออกไปถามชาวบ้านซีเหลียงที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีซึ่งยืนอยู่นอกประตูเมือง “เหล่าจู พวกเจ้าออกจากเมืองไปครอบครัวแรกเลยไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงย้อนกลับมาอีก”

“ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาเปิดประตูให้ครอบครัวของข้าเข้าไปด้วยเถิด!” เหล่าจูไม่มีเวลาตอบคำถามของเพื่อนบ้าน เขากระชากร่างของภรรยาและบุตรคุกเข่าลงเพื่อขอร้องแม่ทัพคุ้มกันเมืองให้พวกเขาเข้าไปด้านใน

ทว่า แม่ทัพคุ้มกันเมืองไม่สนใจคำอ้อนวอนของเหล่าจู เขาสั่งให้พลธนูยิงธนู ลูกธนูปักลงบนพื้นตรงหน้าเหล่าจูและครอบครัว เหล่าจูรีบอุ้มร่างบุตรชายถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัวจนเกือบปัสสาวะราด แผ่นหลังของเขาเย็นวาบขึ้นทันที

แม่ทัพคุ้มกันเมืองกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “พวกข้าให้โอกาสพวกเจ้าเลือกแล้วว่าอยากกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวหรือเป็นชาวบ้านซีเหลียงต่อและย้ายออกจากเมือง พวกเจ้าเป็นคนเลือกเองว่าอยากเป็นคนซีเหลียงต่อไป เช่นนั้นพวกเจ้าก็อย่าคิดเข้ามาในเมืองของต้าโจว ข้าจะนับหนึ่งถึงสิบ หากพวกเจ้ายังไม่รีบหนีไปอย่าหาว่าข้าไม่เตือน หนึ่ง…สอง…”

ไม่รอให้แม่ทัพคุ้มกันเมืองนับต่อ เหล่าจูรีบกระชากร่างของภรรยาและลูกชายลูกสาวจากไปทันที

การกลับมาของครอบครัวของเหล่าจูที่จากไปเป็นครอบครัวแรกทำให้ชาวบ้านซีเหลียงที่กำลังต่อแถวออกจากเมืองเริ่มลังเลขึ้นทันที

เหล่าจูไม่ได้กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น ทว่า จากการที่เขาและครอบครัวยอมคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนให้ทหารยอมให้เขากลับมาในเมืองอีกครั้งแสดงว่าพวกเขาคงพบเจอเรื่องที่ไม่ดีระหว่างทางแน่นอน!

เมื่อเห็นครอบครัวของเหล่าจูจากไปไกลแล้วแม่ทัพคุ้มกันเมืองจึงหันกลับมากล่าวกับทหารต่อ “ดำเนินการต่อไป! ทว่า ข้าขอย้ำอีกครั้ง ชาวบ้านซีเหลียงที่ออกจากเมืองไปแล้วอย่าคิดว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะทรงมีเมตตาต่อพวกเจ้าและยอมพวกเจ้าได้ทุกเรื่อง เมื่อออกจากเมืองไปแล้วจงรีบไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด หากผู้ใดย้อนกลับมาจะถูกคิดว่าเป็นสายลับของซีเหลียงและถูกสังหารทิ้งทั้งหมด พวกเจ้าคิดทบทวนให้ดี!”

สิ้นเสียงของแม่ทัพคุ้มกันเมือง ทหารที่มีหน้าที่จัดการเรื่องปล่อยชาวบ้านออกจากเมืองเงยหน้าขึ้นมองชาวบ้านซีเหลียงที่ยืนจูงลูกของตัวเองตัวสั่นเทาอยู่ตรงหน้า เขาเอ่ยถามเพื่อจดบันทึก “นามว่าอันใด บ้านอยู่ที่ใด มี่กันกี่คน หากต้องการออกจากเมืองต้องอพยพไปทั้งครอบครัว เจ้ารู้ใช่หรือไม่”

ชาวบ้านผู้นั้นตัวสั่นเทาไม่หาย เขาเงยหน้ามองทหารต้าโจวที่กำลังรอบันทึกประวัติของเขาด้วยสีหน้าดุดัน จากนั้นรีบกล่าวขึ้น “ข้า…ข้าไม่ออกจากเมืองแล้ว ครอบครัวของข้ายินดีอยู่เป็นชาวบ้านต้าโจวที่นี่ขอรับ”

“แล้วเหตุใดจึงมายืนวุ่นวายตรงนี้ ไปลงทะเบียนที่จวนว่าการนู่น!” ทหารต้าโจวตวาดชาวบ้านผู้นั้นเสียงดัง จากนั้นกล่าวต่อ “ครอบครัวถัดไป!”

ทว่า ตอนนี้ชาวบ้านที่ก่อนหน้านี้รีบร้อนอยากออกจากเมืองเริ่มลังเลตัดสินใจไม่ได้

“พวกเจ้าจะทำหรือไม่ ไม่ทำก็ถอยไป ครอบครัวถัดไป…” ทหารต้าโจวตะโกนเรียกครอบครัวถัดไป

“พ่อเอ๊ย พวกเราไม่ย้ายออกจากเมืองดีหรือไม่ ผู้ใดจะรู้ว่าออกไปแล้วพวกเราจะเจอกับสิ่งใด พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาไม่ว่าจะเป็นคนของแคว้นใดขอเพียงมีชีวิตรอดก็พอ! เจ้าดูสิครอบครัวของเหล่าจูกลับเข้ามาในเมืองไม่ได้แล้ว” ภรรยากระตุกแขนเสื้อของสามี เอ่ยขอร้องทั้งน้ำตา “ลูกของพวกเรายังเล็กนัก เหตุใดพวกเราต้องจากบ้านเกิดของตัวเองไปด้วย”

“เร็วหน่อย ยังมีครอบครัวใดอีก!” ทหารต้าโจวเอ่ยเร่งอย่างหมดความอดทน

สามีกำลังลังเล ทว่า เมื่อได้ยินเสียงเร่งของทหารต้าโจวจึงตัดสินใจดึงร่างของภรรยาและลูกออกมาจากแถวที่ต่ออยู่ทันที จากนั้นกล่าวขึ้น “เจ้ากล่าวถูกแล้ว พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านขอเพียงมีชีวิตอยู่รอดต่อไปก็พอแล้ว หากต้าโจวต้องการสังหารพวกเรา พวกเขาคงทำตั้งแต่บุกเข้ามาในเมืองแล้ว ในเมื่อจักรพรรดินีแห่งต้าโจวรับปากว่าจะปฏิบัติต่อพวกเราเหมือนคนต้าโจว เหตุใดพวกเราต้องจากบ้านเกิดไปที่อื่นด้วย ไป…กลับบ้านกัน!”

“นั่นสิ! เหตุใดพวกเราต้องจากบ้านเกิดของตัวเองไปด้วย จักรพรรดิองค์ใดมอบทางรอดให้ชาวบ้าน จักรพรรดิองค์นั้นก็คือเจ้านายของพวกเรา ไป! กลับบ้าน!”

ชาวบ้านเริ่มพาภรรยาและลูกของตัวเองกลับบ้านมากขึ้น

เมื่อเห็นแถวด้านหน้าหายไปชาวบ้านที่ต่อแถวอยู่ทางด้านหลังจึงสอบถามเรื่องราว เมื่อรู้ว่ามีชาวบ้านที่จากไปแล้วย้อนกลับมาจนเกือบถูกทหารต้าโจวสังหารก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาทันที

เมื่อเห็นชาวบ้านที่ต่อแถวอยู่ด้านหน้าออกจากแถวและพาครอบครัวของตัวเองกลับบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านที่อยู่ทางด้านหลังจึงเริ่มหวั่นไหวขึ้นบ้าง ไม่นานจำนวนคนที่ต่อแถวจึงลดลงกว่าครึ่ง

นอกด่านเย่เฉิงมีชาวบ้านซีเหลียงที่จากไปแล้วพากันย้อนกลับมามากขึ้นเรื่อยๆ

ชาวบ้านเหล่านั้นอ้อนวอนขอกลับเข้าไปในเมือง ทว่า กลับถูกแจ้งว่าหากชาวบ้านซีเหลียงที่จากไปแล้วย้อนกลับมาจะถือว่าเป็นสายลับของซีเหลียงและจะถูกสังหาร ชาวบ้านบางคนอยากบุกเข้าไปในเมืองแต่ถูกทหารต้าโจวสังหารทิ้งที่นอกเมืองทันที ความเด็ดขาดนี้ทำให้ชาวบ้านซีเหลียงเหล่านั้นตระหนักได้ว่ากองทัพต้าโจวเป็นคนกล่าวคำไหนคำนั้น พวกเขาปกป้องชาวบ้านต้าโจว แต่ไม่มีทางใจอ่อนกับชาวบ้านซีเหลียงเด็ดขาด

ไม่นานชาวบ้านส่วนน้อยที่ยังต่อแถวรอออกนอกเมืองต่างพาครอบครัวของตัวเองกลับบ้านเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่กล้าออกจากเมืองอีกต่อไปเพราะหากออกไปเจอเรื่องร้ายพวกเขาคงไม่สามารถย้อนกลับมาที่นี่ได้อีกแล้ว

บ้านเกิดของพวกเขาอยู่ในด่านเย่เฉิง การออกไปจากเมืองเปรียบเสมือนดอกบัวที่ลอยไปตามน้ำอย่างไม่รู้จุดหมาย

ขอเพียงจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่สังหารพวกเขา ต่อให้ต้าโจวจะไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาเท่าเทียมกับคนต้าโจวอย่างที่รับปากไว้ก็ไม่เป็นอันใด

ช่วงกลียุค…ชาวบ้านขอเพียงมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น

ข่าวที่ประตูเมืองถูกส่งไปให้ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงฉี ไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋ชิงอวิ๋น ไป๋จิ่นเจา ไป๋จิ่นหวาและไป๋จิ่นเซ่อขณะที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารเย็นอยู่

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าคีบอาหารให้ไป๋จิ่นเซ่อพลางรับคำ “แม่ทัพคุ้มกันเมืองทำได้ดีมาก พรุ่งนี้คงมีชาวบ้านที่จากไปแล้วย้อนกลับมาอีก จัดการเหมือนวันนี้ได้เลย ไล่พวกที่ย้อนกลับมาไปทั้งหมด ผู้ใดกล้าบุกเข้ามาสังหารทิ้งทันที! ต่อไปต้องจัดทำทะเบียนราษฎร์ใหม่และเริ่มผลักดันระบอบการปกครองใหม่ของเรา ต้องลำบากอาอวิ๋นแล้ว”

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงขอรับ อาอวิ๋นจะทำให้ดีที่สุดขอรับ” ไป๋ชิงอวิ๋นรับคำ

“อีกสามวันชาวบ้านคงย้อนกลับมามากกว่าเดิม…” ไป๋ชิงฉีนิ่งคิดพลางกล่าวขึ้น “พี่หญิงใหญ่ ข้ากังวลว่าหากพวกข้าออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ข่าวอาจแพร่กระจายไปถึงหูคนซีเหลียงในไม่ช้า พวกข้ารออีกสักสองสามวันค่อยออกเดินทางดีหรือไม่ขอรับ”

“ไม่จำเป็น” ไป๋ชิงเหยียนรับผ้าเช็ดหน้ามาจากเว่ยจงพลางส่ายหน้า “ออกเดินทางพรุ่งนี้ตามแผนเถิด พี่ให้แม่ทัพหยางออกจากเมืองไปแล้ว ตอนนี้เขารอพวกเจ้าอยู่ที่นอกเมืองฝั่งประตูทิศเหนือ…”

ไป๋ชิงฉีกำตะเกียบในมือแน่น “พี่หญิงใหญ่หมายความว่า…”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“พี่หญิงใหญ่และพี่ชายสามกล่าวความนัยอันใดกัน” ไป๋จิ่นเจาฟังไม่เข้าใจสักคำ นางหันไปทางไป๋จิ่นเซ่อ “เสี่ยวชี พี่ชายสามกับพี่หญิงใหญ่คุยเรื่องอันใดกันหรือ”

ไป๋จิ่นเซ่อเงยหน้ามองพี่หญิงใหญ่และพี่ชายสามแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวเสียงเบา “พี่หญิงใหญ่หมายความว่าให้พี่ชายสามนำทัพออกไปจากเมือง จากนั้นอ้อมไปทางด้านหลังเพื่อนำกองทัพไปให้แม่ทัพหยางพาเข้ามาในเมืองใหม่อีกครั้งใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ไป๋ชิงเจวี๋ยมองไปทางไป๋จิ่นเซ่ออย่างชื่นชม “ไม่เสียแรงที่เสี่ยวชีเติบโตอยู่ข้างกายท่านป้าสะใภ้ใหญ่”

“ทว่า เหตุใดพี่หญิงใหญ่จึงต้องทำเช่นนี้เจ้าคะ” ไป๋จิ่นหวายังไม่เข้าใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท