ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 163 เงื่อนไขใหม่ของประเทศ

ถนนสู่อาณาจักร

163 เงื่อนไขใหม่ของประเทศ

30 – 38 นาที

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

.「ที่นี่คือราเฟน มันไม่ได้เจริยรุ่งเรืองเหมือนทริสเนีย แต่พยายามทนกับมัน」

หลังจากสรุปสิ่งต่างๆเหมือนการเลื่อนตำแหน่ง และการรับของรางวัลรายการหนึ่ง สุดท้ายแล้ว เราสามารถกลับมาในราเฟน ราชวงศ์ทริสเนียทั้งสี่ ผู้ยังคงระวังตัวกับผมและคนอื่นๆ เช็คเมืองอย่างขลาดๆบนรถม้า

「ถ้าอย่างนั้น ราเฟนอยู่ที่ไหนแล้วนะ?」

「แต่ความกว้างนี้……」

「ถนนและบ้านทั้งหมดเรียงกับอย่างเรีบร้อย……」

พวกเธอทั้งสี่น่าจะนึกภาพราเฟนเป็นบางแห่งอันโบราณกันดาร ไกลออกไปในภูมิภาคชนบท พวกเธอดูเหมือนจะตกใจจากความใหญ่ของ ณ แห่งนี้ แต่พูดนั่นแล้ว ทริสเนียไม่ใช่แค่เมืองหลวงของเมือง แต่เมืองก็เป็นฐานศูนย์กลางขอการค้าข้าย ทีขุนนางและพ้อค้ารวยๆถูกเห็นเดินไปทั่วมนเสื้อผ้าอันดูรุ่งโรจน์ เทียบกับประชากรของราเฟน ซึ่งหลักๆแล้วประกอบไปด้วยชนชั้นกลาง ความงดงามของเมืองนี้ด้อยกว่าอย่างเห็นชัดเจน

「ฮฮฮฮิ้!」

มาร์เซลีนร้องเสียงแหลม และกระโดดไปข้างๆในความตกใจ ผมจับตูดเธอจากข้างหลัง

「ไม่ต้องการมันหรือ?」

「ม-ไม่ หนูจะทนกับมัน เพื่อลูกสาวของหนู……」

แม่ปิดตาของเธอและกัดริมฝีปาก ขณะเธอยื่นตูดเธอออกมาอีกนิด ลูกสาวก็มองผมด้วย เพราะกังวลเกี่ยวกับแม่ของพวกเธอ

「เดาว่าฉันจะหยุดตรงนี้ แค่ใช้เวลาและชินกับเมือง ฉันจะเรียกเธออีกครั้ง  เมื่อฉันเห็นโอกาสอื่น」

หลังจากพูดคำนั้น ผมหันไปอีกทาง และมองออกไปนอกหน้าต่าง

มาร์เซลีนทิ้งสะโพกของเธอในการผ่อนคลายตัวและถอนหายใจโล่งใจข้างหลังผม

มันดูเหมือนผมจะต้องละลายหัวใจของเธออีกนิด

ผู้คนของเมืองต้อนรับเราขณะเรากลับมาและสาวๆของผมก็รีบออกมาเพื่อทักทายเรา

「เอเอร์ซาม้าท้อง ในที่สุดก็ท้อง!!」

นนน่ากระโดออกมาและฝังหัวไว้กับหน้าอกของผม ดันทั้งกายของเธอเข้ากับผม วิธีที่เธอพูด มันทำให้ดูเหมือนผมเป็นผู้ที่ท้อง

ดันเด็กออกมาจากตูดไม่ใช่สิ่งที่น่าพึงพอใจสำหรับเราทั้งคู่ ผมมั่นใจ

「เอาเลยแล้วจับมันสิ」

ผมลูบท้องของนนน่าอย่างอ่อนโยนบนชุดของเธอ

ถ้าเช่นนั้นการปูดเล็กน้อยนี้หมายถึงมีเด็กอยู่ในนั้น

「คิดยัไง? มันเหลือเชื่อไปเลย ใช่มั้ยล่ะ!?」

ขณะทีผมจูบกับนนน่าที่มีอารมณ์เล็กน้อน นมยักษ์ขงเธอกดเข้ากับอกของผม เราแยกจากกันและกัน และนนน่าเซอย่างไม่มันคง จากเลือดที่วิ่งเข้าไปในหัวเธอ แม้ว่าเธอถูกจับโดยผู้ช่วยหญิงสามคนอย่างรวดเร็ว

「ถ้างั้น หนูมีผู้ช่วยสามคนคอยดูแลหนู」

「เพราะทั้งหมด มันจะค่อนข้างจริงจัง ถ้าบางอย่างคาดไม่ถึงเกิดขึ้น」

「แม้ว่าหนูจะไม่ทำแบบนั้น เด็กจะออกมาเมื่อถึงเวลาอันถูกต้อง」

ใบหน้าตกใจ ใบหน้าเหยียดๆ –  มันนานมามากแล้วตั้งแต่ผมเห็นสาวๆของผม

ผมจงใจงดจากกิจกรรมทางเพศบนทางมาแห่งนี้จากเมืองหลวง

ผมมั่นใจว่าผมจะมีการต่อสู้อันยากลำบากวันนี้

「อืมม……」

มาร์เซลีนที่ถูกละเว้นและสาวๆทั้ง 3 มองมาทางผม พร้อมสีหน้าสับสน

「เธอจะอยู่ที่นี่เริ่มจากวันนี้ไป ให้ฉันรู้ถ้าต้องการอะไร」

「พวกเราทั้งสี่อยู่ในบ้านเดี่ยวตากาศ……แออัดมาก」

「ทนกับมันเฟลิซี เราถูกขังอยู่……เราขออะไรหรูหราไม่ได้」   

「บวกกับ แม่มั่นใจว่าอย่างน้อยจะมีห้องนอนกับห้องทานอาหารแต่ อาจจะไม่มีห้องดอกไม้นะ」

「ไม่มีทางน่า! หนูดูกุหลาบทุกวันไม่ได้สิอย่างนั้นน่ะ!」

「……ขอโทษที่ต้องทำฟองฝันแตกแต่สาวๆเหล่านั้นและฉันก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นด้วย เธอจะได้รับห้องส่วนตัว แต่ห้องอาหาร ห้องน้ำและห้องนั่งเล่นทั้งหมดใช้ร่วมกัน」

พวกเธอทั้งหมดสี่คนมองหน้ากัน

「อา พระเจ้า ทำไมท่านให้หนูและลูกสาวต้องได้รับความยากลำบากเช่นนี้……」

「และคนพวกนี้คือใคร?」

นนน่าถามอย่างร้อนรนใจ เธอดูเหมือนจะคิดได้แล้วจากรูปลักษณ์และพฤติกรรมของพวกเธอ ว่าพวกเธอไม่ใช่สาวๆที่ปรกติผมจะพากลับมาด้วยกับผม

「พวกเธอคือราชินีมเหสีของเทรียและลูกสาวของเธอ ที่จะโดนประหาร พี่รู้สึกแย่กับพวกเธอน่ะ พี่เลยพากลับมาด้วย」

「……」

นนน่าและสาวๆคนอื่นร้องเสียงแหลมในความตกใจ

「ร-ราชวงศ์!? ทำไมพี่พาราชวงศ์มา……เรื่องนั้นช่างเถอะ อย่าบอกหนูนะว่า หนูมั่นใจว่าพี่จะลงมือ…..ไม่ ลงควยของพี่กับพวกเธออีกแล้วน่ะ!」

พี่ยังไม่ได้นอนกับพวกเธอคนไหนๆเลยๆ

「อย่าเพิ่งเอะอะเกี่ยวกับมันขนาดนั้น ที่สำคัญกว่านั้น เธอต้องหิวน้ำแล้ว ใครก็ได้เอาน้ำมาทีได้มั้ย?」

ผมขอเมดข้างผมให้นำน้ำมาให้ผม ซีเลีย และสาวๆคนอื่นอีกสี่คนแต่เมดคำนับเบาๆและก้าวถอยไป เธอไม่ได้ยินผมหรือ?

「นำน้ำมาให้ทุกคน」

ผมจับเมดอีกคนและขออีกครั้ง

「แน่นอนค่ะ นายท่าน」

ช่างเป็นเสียงที่น่ารัก – ผมจะโอบกอดเธอในอนาคตอันใกล้

「หนูขอโทษที่ให้รอค่ะ」

อย่างไรก็ตาม เมดนำน้ำมาพอแค่สำหรับสองคน

「เฮ้ เอาน่า ฉันขอไปหกนะ……」 「ถ้าอย่างนั้น ุถ้าหนูจะขอตัว นายท่าน ซีเลียซามะ」

แม่บ้านมีรอยยิ้มที่เกร็งๆบนใบหน้า ขณะที่เธอทักทายซีเลียและผม จากนั้นรีบวิ่งไป

「เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?」

เมื่อมองดูอีกครั้งไปที่คนรับใช้ ผมเห็นคนที่หันหน้าหามาร์เซลีนและเหล่าลูกสาวของเธอ มีความไม่เป็นมิตรอย่างเห็นใด้ชัดภายหลังดวงตาของพวกเธอ เฟลิซี่ ลูกสาวคนเล็กสุด เกาะสเตฟานีลูกสาวคนโตอย่างหวาดกลัว ลูกสาวคนที่สองตะโกน “ต้องการอะไร?” เพื่อยายามจะทำตัวเข้มแข็ง แต่ขาของเธอสั่น

「เวรแล้ว พี่ลืม」

「ตอนนี้ที่มาคิดดูแล้ว!」

มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นผู้ที่ดั้งเดิมแล้วใช้ชีวิตอยู่ในนราเฟนตั้งแต่แรก พวกเธอส่วนใหญ่นั้นมาจากภูมมิภาคอื่น โดยเฉพาะ หลายคนหนีมาที่นี่ หลังจากถูกกดขี่โดยเทรียและเสียญาติมิตรไป หลังจากได้ยินสายเลือดของผู้หญิงเหล่านี้ ไม่มีทางที่คนรับใช้จะใจเย็น

「เซบาสเตียน」

「ครับ นายท่าน」

「ฉันมีแผนที่จะทำให้ผู้หญิงเหล่านี้เป็นของฉันในท้ายที่สุด ฉันไม่อยากจะวางภาระไปบนพวกเธอมาก」

「รับทราบ ผมจะทำให้มั่นใจว่าบุคลากรที่ดูแลเลดี้เหล่านี้ เกิดและโตมาในโกลโดเนีย」

อย่างที่คาดกับบัตเลอร์ที่พึ่งพาได้

ถ้ามันเป็นห้องบนฝั่งตะวันออกของคฤหาสน์พวกเธอควรจะสามารถกินและอาบน้ำได้โดยไม่มาเจอกับคนรับใช้ในโถงทางเดิน

มันดูเหมือนเซบาสเตียนจะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นหลังจากนั้น

「ออออุ……」

ผมกอดมาร์เซลีนเบาๆ ผู้ที่ขดตัวกับลูกสาวที่กลัวของเธอ ดั่งจะปกป้องพวกเธอจากสายตาเป็นศัตรูของคนรับใช้

「มันเป็นความผิดฉันที่ไม่คิดถึงเรื่องนี้ อย่าได้กังวล ในท้ายที่สุดเธอจะเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะปกป้องเธอ」

ผมมองขึ้นไปและชำเลืองมองคนรับใช้

「ฉันเข้าใจถึงความโกรธของพวกเธอแต่สาวๆเหล่านี้ไม่ใช่ราชวงศ์เทรียอีกต่อไปแล้ว เทรียล่มสลายไปสู่ซากแล้ว ฉันมีแผนที่จะทำให้พวกเธอทั้งหมดเป็นผู้หญิงของฉัน และปลูกเมล็ดพันธุ์ของฉันลงไปบนพวกเธอ ฉันจะไม่บอกเธอให้อ้าแขนต้อนรับพวกราชินี แต่เธออย่าข่มเหงพวกเธอจะได้ไหม」

หลังจากที่ปั่นป่วนเล็กน้อย คนรับใช้ พวกเธอส่วนใหญ่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามคนที่ญาติถูฆ่า จะไม่ปฏิบัติกับพวกเธออย่างใจดีสักนิด

จากนั้น เมดอายุ 30 มาและกระซิบหาผม

「ลูกสาวของหนูถูกฆ่าโดยทหารของเทรีย ได้โปรดให้หนูดูแลเรื่องทำความสะอาดหลังจากที่ท่านนอนกับพวกเธ จากนั้น ได้โปรด ทำให้พวเธอกรีดร้องขณะที่ท่านข่มขืนพวกเธอด้วยกำลังท้้งหมดของท่านต่อหน้าหนู!」

「เฮ้ เฮ้ ฉันจะไม่ทำบางอย่างที่โหดร้ยปานนั้นหรอก……แต่ ฉันจะเสนอพวกเธออในสภาพที่น่าอายสุดขีดให้แน่นอน」

หลังจากที่เห็นด้วยกับคำขอแปลกๆ เมดจากไปด้วยหน้าตาที่ดูพอใจบนใบหน้าพวกเธอ แม้ว่าผู้หญิงสี่คน รู้ว่าพวกเธอจะโดดนกระทำชำเรา พวกเธอต้องรู้สึกว่าไม่มีใครอื่นที่จะพึ่งพาได้แล้ว และจับมือหรือเสื้อของผม ขณะที่พวกเธอตามผมมา ถ้าเป็นแบบนี้ มันน่าจะไม่นานจนกว่าพวกเธอจะเปิดกายให้กับผม

สำหรับตอนนี้ผมต้องทำงานหนักในส่วนอื่น เพื่อช่วยให้พวกเธอรู้สึกสบายๆ เพราะทั้งหมด มันไม่ใช่อะไรน่าอายที่จะให้สาวชอบคุณ เพราะคุณอยากได้ร่างกายเธอ

—————————————————————

กลางคืน

「อะฮ่าา…….」

คาร์ล่า ผู้ที่โยกสะโพกของเธออย่างตั้งใจถึงท้ายที่สุด ในที่สุดก็หมดสติและทรุดลงไป มองลงข้างล่างจากเตียงที่ใหญ่เป็นพิเศษที่ทำมาเพื่อการเย็ดหมู่ มันดูเหมือนจะมีศพผู้หญิงนับไม่ถ้วนนอนอยู่บนพื้น ห้องเต็มขึ้นไปถึงขีดจำกัดด้วยความร้อนที่เข้มข้นอันถูกสร้างจากเซ็กส์ที่มากมาย ผมเลยไม่ควรต้องกังวลว่าสาวๆจะเป็นหวัด แม้ว่าพวกเธอนอนเปลีอยกันอยู่บนพื้น

(อ่ะเฮะะ……)

เคซี่ก็ถึงจุดสุดยอดและลอยไปกลางอากาศพร้อมหน้าที่เละเทะ อา เธอถูกพัดไปทางหน้าต่างที่เปิดเพื่อไว้ระบายอากาศ…….

「มาสเตอร์……」

ลีอาห์ที่น้ำลายไหล จับเกาะสะโพกของผม ขณะที่ผมมองไปรอบๆเพื่อหาเมลิซ่า ที่เกือบๆจะไม่สามารถมีสติอยู่ได้ แต่เธอดูแล้วว่าไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากกลิ้งไปกลิ้งมากับแหกขา

「มันรู้สึกเหมือนตลอดกาล ตั้งแต่หนูกลับมาเป็นสาว」

「หนูทำตัวเป็นผู้ชายให้คนอื่นๆ ไม่ใช่หรือ?」

อย่างที่ขอแคทเธอรีนถูกกระแทกโดยผมและเมลิสซ่าใส่ดิลโด้พร้อมๆกัน การแทงสองรูทั้งรูตูดและช่องคลอดทำให้แคทเธอรีนผู้ลามกสลบไปแค่ใน 30 นาที

「แต่พี่เห็นมั้ย……」

เมลิสซ่าดิ้นรนที่จะขยับร่างกายของเธอ แต่สามารถที่จะนำดิลโด้ที่เธอมีมาอยู่ข้างหน้าของผม จากนั้นเธอลดตัวลงหาเห็นอันห่อเหี่ยว และรับมันเข้าไปในปากของเธอ ทำให้ผมแข็งอีกครั้ง

「อย่างที่คิด ขนาดมันต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย」

「พูดถึงเรื่องอะไร?」

「ดิลโด้นี้ มันสมควรจะทำมาเพื่อเลียนแบบควยของเอเกอร์ซังในฤดูร้อน……แต่ขนาดและความหนามันเปลี่ยนไปอีกแล้ว อย่างที่คาด ควยพี่ยังใหญ่ขึ้นหรือ?」

「อย่างนั้นหรือ?」

「สีมันดำขึ้นด้วย…….และเส้นเลือดเยอะขึ้น มันจะโหดร้ายขึ้นได้อีกมากปานใดกัน?」

「ถ้าอย่างนั้น มาทำให้มันหายไปกันเถอะ」

ผมกดเมลิสซ่าลง และใส่ควยของผมเข้าไปในเธอ

「ออออุ!」

เมลิสซ่าครวญ และที่ช่วงเวลานั้น ประตูเปิด แล้วนนน่าก็เข้ามาให้อง

「โอ้ หนูอยู่ที่นี่แล้ว ท้องหนูยังเล็กอยู่ แต่เรายังใช้ตูด……」

「แน่นอนว่าไม่! บนโอกาสน้อยๆที่บางอย่างเกิดขึ้นระหว่างที่ทำ มันจะเป็นหายนะ! ที่สำคัญกว่านั้น หนูจะนอนที่นี่ด้วย โอเคมั้ย? หนูเป็นคู่นอนพี่ไม่ได้ แต่เพราะทั้งหมดมันนานมากแล้ว」

คนรับใช้ยกเตียงที่ย้ายไปมาได้มา ตาของพวกเธอเปิดกว้างในความตกใจขณะที่พวกเธอรู้สึกถึงความร้อนและกลิ่นอับของอสุจิในห้อง

 「นอนในเตียงเดียวกัน……มันอันตราย พี่ว่า」   

 「ใช่ มันจะไม่ดี ถ้าบางคนมาเหยียบท้องหนู」   

ในที่สุดนนน่าก็สามารถที่จะท้องได้ เธอเลยอ่อนไหวสุดขีด จนถึงจุดที่ว่าอ่อนไหวมากเกินไป เมื่อมันเป็นอะไรเกี่ยวกับลูกในท้องของเธอ

ผมเข้าไปในต้ำแหน่งหญิงอยู่บนกับเมลิสซ่า แล้วคุยต่อกับนนน่า

 「พี่ดีใจนะ ในที่สุดหนูก็มีลูก」   

 「ค่ะ นี่เพราะเอเกอร์ซามะ……และทุกคนช่วยกัน」   

โดยดูพื้นฐานจากช่วงเวลาเธอตั้งท้อง มันควรจะเป็นเวลาที่เรามีเซ็กส์เข้มข้นในห้องน้อย เด็กคนนี้ เป็นไปได้เนื่องจากความร่วมมือของทุกคน

 「พี่จะอยู่ในคฤหาสน์สักพัก ใช่มั้ย?」   

 「พี่สงสัยอยู่ พี่ไม่คิดว่ามีสงครามอื่นในอนาคต แต่มีพระเจ้าที่รู้เท่านั้น ว่าอะไรจะเกิดขึ้น」   

 「หนูอยากจะอยู่กับพี่ระหว่างพี่อยู่นี่ มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้」   

 「ฮ่าฮ่าฮ่า พี่จะให้มั่นใจว่าพี่อยู่นี่เมื่อหนูคลอด」   

 「ขอบคุณมากๆนะพี่ หนูรักพี่นะ เอเกอร์ซามะ」   

บรรยากาศรักๆ หวานๆ ล้อมรอบผัวเมียนี้

 「อืม……มันยอดดเยี่ยมนะที่พี่ใกล้ชิดกันนะ แต่ควยพี่ยังอยู่ในหนูอยู่นะ รู้ป่ะ?」   

หืม นี่เป็นโอกาสในเวลาสมบูรณ์แบบผมมอบดิลโด้ที่กลิ้งอยู่ข้างเมลิสซ่าให้นนน่า

 「หนูใช้นี่และกระแทกตูดเธอได้」   

 「เอ๋?」   

 「เออออ๋-!?」   

นนน่าดูสับสน ระหว่างทที่เมลิสซ่าตื่นตกใจ

 「นี่ต้องสนุกแน่ ปรกติแล้วเมลิสซ่าจะตั้งใจเมื่อใช้เจ้านี่ นี่เป็นการตอบแทน」   

 「อะไรที่พี่เจตนาจะตอบแทนเนี่ย!?」   

 「เออ๋ แต่……」   

ผมขยับไปทางนนน่า ใกล้พอให้เธอเอื้อมถึง ระหว่างที่ยังอยู่ในนท่าหญิงอยู่บน ผมจับแก้มก้นเมลิสซ่าและแหกมันออก

 「ตอนนี้ เอาเลยแล้วแทงมันเข้าไปในนั้น ดิลโด้เปียกแล้ว มันไม่เป็นไรหรอก」   

 「ไม่มีทางที่หนูจะไหวกับของหนาๆสองอย่างเข้ามาในหนู! ไม่ไหวอ่ะ…….บางอย่างแบบนั้นมัน……!」   

เมลิสซ่าเพิ่งจะเห็นว่าแคทเธอรีนที่อึดและลามกมากๆถึงจุดสุดยอดและสลบไปได้อย่างไร เพราะเธอถูกกลืนกินโดยความเสียวที่ท่วมท้น เธอเลยกลัวเล็กน้อย

 「ทำไมจะไม่ล่ะ ไม่มีใครจะบ่นหรอกถ้าหนูฉี่ราด」   

 「มันไม่เป็นไรจริงๆเหรอ?」   

นนน่าก็มีอารมณ์อย่างแปลกๆด้วย และหน้าเธอเริ่มแดงเล็กน้อย

 「ใช่ แค่ยัดมันเข้าไปทีเดียวเลย」   

 「ออุ…」   

เมลิสซ่าเตรียมตัวโดยการกำผ้าปูและยัดพวกมมันเข้าไปในปาก เธอเตรียมตัวที่จะครางอย่างเหลือเชื่อแล้ว

 「ยังไงซะ อย่าว่ากันนะถ้าหนูทำอย่างนั้น………」   

นนน่ารับดิลโด้ และเข้าหาที่ซึ่งผมกับนนน่าเชื่อมต่อกัน

 「เอาล่ะนะ! เอ้!」   

ในหนึ่งการแทงที่รุนแรงของสะโพกของเธอ นนน่าดันดิลโด้เข้าไป

มาดูกันว่าเมลิสซ่าจะทำหน้าแบบไหน ขณะที่เธอครางในความเสียว……!!

 「กุว้าาาาาาา!!」   

 「เอ๋? เอเกอร์ซัง?」   

 「มันอยู่ข้างใน!」   

นนน่าแทงดิลโด้เข้าไปในตูด แต่ตูดนั้นเป็นของผม ผมลดการป้องกันลง ดังนั้นทั้งระยะความยาวมันเข้าไปข้างใน มันรู้สึกเหมือนดิลโด้หนาจะฉีกตูดผมแหก ผมให้ผมปล่อยการครวญที่แรงออกไปและเล็ดเมล็ดพันธุ์ของผมออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

 「คิ่ย้าาา! มันฉีดดออกมา……เยอะมาก!」   

 「ก่ะะะะะ! ไม่ นนน่า ดึงมันออก! ดึงมันออกเร็วๆ!」   

 「เออ๋ อะร่ะ-? หนูดึงไม่ออกอ้ะ เอ้! ไอ้เจ้านี่-!」   

ขณะที่นนน่าขยับไปทั่ว พยายามที่จะดึงดิลโด้อออกจากตูดผม ผมดันสะโพกกของผมขึ้นไปข้างบนด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง ทำให้ควยของผมแทงทางเข้านุ่มๆของมดลูกเมลิสซ่า

 「คิ่ย้าาาา––!!」   

เมลิสซ่าล้ม และตาของเธอเหลือกกลับไปจากการแทงที่รุนแรงกระทันหัน ระหว่างที่น้ำเงี่ยนทีผมคิดว่าหมดแล้วในไข่ของผม ทำให้ท้องของเมลิสซ่าบวมต่อไป

 「โออออออ่…………」   

 「ได้แล้ว มันออกมาแล้ว!」   

ผมคิดอะไรตรงๆไม่ได้อีกแล้ว

 「ขะ เข้าใจแล้ว……อืม พี่……จะนอน」   

ผมปิดตาและงีบหลับไป ระหว่างที่ยังเชื่อมต่อกับเมลิสซ่า พยายามที่จะลืมความเจ็บปวดและความอับอาย จากการโดนกระทำชำเราตูด

 「หือ? หนูไปทำอะไรผิดหรือบางอย่างเหรอ?」   

นนน่า ไม่รู้เรื่องถึงสุดท้าย – ผมจะใส่ตูดเธออย่างทั่วถึงไม่ยั้งมือเลยหลังจากลูกของเธอเกิด เธอควรจะเตรียมตัวไว้

วันต่อมา ผมทายาลงไปบนรูตูดที่ฉีกเล็กน้อย ซีเลียดูเหมือนะเข้าใจผิด เมื่อเธอเห็นผมเดินไปรอบๆระหว่างที่ปิดตูด

 「ใครมาแทงเข้าไปในเอเกอร์ซามะ!? ครอล มันแกเรอะ」   

 「เอ๋? แทง?」   

 「แม้ว่าท่านจะไปทางนั้น หนูเชื่อว่าท่านจะเป็นคนมอบ ใครจะคิดว่าท่านจะเป็นคนรับ! มันคือใคร มันคือลีโอโพลต์ซังอย่างนั้นเหรอ!? หรือบางทีมันคืออดอล์ฟซัง!? คายชื่อคนที่ทำอย่างนี้ออกมา!」   

นี่มันไร้สาระเล็กน้อย แต่ ‘สันติภาพ’ แบบนี้ ไม่แย่ แกล้งทำเป็นไม่เห็นซีเลียตะโกน ผมไปเพื่อจับนมนนน่า ขณะที่เธอดื่มชาอย่างผ่อนคลาย ผ่านไปหนึ่งช่วงเวลา อดอล์ฟมาพร้อมด้วยเอกสารเต็มแขน

 「เฮ้ ไม่เจอกันนานนะ……นายดูแย่นะเนี่ย」   

เขามีถุงใต้ตาที่เห็นได้ชัดมาก

 「ใช่……เพราะทั้งหมด คนที่รับมือกับภาษีฤดูหนาว สำหรับเหมืองและทุกอย่างจากแต่ละกิจการภายในของบริเวณ ไปถึงาที่ผู้ว่ามารายงานก็คือผม……เพิ่มเติมจากนั้น ผมต้องหาจำนวนภาษีฤดูใบไม้ผลิคร่าวๆไม่อย่างนั้นคนจะพยายามหลอกผม」   

 「ฟังดูเหมือนงานเยอะนะ ได้นอนดีๆมั้ยเนี่ย?」   

 「ผมเพิ่งนึกได้ เงินที่ผมทำแทบตายเพื่อที่จะหา ทั้งหมดไปอยู่ที่ฮาร์ดเลตต์ซามะ ถูกมั้ย?」   

 「ยังไงซะใช่ เพราะทั้งหมดมันเป็นภาษีจากดินแดนของฉัน」   

 「และจากนั้น ฮาร์ดเลตต์ซามะจะมอบเงินนั้นให้กับเมียท่าน เพื่อซื้อของวิบๆวับๆ」   

 「ปฏิเสธนั่นไม่ได้」   

 「ถ้าอย่างนั้น ไม่ใช่ว่านั่นหมายถึง  จริงๆแล้วผมทำงานให้ผู้หญิงของท่านซื้้อของแฟนซี……」   

 「อดอล์ฟ ไม่ใช่นายแค่เหนื่อยเรอะ?」   

 「……บางทีท่านพูดถูก」   

 「นอกจากนี้ มาดู」   

ผมดึงอดอล์ฟออกไปข้างนอก ราเฟนดูเหมือนเดิม แต่ชัดเจนว่ามันขยายไปมากกว่าก่อนหน้า มีผู้คคนเยอะขึ้นอยู่ทั่ว และบ้านสร้างขึ้นอยู่เยอะ

 「นี่ คือเมืองที่นายสร้างมา แน่นอนว่ามีคนร้าย เด็กกำพร้า และคนที่มีหนี้ท่วมหัว แตผู้คนส่วนใหญ่กำลังยิ้ม」   

 「ฮ่าา」   

 「นอกเมืองมันก็เหมือนกันด้วย ฉันได้เงินเยอะขึ้น  เพราะความสามารถของนาย แต่ในเวลาเดียวกัน ฉันคิดว่าพลเมืองสบายดี」   

มันไม่ใช่คำโกหก

ผมไม่ได้เพิ่มอัตราภาษีสูงกว่าปรกติด้วยเหมือนกัน

ในความเป็นจริง มันควรจะน้อยกว่าอัดตราส่วนใหญ่ในดินแดนที่ขุนนางคนอื่นเป็นเจ้าของ หมายถึงการเพิ่มรายได้อนุญาติให้ชนชั้นกลางอยู่สบายกว่าก่อนหน้า

 「มันเป็นเช่นนี้ อย่าคิดอะไรมากเกินไป และทำให้เหมือนที่นายชอบ ฉันจะไปข้างนอกนิดหน่อย」   

 「ได้โปรดรอก่อน」   

อดอล์ฟขวางผมแค่ก่อนผมจะมุ่งหน้าไปที่ย่านซ่อง

 「ผมมีกำลังใจขึ้นนิดหน่อยกับการคุยกับฮาร์ดเลตต์ซามะ ดังนั้นได้โปรดดูรายการรายได้สำหรับฤดูหนาว」   

 「เอาพวกนั้นให้ซีเลี-」   

 「ไม่! ดูมันเลย ตอนนี้!」   

บอกอย่างนั้นกับผม เมื่อเขามีตาโบ๋และถุงใต้ตา ทำให้เขาดูบังคับมากขึ้น ปรกติแล้วเขาจะอ่อนแอและปวกเปียก แต่ตอนนี้ เขากดดันผมอย่างยืนหยัดมาก ผมไม่มีทางเลือกนอกจากอ่านเอกสาร

 「มันแค่รายได้ภาษี ใช่มั้ย? ถ้าอย่างนั้นนี่มันไม่ด่วน ถูกมั้ย」   

 「มันไม่ใช่แค่รายได้ภาษีอย่างเดียวเท่านั้น ผมก็ยังใช้เวลาทั้งคืนรวบรวมราคาขายของที่เก็บมาได้ และค่าจ้างกับโบนัสของทหาร ถ้าท่านไม่เห็นชอบกับเอกสารนี้  ผมจะไม่สามรถหางบในอนาคตได้ เร็วๆเข้า……เร็วๆครับ ด่วนเลย!」   

อดอล์ฟทำตัวแปลกๆจากการอดนอน

 「ได้เลย เข้าใจแล้ว……ฉันจะเลื่อนทริปไปซ่อง」   

ผมกางเอกสารที่ถูกมอบให้ผมอย่างไม่เต็มใจ ผมไปเอาตราประทับไว้ไหนแล้ว……อาา ผมอยากมอบเอกสารนี้ให้ซีเลีย

รายได้

ภาษีเหมือง            24,000 ทอง

การแลกเปลี่ยน       6,000 ทอง

ราคาขายข้าวสาลี  20,000 ทอง

รางวัล                   20,000 ทอง

ของจากสงคราม    30,000 ทอง

รายได้รวม:          100,000 ทอง

ค่าใช้จ่าย

บำรุงรักษาคฤหาสน์ราเฟน 2,000 ทอง

บำรุงรักษายามเมือง 2,000 ทอง

แรงงาน 5,000 ทอง

ค่าใช้จ่ายของนนน่า 1,000 ทอง

ค่าจ้างกองกำลังทหาร โบนัส 54,000 ทอง

(รวมไปถึงการชดใช้ให้กับครอบครัวที่สูญเสีย)

ค่าใช้จ่ายแคมเปญทางทหาร 16,000 ทอง

รายจ่ายทั้งหมด : 80,000 ทอง

รายได้สุทธิ 20,000 ทอง

 「เฮฮฮ๋……มันยู่ในตัวดำแล้วตอนนี้」   

จำนวนของเงินรางวัลที่ผมได้น้อยกว่าจำนวนของการให้รางวัลทหารและค่าใช้จ่ายทางทหาร ดังนั้นผมเตรียมตัวเสียก้อนใหญ่

 「คนเหมืองรวมตัวกันในลินต์บลูม และวัตถุดิบที่ขุดได้ก็เพิ่มขึ้นกระทันหัน อีกปัจจัยนึงคือราคาเหล็ก วัตถุดิบที่สำคัญที่สุดในสงคราม ที่เพิ่มขึ้น……แล้วก็ข้าวสาลีที่ต้นกำเนิดมาจากแห่งนั้น ส่วนใหญ่ถูกขายออกไปแล้ว แต่ตอนนี้สงครามจบแล้วนะ ดังนั้นราคาข้าวสาลีควรจะลดลงยอย่างช้าๆ」   

คนเดียวเท่านั้นในหมู่พวกเราที่เข้าใจว่าราคาตลาดเคลื่อนตัวอย่างไร และสถานะปัจจุบันของตลาดด้วยนั้นคืออดอล์ฟ แคลร์อาจจะมีความรู้มากกว่า แต่เธอทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ในใจ ดังนั้นผมหวังพึ่งเธอเต็มๆไม่ได้

 「มีอะไรอื่นที่อยากชี้ออกมาอีกมั้ย?」   

 「การแลกเปลี่ยนก็เพิ่มขึ้นด้วย ผมคิดว่าเราใช้รถม้าน้อยลงในสมครามด้วย」 

 「เนื้อรมควันจากสัตว์ดำนั่นค่อนข้างเป็นที่นิยมด้วย แต่เราน่าจะขนเนื้อดิบไปบนม้า และให้มันถูกใช้ทันทีได้ ถ้ามันระหว่างฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว ของนี้ก็มีค่าสูงสุดขีดในหมูเหล่าขุนนางในโกลโดเนียด้วย」     

 「ยังไงซะ มันยังค่อนข้างแพงที่นี่」   

จากการสนทนากับแคลร์ไม่นานมานี้ เธอบอกผมว่าราคาถูกคำนวน โดยตั้งพื้นฐานจากผู้คนที่ถูกกินไป สำหรับสัตว์สามตัวที่ถูกฆ่า ตอนแรก มันอัตตรา 1:1 แต่ตอนนี้ ปืนธนู หอกและเกราะถูกมอบให้ ทีมของนักล่าที่เชี่ยวชาญในการฆ่าสัตว์ดำเหล่านั้นถูกก่อตั้งขึ้น เพิ่มอัตราขึ้นอย่างมาก

แค่คิดเกี่ยวกับการล่าและกินสัตว์กินคนทำให้ผมเสียความอยากอาหาร ผมจึงหยุดที่นี่

 「มันเพิ่มมามากขนาดนี้แค่จากเนื้อ?」   

 「ไม่ ผลิตภัณฑ์นั้นพร้อมแค่เวลาตำกัด แต่อุปกรณ์ทำนา และผลิตภัณฑ์โลหะอื่นๆ ถูกส่งอย่างช้าๆด้วย เรายังอยู่ในช่วงขั้นตอนทดลองส่งของเหล่านั้น ดังนั้นจำนวนสิ้นค้าที่ถูกส่งออกค่อนข้างเล็ก และมันไม่สร้างกำไรอะไรมากมายกระนั้น……. ไม่ว่ากรณีไหน เราผลิตเหล็กและเหล็กกล้าคุณภาพสูง ผมเชื่อว่าของเหล่านั้นในท้ายที่สุดจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกอย่างหนัก」   

 「นั่นดีสิ」   

 「ยังไงก็ตาม เราถูกกำหนดให้จ่ายภาษีสำหรับเหมืองสู่ราชวงศ์ฤดูหนาวนี้…….」   

อดอล์ฟชำเลืองมองผม ไม่สำคัญว่าเราจะทำงานหนักกันมากเพียงไร ทั้งหมดมันจะสูญเปล่าถ้าเราถูกเก็บภาษีอย่างหนัก

ผมเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เจรจากับราชวงศ์ได้

 「มันจะไม่เป็นปัญหา ราชวงศ์ยังเชื่อว่าเหมืองยังเล็กๆ ภาษีควรจะเก็บมากสุดปีละ 10,000」   

ปัจจุบัน เราได้ใกล้กับ 100,000 ทุกปีในกำไรจากเหมือง ถ้าเราแค่จ่ายหนึ่งในสิบของจำนวนนั้น ไม่มีเหตุผลให้ต้องกังวล

อดอล์ฟลูบอกของเขาในความโล่งใจ

 「ถ้างั้นตอนนี้ ผมมีบางอย่างที่จะปรึกษาท่าน……」   

 「หืม?」   

 「ในฤดูใบไม้ผลิ ผมอยากจะทำการพัฒนาขนาดใหญ่ของบริเวณไปทางใต้ เมื่ออากาศดีกว่านี้ มันจะมีความต่างใหญ่ เมื่อเทียบกับรอบข้างของราเฟน และประชากรจะเดินทางกันไปทั่วภายในดินแดนของเราอย่างเป็นธรรมชาติ แม้ว่ามันจะเกิดค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่สถานการณ์ทาการเงินของเรามั่นได้มั่นคงมากขึ้น และการควบคุมน้ำท่วมกับการเพาะปลูก จะเพิ่มรายได้เราโดยตรงอยางรวดเร็ว」   

คนอะไรกันนี่ – แม้ว่ามันจะหมายถึงการเพิ่มภาระงานของเรา โดยการพัฒนาบริเวณเพิ่มขึ้น เขายังยินดีจะดำเนินการ ชนชั้นกลางได้รับพร ที่มีชายเช่นนี้อยู่ฝ่ายพวกเขา

 「ฉันไม่ถือ ใช้ทองที่เรามีได้ตามสบาย ฉันจะชอบที่มันสร้างขึ้นมาเรื่อยๆรอบตัวฉันมากกว่า」      

 「ขอบคุณมมากๆครับ……ถ้างั้น มีอะไรอย่างอื่นมั้ย ?」   

 「ไหนดูซิ ฉันไม่คิดว่ามีนะ」   

 「…….มีอะไรอย่างอื่นที่ท่านอยากให้ผมสั่งการให้ท่านมั้ย ?」   

 「ไม่มี」   

ผมจะแกล้งทำเป็นไม่สังเกต อดอล์ฟชี้ส่วนหนึ่งออกมาเป็นพิเศษ

เพราะทั้งหมด การปกป้องเมียมันหน้าที่ผัว

ผมประทับลงบนเอกสาร เพื่อบ่งบออกความเห็นชอบของผม และผลักเอกสารกลับไปหาอดอล์ฟ ยืนหยัดว่าทุกอย่างที่สุดแล้วเรียบร้อยหมด อดอล์ฟถอนหายใจและรวมเอกสาร ก่อนจะจากไป ผมบอกให้เขารีบและนอนบ้าง แต่ทั้งหมดที่ผมได้คืออการตอบกลับมาที่เหนื่อยและอ่อนแอ

ผมมั่นใจว่าจะมีปัญหาเป็นกองๆถ้าเขาตาย

 「เสร็จรึยัง?」   

 「……」   

มาแทนที่อดอล์ฟคือลีโอโพลต์

 「มีบางอย่างจะพูดกับฉันด้วยเรอะ?」   

 「ใช่ มันสำคัญที่สุด」   

ลีโอโพลต์กางแผนที่และแสดงถึงพื้นที่ไม่คุ้นเคยพร้อมด้วยชื่อที่ไม่รู้จัก…… นี่คือประเทศทางใต้หรือ?

 「ผมทำการวิเคราะจากข้อมูลที่รวบรวมมาจากสายลับด้วยตัวผมเอง ผมไม่ทราบว่ามันจะตรงกับความเป็นจริงไหม แต่ผมจำเป็นต้องให้ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ตัดสินใจ」   

มันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะมาขอให้ผมคิด

ฉันจะแค่ตกลงกับความคิดเห็นของนายโดยไม่ถามอะไรดังนั้นรีบๆแล้วคายมันออกมา

 「มีประเทศทางใต้สี่ประเทศอยู่อีกฝั่งของชายแดนโกลโดเนีย……. เพื่อพูดให้แม่นยำ สามประเทศและหนึ่งครรัฐ」   

 「นครรัฐ?」   

ก่อนผมจะรู้  ซีเลียโหม่หัวออกมาจากใต้แขนของผม อย่างที่คาดกับเธอที่จะไมพลาดการสนทนาแบบนี้

แต่หนึ่งคนหายไป

 「ใครไปตามทริสตันมาที……. ไม่ ไม่ต้องเรียกเขา แค่ลากเขามา」         

แน่นอนว่าคนนั้นจะไม่มายกเว้นจะลากเขามา

ในท้ายที่สุด ทริสตัวโผล่มาอย่างคับแค้นใจระหว่างถอนหายใจ และการสนทนากลับมาดำเนินต่อ

 「อย่างแรก ในหมู่ชาติที่ติดกับโกลโดเนียโดยตรง มอลต์พื้นฐานแล้วเป็นรัฐบริวาร มันไม่เป็นไรที่จะมองข้ามพวกเขา」   

 「นั่นจริง」 「เห็นด้วย」 「ฮ้าวว-……」         

พวกเขาใจร้ายกันจริงที่พูดอย่างนั้น แม้ว่าตอนนี้ผมปกป้องเซเลสติน่าอยู่

 「ต่อไปคือนครรัฐ…… พวกเขาค่อนข้างเล็ก พร้อมด้วยกองกำลังคร่าวๆน้อยกว่า 10,000 และไม่ควรจะมีมากกกว่า 50,000 แม้ว่าถ้ามันใหญ่กว่าทีคาดการณ์ไว้เบื้องต้น แค่เหมือนกับที่ชื่อมันสื่อออกมา มันเป็นเมืองหนึ่งที่กลายเป็นประเทศหนึ่ง และพวกเขากระจายกันไปในบริเวณ พวกเขาตั้งอยู่ที่ฐานของเทียรี่เหนือ และแม่น้ำเทียรี่」   

 「ที่นีหรือ? มันใกล้กับทริสเนีย…… และพวกเขาก็คุมต้นน้ำด้วย พวกเขามีทัพเรือไหม?」   

 「มีประเทศซึ่งมีกองทัพเรือที่ทรงพลังอยู่ในเมือง แต่พวกเขาจะไมเป็นภัยกับเรา」   

 「ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?」   

 「แต่ละเมืองอาจจะมีกองทัพที่ฝึกมาและทรงพลัง แต่สุดท้ายนั้นพวกเขาแค่ประเทศอิสระเล็กๆ และเราไม่ควรจะมีอะไรต้องกลัว มันเป็นไปได้ที่พวกเขาจะสร้างพันธมิตรกับแต่ละประเทศชั่วคราวเมื่อถูกโจมตีโดยศัตรูต่างชาติ แต่มันก็มีความขัดแย้งระหว่างประเทศด้วย ดังนั้น ผมพูดอย่างมั่นใจไม่ได้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกัน」   

 「พูดอีกอย่าง พวกเขาจะไม่สามารถร่วมมือกันเหรอ?」   

ซีเลียเอียงตัวไปข้างหน้า ตูดที่น่ารักเธอส่ายนิดหน่อย

 「ไม่ว่าอย่างไร รัฐบาลในแต่ละเมืองก็สะเปะสะปะด้วย มีจากสาธารณรัฐนิยมไปถึงราชาธิปไตย และเทวาธิปไตยไปถึงระบอบเผด็จการ ตราบใดที่ไม่มีเรื่องใหญ่ๆที่รุนแรงเกิดขึ้น มันจะยากที่พวกเขาจะสร้างกองกำลังพันธมิตร และพวกเขาไม่ควรสนโลกภายนอกมากมาย เพราะพวกเขา ดูแลตัวเองได้」   

เข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นมันจะโอเคถ้าเราพุ่งเข้าไปก่อน

 「ดังนั้น เราปลอดภัยสำหรับตอนนี้」 「ยังไงดินแดนของเราก็ไม่เคยจะติดกับเขาอยู่แล้วว」 「ฟฟฟฟฟี้ อุว้าาา!!」         

ไมล่าและซีเลียพยักหน้าเห็นชอบ ระหว่างที่ทริสสตันงีบหลับ

ซีเลียเตะหน้าแข้งทริสตัน ทำให้เขาไปดิ้นบนพื้นในความเจ็บปวด

 「ต่อไปมีประเทศประชาธิปไตย ลิบาติสบนฝั่งตะวันตกของชายแดน」   

 「ประเทศประชาธิปไตยเรอะ? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแบบนั้นมาก่อนเลย」   

 「ระบบรัฐบาลคือปกครองโดยประชาชน พูดอีกอย่าง พลเมืองเลือกคนที่จะมาปกครองพวกเขา」   

 「ฮ๋าาา? พลเมืองเลือกคนปกครอง?」   

 「นั่นไร้สาระน่า……」   

เพื่อคัดค้านซีเลียและไมล่าที่อยู่ในความตกใจ ทริสตันเริ่มพูด น่าจะเพราะความเจ็บในขาของเขาไม่ให้เขาหลับ

 「ลิบาติสนั้นโด่งดัง เห็นมั้ย ผู้คนมีสิทธิเท่าเทียมกัน และชนชั้นสิทธิพิเศษไม่มีตัวตน แม้แต่ประธานาธิบดี……. คนที่มีอำนาจสูงสุด การเริ่มซ้อมผู้คนในเมือง จะถูกตัดสินกันตามสมควรโดยกฎหมาย และจากนั้นถูกโยนเข้าคุก」      

“แต่ไอ้โง่แบบนั้นจะไม่ถูกเลือกเป็นประธานาธิบดีนะ” – ทริสตันเพิ่มเติมในตอนท้าย

 「เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นพลเมืองเลือกคนที่อยู่เหนือพวกเขา น่าสนใจนี่」   

เห็นได้ชัดว่า คนปกครองถูกเลือกผ่านกฎเสียงข้างมาก จากในหมู่ผู้คนที่มีอิทธิพลในประเทศสาธารณรัฐ ดังนั้นมันค่อนข้างต่างกันสำหรับผู้อาศัยทั้งหมดที่เป็นคนที่เลือก แต่ผมสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าคนที่เลือกมาเป็นไอ้โง่น่ารำคาญที่ไม่มีอะไรนอกจากพล่าม

 「นี่แค่การเดา แต่พวกเขาน่าจะมีกองทัพประมาณ 50,000 ที่ฝึกมาพอสมควร มากกว่านั้นกำลังเศรฐกิจ ด้วยกันกับจำนวนประชากรควรจะประมาณหนึ่งล้าน และพวเขาน่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เราดูถูกได้」   

 「พูดอีกอย่าง เราจำเป็นต้องสนใจพวกเขาเป็นพิเศษอย่างนั้นหรือ?」   

ลีโอโพลต์ส่ายหัวของเขาช้าๆ

 「ไม่ โกลโดเนียเริ่มเจรจาไปแล้ว เพื่อสนธิสัญญามิตรสหาย ประชาธิปไตย หมายถึงประเทศนั้นจะสะท้อนความคิดเห็นพลเมือง อย่างน้อยที่สุด เราควรจะเลี่ยงการทำสงครามกับประเทศนั้น พูดทางประวัติศาสตร์ หายากที่พวกเขาจะเริ่มสงครามด้วยตัวเอง」   

 「ฟุมุ……ยังไงซะ อยู่ในสงครามตลอดเวลาก็ไม่ดีด้วย พลเมืองและทหารจะเหนื่อยกับมัน」   

ไมล่าและซีเลียพยักหน้า ทั้งสองสาวเป็นทหาร แต่พวกเธอไม่ใช่พวกบ้าสงคราม

น่าจะแค่การจินตนาการของผม แต่ผมได้ยินบางคนตะโกน “หนูจะแทงพวกมัน” จากบางที่

 「อาา เข้าใจแล้ว…… มันจะดีกว่าถ้าผมหีไปลิบาติส ถ้าผมทำ ตอนนี้ผมจะ……」   

 「-ไม่ได้จ่ายภาษีเทศบาล และถูกเนรเทศออกจากประเทศ」   

ลีโอโพลต์ขยี้ฝันของทริสตันอย่างไร้อารมณ์ ประเทศประชาธิปไตย ลิบาทิส มอบอำนาจให้ประชากรเยอะ แต่ก็คาดหวังถึงหน้าที่อันชัดเจนของพลเมืองด้วยเช่นกัน ยกเว้นว่าภาษีจำนวนมากจะจ่ายทุกปี เขาอาจจะถูกปลดสิทธิ์และถูกโยนออกจากประเทศ เพราะระบบรัฐบาลแบบนี้เอง มีขอทานและคนเร่ร่อนน้อยมาก และที่นั่นค่อนข้างจะปลอดภัย

 「อย่างไรก็ตาม ที่นี่จะไม่เป็นภัยในเวลานี้」   

 「ใช่ ประเทศที่เหลือ สหพันธรัฐของคนแวนโดเลีย – ที่นี่ จะค่อนข้างเป็นภัย โดยมีพื้นฐานจากการค้นคว้าของผม」   

 「ที่นี่จะเป็นเหรอ……? มันอยู่บนชายแดนดินแดนฉันนิดหน่อยนะ」   

 「แต่มันติดกับอาณาจักรมอลต์เลยอ่ะ ถ้าพวกเขามีแผนที่จะรุกรานผ่านมอลต์ พวกเขามาจากที่ไหนก็ได้」   

ซีเลียชี้ตำแหน่งบนแผนที่และคร่ำครวญ

 「พวกเขามีจำนวนประชากร 1.5 ล้าน จำนวนกองทัพมากกว่า 100,000 และพวกขาได้ขนาดใหญ่ขึ้น โดยการซึมซับประเทศที่อยู่รอบข้างมาเป็น 10 ปี」   

 「นี่แย่ที่สุด มันอาจจะสายเกินไปที่จะถามในตอนนี้ แต่มอลต์จะโอเคด้วยเค้าโครงภูมิประเทศแบบนี้ไหม?」   

 「ณ จุดนี้ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องจากพวกเขา ด้วยแค่กองทัพในดินแดนของเราถ้าศัตรูเอาจริง แน่นอน ว่าผมไม่คิดว่าการต่อสู้ในสงครามเต็มรูปแบบกับโกลโดเนีย เป็นการพนันที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาด้วยเช่นกัน」   

ผมเดาว่าเราทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะระวังตัว เราแค่เฝ้าดูพื้นที่ชายแดนและส่งสายลับผ่านชายแดนเพื่อไปหาพวกเขาได้

 「ด้วยความสงสัย ฉันไม่รู้ว่าทำไมมันเรียกว่า “ของคน” แต่มันมีอะไรเกี่ยวกับระบบสหพันธรัฐไหม?」      

 「ไม่ จริงๆแล้วมันใกล้กับระบบที่มีเผด็จการ มันเป็นราชาธิปไตยที่แน่นอน โดยมีพื้นฐานมาจากการสืบทอด」   

 「เฮ้ นั่น……」 「นั่นคือ……」 「ดูเหมือนอะไรๆมันจะเละ」         

การสืบท้อดเป็นระบบที่สะดวกที่ทำให้ประเทศมั่นคง มีความเสี่ยงว่าไอ้โง่อาจจะขึ้นครองบัลลังก์แค่เพราะสายเลือดของคนนั้น แต่มันก็หมายถึงด้วยว่า อย่างน้อยที่สุด คุณต้องมีสัมพันธ์โดยสายเลือด เพื่อที่จะถูกพิจารณาว่าเป็นผู้สืบทอด ลดโอกาสทีจะสู้กันหาอำนาจ

ถ้าไม่มีระบบสืบทอดแบบนั้น มันจะเป็นทุกคนสู้กันำหรับทุกคนที่มีอำนาจจะเล็งไปที่บังลังค์ เมื่อในที่สุดรุ่นก่อนหน้าตาย มันจะเปลี่ยนเป็นสภาพของความขัดแย้งภายในและการลอบสังหาร

 「แวนโดเลีย อย่างนั้นหรือ……? หลังจากก่อตั้งตัวเองพวกเขาเป็นประเทศภายหลังชาวนากบฏ เป้าหมายดั้งเดิมของพวกเขา สมควรจะเล็งไปที่บางอย่างเหมือนประเทศประชาธิปไตยลิบาติส แต่ไม่มีภาษี ผมเดาว่าหลายอย่างถูกบิดไปทั่ว และมันกลายเป็นบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อ」   

ทริสตันหัวเราะโง่ๆ

 「ไมว่าอย่างไร ประเทศพร้อมแนวโน้มที่จะขยายดินแดนนั้นอันตราย มันจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะใช้อาณาจักรมอลต์นดินแดนเฝ้าระวัง และจำไว้ว่าคอยตรวจดูพวกเขา」   

 「ถ้าอย่างนั้นแห่งนี้เป็นที่เดียวเท่านั้นที่ต้องระวัง?」   

 「ใช่ อย่างไรก็ตาม  ผมได้ยินว่าสหพันธรัฐของคนแวนโดเลียอยู่ในความขัดแย้งต่อเนื่องกับประเทศศักดิ์สิทธิ์อัลแตร์ ผมไม่สามารถส่งสายลับไปในประเทศนั้นได้ ดังนั้นผมไมม่แน่ใจ แต่มันควรจะง่ายกว่าที่จะคอยดูพวกเขา ถ้าพวกเขามีศัตรูที่ชัดเจน ผมจะพยายามรวบรวมข้อมูลที่แม่นยำมากกว่านี้」   

 「ฉันจะปล่อยมันให้นาย」   

โดยมีพื้นฐานมาจากข้อมูลที่รวบรวมมา ผมเห็นได้ว่าในที่สุดพวกเขาจะเป็นประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ตั้งแต่ทีแรก มีคนมากกว่าอยู่ที่ภูมิภาคทางใต้ของที่ราบกลาง มากกว่าทางเหนือ ภูมิอากาศก็อุ่นกว่าด้วย ดังนั้นจำนวนของข้าวสาลีที่พวกเขาเก็บเกี่ยวได้ก็อุดมสมบูรณ์ แม้ว่าจะพื้นที่เท่ากันในสองที่ จำนวนผู้คนที่เพาะปลูกพืชต่างกัน

แม้ว่าการมีมากกว่า ไม่ใช่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ

 「เราอาจจะนอนอย่างสงบสุขไม่ได้แล้วตอนนี้」   

 「อย่างนั้นเหรอ? แต่ผมจะหลับนะ」   

 「เหมือนที่ฉันพูด อย่ามาหลับต่อหน้าเอเกอร์ซามะ!」   

การเตะของซีเลียลงไปบนต้นขาของทริสตัน พร้อมด้วยเสียงกระแแทกที่น่าพึงพอใจ ชายที่อ่อนแอดิ้นอยู่บนพื้นในความเจ็บปวด

 「โอ้ใช่ ……พี่ต้องไปในไม่นานนี้แล้ว」   

 「ไปซ่อง?」 「พี่มันช่างใจสกปรก」      

ไม่ ไม่ใช่นั่น

แผลควรจะหายอย่างสมบูรณ์แล้วที่เวลานี้ด้วย

 「ไปที่กิโด้อยู่ เขาต้องนอนอยู่บ้านตอนนี้」   

กิโด้กลับราเฟนและควรจะนอนอยู่บ้านของเขาในเมือง ระหว่างถูกเมียดูแลสุขภาพ

ผมต้องไปเยี่ยมอย่างน้อยสักหนึ่งครั้ง

 「อ๊ะ ……หนูไปด้วย」   

เพราะทั้งหมดชีวิตของซีเลียถูกเขาช่วย

และผมมั่นใจว่าเขาจะอารมณ์ดีขึ้นถ้าสาวคนหนึ่งไปเยี่ยมเขา

ผมต้องทำตามคำพูดที่ว่าจะมอบรางวัลพิเศษที่ผมสัญญาไว้กับเขาด้วย

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูหนาว ปีใหม่

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

พลเมือง: 152,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 21,000 ลินต์บลูม: 3200

ทหารใต้บัญชาการ

กำลังจัดระเบียบ

สินทรัพย์: 42,000 ทอง (รายได้ภาษี +20,000) (ค่าใช้จ่ายงานเลี้ยงพลเมือง -900)

อาวุธ: ดูอัลเครเตอร์ (ดาบใหญ่), หอกดอร์ฟ, ดาบเหล็กกล้ามือเดียวระดับสูง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยาที่ท้อง), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (ทาสเซ็กส์ที่ประกาศตัวเอง), เคซี่ (ผี), มิตี้ (คู่หมั้น), อัลม่า (สัตว์แห่งเซ็กส์), ครอล (สัตว์แห่งเซ็กส์), เมลิสซ่า (ทำตัวเป็นผู้ชาย), มาเรีย (คู่หมั้น), ริต้า (หัวหน้าเมดที่ท้อง), แคทเธอรีน (คู่หมั้น), โยกุริ (หมกตัวอยู่บ้านยุคใหม่ที่ท้อง), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (บัตเลอร์), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามลูน่า และคนรัก), ไมล่า (เจ้าหน้าที่สันติภาพ), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), กิโด้ (♂), ทริสตัน (ลงไปสิ้นหวังสี่ขา), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าทางการ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (ดาราหญิง)

แม่: มาร์เซลีน ลูกสาว: สเตฟานี, บริดเจ็ท, เฟลิซี่ (รับมาอยู่ในการคุ้มครอง)

ประเทศอื่น;

เซเลสติน่า  (ราชินีแห่งมอลต์), โมนิก้า (นางกำนัล), คลอเดีย (หมูที่ท้อง), คลาร่า

คู่นอน: 140, เด็กที่เกิดแล้ว: 32    —————————————————————   

 แปลโดย: wayuwayu

เสนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบ ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl   

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน